วันถ่ายแบบก็มาถึง สตูดิโอของที่รักวันนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก บรรยากาศแตกต่างจากวันซ้อมโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ การจัดเซ็ตอุปกรณ์ ไปจนถึงเสียงของทีมงานที่กำลังจัดเตรียมองค์ประกอบสุดท้ายของฉากหลัง
แสนซนยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องแต่งตัว เสียงของช่างแต่งหน้าดังสลับกับเสียงไดร์เป่าผมและแปรงแต่งหน้าเสียดสีกับผิวเบาๆ
เธอใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวซีทรูสีแดงกำมะหยี่ แนบเนื้อเผยไหล่ขาวและช่วงอกนวลผ่อง ตรงชายกระโปรงผ่าข้างสูงถึงต้นขา ดึงดูดสายตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผ้าชั้นในประดับคริสตัลระยิบระยับใต้แสงไฟ เครื่องประดับเพชรแท้จับแสงวับวาวไปทั่วเรือนร่าง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ต่างหูระย้า หรือกำไลเส้นบาง เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะสวมชุดแบบนี้…แต่ก็แปลกที่มัน “ใช่” อย่างบอกไม่ถูก
สตาร์ยิ้มกว้าง ขยับหน้าเข้ามาแซว
“โอ้โห…น้องซนของเราเหมือนเดินพรมแดงเมืองคานส์เลยแม่!”
ยูอิ เสริมเสียงสูง
“แต่ดูสายตาคุณช่างภาพสิคะ สแกนจนเหมือนจะลืมหายใจแล้วนั่น!”
แสนซนเม้มปากนิด ๆ พลางหันไปมองผ่านกระจก และเห็นร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีดำพอดีตัว ที่กำลังยืนดูจอมอนิเตอร์ เขาคือที่รัก…
ที่รัก อยู่ในโหมดโฟกัสเต็มที่ สายตาคมกริบกวาดดูฉากที่ทีมงานเซตไว้ มุมกล้องที่เตรียมไว้ ทั้งไฟส่อง โฟกัส และบรรยากาศโดยรวม
เขาหันมาเมื่อทีมผู้ช่วยเรียกเพื่อเตรียมบรีฟนางแบบและทีมงาน
ที่รักพูดกับทุกคน
“ทุกคน วันนี้คอนเซปต์ของเราคือ ‘The Velvet Night’
เราต้องการบรรยากาศของปาร์ตี้หรูในยามค่ำคืน ความเย้ายวนปนลึกลับ สื่อสารผ่านแสงไฟ เงา และท่าทาง”
เขาหันมาทางแสนซน…ชั่ววินาทีนั้นทุกอย่างเงียบลง แม้เสียงในสตูดิโอจะยังดังต่อเนื่อง
“โดยเฉพาะนางแบบหลักของเรา…แสนซน
ซีนเปิดต้องสื่อให้ได้ว่าเธอคือหญิงสาวที่ทุกสายตาในงานปาร์ตี้ต้องหันมามอง ไม่ใช่เพราะแค่ความสวย แต่เพราะ ‘พลัง’ และ ‘ความมั่นใจ’ ของเธอ”
แสนซนกลืนน้ำลายเบาๆ สายตาของที่รักจับจ้องเธอไม่ปล่อย เหมือนกำลังถ่ายทอดคำแปลของคำว่า "สวย" ในมุมมองของเขา…ผ่านดวงตาคู่นั้น
---
ฉากถ่ายทำเริ่มต้น
“กล้องพร้อม แสงพร้อม! ซาวด์เปิดเพลงเบาๆ เพื่ออารมณ์ภาพ!”
แสนซนก้าวเข้าสู่เซ็ตถ่ายแบบ กล้องถูกล็อกไว้ตรงกลาง ตรงหน้าเธอคือชุดโซฟาหนังสีน้ำตาล ฉากหลังเป็นเตาผิงขนาดกลางสีขาวลวดลายสวยงาม และพร็อพไวน์แดงที่วางประดับไว้พอเหมาะ
ที่รักขยับเข้ามาใกล้ พูดเบา ๆ ข้างหูเธอ
“จำไว้นะ…ในงานนี้ ไม่มีใครเท่าเทียมเอ็ง เอ็งคือเจ้าหญิงของค่ำคืนนี้ แล้วข้าจะเก็บทุกวินาทีของเอ็งไว้ให้ดีที่สุด”
หัวใจแสนซนเต้นแรง…เธอไม่แน่ใจว่าเพราะแสงไฟหรือเพราะเสียงของเขาแต่ทันทีที่กล้องลั่นชัตเตอร์แรก เธอกลายเป็นอีกคนหนึ่ง
แสนซนโพสท่าพิงโซฟา ดวงตาฉายแววมั่นใจ อีกฉากเธอยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเบาๆ มองกล้องด้วยสายตาเย้ายวน ที่รักไล่ปรับไฟให้ส่องเฉพาะเงาด้านหลัง เพื่อสร้างอารมณ์ลึกลับ
เขาสื่อสารกับเธอผ่านสายตาและภาษากายตลอดเวลา บางครั้งเข้ามาจัดผ้าชายกระโปรง บางครั้งใช้มือยกคางให้เธอหันหน้ารับมุมแสง
ทุกคนในสตูดิโอรู้สึกได้…ว่าพลังงานระหว่างคนสองคนนี้ ไม่ใช่แค่ “ตากล้องกับนางแบบ”
เมื่อชัตเตอร์สุดท้ายดังขึ้น ทีมงานต่างปรบมือเบาๆ ด้วยความพอใจ
แสนซนถอนหายใจแรง เธอเดินลงจากเซ็ตถ่ายแบบ เหงื่อซึมเล็กน้อยตรงไรผม แต่แววตายังเป็นประกาย
ที่รักเดินเข้ามายื่นขวดน้ำให้ พร้อมกับยิ้มมุมปากที่น้อยคนนักจะได้เห็น
“ทำได้ดีมาก…ข้าไม่เคยถ่ายใครแล้วรู้สึกว่า ‘อยากถ่ายต่อ’ เหมือนกับเอ็ง”
แสนซนรับขวดน้ำ ยิ้มบางๆ
“ขอบคุณค่ะ…เพราะพี่ทำให้หนูรู้สึกว่า หนูกลายเป็นคนอื่นที่หนูอยากเป็น”
---
เสียงประตูหน้าสตูดิโอปิดลงอย่างแผ่วเบา เป็นสัญญาณว่าทุกคนกลับกันหมดแล้ว
ในห้องสตูดิโอกว้าง เหลือเพียงแสงไฟอุ่นๆ จากหน้าจอมอนิเตอร์และโคมไฟมุมห้อง
ที่รักเดินกลับเข้ามา มือหนึ่งถือแก้วกาแฟ อีกมือเปิดจอแมคบุ๊กขนาดใหญ่ที่เชื่อมกับกล้องโดยตรง
แสนซนนั่งอยู่บนโซฟาหนังสีน้ำตาล เธอยังไม่ได้เปลี่ยนชุด ถอดเพียงรองเท้าส้นสูงออก ปล่อยเท้าเปล่าวางพาดกับขอบโซฟาอย่างผ่อนคลาย
ที่รักยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ แล้วนั่งลงข้างๆ เธอ
“พร้อมจะดูตัวเองในเวอร์ชั่น ‘อันตราย’ แล้วหรือยัง?”
“พูดเหมือนหนูเป็นระเบิด”แสนซนยกคิ้วพลางยิ้มมุมปาก
“ถ้าข้าบอกว่าใช่…เอ็งก็คือระเบิดที่จุดติดตั้งแต่ภาพแรกเลยล่ะ”
เสียงหัวเราะเบาๆ หลุดจากริมฝีปากเธอ แต่หัวใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ
แล้วภาพแรกก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
เป็นภาพของเธอ…ในชุดเดรสแดงที่แสงไฟทำให้กำมะหยี่ดูนุ่มลึก ริมฝีปากสีเลือดเชอร์รี่ แววตาที่ทั้งท้าทายและเปิดเปลือยใจในคราวเดียว
“หนูจำไม่ได้เลย…ว่าตัวเองมองกล้องแบบนี้ได้ยังไง”แสนซนพูดเบาเสียงลง เหมือนพูดกับตัวเอง
“เพราะเอ็งไม่ได้มองกล้อง…แต่เอ็งมอง ‘ข้า’ ผ่านกล้อง”
คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศเงียบลงอย่างแปลกประหลาด แสนซนหันไปสบตากับเขา…แต่ที่รักยังจ้องจอไม่ละสายตา
ภาพต่อ ๆ ไปไหลเปลี่ยนทีละช็อต…แสนซนพิงโซฟา เอียงหน้า ยิ้มเย็น จิบไวน์ เหมือนเธอเป็นตัวละครในหนัง…แต่ก็คือตัวเธอจริงๆ ในอีกมิติหนึ่ง
“นี่มันดู…ไม่ใช่หนูเลย แต่ก็รู้สึกเหมือน…เป็นหนูอีกคนหนึ่งที่เคยซ่อนอยู่”
“เพราะเอ็งกล้าปล่อยให้ตัวเอง ‘เป็น’ โดยไม่ต้องคิดว่าใครจะมองยังไง”
เขาหันมาสบตาเธอในที่สุด สายตานั้นนุ่มลึกจนแสนซนต้องเบือนหน้าหลบเล็กน้อย
บรรยากาศในสตูดิโอเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
“ถ้าเอ็งถามว่า…รูปไหนที่ข้าชอบที่สุด…”ที่รักพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เขากดหยุดภาพไว้ที่ช็อตหนึ่ง เป็นภาพที่เธอนั่งก้มหน้าบนโซฟา มือจับแก้วไวน์เบา ๆ แสงจากด้านหลังทำให้ผิวเธอดูอ่อนละมุนเหมือนกำมะหยี่ที่สวมอยู่ เธอไม่ได้มองกล้อง ไม่ได้แสดงอะไร…แต่กลับสื่อได้มากที่สุด
“ข้าชอบช็อตนี้ที่สุด…เพราะมันเงียบ มันจริง และมัน ‘เป็นเอ็ง’ โดยที่เอ็งไม่รู้ตัว”
แสนซน เงียบไปพักหนึ่งก่อนพูดเบาๆ
“ถ้าพี่ไม่ใช่คนถ่าย…มันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก”
เธอพูดจบก็ลุกขึ้นยืน เดินไปยืนข้างหน้าจอโดยที่ไม่หันกลับไปมองเขา สายตาจ้องภาพตัวเองบนหน้าจออย่างครุ่นคิด
ที่รักลุกตามมา เขายืนข้างหลังเธอ ห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตร
“ข้าขอถามอะไรอย่างหนึ่ง…”
“ว่าไงคะ…”
“ถ้าข้าขอ ‘เก็บ’ เอ็งไว้ในความทรงจำข้า…มากกว่านี้ เอ็งจะยอมไหม?”
แสนซนไม่ตอบ…แต่สายตาของเธอไม่หลบเลี่ยงอีกต่อไป และในวินาทีนั้น แสงจากหน้าจอข้างหลังคือแสงเดียวที่ส่องสว่าง
และอาจเป็นวินาทีที่ทั้งสองคนรู้ว่าพวกเขา…ไม่สามารถกลับไปเป็นแค่คนรู้จักกันอีกต่อไปได้แล้ว
แสงจากจอมอนิเตอร์ค่อย ๆ หรี่ลง เมื่อที่รักเอื้อมมือไปกดปิดมัน ทิ้งไว้เพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียงมุมห้องที่ให้อารมณ์เหมือนแสงจากพระจันทร์ อ่อนโยน ละมุน และคลุมทุกอย่างไว้ในความลับ
เธอกับเขาเงียบกันไปครู่หนึ่ง ไม่มีคำพูด แต่ในความเงียบกลับเต็มไปด้วยคำถาม ความรู้สึก และการเต้นของหัวใจที่แรงพอจะได้ยิน
ที่รักยื่นมือออกไปช้าๆ แตะที่มือของแสนซนเบาๆมือของเขาอุ่น และสั่นเล็กน้อย มือของเธอก็เช่นกัน...แต่ไม่ได้หลบหนี
“ข้ารู้…ว่ามันเร็วไป แต่ข้าชอบเอ็ง…มากเกินกว่าจะเก็บไว้เงียบ ๆ อีกแล้ว”
แสนซนเงยหน้าขึ้น ดวงตาเธอไหววูบ น้ำเสียงของเขาทำให้ใจเธอสั่นกว่าทุกครั้ง
“หนูเองก็…ชอบพี่เหมือนกัน และมันก็ทำให้หนูกลัว…กลัวว่าถ้าหนูปล่อยใจไปมันจะกลายเป็นอะไรที่ห้ามไม่ได้อีกต่อไป…”
ที่รักยิ้มเจือเศร้า เขาขยับเข้าใกล้
“บางครั้ง…เราก็ไม่ต้องห้ามหรอก แค่ปล่อยให้หัวใจได้พูดบ้างได้ไหม…คืนนี้ แค่ให้ข้าได้อยู่ข้างเอ็ง ไม่ต้องหนี ไม่ต้องคิดมาก”
เขาแตะหน้าผากลงที่หน้าผากของเธอ แสนซนหลับตา สัมผัสความอุ่นจากลมหายใจของเขา เธอสั่นนิดๆ ไม่ใช่เพราะกลัว…แต่เพราะรับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้น…ก็อยู่กับหนูคืนนี้…แค่ให้หนูรู้ว่าหนูไม่ได้รู้สึกอยู่คนเดียว”
ที่รักค่อย ๆ โน้มลง ประคองแก้มเธออย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วของเขาลูบผ่านแนวกราม กวาดไล้ไปตามลำคอ เธอหลับตาอีกครั้ง
แล้วจูบแรกในค่ำคืนนั้นก็เกิดขึ้น ไม่เร่งรีบ ไม่ร้อนแรง แต่เต็มไปด้วยการยอมรับ
พวกเขาไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะไม่มีคำไหนจะเท่ากับความรู้สึกที่ถ่ายทอดกันผ่านสัมผัส
ในห้องสตูดิโอเงียบสนิท เหลือเพียงเสียงลมหายใจสองคนที่สอดประสาน มือของที่รักประคองแผ่นหลังของแสนซน เธอกอดเขาแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ร่างกายที่เบียดแนบเข้าหากัน
ชุดแดงของเธอยังคงสะท้อนแสงเพชรระยิบ แต่ไม่มีอะไรสว่างไปกว่าความรู้สึกในอกที่ลุกวาบขึ้นมาในจังหวะนั้น
เสื้อเชิ้ตของเขาหลุดออกจากชายกางเกงมือของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อสัมผัสเนื้อผิวอุ่นใต้เสื้อนั้นแต่เขาไม่พูดอะไร มีเพียงเสียงหายใจที่แนบข้างหู
“ข้าจะไม่เร่งอะไร…แค่ให้ข้าได้อยู่ในความทรงจำของเอ็ง…คืนนี้”
“ไม่ใช่แค่ความทรงจำ…แต่ให้พี่อยู่ในตัวหนู…อยู่ในหัวใจหนูด้วย”
และในคืนนั้น ทั้งคู่ต่างเปิดเผยทุกความรู้สึก ทุกสิ่งที่เก็บซ่อนไว้ ไม่ใช่แค่เพียงกายที่ใกล้ชิด แต่เป็นใจที่โอบกอดกันอย่างแท้จริง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 19
Comments