ตอนที่ 3 : คำสัญญาใต้สายฝน

เสียงฟ้าคำรามดังก้องเหนือท้องฟ้า เทาเข้มที่ทอดตัวครอบคลุมทั่วเมือง เสียงหยาดฝนเริ่มแรกเบาบาง ก่อนจะเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว พริมยืนอยู่ใต้ศาลาพักริมถนนหน้าโรงพยาบาล ใบหน้าเธอชื้นไปด้วยหยดฝนที่ปลิวมาตามลม สายตาเธอมองเหม่อไปยังเส้นทางที่ไม่รู้ว่าคนที่เธอรอจะโผล่มาเมื่อไร

“แกร๊ก…”

เสียงเปิดร่มกระทบกับเสียงฝนจางๆ ทำให้พริมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเจอใบหน้าคุ้นเคยของคนที่เธอไม่คิดว่าจะมาตอนนี้ — คิริน

เขาไม่ได้พูดอะไร แค่ยื่นร่มให้เธอ โดยที่ตัวเองยืนอยู่ในสายฝนเต็มตัว

“ทำไมไม่รอให้ฝนซาก่อน…” พริมพูดเสียงแผ่ว ไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ

คิรินส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ถ้ารอให้ฝนหยุด เราอาจจะไม่ได้พูดกันอีกแล้วก็ได้”

คำพูดนั้นของเขาทำให้หัวใจของพริมเต้นผิดจังหวะ ความรู้สึกบางอย่างถูกเปิดออกเหมือนกล่องความลับที่ซ่อนไว้ในใจ

“เมื่อวาน…ขอบคุณนะ ที่อยู่กับเรา” เขาเอ่ยเบาๆ แต่ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจกลั้นไว้ได้

พริมมองเขา ดวงตาของเธอไหววูบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดออกมา

“เราไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว…ไม่ใช่แค่เมื่อวาน แต่ไม่อยากให้เธอรู้สึกแบบนั้นเลย…”

คิรินเงียบไปชั่วครู่ แล้วหันมาจ้องตาเธอโดยไม่หลบ

“แล้วถ้าเรา…ไม่อยากอยู่คนเดียวเลยจริงๆ เธอจะอยู่ด้วยไหม?”

ฝนยังตกหนัก ลมยังเย็นยะเยือก แต่ใจของพริมกลับร้อนผ่าว

“นี่เธอพูดอะไร…” เสียงของเธอสั่น เธอไม่แน่ใจว่านั่นคือความหวังหรือเพียงแค่คำพูดจากอารมณ์ชั่ววูบ

คิรินถอนหายใจ แล้วเดินเข้ามาใกล้ ใช้มือจับไหล่เธอเบาๆ

“พริม…เราไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาอยู่ข้างๆ เราได้ขนาดนี้เลยนะ แต่เธอ…ทำให้เรารู้สึกว่าความเงียบมันไม่ได้น่ากลัว”

“คิริน…”

“เรากลัวจะเสียเธอไป…ถ้าเราไม่พูดตอนนี้ เราอาจจะไม่มีโอกาสอีก”

เสียงสายฝนทำให้โลกภายนอกดูเหมือนหายไป เหลือเพียงคนสองคนกับความรู้สึกที่กำลังจะเอ่อล้น

พริมกลืนน้ำลายอย่างฝืดเคือง เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากของคิริน

“ถ้าเรา…สัญญา ว่าจะพยายามเป็นคนที่ดีขึ้น จะไม่ผลักคนที่แคร์เราออกไปอีก เธอจะให้โอกาสเราไหม?”

พริมเม้มปากแน่น น้ำตาที่ไม่รู้ว่าเพราะฝนหรือเพราะใจ เริ่มเอ่อออกมา

เธอพยักหน้าเบาๆ

คิรินยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ยิ้มที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความหวัง

“งั้นเรา…มีคำสัญญาหนึ่งที่อยากให้เธอจำไว้”

เขาจับมือเธอไว้แน่นแม้ฝนจะยังโปรยปราย

“ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…เราจะไม่หายไปอีก เราจะอยู่ข้างๆ จนกว่าเธอจะไม่ต้องการเราอีกต่อไป”

พริมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอโผเข้าไปกอดเขาทันทีโดยไม่สนว่าทั้งคู่จะเปียกปอนไปหมด

และในตอนนั้น — ใต้สายฝนที่โปรยปราย — มีเพียงสองหัวใจที่เต้นแรง พร้อมกับคำสัญญาที่ไม่มีคำว่าชั่วคราว

หลังจากวันนั้น…

คิรินเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ได้ขลุกอยู่แต่กับความเศร้า หรือปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกอีกต่อไป พริมเป็นคนแรกที่เห็นรอยยิ้มของเขาในแต่ละวัน และเป็นคนเดียวที่เขาเล่าเรื่องในใจให้ฟัง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวที่ยังทำให้เขาเจ็บ หรืออดีตที่เขาไม่อยากหวนกลับไป พริมอยู่ตรงนั้น…ฟังอย่างเข้าใจ ไม่ตัดสิน ไม่เร่งรัด แค่ “อยู่ด้วย”

และมันก็เพียงพอแล้ว…สำหรับหัวใจของเขา

“เราไม่เคยมีใครอยู่ข้างๆ แบบนี้เลยนะ” เขาพูดในวันหนึ่งระหว่างที่ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องสมุด

พริมเงยหน้ามาจากหนังสือ แล้วพูดกลับอย่างไม่ลังเล

“งั้นก็ถือว่าเธอโชคดีแล้วล่ะ ที่เราไม่ยอมไปไหน”

คิรินหัวเราะเบาๆ แล้วพูดติดตลก

“แล้วถ้าเราอยากให้เธออยู่…ตลอดไปล่ะ?”

พริมหน้าแดงทันที แต่แกล้งตีแขนเขาเบาๆ

“อย่ามาทำหวานนะ!”

ทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน เสียงหัวเราะที่เคยห่างหาย กลับกลายเป็นสิ่งที่เติมเต็มหัวใจของกันและกันในทุกๆ วัน

คืนหนึ่ง หลังฝนตกอีกครั้ง

คิรินเดินมาส่งพริมที่หน้าบ้าน ฝนเพิ่งซา กลิ่นดินเปียกและเสียงจิ้งหรีดขับกล่อมอยู่เงียบๆ

“ขอบใจนะ ที่มาเป็นแสงในวันที่มืดของเรา” เขากระซิบเบาๆ ระหว่างที่ยื่นร่มให้เธอ

พริมยิ้มแล้วพูดกลับไป

“งั้นก็สัญญาไว้นะ ว่าจะไม่กลับไปอยู่ในความมืดอีก”

เขาพยักหน้าแน่น แล้วพูดด้วยแววตาที่จริงจัง

“เราสัญญา…และจะไม่ลืมคำสัญญาใต้สายฝนนั่นไปตลอดชีวิต”

วันต่อมา พริมและคิรินกลับมาใช้ชีวิตประจำวันในมหาวิทยาลัยเหมือนเดิม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ และอบอุ่นขึ้นทุกวัน

สิ่งเล็กๆ ที่คิรินไม่เคยทำ กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาค่อยๆ ทำให้พริมโดยไม่รู้ตัว เช่น การซื้อขนมมาฝากหลังเลิกเรียน การหยิบร่มมาเผื่อโดยไม่ต้องบอก หรือแม้แต่การนั่งรอเธอหน้าห้องเรียนตอนที่ฝนเริ่มตั้งเค้า

“วันนี้เรียนเหนื่อยไหม?” เขาถามขณะส่งน้ำเย็นให้

พริมพยักหน้า รับขวดน้ำมาอย่างไม่เก้อเขิน

“เหนื่อยมากเลย ขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไร” เขาตอบเรียบๆ แต่แววตาอบอุ่นยิ่งกว่าแสงแดดยามเช้า

การมีใครสักคนที่ไม่ต้องพูดเยอะ แต่รับรู้ความรู้สึกได้ในทุกการกระทำ — มันเป็นสิ่งที่พริมไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริง

เย็นวันนั้น หลังเลิกเรียน พริมกับคิรินเดินเล่นในสวนข้างมหาวิทยาลัย ใบไม้ปลิวไหวตามแรงลม กลิ่นฝนที่ตกเมื่อคืนยังอวลอยู่ในอากาศ

“เธอยังจำตอนที่เราทะเลาะกันครั้งแรกได้ไหม?” พริมถามขณะเดินเคียงข้างกัน

คิรินหัวเราะเบาๆ

“จำได้สิ วันนั้นเธอโยนหนังสือใส่เรา”

“ก็เธอพูดจาน่าหมั่นไส้นี่นา!” พริมเถียงกลับแล้วหัวเราะตาม “ใครจะคิดว่าจากวันนั้น…จะมาถึงวันนี้”

คิรินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง

“เราไม่เคยคิดว่าจะมีใครยอมทนกับเราขนาดนี้”

พริมหันไปมองเขา

“ไม่ใช่เรื่องของความทนนะคิริน…แต่เป็นเพราะเรารู้ว่าเธอไม่ได้เลวร้าย เธอแค่หลงทางไปชั่วคราว”

เขานิ่ง เงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหยุดเดินแล้วหันมาจับมือเธอไว้แน่น

“ถ้างั้น…ขอสัญญาอีกครั้งได้ไหม?”

“หืม? สัญญาอะไรอีกล่ะ?” พริมถามพลางขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ

“สัญญาว่า…ถ้าเราหลงทางอีก เธอจะดึงเรากลับมาเหมือนที่เคยทำ”

เธอยิ้มออกมาเบาๆ

“สัญญา…ว่าจะอยู่ให้ดึงเสมอ”

มือของเขากระชับแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพากันเดินต่อไปในยามเย็นที่มีแสงอาทิตย์สาดผ่านกิ่งไม้ ใบหน้าของพริมและคิรินถูกแต่งแต้มด้วยแสงสีทองอ่อนๆ และรอยยิ้มที่แทบไม่เคยหายไปเลยนับตั้งแต่วันฝนนั้น

คืนหนึ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ พริมได้รับข้อความจากคิริน

“ออกมาดูดาวกันไหม? มีเรื่องอยากเล่า”

พริมลังเลเล็กน้อย แต่หัวใจก็พลันเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เธอตอบตกลง แล้วไม่นานนัก รถของคิรินก็มารับเธอ พวกเขาขับออกไปยังเนินเขานอกเมือง ที่ที่ไม่มีแสงไฟจากเมืองรบกวนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ทั้งคู่ปูผ้านั่งบนพื้นหญ้า ลมเย็นพัดผ่านเบาๆ และดาวนับพันดวงเปล่งประกายอยู่เหนือศีรษะ

“ที่จริงแล้ว…ตอนเด็กๆ เรากลัวฟ้ามากเลยนะ” คิรินเริ่มพูด

“ฟ้าร้องน่ะเหรอ?”

“ใช่ เวลามันร้อง เราจะเอามือปิดหูแล้ววิ่งไปหลบใต้โต๊ะ” เขาหัวเราะเบาๆ

“แล้วตอนนี้ล่ะ?” พริมถามอย่างสนใจ

เขาหันมามองหน้าเธอ แววตาจริงจังเจือแววอบอุ่น

“ตอนนี้เราไม่กลัวแล้ว เพราะมีเธอ…ไม่ว่าจะฟ้าร้องหรือฝนตก เราก็ไม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียวอีกต่อไป”

พริมยิ้มกว้าง ก่อนจะเอนตัวพิงเขาเบาๆ ทั้งสองนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ไม่มีคำพูดใดๆ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพูด เพราะหัวใจของพวกเขาต่างรู้ดีว่า ความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร

และในวันฝนตกถัดมา…

ที่เดิม ศาลาพักริมถนน พริมและคิรินยืนอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ฝนโปรยปรายลงมาเหมือนในวันนั้น

“จำตอนนั้นได้ไหม?” คิรินถามขณะมองฝนที่ตกไม่หยุด

“จำได้สิ…” พริมยิ้มบางๆ

คิรินหันมาจับมือเธอไว้แน่น

“เราอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด ไม่ได้อบอุ่นตลอดเวลา ไม่ได้พูดหวานเหมือนพระเอกในนิยาย แต่เราสัญญา…ว่าจะอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าเธอจะร้องไห้ ยิ้ม หรือเงียบ เราก็จะอยู่”

พริมพยักหน้า น้ำตาคลออีกครั้ง

“งั้นเราก็ขอสัญญาด้วยเหมือนกัน…ว่าเราจะไม่ปล่อยมือเธอ ต่อให้พายุแรงแค่ไหนก็ตาม”

เสียงฝนยังคงตก แต่ภายในใจของทั้งสองกลับสงบและอบอุ่นเหลือเกิน

คำสัญญาใต้สายฝน…ในวันนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโต ความเข้าใจ และความรักที่ไม่มีวันลบเลือน

หลังจากค่ำคืนนั้นที่ทั้งสองได้ยืนยันคำสัญญาภายใต้สายฝน พริมก็เริ่มรู้ตัวว่าชีวิตของเธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความเงียบของคิรินไม่ได้ทำให้เธออึดอัดอีกต่อไป กลับกัน มันกลายเป็นความเงียบที่ปลอดภัย เหมือนร่มที่กางคลุมเธอในวันที่ฝนตก

หลายครั้งที่ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันมาก แค่นั่งอ่านหนังสือในมุมเงียบๆ ของห้องสมุด หรือกินข้าวด้วยกันอย่างเรียบง่าย แต่ในความเรียบง่ายนั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกแน่นหนา

“เธอเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม?” คิรินถามขึ้นระหว่างนั่งรอรถเมล์กลับบ้านในเย็นวันหนึ่ง

พริมเอียงคอนิดหน่อย คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบ

“เมื่อก่อนก็ไม่เชื่อ…แต่ตอนนี้เริ่มเชื่อนิดๆ แล้วล่ะ”

เขาหันมามองเธอ ยิ้มนิดๆ

“แล้วเธอคิดว่าเรา…คือพรหมลิขิตของกันและกันรึเปล่า?”

คำถามนั้นทำให้หัวใจของพริมเต้นโครมคราม เธอไม่ได้ตอบทันที แต่หันไปสบตาเขา แล้วพูดเบาๆ

“ถ้าเธอยังอยู่ตรงนี้ในวันข้างหน้า…เราก็คงเชื่อสนิทใจเลยแหละ”

คิรินไม่พูดอะไร แต่เพียงยกมือขึ้นโอบไหล่เธอเบาๆ ท่ามกลางแสงไฟถนนที่ส่องลอดผ่านใบไม้ลงมา ทั้งสองเหมือนหลุดออกจากความวุ่นวายของโลก มีเพียงความเงียบสงบและจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มมีคนรอบตัวสังเกตเห็น

“นี่…เธอกับคิริน เป็นอะไรกันเหรอ?” เพื่อนในกลุ่มถามอย่างอยากรู้

พริมยิ้ม ไม่ตอบตรงๆ แค่พูดว่า

“เราก็แค่…คนที่เคยหลงทาง แล้วมาเจอกันระหว่างทางมั้ง”

คำตอบนั้นดูคลุมเครือ แต่ในใจของพริม เธอรู้ดีว่า คิรินไม่ใช่แค่คนที่เจอระหว่างทาง

เขาคือคนที่เธออยากเดินไปด้วยกันจนสุดปลายทาง

และบางที…คำสัญญาใต้สายฝนนั้น อาจจะไม่ใช่แค่คำพูดชั่วคราว

แต่มันคือจุดเริ่มต้นของคำว่า “ตลอดไป” ที่แท้จริง

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!