ปี 1960 ณ ใจกลางมหานครที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ โบสถ์เซนต์แพทริกยังคงยืนหยัดอย่างสง่างามท่ามกลางความวุ่นวายภายนอก วันนี้เป็นวันอาทิตย์สำคัญทางศาสนา ผู้คนหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันจนเต็มทุกที่นั่ง ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด เสียงดนตรีที่กำลังบรรเลงจากด้านหน้าแท่นบูชาต่างหากที่ดึงดูดทุกโสตประสาทให้เงียบสงบลง
ท่ามกลางแสงสเตนกลาสที่ทอประกายหลากสี เจมส์ นักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในแวดวงอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล กำลังยืนพิงเสาหินอ่อนสายตาเหม่อมองไปยังร่างเพรียวบางของชายหนุ่มที่กำลังยืนเด่นอยู่เบื้องหน้า
เขาคือ คลิโอ ฮอร์ก นักดนตรีผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ เจ้าของผมสีเข้มที่ปรกหน้าผาก ดวงตาเรียวรีคมกริบ และริมฝีปากอิ่มที่เม้มเข้าหากันเล็กน้อยยามที่คันชักไวโอลินเคลื่อนไหวพลิ้วไหวไปตามท่วงทำนอง
บทเพลงที่คลิโอกำลังบรรเลงคือ "Ave Maria" เสียงไวโอลินที่หลั่งไหลออกมานั้นทั้งบริสุทธิ์และเปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
มันไพเราะจับใจจนเจมส์รู้สึกราวกับว่ากำลังถูกดึงดูดเข้าไปในห้วงภวังค์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขาไม่เคยคิดเลยว่าเสียงดนตรีจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขาได้ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ใบหน้าของคลิโอสะท้อนถึงสมาธิและความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม มือเรียวที่บรรจงจับคันชักเคลื่อนไหวอย่างงดงามราวกับกำลังร่ายรำ
เมื่อโน้ตตัวสุดท้ายจางหายไป ความเงียบเข้ามาแทนที่ ก่อนที่เสียงปรบมือจะดังกึกก้องไปทั่วทั้งโบสถ์ เจมส์เองก็ปรบมืออย่างลืมตัว ดวงตาจับจ้องไปที่คลิโอที่โค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อขอบคุณผู้ฟัง แสงไฟจากหน้าต่างสเตนกลาสกระทบกับเส้นผมของคลิโอจนเกิดประกายระยิบระยับ ภาพนั้นตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเจมส์ราวกับภาพวาดชิ้นเอก
หลังเสร็จสิ้นพิธี เจมส์เดินออกมาจากโบสถ์ด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ เขาตัดสินใจที่จะลองเดินไปทางด้านหลังของโบสถ์เผื่อว่าจะได้มีโอกาสพบกับนักดนตรีหนุ่มอีกครั้ง และโชคก็เข้าข้าง เมื่อเขาเห็นคลิโอกำลังเก็บเครื่องดนตรีลงในกล่องอย่างบรรจง
“คุณเล่นไวโอลินได้ไพเราะมากครับ” เจมส์เอ่ยทักทายออกไปอย่างไม่ลังเล เสียงทุ้มของเขาทำให้คลิโอชะงักและหันกลับมามอง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ
“ขอบคุณมากครับ” คลิโอตอบกลับด้วยรอยยิ้มเล็กๆ เผยให้เห็นลักยิ้มข้างแก้มที่ดูน่าเอ็นดู
“ ผมชื่อเจมส์ โจนาธาน ” เจมส์แนะนำตัวพร้อมกับยื่นมือออกไป “ผมประทับใจในบทเพลงของคุณมากจริงๆ”
คลิโอรับมือของเจมส์มาจับ พลางตอบกลับว่า “ผมชื่อคลิโอ ฮอร์กครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเจมส์” สัมผัสจากมือของคลิโอนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เจมส์รู้สึกราวกับกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นไปทั่วทั้งร่าง
ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่พักใหญ่ เจมส์ได้รู้ว่าคลิโอเป็นนักดนตรีอิสระที่มักจะได้รับเชิญให้มาบรรเลงเพลงในงานสำคัญต่างๆ ส่วนคลิโอก็ได้รู้ว่าเจมส์เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแต่กลับเป็นคนติดดินและมีอารมณ์ขัน พวกเขารู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นเพียงการพบกันครั้งแรกก็ตาม
ก่อนจะแยกย้ายกันไป เจมส์ตัดสินใจรวบรวมความกล้า “คุณคลิโอครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเสียมารยาทไปไหม แต่ผมอยากจะขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณไว้ เผื่อว่าวันหน้าผมจะชวนคุณไปฟังดนตรีวงซิมโฟนีออร์เคสตราที่ผมชอบ”
คลิโออมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “ได้สิครับ ผมยินดี” เขารับปากกาและกระดาษที่เจมส์ยื่นให้แล้วบรรจงเขียนตัวเลขลงไปอย่างช้าๆ ก่อนจะส่งคืนให้เจมส์พร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้เจมส์รู้สึกว่าโลกทั้งใบสดใสขึ้นมาทันที
เจมส์เก็บกระดาษแผ่นเล็กๆ แผ่นนั้นไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างทะนุถนอม ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า เขารู้สึกได้ว่าการพบกันในวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่การบังเอิญ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments