ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากวันถ่ายงานโฆษณาและคืนที่แสนซนกับที่รักมีช่วงเวลาเงียบ ๆ ที่ไม่เคยบอกใคร
บรรยากาศในห้องเรียนวันนี้ดูคึกคักกว่าปกติ นักศึกษาต่างพูดคุยถึงโปรเจกต์ใหม่ที่อาจารย์เพิ่งแจ้งในกลุ่มเมื่อวาน และวันนี้ก็เป็นวันที่จะต้องแบ่งกลุ่มเพื่อรับโจทย์กันจริงจัง
แสนซนเดินเข้าห้องพร้อมสตาร์กับยูอิ ทั้งสามนั่งลงตรงมุมเดิมของห้อง เสียงพูดคุยของเพื่อน ๆ เรื่อง “งานถ่ายแบบแฟชั่น” ทำให้แสนซนเลิกคิ้วอย่างสนใจ
ไม่นานนัก อาจารย์ก็เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มในมือ
“ก่อนจะเริ่มคลาสวันนี้ เรามีงานใหม่ให้ทุกกลุ่มนะครับ เป็นโปรเจกต์แฟชั่นคอลเลกชันจำลอง เพื่อฝึกการถ่ายภาพ + การวางคอนเซ็ปต์ และการสร้างแบรนด์”
เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วห้อง อาจารย์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดต่อ
“งานครั้งก่อนหลายกลุ่มทำออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มของคุณแสนซน ต้องชมเลยว่าใช้ทรัพยากรได้มีประสิทธิภาพดี ภาพออกมาดูโปรมาก”
แสนซนยิ้มเก้อ ๆ ขณะเพื่อน ๆ ส่งเสียงแซว
“แน่นอนสิคะอาจารย์ เพราะช่างภาพหล่อ…”
ยูอิแซวพลางหันมาทำตาแพรวใส่แสนซน
สตาร์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกระซิบ
“หวังว่าโปรเจกต์นี้พี่ที่รักจะว่างอีกนะ…”
อาจารย์ยิ้มและพูดต่อ
“ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้ใช้ช่างภาพคนเดิม เพราะจากผลงานครั้งก่อน เขาเข้าใจคอนเซ็ปต์ได้ดี มีทักษะในการจัดแสง เฟรม และสามารถสื่ออารมณ์ภาพได้ชัดเจน”
เมื่อสิ้นประโยคนั้น หัวใจของแสนซนเต้นแรงขึ้นนิดหน่อย เพราะไม่แน่ใจว่าที่รักจะ “ยังอยากร่วมงาน” กับเธออีกไหม
---
“เราจะใช้คอนเซ็ปต์อะไรดีอะ?” ยูอิถามทันทีที่ออกมานอกห้อง
“นั่นสิ แล้วแสนซนอยากได้แบบไหนหรอ?” สตาร์เอ่ย
“ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน เดี๋ยวค่อยไปถามช่างภาพแล้วกัน” แสนซนยิ้ม
งานนี้เหมือนเป็นโอกาสอีกครั้ง…ที่เธอจะได้ทำงานร่วมกับคนที่เธอกำลังเผลอใจให้
“แล้วจะให้ใครติดต่อพี่ที่รัก?” สตาร์ถามพลางส่งสายตาแปลก ๆ
ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนยูอิจะพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“แน่นอน คนที่อยู่คอนโดเดียวกับเขาไงล่ะ”
---
หลังจบคลาสเรียนช่วงบ่าย แสนซนนั่งอยู่ที่โต๊ะกับยูอิและสตาร์ เธอถือโทรศัพท์แน่นในมือกำลังจะโทรหาคนที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวอยู่เงียบ ๆ มาหลายวัน
“จะโทรหาพี่รักใช่ไหม?” ยูอิกระซิบ
“อื้ม…” แสนซนถอนหายใจเบา ๆ
เธอกดโทรออก… ไม่กี่วินาทีต่อมาปลายสายก็กดรับ
ที่รัก: “ว่าไงเอ็ง มีอะไรถึงโทรหาข้า?”ที่รักเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มๆปนขี้เล่น
แสนซน: “หนูมีงานถ่ายแฟชั่นจากมหาลัย… พวกเรากำลังหาช่างภาพอยู่ พี่พอจะว่างไหมคะ?”
ที่รัก: “ตอนนี้ก็ว่างอยู่”
แสนซน: “แล้วพี่อยู่ไหนคะ?”
ที่รัก: “มาคุยที่สตูดิโอเลยละกัน พาเพื่อนเอ็งมาด้วย ข้าจะให้ดูสถานที่ เผื่อวางแผนถ่ายได้เลย”
---
สตูดิโอของที่รักตั้งอยู่ในซอยเล็ก ๆ ย่านใจกลางเมือง ภายนอกดูเรียบง่าย แต่ภายในกลับกว้างขวาง เต็มไปด้วยอุปกรณ์กล้อง แสงไฟ เสื้อผ้า และมุมถ่ายภาพหลายแบบ
“ว้าว… เหมือนหลุดมาอีกโลกเลยแฮะ” สตาร์กระซิบ
“ของจริงเลยนะเนี่ย ไม่ใช่เล่น ๆ” ยูอิพึมพำขณะมองรอบห้อง
ที่รักยืนอยู่กลางห้องในชุดเชิ้ตดำพับแขนถึงข้อศอก เขาหันมายิ้มพลางยกกาแฟขึ้นจิบ
“ยินดีต้อนรับ ข้าเตรียมห้องไว้ให้คุยงานส่วนตัวกับแสนซนแล้ว ส่วนพวกเอ็งก็เดินดูได้ตามสบาย”
ห้องทำงานส่วนตัวของที่รัก เมื่อประตูปิดลง ความเงียบก็เข้าครอบคลุม ห้องทำงานของที่รักเป็นห้องเรียบ ๆ สีขาวสะอาดตา โต๊ะไม้โอ๊คยาววางแม็กกาซีนแฟชั่นกองใหญ่
มี mood board ติดอยู่ผนัง เต็มไปด้วยภาพแฟชั่นกลางคืนที่จัดจ้าน แสงไฟนีออนฉูดฉาด ท่าโพสที่แข็งแรง เซ็กซี่ และสะท้อนพลัง
ที่รักเอียงคอมอง
“เห็นภาพพวกนี้แล้วคิดยังไงบ้าง?”
แสนซนมองนานก่อนตอบ
“ค่อนข้างที่จะวาบหวิวเลยนะคะ… ไม่เหมือนงานครั้งก่อนเลย”
ที่รักยิ้มมุมปาก
“ใช่ ข้าอยากให้เอ็งลองอะไรใหม่ ๆ”
เขาเดินไปเปิดโฟลเดอร์บนโต๊ะ ก่อนหยิบภาพร่างและ concept board ออกมาให้ดู
“Concept รอบนี้ชื่อว่า ‘The Midnight Identity’ มันเกี่ยวกับการเปิดเผยตัวตนที่เราไม่กล้าแสดงออกตอนกลางวัน เป็นคอนเซ็ปต์ที่แรง… แต่ก็ตรงไปตรงมา กล้องจะเน้นจับอารมณ์ผ่านแสงนีออน การใช้เงา เสื้อผ้าเข้ารูป พร็อพแบบขัดแย้ง เช่น ผ้าไหมกับหนัง หรือสีพาสเทลกับไฟสีจัด”
แสนซนกลืนน้ำลาย
“พี่อยากให้หนู…เป็นคนใส่เสื้อผ้าแบบนั้นหรอคะ?”
“ใช่”
“ข้าอยากเห็นอีกมุมของเอ็ง… มุมที่ไม่ใช่แค่สาวหวานคนเดิม เอ็งกล้าพอไหม?”ที่รักเอ่ยออกมา
ทั้งคู่เงียบกันไปชั่วครู่
แสนซนสบตาแน่นิ่ง
“แล้วถ้ามันออกมาไม่ดีล่ะ?”
ที่รักเดินเข้ามาใกล้ จนช่องว่างเหลือไม่ถึงคืบ
“ข้าอยู่ข้างเอ็ง จะออกมาดีที่สุดแน่นอน…”
หัวใจของแสนซนเต้นแรง ก่อนที่เธอจะพยักหน้าเบา ๆ
“โอเคค่ะ… งั้นหนูจะลองดู”
---
ภายในสตูดิโอยังคงเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก แสงไฟทดลองสาดส่องฉากถ่ายภาพ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของยูอิและสตาร์ที่กำลังลองโพสหน้ากระจก
ในอีกด้านหนึ่ง แสนซนและที่รักนั่งเคียงกันอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ขณะกำลังเลือกโทนแสงสำหรับธีม “The Midnight Identity”
รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนมุมปากของแสนซนแม้เธอจะเคยลังเล แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกำลังกล้าก้าวออกจากกรอบของตัวเอง... และรู้สึกปลอดภัยที่มีที่รักอยู่ข้าง ๆ
แต่แล้ว...
เสียงเปิดประตูหน้าสตูดิโอดังขึ้นเบา ๆ
เซน่าเป็นคนเดินเข้าไปเปิดรับ ก่อนที่เธอจะชะงัก สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีจากนิ่งเฉยกลายเป็นตึงเครียด
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดัง กึก...กึก...กึก
ตามมาด้วยร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่ปรากฏขึ้น เธอสูงราว 175 ซม. ผิวขาวอมชมพู ตัดกับรอยสักเส้นดำลวดลายเรขาคณิตที่พันรอบแขนขวา
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเฉียบคม ผมสีบลอนด์ทองยาวตรงสลวย สวมแจ็กเก็ตหนังกับกางเกงเข้ารูป ความสวยของเธอไม่ได้เป็นแบบหวาน ๆ แต่แรงดึงดูดที่แผ่ออกมานั้น กลับหนักแน่นเหมือนนางเสือ
ทั้งสตูดิโอเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อยในชั่วอึดใจ
“...พี่คีน่า” เซน่าทักเสียงเบา น้ำเสียงนั้นทั้งเกรงใจและระแวงในเวลาเดียวกัน
คีน่ายิ้มเล็กน้อย มองสำรวจไปรอบห้อง
“นี่หรอ... ที่ซ่อนของที่รัก?”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยเล็ก ๆ เหมือนรู้ทันก่อนจะเดินตรงเข้าไปด้านในโดยไม่รอคำเชิญจากใครทั้งนั้น
ที่รักที่กำลังนั่งคุยกับแสนซน เงยหน้าขึ้นมองทันทีที่ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา
ใบหน้าของเธอแข็งขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะขยับยิ้มจาง ๆ อย่างขอไปที
“คีน่า... เอ็งมาที่นี่ทำไม” ที่รักเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
คีน่าวางมือบนโต๊ะเบา ๆ สบตาแน่นิ่ง
“เพราะคุณป้าเป็นห่วง รู้ว่ารักกลับมาแล้วแต่ไม่ยอมกลับบ้านเลย ก็เลยให้ฉันมาดู... ว่าทำไม”
แสนซนนั่งข้าง ๆ หันมองที่รักทันที
คีน่าปรายตามองแสนซนเล็กน้อย ก่อนยิ้มเหมือนจับสังเกตได้ทันที
“อ้อ… นี่หรอคะ คนที่ทำให้รักไม่อยากกลับไปบ้าน?”
ที่รักขยับลุกขึ้นยืน สีหน้าเริ่มจริงจัง
“อย่าทำตัวเหมือนรู้จักข้าดีเลยคีน่า”
คีน่าหัวเราะเล็กน้อย
“ไม่รู้จักได้ไง เราเกือบจะหมั้นกันอยู่แล้วนะ... ถ้ารักไม่หนีไปก่อนน่ะ”
คำพูดนั้นทำให้ทั้งแสนซนและเพื่อน ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างหันมามอง ยูอิกับสตาร์สบตากันเงียบ ๆ ขณะที่แสนซนขมวดคิ้วแน่น
“หมั้น...?”
เสียงแสนซนดังขึ้นในลำคอ เหมือนพูดกับตัวเอง แต่ทุกคนก็ได้ยิน
ที่รักพ่นลมหายใจแรงเล็กน้อยก่อนพูดชัดถ้อยชัดคำ
“ข้ากับเอ็งไม่มีอะไรทั้งนั้น ที่ต้องไปก็เพราะไม่อยากใช้ชีวิตในเส้นทางที่ใครกำหนดแล้วข้าก็ไม่ได้ขอให้คีน่ามาตาม”
“เราก็ไม่ได้อยากมาเพราะรักหรอก เรามาเพราะคุณป้า แล้วก็อยากรู้เหมือนกันว่า ‘คนที่ทำให้รักเปลี่ยนไป’ คือใครกันแน่”
แสนซนลุกขึ้นอย่างนิ่ง ก่อนจะพูดเสียงราบเรียบแต่ชัดเจน
“เรื่องของครอบครัวพี่ หนูขอไม่ยุ่ง ถ้าเสร็จเรื่องเมื่อไหร่ ฝากพี่ส่งไฟล์ mood board มาให้หนูด้วยก็พอค่ะ”แสนซนพูดออกไปโดยที่ไม่มองหน้าที่รัก
แสนซนหันหลัง เดินออกจากห้องประชุมสตูดิโอด้วยก้าวเท้าที่พยายามให้มั่นคง แต่ภายในกลับปั่นป่วน ราวกับถูกลมแรงกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอไม่ได้โกรธ... แต่เธอกำลังสับสน
ในเมื่อเพิ่งจะยอมเปิดประตูหัวใจไปได้แค่เพียงนิดเดียว ทำไมถึงมีมือของใครอีกคนยื่นมาเคาะเสียแล้ว
ขณะที่ปลายนิ้วของแสนซนเอื้อมไปแตะลูกบิดประตูห้องทำงาน...เสียงฝีเท้าหนักๆ ตามหลังเธอมากระชั้นชิด พร้อมแรงคว้าข้อมือเบาๆ แต่มั่นคง
“แสนซน...”เสียงทุ้มของที่รักเอ่ยเรียกเธอเบาๆ ราวกับกลัวเธอจะสลายไป
แสนซนหันกลับมา มองเขานิ่ง สีหน้าว่างเปล่า
“พี่ควรกลับไปคุยกับคนในครอบครัวให้เรียบร้อยก่อน ถ้าจบเรื่องเมื่อไหร่ ค่อยส่งไฟล์มาให้ก็ได้ค่ะ”
ที่รักไม่ตอบอะไรในทันที แต่แววตาของเธอเข้มขึ้น ก่อนจะหันไปมองคีน่าที่ตอนนี้ยังยืนอยู่กลางห้อง ใบหน้าสวยคมของเธอมีรอยยิ้มบาง เหมือนกำลังรอให้สถานการณ์พลิกกลับมา
ที่รักขยับตัวไปยืนขวางระหว่างแสนซนกับคีน่า
“คีน่า… กลับไปเถอะ ข้าจะไม่กลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกแล้วและข้าก็ไม่อยากเกี่ยวข้องกับใครที่นั่นอีก”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกมาแข็งแน่น ชัดเจน
คีน่าสะดุ้งเล็กน้อย แววตาที่เคยมั่นใจสั่นไหวในเสี้ยววินาที เธอกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะพูดเสียงต่ำ
“รัก… นี่รักกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ที่รัก หันกลับไปมองแสนซนแล้วเอ่ยช้าๆ
"เอ็งไม่จำเป็นต้องรู้"
มือของเธอยังจับข้อมือของแสนซนไว้แน่นดวงตาของเธอไม่ได้ละไปจากดวงตาคู่นั้นเลย
“ข้าหนีจากบ้านเพราะอยากมีชีวิตที่ข้าเลือกเอง ข้าหนีจากเรื่องหมั้นนั่นเพราะข้าไม่ได้รักเอ็งและตอนนี้ ข้าก็ไม่อยากเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว…กับอดีตที่มันไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว”
แสนซนกลืนน้ำลายลงคอ เสียงของหัวใจดังก้องอยู่ในอก เธอมองที่รักอย่างลังเล แต่ก็รู้ดีว่าคำพูดของอีกฝ่ายไม่มีคำไหนเป็นแค่ลมปาก
คีน่ายืนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจแรงๆ แล้วหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาคล้องไหล่ คีน่าพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เข้าใจแล้วเราจะกลับไปบอกคุณป้าว่ารักตัดสินใจยังไง”
จากนั้นเธอก็เดินผ่านทั้งสองคนไป แต่ในวินาทีสุดท้ายที่เธอเดินผ่านแสนซน เธอหยุดก้าวชั่วขณะ คีน่าหันมา พูดเบาๆ
“ดูแลเขาให้ดี… ถ้าเธอไม่ทำ ฉันจะกลับมาอีก”
คำพูดนั้นแฝงความเจ็บปวด แต่ก็เป็นจริงจากหัวใจ แล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยให้ประตูปิดลงเงียบๆ ตามหลัง
ในห้องเหลือเพียงเสียงหายใจที่ถี่เล็กน้อยของที่รัก และแสนซนที่ยังยืนนิ่งเหมือนหัวใจยังไม่ทันปรับจังหวะใหม่
ที่รักปล่อยมือจากข้อมือของเธออย่างแผ่วเบาแต่กลับพูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป
“ข้าอยากอยู่กับเอ็ง ต่อให้เรื่องงานจะเป็นแค่ข้ออ้าง…แต่หัวใจข้านี่แหละของจริง”
แสนซนหลบตา ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ เธอไม่ได้ตอบอะไร แต่ครั้งนี้…เธอไม่ได้ผละหนีไปเหมือนทุกครั้งเพราะบางอย่างในใจของเธอเริ่มยอมรับ…ว่าที่รักไม่ใช่คนแปลกหน้าอีกต่อไปแล้ว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 19
Comments
Sena Kobayakawa
ถ้าไม่มีอัพใหม่ จะเสียใจนะ
2025-06-09
0