หลังจากนั้นไม่นานความสัมพันธ์ของเจมส์กับคลิโอเริ่มต้นขึ้นด้วยเบอร์โทรศัพท์หนึ่งชุดในกระเป๋าเสื้อของเจมส์และคำสัญญาคลุมเครือว่าจะไปฟังวงซิมโฟนีออร์เคสตราด้วยกัน เจมส์ไม่รอช้ารีบโทรไปหาอีกฝ่ายในทันที
" ฮัลโหลนี่คลิโอรับสายอยู่ครับ "
" ไม่ทราบว่าคุณคือใคร? " เสียงตอบกลับของคลิโอทำในหัวใจของเจมส์เต้นรัวราวกับจังหวะกลองชุด
" ผ..ผมเองครับคุณคลิโอผมเจมส์เอง "
" อ่อคุณเจมส์นี่เองไม่ทราบว่าโทรมามีเรื่องอะไรเหรอครับ "
" คือ ผมได้ตั๋วไปดูวงออร์เคสตรา 2 ใบ "
" แล้วไงต่อครับ " น้ำเสียงจากปลายสายนุ่มน่าฟังเสียจนเจมส์เคลิ้มไปกับเสียงพูด
" ผมจะชวนคุณไปดูด้วยกัน คุณสนใจไปด้วยกันไหม "
" เอาสิช่วงนี้ผมก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน "
" งั้นเอาเป็นพรุ่งนี้นะครับคุณคลิโอ "
" ครับพรุ่งนี้เจอกัน "
หลังจากที่ปลายสายวางลงไปใบหน้าของเจมส์ก็เห่อร้อนออกมาด้วยความเขินอาย
' พรุ่งนี้จะได้เจอคุณคลิโอแล้วดีใจจัง '
ในวันต่อเจมส์ได้ตัดสินใจให้คลิโอไปพบเจอกันที่หน้าโรงละครโอเปร่าใจกลางเมือง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบทเพลงที่มีจังหวะไม่สม่ำเสมอแต่กลับน่าหลงใหล
ในค่ำคืนนั้นที่โรงละครโอเปร่า เจมส์ในชุดสูทสีเข้มยืนรอคลิโออยู่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ ไม่นานนักร่างเพรียวบางของคลิโอก็ปรากฏขึ้นในชุดเชิ้ตสีขาวสะอาดตาคลุมทับด้วยเสื้อกั๊กสีน้ำตาลอ่อน ผมสีเข้มถูกจัดแต่งอย่างเป็นระเบียบ ทำให้เขาดูสง่างามแต่ก็ยังคงความเรียบง่าย
“ขอโทษที่ให้รอนะครับคุณเจมส์” คลิโอเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” เจมส์ตอบกลับอย่างรวดเร็วพลางเปิดประตูให้คลิโอเข้าไปก่อน
ตลอดการแสดง เจมส์ไม่ได้สนใจการบรรเลงของวงออร์เคสตราเท่ากับสนใจสีหน้าของคลิโอ เขาสังเกตเห็นแววตาที่เปล่งประกายของคลิโอขณะที่มองไปยังเหล่านักดนตรีในวง
ดวงตาคู่นั้นสะท้อนความรักและความหลงใหลในดนตรีอย่างลึกซึ้ง ซึ่งทำให้เจมส์รู้สึกประทับใจยิ่งกว่าเสียงดนตรีใดๆ ที่เคยได้ยินมา
หลังการแสดงจบลง เจมส์ตัดสินใจชวนคลิโอไปดื่มกาแฟต่อที่ร้านใกล้ๆ พวกเขาเลือกโต๊ะริมหน้าต่างและพูดคุยกันอย่างออกรส เจมส์พยายามจะหาเรื่องคุยทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้อยู่กับคลิโอนานขึ้น
เขารับบทเป็นผู้ฟังที่ดี ปล่อยให้คลิโอได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับบทเพลงที่เขาชื่นชอบ ประวัติของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น หรือแม้กระทั่งความฝันที่จะได้มีโอกาสแสดงในฮอลล์ใหญ่ๆ สักครั้งหนึ่งในชีวิต
“ผมว่าการที่เราได้ฟังดนตรีสดแบบนี้มันช่างแตกต่างจากการฟังจากแผ่นเสียงนะครับ” เจมส์เริ่มบทสนทนาต่อ
“แน่นอนครับ” คลิโอตอบ “เพราะดนตรีมันคือชีวิตครับคุณเจมส์ มันคือการสื่อสารที่แท้จริงระหว่างนักดนตรีกับผู้ฟัง”
เจมส์ยิ้มอย่างมีความหมาย
“งั้นถ้าอย่างนั้น ผมขออนุญาตตีความว่า ผมได้รับสารบางอย่างจากไวโอลินของคุณตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันเลยนะครับ”
คลิโอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขัน
“คุณเจมส์นี่ช่างเปรียบเทียบนะครับ”
เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือเห็นด้วย แต่เปลี่ยนเรื่องคุยไปอย่างแนบเนียน
“ผมว่าเรากลับกันเถอะครับ มันดึกแล้ว”
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา “ความบังเอิญ” ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของพวกเขาทั้งสองคน เจมส์จะ ‘บังเอิญ’ ไปเจอคลิโอที่ร้านหนังสือที่เขาบอกว่าชอบไปเป็นประจำ หรือ ‘บังเอิญ’ ไปได้ยินมาว่าคลิโอมักจะไปซ้อมดนตรีที่ห้องซ้อมแห่งหนึ่ง แล้วเจมส์ก็ ‘บังเอิญ’ ขับรถผ่านไปแถวนั้นพอดี และทุกครั้งที่เจอกัน เจมส์ก็จะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการถือของให้ การเปิดประตูให้ หรือแม้แต่การซื้อกาแฟที่คลิโอชอบมาให้โดยที่ไม่ได้เอ่ยปากขอ
คลิโอรู้ดีว่าความบังเอิญเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เขากลับเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องและสนุกไปกับมัน การกระทำของเจมส์ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอึดอัด
แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและพิเศษในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขายังคงรักษาระยะห่างในฐานะเพื่อน แต่ก็แอบส่งสัญญาณบางอย่างกลับไปให้เจมส์ได้รู้สึกถึงความหวัง เช่น การยิ้มให้เล็กๆ ยามที่เจมส์พยายามจะจีบเขาอย่างน่าเอ็นดู หรือการเล่าเรื่องส่วนตัวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในวันที่ฝนตกหนัก เจมส์ตัดสินใจพาคลิโอมาส่งที่บ้าน เมื่อรถจอดสนิทหน้าอพาร์ตเมนต์ของคลิโอ เจมส์เปิดประตูให้คลิโอพร้อมกับกางร่มให้เพื่อกันไม่ให้คลิโอเปียกฝน
“คุณเจมส์ไม่ต้องมาส่งถึงที่ก็ได้นะครับ” คลิโอพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“ผมขึ้นแท็กซี่กลับเองได้”
“ผมอยากจะมาส่งครับ” เจมส์ตอบด้วยรอยยิ้ม
“ถึงแม้จะไม่ได้นั่งคุยกันนานๆ เหมือนที่เคย แต่ผมก็ได้เห็นคุณมีความสุขกับการได้อยู่ท่ามกลางดนตรีที่รัก มันเป็นภาพที่สวยงามที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ”
คลิโอเงียบไป เขามองเข้าไปในดวงตาของเจมส์ที่สะท้อนถึงความจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ขอบคุณนะครับ” คลิโอตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“สำหรับอะไรครับ”
“สำหรับทุกอย่างครับ... สำหรับความบังเอิญทุกอย่างที่คุณสร้างขึ้นมา”
ในวินาทีนั้น เจมส์รู้ทันทีว่าคลิโอไม่ได้โง่ เขารู้มาตลอดว่าเจมส์พยายามจะทำอะไรอยู่ และสิ่งที่เจมส์รู้สึกนั้นไม่ใช่เรื่องที่เขารับรู้ได้เพียงคนเดียว หัวใจของพวกเขากำลังเล่นบทเพลงเดียวกัน เพียงแต่ยังไม่ถึงท่อนคลอเคลียที่ประสานเสียงกันอย่างลงตัวเท่านั้นเอง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Suzuko
อย่าหยุดแต่งเพราะเราชอบผลงานของแอดมาก 💖
2025-08-31
1