สายฝนโปรยปรายลงมาเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายของเช้าวันใหม่ พริมยืนมองหยดฝนที่เกาะบนกระจกหน้าต่างห้องของโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอรู้ดีว่าทุกวินาทีที่ผ่านไป ชีวิตของเธอกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่คาดคิด และต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือชายหนุ่มที่มีนามว่า “คิริน”
คิรินไม่ได้เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่ผ่านมาในชีวิตของเธอชั่วครู่ เขาเป็นมากกว่านั้น เขาคือคนที่ทำให้หัวใจที่แสนอ่อนล้า เริ่มรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงเปิดประตูเบา ๆ ดังขึ้น พริมรีบหันกลับไปมอง และก็ไม่ผิดหวัง คนที่เข้ามาในห้องคือคิริน เขาสวมเสื้อแจ็กเก็ตเปียกฝนเล็กน้อย มือข้างหนึ่งถือถุงอาหารเช้า ส่วนอีกข้างถือถุงผลไม้สด
“เธอตื่นนานหรือยัง?” เขาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“สักพักแล้วค่ะ” พริมตอบเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มจาง ๆ
คิรินเดินเข้ามาวางของบนโต๊ะข้างเตียง เขาหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากถุงอีกใบแล้วยื่นให้เธอ
“เธอชอบฝนเหรอ?” เขาถามขณะนั่งลงข้าง ๆ เตียง
“ค่ะ…ชอบ เวลาฝนตกมันรู้สึกสงบดี” พริมตอบก่อนจะหันกลับไปมองหน้าต่างอีกครั้ง
“ฉันก็ชอบเหมือนกัน” คิรินว่า “โดยเฉพาะเวลาฝนตกเบา ๆ แบบนี้ มันทำให้คิดถึงเรื่องเก่า ๆ”
พริมเหลือบตามองเขาแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม “เรื่องแบบไหนเหรอคะ?”
คิรินนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ “เรื่องของครอบครัวน่ะ…แม่ฉันชอบฝนมาก เวลาเธออยู่ที่บ้านมักจะชอบเปิดหน้าต่างนั่งดูฝน เธอว่ามันเหมือนกับธรรมชาติกำลังปลอบโยน”
พริมไม่พูดอะไร เธอแค่ยิ้มให้เขาเบา ๆ แล้วก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจ ความรู้สึกอบอุ่นที่เธอไม่ได้สัมผัสมานาน
หลังจากรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน พริมรู้สึกว่าคิรินเริ่มเปิดใจให้เธอมากขึ้น เขาเล่าเรื่องอดีตของตัวเองให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง ทั้งเรื่องครอบครัว การเติบโตที่เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว และความพยายามที่จะเข้มแข็งเพื่อไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอ
“ตอนเด็ก ๆ ฉันเป็นเด็กเงียบ ไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะเราย้ายที่อยู่บ่อย แล้วพ่อก็ไม่อยู่กับเรา” คิรินพูดขณะจ้องมองมือของตัวเองที่กุมกันไว้ “แม่ทำงานหนักมาก ฉันเลยพยายามไม่สร้างปัญหาให้เธอ”
พริมฟังด้วยความตั้งใจ เธอไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลย และมันทำให้เธอเข้าใจคิรินมากขึ้น
“บางครั้ง…ฉันก็สงสัยว่าความเข้มแข็งที่ฉันแสดงออกมา มันคือความกลัวที่ซ่อนอยู่ข้างในหรือเปล่า” เขาว่าด้วยเสียงเบา
“คิริน…” พริมเรียกชื่อเขาเบา ๆ “ไม่ว่าเธอจะรู้สึกยังไง ฉันก็อยากให้รู้ว่า…เธอไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลา”
เขาหันมามองเธอ ดวงตาคมกริบที่เคยแข็งกร้าวดูอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ขอบใจนะ ที่พูดแบบนั้น”
บรรยากาศในห้องเงียบลงอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ความเงียบที่อึดอัด กลับเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ
หลังจากนั้น ทั้งสองคนเริ่มใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คิรินมักจะมาหาพริมทุกวันหลังเลิกงาน บางวันก็พาเธอออกไปเดินเล่นในสวนของโรงพยาบาล บางวันก็นั่งอ่านหนังสือด้วยกัน หรือแม้แต่เงียบ ๆ โดยไม่ต้องพูดอะไรเลยก็ยังรู้สึกดี
วันหนึ่ง ขณะทั้งสองนั่งอยู่ที่มุมสงบของสวน พริมก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“คิริน…เธอคิดว่าเรากำลังเปลี่ยนแปลงกันอยู่ใช่ไหม?”
เขาหันมามองเธอ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “ใช่…ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่เจอเธอ ฉันเริ่มมองโลกต่างออกไป”
“ฉันก็เหมือนกัน” พริมยิ้ม “เมื่อก่อนฉันคิดว่าชีวิตฉันจบลงแล้ว แต่ตอนนี้…ฉันกลับรู้สึกว่าฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อ”
คิรินจับมือเธอไว้แน่น “เราจะอยู่ต่อไปด้วยกันนะพริม ไม่ว่าเธอจะต้องเจอกับอะไร ฉันจะอยู่ข้าง ๆ เธอเสมอ”
แววตาของพริมเริ่มมีน้ำตาเอ่อขึ้นมา เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะกลายมาเป็นความหวังเดียวในวันที่เธอมืดมนที่สุด
และนั่น…คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง
วันเวลาค่อย ๆ ล่วงเลยไป พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มหยั่งรากลึกในหัวใจของทั้งสองคน
หลังจากวันนั้น พริมและคิรินต่างก็ใช้เวลาร่วมกันแทบทุกวัน คิรินเหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ได้ทำอะไรยิ่งใหญ่ ไม่ได้มีคำพูดหวานซึ้งหรือสัญญาอลังการ แต่ความอบอุ่นของเขา…มันค่อย ๆ ซึมลึกลงมาในหัวใจของพริมอย่างไม่รู้ตัว
เช้าวันหนึ่ง พริมได้รับข่าวดีจากคุณหมอว่าอาการของเธอดีขึ้นมาก จนอาจกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ในอีกไม่กี่วัน
“กลับบ้านเหรอ…” พริมพึมพำกับตัวเองขณะนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง “แต่จะกลับไปเจออะไรอีกนะ…”
ความทรงจำเก่า ๆ ไหลย้อนกลับมา ทั้งความเศร้า ความว่างเปล่า และความกลัวที่แทรกอยู่ในหัวใจอย่างเงียบงัน เธอไม่ได้กลัวโรคที่เธอเป็น…เธอกลัวความเหงา
คิรินที่เดินเข้ามาเห็นพริมเหม่อลอยอยู่ เขาเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ เธออย่างเงียบ ๆ
“หมอบอกว่าเธอจะได้กลับบ้านแล้วเหรอ?” เขาถาม
พริมพยักหน้าเบา ๆ “ค่ะ…อีกไม่กี่วัน”
คิรินยิ้ม “ก็ดีแล้วนี่ เธอจะได้พักผ่อนแบบเต็มที่ซะที”
พริมเงียบไป ก่อนจะพูดเบา ๆ “ฉันกลัวค่ะ…กลัวว่าพอกลับไปแล้ว ทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิม เหงา เงียบ และไม่มีใคร”
คิรินมองใบหน้าของเธออย่างเข้าใจ “เธอจะไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้วนะพริม เพราะฉันจะไปหาเธอทุกวันเลย”
หญิงสาวหันมามองเขา ดวงตาสั่นไหว “จริงเหรอคะ?”
“จริงสิ” คิรินยิ้ม “ฉันไม่เคยสัญญาอะไรพร่ำเพรื่อ แต่ถ้าฉันพูด…ฉันจะทำ”
พริมรู้สึกถึงความจริงใจในแววตาของเขา มันไม่ใช่คำพูดที่ฟังแล้วตื่นเต้น แต่มันคือคำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกปลอดภัย
วันต่อมา คิรินพาเธอไปเดินเล่นรอบ ๆ สวนของโรงพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้เขาเตรียมเก้าอี้สนามตัวเล็กมานั่งคู่กันใต้ต้นไม้ใหญ่
“รู้ไหม ที่นี่คือมุมโปรดของฉันในโรงพยาบาลนี้” เขาว่า
พริมเลิกคิ้ว “เหรอคะ?”
“ใช่ เวลาฉันเหนื่อยจากงานหรือเจอเรื่องเครียด ฉันจะมานั่งที่นี่ สูดอากาศลึก ๆ แล้วก็ปล่อยให้ธรรมชาติช่วยเยียวยา”
หญิงสาวเงียบไปก่อนจะยิ้มออกมา “น่าแปลกนะคะ ตอนฉันเข้ามาอยู่ที่นี่ครั้งแรก ฉันกลับรู้สึกกลัวและไม่อยากอยู่เลย”
“แล้วตอนนี้ล่ะ?”
พริมสบตาเขา “ตอนนี้…ฉันรู้สึกไม่อยากจากที่นี่ไปเลย”
คิรินหัวเราะเบา ๆ “เพราะมีฉันใช่ไหมล่ะ?”
“แหม\~ อย่ามั่นใจตัวเองขนาดนั้นสิคะ” เธอแกล้งพูดก่อนจะหัวเราะตาม
แต่ลึกลงไปในใจ…ใช่ มันก็เป็นเพราะเขานั่นแหละ เพราะเขาทำให้โรงพยาบาลที่เคยดูน่ากลัว กลายเป็นสถานที่ที่อบอุ่นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่กี่วันต่อมา พริมได้ออกจากโรงพยาบาลจริง ๆ คิรินเป็นคนขับรถพาเธอกลับบ้านด้วยตัวเอง เขาช่วยขนของ จัดห้อง และเตรียมอาหารง่าย ๆ ให้เธออย่างคล่องแคล่ว
“เธอไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคิริน ฉันเกรงใจ”
“ฉันเต็มใจ พริม” เขาตอบเสียงเรียบ “ไม่ใช่เพราะหน้าที่ ไม่ใช่เพราะสงสาร แต่เพราะฉันอยากดูแลเธอจริง ๆ”
พริมเงียบไป หัวใจของเธอกระตุกวูบหนึ่งกับประโยคเรียบง่ายนั้น มันไม่ใช่คำพูดที่หวือหวา แต่มันจริงจนเธอไม่สามารถหาคำตอบโต้ได้
คืนนั้นหลังจากที่คิรินกลับไปแล้ว พริมนั่งมองห้องของตัวเองที่เงียบงัน แต่ครั้งนี้…เธอไม่รู้สึกเหงาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
เสียงข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้น
“ถึงบ้านปลอดภัยแล้วนะ พักผ่อนเยอะ ๆ พรุ่งนี้จะเอาของโปรดไปให้ :)”
แค่ข้อความสั้น ๆ แต่หัวใจของพริมก็เต้นแรงอย่างประหลาด เธอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
วันต่อ ๆ มา คิรินมาหาเธอจริง ๆ ตามที่เขาบอก บางวันเขาเอาหนังสือมาอ่านให้เธอฟัง บางวันก็พาเธอไปเดินเล่นแถวสวนหลังบ้าน หรือแม้แต่แค่นั่งอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ต้องพูดอะไรกันเลยก็ตาม
ยิ่งเวลาผ่านไป ความรู้สึกของพริมก็ยิ่งแน่นชัด เธอรู้แล้วว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างเธอกับคิริน มันไม่ใช่แค่ความผูกพันธรรมดา มันคือสิ่งที่เรียกว่า…
“ความรัก”
แต่เธอก็ยังไม่กล้าเอ่ยมันออกมา…
เธอกลัวว่า ถ้าพูดไปแล้ว ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เธอกลัวว่าเขาอาจจะไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน หรือแย่ที่สุด…เขาอาจแค่ “อยู่กับเธอเพราะความสงสาร”
เย็นวันหนึ่งขณะที่ฝนตกหนัก พริมยืนมองสายฝนจากหน้าต่าง แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เมื่อเปิดออก…ก็พบว่าคิรินเปียกฝนยืนอยู่ตรงหน้า
“บ้าจริง ทำไมไม่โทรมาก่อนคะ จะได้เตรียมผ้าให้!”
“ก็อยากมาเซอร์ไพรส์” เขายิ้ม “ฉัน…มีเรื่องอยากพูดกับเธอ”
พริมมองหน้าเขาอย่างสงสัย “เรื่องอะไรเหรอคะ?”
คิรินยืนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงต่ำและชัดเจน
“พริม…ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันรู้สึกบางอย่างกับเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ”
พริมใจเต้นแรง หัวใจของเธอราวกับหยุดอยู่ชั่วขณะ
“ฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด ไม่ได้สงสาร ไม่ได้เพราะว่าเธอกำลังป่วย…แต่มันคือความรู้สึกจริง ๆ ที่ฉันมีให้”
หญิงสาวหลบสายตา ริมฝีปากของเธอสั่น
“ฉันก็…รู้สึกเหมือนกันค่ะ”
คำพูดนั้นหลุดออกจากปากของเธอโดยไม่ทันคิด
และเพียงเท่านั้น…ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
คิรินก้าวเข้ามาใกล้ ดึงมือเธอไปกุมไว้แน่น
“ถ้าเธอยอม ฉันอยากจะเดินเคียงข้างเธอ ไม่ว่าจะวันสุขหรือวันทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่ปล่อยมือเธอไปไหน”
พริมหลับตาแน่น น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย เธอพยักหน้า
และในค่ำคืนที่ฝนตกหนัก เสียงหัวใจของทั้งสองคนก็ดังประสานกันอย่างงดงาม…
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments