เสียงร่ำไห้หนึ่งพันครั้ง
ปิดหรือเปิดฉากทัศน์ก็ให้เพียงสีดำไม่มีอะไรเจือปนแถมยังมีไอเยือกเย็นพอกร่างเหมือนนอนใต้เกล็ดน้ำแข็ง
ทราบมาว่ามนุษย์มีความตายเพียงสองคือขณะนอนหลับและตายจริง ๆ เวลานี้เขากำลังนอนหลับและฝันถึงทัศนียภาพแปลกตา ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าที่ไหน
เขาได้ยินยินเสียงโต๊ะครูไลฟ์สดชีวิตหลังความตาย Ep.15 ผ่านเครือข่าย 5G เริ่มต้นได้ไม่นานนัก ได้เล่าวิญญาณที่ดีถูกดึงเหมือนละอองน้ำที่โปรยปรายเสร็จแล้วทูตสวรรค์พาขึ้นชั้นฟ้า จากนั้นก็พาสู่พื้นดินให้มองเห็นผู้อาบน้ำศพ ก่อนที่ร่างห่อด้วยผ้าขาวนำไปฝังกูโบร์ที่ใกล้ที่สุด
นับถอยหลังหนึ่งร้อยวันก่อนวิญญาณถูกชักออกจากลูกกระเดือกนั้น ผู้ใกล้ตายจะสั่นสะท้านทั่วสรรพางค์กาย เป็นสัญญาณเทวทูตรับงาน จะเดินไปข้างหน้าหรือถอยหลังก็ไม่สิทธิ์ใดๆอีก
ครั้นถึงหกสิบวันสุดท้ายบริเวณสะดือจะเต้นระริกบอกสัญญาณจะนับถอยหลังทุกเข็มนาฬิกา กระดิก
ครั้นเหลืออีกสี่สิบวันก่อนถึงชานชลาสุดท้าย ไม่เลือกยากดีมีจนใบไม้ประจำตัวที่บันทึกชื่อจะร่วงหล่น จิตใจจะเริ่มสั่นไหวไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ครั้นถึงช่วงเจ็ดวันสุดท้าย ได้รับแจ้งข่าวอีกขั้นตอนหนึ่งให้รู้สึกหิวกระหายน้ำรุนแรงขนาดทั้งโลกรวมกันก็ไม่เพียงพอ
ความผิดปกติร่างกายจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันที่ห้าให้ลิ้นชักกระตุกสัญญาณเคาะข่าวจากโลกอีกใบหนึ่ง
ก่อนอำลาสามวันมีอาการเคลื่อนไหวบริเวณศีรษะ ถึงวันที่สองหน้าผากผู้ใกล้ตายจะชักกระตุกบอกไฟชีวิตใกล้มอดดับเต็มที
ก่อนวินาทีวิญญาณเคลื่อนผ่านคอหอยนั้นจะรู้สึกเยือกเย็นที่กระหม่อมถึงลูกสะดือและกระดูกซี่โครงแผ่นหลังให้ญาติกล่าวนำ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์
อดัมมองผู้กดไลก์กดแชร์และซับสไครบ์กระดิ่งเตือนเพิ่มขึ้นทุกวัน เช่นเดียวกับห้องทดลองยังไม่ปิดตาย สิ่งเชื่อถือและศรัทธา ก็ยังลอยเหนือพื้นดิน
ดินแดนโซเชี่ยลเคลื่อนไหวคึกคักไม่แพ้กัน ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ว้าวุ่นเพียงใดยังสนใจโลกใบอื่นเสมอ
ฟังเคลิ้มอยากนอนหลับพัก เส้นแสงสีเสียงเอไอพาขึ้นเขาลงห้วยด้วยถ้อยคำสู่วงกลมสีขาว มีสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด ขาว เฉดสีรุ้งทั้งเจ็ดกระจายอยู่ในนั้น
ให้เสียงอาซานปลุกตื่นอีกทีตอนบ่ายสามโมงครึ่งดีกว่า ให้ตายสิ ขณะเอื้อมมือหยิบหมอนอยู่นั้นเอง มีมือดำลึกลับยกศีรษะเขาวางแทนที่คนในบทเรียนออนไลน์ทันที
ได้ยินเสียง ตึ่ก ตึ่ก มีใครยืนจวกคันนาหรือขุดหลุมศพป่านนี้นะ ให้ตายสิ ปัญญาประดิษฐ์มันชาญฉลาดขั้นจมูกได้กลิ่นดินกลบใหม่เชียวหรือ นี่มันเกิดอะไรกับเขานะ
เซิร์ฟเวอร์ศูนย์กลางความทรงจำทั้งมวลเชื่อมกับระบบเอไอให้วัยเยาว์ฟื้นขึ้นด้วยรูปเส้น แสง สีอคริลิกส์อีกครั้ง
หลังฝนหยุดตก แสงแดดส่องละอองน้ำ รุ้งตัวหนึ่งผุดพรายขึ้นรูปครึ่งวงกลมตรงพิกัดทางเข้าหมู่บ้านสวนวิมาน
ได้ยินเสียงแพะดังจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง อาจเป็นตัวที่อยู่ในคอกรั้วเพื่อนบ้าน หรือดินแดนไกลระบุทิศทางไม่ได้
ชั่วอึดใจต่อมาภาพอายุสามขวบเคลื่อนออกจากแท่งแก้วใบหนึ่ง เพ่งมองละเอียดแค่ไหนก็บอกได้ยากว่าเป็นภาพจริงหรือภาพจำลอง ความเชื่อกับวิทยาการถูกกั้นด้วยเชือกไนล่อนเส้นเล็กๆ
ภาพวันที่ป๊ะกับมะพาพบโต๊ะครูดาลาปรากฏขึ้นช้าๆ ป๊ะเคยเป็นลูกศิษย์ปอเนาะแห่งนั้นเจ็ดปี เต็ม ด้วยความดีใจที่ได้ลูกชายสืบสกุลคนหนึ่งจึงเดินทางข้ามจังหวัด ให้อวยพรลูกชายเติบโตเป็นเด็กดีในวันหน้า
เมื่อถูกนำวางบนตักชายแปลกหน้าอ้วนท้วน คนนั้น อดัมตื่นเต้นมากถึงกับร้องไห้ฉี่ราด โต๊ะครูยิ้มอย่างอารมณ์ดี ให้มะนำไปชำระเสร็จก็ให้ขอพรใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ระบบเอไอย้อนให้เห็นภาพโต๊ะครูยื่นธนบัตรหนึ่งร้อยบาทเป็นเงินขวัญถุงก่อนกลับบ้าน ภาพทั้งหมดชัดเจนราวกับเพิ่งได้เกิดขึ้นสอง-สามวันก่อนนี่เอง
ภาพหลังจากนั้นปรากฏบ้านทรงปั้นหยาผุดขึ้นแทน ใกล้ๆมีเปาะข้าวหนึ่งหลัง ที่สร้างไว้เก็บข้าวเปลือกหลังฤดูเก็บเกี่ยว
บ้านที่ป๊ะใช้อาศัยกับลูกแปดคน มีลำคลองข้างบ้าน ทางทิศตะวันตกมีภูเขารูปยักษ์พุงโตนอนหงายมองดูท้องฟ้า ฤดูแล้งจัดมีฝูงลิงยกพวกข้ามคลองผ่านต้นเดือยริมตลิ่งรื้อข้าวของให้เสียหาย หน้าบ้านดอกพุดซ้อนสีขาวส่งกลิ่นหอมอบอวล ใกล้ๆมีต้นมะพร้าว มะม่วง ช่วยแผ่กิ่งก้านร่มรื่นทั้งวัน
อาทิตย์ค่ำลง เสียงหวูดเขาควายดังตู้น ตู้น ตู้น ให้นึกถึงวันเป่าแตรสังข์สิ้นโลก ป๊ะพาหนังสือหุ้มหนังแกะ อดัมเดินตามหลังเลียบคลองไปบาลัยสวนวิมาน อีกแห่งที่คลองขวาง มีหมาด บูหยงลูกเขยเป็นผู้สอน
บาลัยเป็นวิทยาคารชุมชน ใครมีลูกหลานก็ฝึกสอนหนังสือได้ ที่ร่วมแรงร่วมใจชาวบ้าน กวนอาซูรอเพื่อระลึกวันน้ำท่วมโลก อ่านกวีฉลองวันเกิดศาสดา หรือทำมอแร กลุ่มจัดเลี้ยงในเดือนถือศีลอด เป็นเสาหลักเมืองของหมู่บ้าน
ป๊ะนั่งสอนหนังสือให้ลูกศิษย์และชาวบ้าน ท่ามกลางแสงตะเกียงเจ้าพายุส่องแสง เน้นให้รู้จักตูฮันผู้ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ด้วยคุณลักษณะยี่สิบประการเรียกว่า ซีฟัต ดัวปูโละ
อดัมยังจำได้ นั่งฟังป๊ะเล่าค่ำคืนมหัศจรรย์ที่ศาสดานั่งบูร้อกกสัตว์ชนิดหนึ่งตัวสีขาว มีลำตัวยาวกว่าลาแต่สั้นกว่าล่อ นำไปยังฟากฟ้า ซีรอตุล มุนตาฮา เพื่อรับโองการละหมาด ให้ทุกคนกระทำอย่างเคร่งครัด
ป๊ะไม่มีรายได้อื่นเลย อาศัยเงินบริจาคในขันเล็กๆน้อยๆ มะปลูกผักกาด ผักบุ้งขายที่ตลาดนัดสวนวิมานช่วยกันเลี้ยงลูกๆ
อดัมยังจำสมัยเรียนชั้นประถมศึกษานั้น ใส่เสื้อสีขาวหม่นกางเกงปะก้นชุดเดียว พอกลับถึงบ้านมะจะรีบซักตากลมให้ทันใส่วันรุ่งขึ้น
มะได้แต่ปลอบใจ วันไหนมีเงินมากพอจะซื้อชุดใหม่ให้ทันที อุตส่าห์นอนฟังนับเหรียญ สิบสอง,สิบสาม แต่ละคืนได้เพียงเล็กน้อย ค่ากับข้าวก็ยังไม่พอ ถึงวันเรียนจบก็ยังไม่ได้ใส่สักที
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่10 ชื่อโต๊ะฮารีเมาอายุห้าสิบแปดปี รูปร่างกลมเตี้ยเป็นมะขามข้อเดียว มีเชื้อสายโต๊ะบอมอ ฮารีเมา จากเมืองเนอฆรี ซัมบีลัน ก่อนตั้งรกรากนับร้อยปีก่อน
ทั้งๆที่อื่นมีไฟฟ้าใช้แล้ว โต๊ะฮารีเมามัวแต่วุ่นกับขยายอำนาจเข้มแข็ง ชุมชนอ่อนแอยังไงไม่สน
รุ่นป๊ะของแกรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆให้ชาวบ้านด้วยวิชาครูหมอเสือ ว่ากันว่าตอนรักษาคนไข้จะอยู่ในมุ้งจะมีเสือลายพาดกลอนจริงๆร่วมอยู่ในมุ้งพิธีด้วย
โต๊ะฮารีเมาให้ครูหมอเสือช่วยดูแลทรัพย์สิน เรือกสวน ไร่นา เล่ากันต่อมาว่ามีขโมยคนหนึ่งถูกเสือไล่กัดในสวนเงาะมาแล้ว
แกมีคู่หูชื่อบาว ยีวา บ้านอยู่คลองขวางใกล้ๆกับสวนวิมาน ที่ร่ำลือมีวิชาล่องหนหายตัวได้ อ้างเรียนรู้ได้ง่ายๆด้วยตูฮันให้รับพรสวรรค์คืน ไลลาตุลก้อด ไม่เรียนรู้ก็เห็นแจ้งได้ทุกเรื่อง
ทั้งสองคิดงานใหญ่ให้ลูกแต่งงานกัน จากนั้นคิดแยกคลองขวางเป็นหมู่11ให้ลูกชายตัวร้ายยาเสพติดเป็นแท่นผู้นำ
ป๊ะนั้นหวังชุมชนความรู้ส่องสว่าง ชวนผู้คนคืนสู่ธรรมสอนใจใช้บาลัยเป็นศูนย์กลาง อีกคนมีลูกหลานเกินครึ่งหมู่บ้าน ใช้เวทมนต์ครูหมอเสือเป่าหัวควบคุมฝูงชน
“พวกเราอย่าเรียนกะครูบ้านั่นนะเว้ย”โต๊ะฮารีเมาขู่ไม่ให้คบค้าสนับสนุนป๊ะ
“ไม่รู้เกลียดอะไรกันนัก”พี่สาวอมมีเอ่ยขึ้นให้น้องๆฟังอย่างเบื่อหน่ายพฤติกรรมพิเรนท์เต็มทน สมยอมให้อิบลิสอุ้มสมยอมแลกการลงโทษอย่างเจ็บปวดได้ยังไงกันนะ
“ป๊ะไม่เคยยุ่งกับแกเลย” สโนว์ไวท์อมมีพูด
“ถ้าอิบสิสเข้าสิงทำได้ทั้งนั้น” มูฮิบบะพูดถึงมารร้าย ผู้ได้รับสิทธิ์หลอกใครก็ได้
มีนิสัยขี้อิจฉา อวดเก่ง ใส่ร้าย นินทา ขี้สงสัย ยุยงให้คนอื่นเกลียดกัน โกหก ชวนทะเลาะเบาแว้ง วิวาท ประจาน อยากเอาชนะคนอื่น
โต๊ะฮารีเมาเป็นอิบลิสตัวกร่าง กลืนนิสัยมาร้ายลงท้องทำให้ครูหมอเสือจึงดูน่ากลัว ไม่มีใครกล้าตอแยด้วย
สมมติครูเป็นดวงดาวส่องฟ้ายามค่ำคืน คอยช่วยไม่ให้เดินหลงทาง ทั้งสองคือแม่ทัพใหญ่ฝึกฝนพลธนูยิงดวงดาว ให้หมู่บ้านอยู่ในห้วงรัตติกาลก็ไม่ผิดนัก
เคลิ้มๆนั้นได้ยินพี่สาวเล่าวันทำบุญโกนหัวให้ฟังวันที่หมอตำแยโกนหัวล้าน วาดคิ้วเสียใหม่มองคล้ายตุ๊กตายางนอนนิ่งบนเบาะลายดอกไม้ มะยิ้มไม่หุบ ที่มีเพื่อนบ้านแสดงความดีใจ หยอกเล่นกับกุมารน้อยน่ารักน่าชัง
“มะได้บนบานเอาไว้ ได้ผู้ชายจะเลี้ยงอาหารด้วยแพะเขาทอง” พี่สาวเล่าให้ฟัง
“ยืมทองใส่คอแพะ”พี่สาวเฉลยให้ฟัง
ทุกคนหัวเราะ น้องชายกำเนิดขึ้นพร้อมเรื่องสัตว์วิเศษ ฟังแล้วดูชีวิตนี้เขาคือตัวละครที่หลุดจากเทพนิยายสักเล่มหนึ่ง
สโนว์ไวท์อมมี เล่าน้องๆนบีไอยุบทำตัวอย่างเอาไว้ตอนที่เบื่อระอาเมียเต็มทน หายป่วยแล้วจะตีนางร้อยครั้ง ครั้นถึงเวลาที่หายป่วยร่างกายแข็งแรงเหมือนเดิม ได้เอาหญ้าแห้งแตะตัวเบาๆแก้บนเท่านั้น
นอกจากตูฮันสัตว์ไม่มีสิทธิ์บันดาลอะไรให้ใครๆได้ บนบานแล้วไม่ทำเป็นบาปติดตัวอย่างหนึ่งต้องระวัง
“มีญาติบางคนไม่ชอบรู้มั้ย”อมมีเอ่ยขึ้น
“อ้าว ทำไมยั่งงั้นล่ะ”ยามีละถาม พี่คนโตเล่าให้ฟังสาเหตุ
ถ้าป๊ะไม่มีลูกชาย พวกเขาจะมีสิทธิ์พื้นที่เจ็ดไร่ตามหลักแบ่งมรดกทันที สมมติสมบัติทั้งหมดสี่ส่วน ลูกชายได้สาม ส่วนผู้หญิงทั้งเจ็ดได้เพียงหนึ่งส่วนแบ่งเท่ากันคือนาคนละบิ้ง ป๊ะแบ่งให้ถูกต้องชอบธรรมแล้ว
ทำไมชีวิตป๊ะจึงแร้นแค้นทุกเรื่อง เปิดบาลัยที่ป๊ะฝันสักวันจะเป็นปอเนาะก็ถูกเพื่อนบ้านรุมต่อต้านไม่อยากให้ผุดให้เกิด
ป๊ะมีพี่สาวสติไม่ดีชื่อโต๊ะดาลีมะพาไปรักษาก็ไม่หาย โดนยาสั่งบ้าตลอดชีวิต บางคืนส่งเสียงรบกวนอ่านคาถา ร้องไห้ กระทืบพื้น สมาชิกในบ้านแทบไม่ได้หลับได้นอน
เซิฟร๋เวอร์ได้ย้อนสมัยชั้นประถมโรงเรียนที่บ้านเกิดอีกครั้งหนึ่ง
อดัมติดนิสัยเข้าห้องสมุดประจำ ขนาดวันเรียนจบถูกเพื่อนเรียกหน้าห้องสมุดให้ถ่ายรูปเป็นคนสุดท้าย
เบื้องหลังนั้นเขาเก็บอาการหอบไว้ในรูปปิดใบสุทธิอย่างมิดชิด อดัมไม่มีวันลืมวันที่วิ่งให้คนถ่ายซ่อนใบหน้าในผ้าคลุมแบบอีมูลชั่นเพลต
น้อยคนที่รู้อดัมเป็นผีห้องสมุด เขาทำเป็นไม่ได้ยินเสียงระฆัง ไม่อยากเรียนวิชาเลขที่ครูหุนสอน แอบอ่านนิทานหงส์หินเพลินอยู่คนเดียวในห้องสมุด
ห้องสมุดได้ห้อยโหนเถาวัลย์กับทาร์ซานเจ้าป่าผจญภัยในป่าลึก ได้คุยกับเมาคลีลูกหมาป่าเด็กชายผู้เติบโตกลางเหล่าสัตว์ป่านานาพันธุ์
เสียงระฆังพักเที่ยง อดัมเดินตัวปลิวชวนตัวคนแคระนิทานสโนว์ไวท์คุยใต้โคนต้นจามจุรี ชวนคุยสนุกสนานข้ามมิติกับตัวละครร่างเตี้ย ตัวเล็กๆทนงานในเหมืองร้อนได้ยังไงกันนะ
ยังจดจำไม่เลื่อมคลาย วัยเด็กที่ชวนเพื่อนๆดูโทรทัศน์บ้านเฒ่าแก่โรงอิฐ เดินไกลฝ่าบิ้งนาดูหนังโทรทัศน์เรื่อง ไอ้มดแดงอาละวาด
ฮอนโก ทาเคชิ นักแข่งรถได้ถูกองค์กร ช็อกเกอร์ จับตัวมาดัดแปลงร่างกายให้เป็น คาเมนไรเดอร์ ก็เกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น ทำให้เขาใช้พลังที่ได้หนีออกมาจากองค์กรนรกได้
ทาเคชิใช้พลังนี้เพื่อสู้องค์กรช็อกเกอร์ เพื่อความสงบสุขชาวโลกเขามีเข็มขัดแปลงร่างพร้อมกับมอเตอร์ไซค์คู่ชีพไว้ต่อสู้กับเหล่าร้าย
เด็กๆไปเฝ้าบ้านเฒ่าแก่ ตั้งแต่หนังยังไม่เริ่ม ต้น พากันจับจองนั่งหน้าสลอนเต็มห้องรับแขก วันไหนไปช้าต้องยืนดูทางหน้าต่าง ปวดฉี่แค่ไหนก็ต้องทน ไม่งั้นเพื่อนเข้าเสียบแทนที่ทันที
ตอนเดินกลับบ้าน ยังชวนเพื่อนแบ่งฝ่ายต่อสู้กันแบบในหนัง ปีศาจโผลขึ้นจากลอมฟาง ประกาศศักดาให้ผู้ผดุงธรรมดึงเข็มขัด ขับรถมอเตอร์ไซค์ พุ่งเข้าหาศัตรูอย่างไม่หวั่นเกรง
"ฮอนโก ทาเคชิ "อดัมตะโกนลั่นบิ้งนา
“ข้าคือช็อกเกอร์” เพื่อนรักตอบดังๆกลับมาเช่นกัน ก่อนที่สองฝ่ายตะลุมบอน ลอมฟางกองโตล้มกระจาย ทั้งหมดเป็นภาพวันเยาว์ นึกถึงคราวใดยังประทับใจไม่รู้ลืม
เหนือโค้งรุ้งเจ็ดสีภาพสมัยเรียนมัธยมต่างจังหวัดปอเนาะพิกัดหลังหอพักเป็นชัยภูมิที่ดีครูเรียกทางเสือผ่าน บรรดาหัวโจกคอยหนีเรียน แอบดูสาวที่สระน้ำมหาวิทยาลัย
ตอนเรียนปีแรกรุ่นพี่ชวนเที่ยวสระ อดัมตามหนหนึ่ง สั่งให้พาหนังสือติดตัว นั่งอ่านหนังสือแต่ตาดูผู้หญิงว่ายน้ำ อดัมไม่นึกสนุกด้วยเลยสักนิด สู้นอนอ่านหนังสือจริงๆดีกว่า
อดัมยังจำวันที่ปั่นจักรยานไม่มีเบรกไปห้องสมุดได้ดี ตั้งใจไปยืมหนังสืออ่านเกือบถูกรถชนตายเป็นผีเฝ้าถนน
ขณะเสยหัวขึ้นถนนใหญ่ได้ยินเสียงแตรดังสนั่น
ทั้งรถทั้งคนเสียหลักเจ็บแปลบข้อเท้าริ้วตอนถูกลากติดล้อพร้อมรองเท้าฟองน้ำคู่เก่า ยังแข็งใจเดินทางต่อกลางแสงแดดบ่ายร้อนแรง
นึกสาวใหญ่หน้าตาดีก็อยากให้ถึงห้องสมุดเร็วๆ อดัมปาดเหงื่อยเริ่มไหล เมื่อวันก่อนได้แต่ยิ้มทักทายกัน เธอเป็นผู้หญิงที่ดูเงียบๆ แต่จะใช้ชวนคุยด้วยสายตามีเลสนัยตลอดเวลา
“สวัสดีค่ะ”เสียงทักดังขึ้น
อดัมยิ้มตอบแห้งแล้ง เมื่อไปยืนอยู่ใกล้ๆบรรณารักษ์สาวใหญ่ เธอมองด้วยสายตาแปลกใจ อะไรทำให้หนุ่มน้อยมีใบหน้าหวาดกล้วเช่นนั้น
“หน้าซีดจัง” เธอเดินอ้อมโต๊ะถามเบาๆ
“เกือบถูกรถชนตาย”เสียงอดัมสั่น
สิ้นคำนั้นเธอดึงตัวกอดเรียกขวัญให้กลับคืนมา อดัมได้ไออุ่นไม่ใช่ที่ไอรับจากมะ หัวใจเต้นแรงเมื่อศีรษะแนบเนินอกใหญ่แทบเป็นไข้กระทันหัน
นานที่ได้สูดดมกลิ่นหอมกำจายในรูจมูกและขนทุกเส้น อดัมกอดรัดแน่น จนอีกฝ่ายผละออกทิ้งรอยยิ้มจางๆเอาไว้ที่ดวงตาดำขลับ
“ขอทำบัตรด้วยนะครับ”อดัมพูดแก้เขิน
“ได้สิ ชอบแนวไหนล่ะ”เธอพูดขึ้น
เด็กอายุเท่านี้มาห้องสมุดเห็นไม่บ่อย อดัมปาดเหงื่อที่ไหลย้อย กลิ่นหอมกรุ่นติดจมูกไม่หาย
“สโนว์ไวท์ครับ”
“ทำไมชอบเรื่องผู้หญิงล่ะ” เธอยกแก้วน้ำยื่นให้ตรงหน้าพลางรอคำตอบ
“ผมมีพี่สาวเจ็ดคน”
“ฟังแล้วดูอบอุ่นจังเลยนะ”ดรุณีพูดขึ้น
“รู้มั้ยเธอมีตัวตนจริงๆ”
เด็กชายขมวดคิ้ว ได้ยินเบื้องหลังก็อดรู้สึกแปลกไจไม่ได้
“ชื่อมากาเร็ตมีชีวิต ค.ศ.1533 นักประพันธ์เขียนให้อ่านยังไงล่ะ”
“แปลกจังเลยนะครับ”อดัมพูดตื่นเต้น
นึกภาพพี่ใจดีนั่งห้อมล้อม หยอกล้อน้องชายตัวเล็กยั่งกับคนแคระในเทพนิยายสโนว์ไวท์ทั้งเจ็ด ตอบกลับงั้นพี่สาวคือสโนว์ไวท์คนที่ถูกวางยาพิษในลูกแอปเปิลคนนั้น
เขาจำได้ดี ทุกวันนางถามกระจกบอกสิ ใครงามเลิศในปฐพี วันหนึ่งกระจกบอกสโนว์ไวท์สวยที่สุดราชินีจอมโหดโกรธแค้นที่ถูกแย่งตำแหน่งจึงวางแผนสั่งนายพรานควักหัวใจใส่กล่อง นายพรานบอกเธอหนีไปเมืองอื่น เอาหัวใจหมูไปให้ราชินีดูเป็นหลักฐานแทน
อดัมนึกสนุกตั้งชื่อให้พี่สาวทั้ง 7 สโนว์ไวท์ฮาซานะ,อมมี,มูฮิบบะ,ยามีละ,สุอาดะ,ซอลีฮะ,คอดียะ ตามลำดับ.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments