ECLIPSYS’S TRIAL - ศึกชิงบัลลังก์
เสียงหยดน้ำดังแว่วท่ามกลางความมืดมิด ก่อนเสียงจะค่อยๆแผ่วเบาลงจนเงียบไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นานเสียงหยดน้ำได้ดังขึ้นอีกครั้งราวกับนาฬิกาทรายที่กำลังไล่ล่าเวลาให้หมดไป... Dokuritsu Shita ได้ลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า คงเพราะเพิ่งตื่นขึ้นมานิทราทำให้ดวงตาของเขาเบลอไปชั่วขณะก่อนจะจับภาพรอบตัวได้
กลิ่นไม้เก่าผสานกับแอลกอฮอล์เข้มข้นฟุ้งกระจาย ราวกับมันฝังรากลึกในเนื้อไม้มานับร้อยปี ตะเกียงน้ำมันทิ้งแสงสลัวบนผนัง สาดเงาระบำริ้วไหวอากาศเย็นชื้นแทรกซึมผ่านผิวหนัง พร้อมละอองน้ำจากไม้ผุที่เริ่มย่อยสลาย เสียงลมหวีดหวิวแทรกผ่านรอยแยกของประตู โต๊ะไม้กระจัดกระจายทั่วห้อง บนนั้นมีทั้งคราบแก้วและรอยขีดข่วนจากของมีคม เสียงน้ำหยดดังก้องเป็นจังหวะ ราวกับนาฬิกานับถอยหลังสู่บางสิ่ง หลังเคาน์เตอร์บาร์ ขวดแก้วหลากสีบรรจุของเหลวลึกลับวาววับยามต้องแสงไฟ ความเงียบปกคลุมพื้นที่...
เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากเบาๆ รู้สึกถึงความชื้นเล็กน้อยที่จับตัวอยู่บนผิว “ที่นี่...ที่ไหนกัน?” เขาพึมพำเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง แสงไฟริบหรี่จากตะเกียงน้ำมันที่แขวนอยู่ตามผนังสะท้อนแสงบนผมสีดำขลับ ที่ปลายผมมีประกายสีแดงเหมือนเปลวไฟที่ค่อยๆ ลามขึ้นทีละน้อย
Dokuritsu ก้มมองตัวเอง เสื้อเชิ้ตสีดำสนิทพอดีตัวกับกางเกงขายาวที่ให้ความรู้สึกทั้งคล่องตัวและพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหว เขายังสวมรองเท้าหนังสีเข้มที่สะอาดสะอ้านจนผิดสังเกต แต่สิ่งที่ทำให้เขาขมวดคิ้วคือ—เขาไม่สามารถจำได้ว่าตัวเองแต่งตัวแบบนี้เมื่อไหร่
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาสะท้อนแสงจากตะเกียงเล็กน้อย มันเป็นดวงตาที่มีประกายของคนที่เคยผ่านอะไรมามาก แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความสับสนและความสงสัยที่วิ่งพล่านไปทั่วหัว
เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง รูปร่างที่สมส่วนและกล้ามเนื้อแน่นพอดีบ่งบอกว่าเขาไม่ได้อ่อนแอ แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยคลายความกังวลในใจเขาเลยสักนิด
เสียงฝีเท้าค่อยๆดังขึ้นจากทางด้านหลัง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงแก้วที่ถูกวางลงบนเคาน์เตอร์ไม้
“ตื่นแล้วเหรอครับ?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากชายวัยกลางคนผู้มีผมสีดำขลับเป็นประกาย ร่างสูงในชุดบาร์เทนเดอร์เรียบหรู เขายืนพิงเคาน์เตอร์ด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขาม ดวงตาสีแดงสดราวกับกลีบกุหลาบ จ้องมองมาที่เขา
“คุณเป็นใคร?”
ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ ขณะเช็ดแก้วเครื่องดื่มในมือ “ดื่มสักหน่อยไหมครับ? มันจะช่วยให้สมองโล่งขึ้น”
“ฉันไม่ต้องการเครื่องดื่ม คุณเป็นใครแล้วที่นี่มันที่ไหน?” Dokuritsu ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เขาผลักแก้วออกไปเล็กน้อย
“ใจร้อนจังเลยนะครับ จิบเครื่องดื่มไปคุยกันไปน่าจะดีกว่าแท้ๆ” บาร์เทนเดอร์พูดไปพร้อมกับใช้นิ้วหมุนแก้วเครื่องดื่มช้าๆ
Dokuritsuไม่พูดหรือถามอะไร เขาต้องการที่ใช้ความเงียบกดดันชายที่อยู่ตรงหน้าเพื่อให้ยอมตอบคำถามของเขา
"อย่างที่คุณเห็น ที่นี่คือบาร์โทรมๆที่หนึ่ง ส่วนผมก็แค่บาร์เทนเดอร์ที่ทำงานอยู่ที่นี่ก็แค่นั้นเอง" บาร์เทนเดอร์ตอบคำถาม
Dokuritsu ขมวดคิ้ว แม้เขาจะได้รับคำตอบแล้ว แต่มันกลับไม่ช่วยคลายข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย—เขาจำได้ดีว่าเมื่อคืน หลังจากที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เขากลับไปนอนพักที่ห้องทันที ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะตื่นมาในบาร์เก่าแก่ที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากยุคโบราณเช่นนี้
“เรามาเล่นเกมกันดีไหมครับ?” ชายบาร์เทนเดอร์พูดขึ้นขัดความคิดของเขา “กติกาง่ายมาก เราจะผลัดกันถามคำถามคนละหนึ่งข้อ และต้องตอบด้วยความซื่อสัตย์” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์นั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ชวนให้สงสัย ราวกับรู้อยู่แล้วว่า Dokuritsu จะต้องยอมเล่นเกมนี้กับเขา
Dokuritsuเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “…ก็ได้ แต่ฉันขอเริ่มก่อน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและหนักแน่น “ทำไมคุณถึงรู้จักชื่อฉัน?”
ชายบาร์เทนเดอร์ยิ้มมุมปาก “เพราะคุณคือหนึ่งในรายชื่อที่ต้องมาที่นี่”
คำตอบนั้นไม่ได้คลายข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย มันกลับยิ่งสร้างคำถามมากขึ้นในหัวเขาอีกหลายเท่า แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ชายบาร์เทนเดอร์ก็เอ่ยถามขึ้นบ้าง
“ทีนี้...ตาของผม” เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ดวงตาสีแดงฉายแสงวูบวาบ ราวกับมันสามารถมองทะลุความคิดของคนตรงหน้าได้ “ตัวคุณเองน่ะเป็นใคร?”
คำถามนั้นแทงทะลุจิตใจของ Dokuritsu อย่างไม่ทันตั้งตัว เขานิ่งงันไปครู่หนึ่ง ในหัวของเขาว่างเปล่า ราวกับคำถามนั้นกระชากเอาสิ่งที่เขาเคยเชื่อว่ารู้จักเกี่ยวกับตัวเองหายไปจนหมด
“ฉันคือ…ฉัน...” เขาพึมพำออกมา แต่กลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจนพอจะอธิบายได้
ชายบาร์เทนเดอร์ยิ้มบางๆ “แค่นี้เองเหรอครับ? หรือว่าคุณกำลังพยายามคิดอะไรเพิ่มเติม?”
Dokuritsu สูดลมหายใจลึก พยายามรวบรวมสติและขุดความทรงจำที่เขามีอยู่ขึ้นมา “ฉันคือพนักงานออฟฟิศธรรมดา... ฉันทำงานมา 3 ปีในเมืองใหญ่ มีเพื่อนร่วมงานที่น่ารำคาญ แต่ก็มีหัวหน้าที่ดีกับฉัน ฉัน...” เขาพูดเร็วขึ้น ราวกับพยายามยึดเกาะความจริงที่กำลังจะหลุดลอยไป
บาร์เทนเดอร์เอนตัวพิงเคาน์เตอร์ ดวงตายังคงจับจ้องอย่างไม่ลดละ เขาเคาะนิ้วเบาๆ บนเคาน์เตอร์ไม้ เสียงเคาะนั้นดังก้องไปทั่วห้อง ราวกับมันดังอยู่ในหัว Dokuritsu เอง
“สามปี...” บาร์เทนเดอร์พูดพลางลากเสียงยาว “แค่นั้นจริงๆ เหรอครับ?”
Dokuritsu สะอึก ใจเขากระตุกวูบเมื่อคำถามนั้นซัดเข้าใส่ราวกับคลื่นยักษ์ “มันเป็นความจริง ฉันจำได้ ฉันใช้ชีวิตแบบนั้นมาตลอด ฉัน...” เขาพยายามโต้แย้ง แต่เสียงของตัวเองเริ่มสั่น
บาร์เทนเดอร์หัวเราะเบาๆอีกครั้ง เสียงหัวเราะนั้นไม่ใช่การเยาะเย้ย แต่มันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ที่ชวนให้หวั่นไหว
“แล้วความทรงจำก่อนหน้านั้นล่ะครับ?” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้อีกนิด “วัยเด็กของคุณล่ะ? คุณเติบโตที่ไหน?”
Dokuritsu นิ่งงัน เขาพยายามคิดถึงวัยเด็ก แต่ภาพที่เคยคาดหวังว่าจะผุดขึ้นในหัวกลับว่างเปล่า
“เพื่อนวัยเรียนล่ะครับ?” บาร์เทนเดอร์ไม่ปล่อยให้เขาได้พักหายใจ “คุณจำได้ไหมว่าครั้งสุดท้ายที่หัวเราะกับเพื่อนในโรงเรียนคือเมื่อไหร่?”
เหงื่อเย็นๆ ไหลซึมลงมาตามขมับของ Dokuritsu เขาพยายามจะตอบ แต่กลับไม่มีอะไรออกมา
“แล้วผู้ให้กำเนิดของคุณล่ะ?” บาร์เทนเดอร์ถามต่อ น้ำเสียงของเขาเนิบนาบแต่แฝงด้วยแรงกดดัน “พวกเขาหน้าตาเป็นยังไง? คุณจำได้ไหมว่าแม่ของคุณเคยลูบหัวคุณอย่างไร หรือพ่อของคุณเคยสอนอะไรคุณบ้าง?”
คำถามนั้นเหมือนค้อนหนักที่ทุบลงกลางหัว Dokuritsu รู้สึกเหมือนกำลังจะหายใจไม่ออก เขาพยายามนึกถึงใบหน้าของผู้เป็นพ่อแม่ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นภาพพร่ามัว ความทรงจำที่ควรจะชัดเจนกลับไม่เหลืออะไรเลย
“นี่มันไม่ใช่ความจริง...” เขาพึมพำกับตัวเอง “ฉันจำได้ว่าเคยมีชีวิต ฉันทำงาน ฉันกลับบ้าน ฉัน...” แต่ยิ่งพยายามพูดเท่าไหร่ ก็เหมือนสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นความจริงกลับหลุดลอยไปเรื่อยๆ
“ดูเหมือนว่าคุณจะจำอะไรไม่ได้เลยนะครับ” บาร์เทนเดอร์ยิ้มบางๆ ดวงตาสีแดงฉายแววเจ้าเล่ห์ขณะไล่สายตามองใบหน้าอันเคร่งเครียดของ Dokuritsu “หรือบางที...สิ่งที่คุณจำได้อาจเป็นเพียงภาพลวงตา ของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปิดบังความจริงก็ได้นะครับ”
คำพูดนั้นทำให้ Dokuritsu รู้สึกเหมือนถูกมีดแทงตรงกลางอก เขามองบาร์เทนเดอร์ด้วยสายตาแข็งกร้าว “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับฉันใช่ไหม?”
บาร์เทนเดอร์หัวเราะเบาๆ แต่ไม่ตอบในทันที เขาหมุนแก้วในมืออย่างเนิบนาบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตา “มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตอบรับข้อเสนอของผมหรือเปล่าน่ะสิครับ”
“ข้อเสนออะไร?” Dokuritsu ถามเสียงเรียบแต่หนักแน่น
บาร์เทนเดอร์วางแก้วลงบนเคาน์เตอร์ เสียงแก้วกระทบพื้นไม้ดังก้องในความเงียบ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ “เข้าร่วมการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้านี้ไงครับ”
“การแข่งขัน?” Dokuritsu ขมวดคิ้ว
บาร์เทนเดอร์ดีดนิ้วเบาๆ ทันใดนั้น ภาพลวงตาก็ปรากฏขึ้นกลางห้อง เป็นภาพของสนามรบที่กว้างใหญ่ราวกับไร้ขอบเขต ผู้เล่นหลายคนกำลังต่อสู้กันด้วยพลังเวทย์และอาวุธหลากหลายชนิด เปลวแสงจากการโจมตีพุ่งกระจายไปทั่วฟากฟ้า เสียงกรีดร้องและเสียงคำรามของมอนสเตอร์ก้องกังวานจน Dokuritsu รู้สึกเหมือนมันเกิดขึ้นจริง
“นี่คือ ‘Eclipsys’s Trial’ ครับ การแข่งขันที่จะชี้ชะตาโลกใบใหม่” บาร์เทนเดอร์กล่าว “คุณและผู้เล่นคนอื่นๆ รวมทั้งหมด 175 คนจะถูกส่งเข้าสู่สนามประลองที่ประกอบไปด้วย 20 เขต”
Dokuritsu ยังคงมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา “นี่มันเรื่องจริงเหรอ?”
บาร์เทนเดอร์หัวเราะในลำคอเบาๆ “ใช่ครับ คุณอยู่ในเกมที่เดิมพันด้วยชีวิตจริง”
“กฎของเกมนี้ไม่ซับซ้อนมากน่ะ” เขาเริ่มอธิบายอย่างชัดเจน “ทุกคนต้องทำภารกิจในแต่ละเขตเพื่อเอาชีวิตรอด และกำจัดผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อดูดซับพลังของพวกเขา”
“พลัง?” Dokuritsu สะดุดกับคำนี้
“ใช่ครับ” บาร์เทนเดอร์ยิ้มเล็กน้อย “ผู้เล่นทุกคนจะได้รับพลังพิเศษตอนเริ่มต้นเกม ซึ่งในกรณีของคุณคือ พลังควบคุมเลือด คุณสามารถสร้างอาวุธจากเลือดของตัวเอง หรือใช้มันในการโจมตีได้ แต่ก็ต้องระวัง เพราะยิ่งใช้พลังมากเท่าไหร่ คุณจะเสียพลังงานและอาจหมดแรงได้เร็ว”
บาร์เทนเดอร์หมุนแก้วช้าๆ ก่อนจะพูดต่อ “ผู้เล่นสามารถพัฒนาพลังตัวเองได้โดยการกำจัดผู้เล่นคนอื่น และดูดซับพลังของพวกเขามาไว้กับตัวเอง คุณสามารถผสมผสานพลังต่างๆ เพื่อสร้างพลังใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น”
“แต่ความสนุกไม่ได้จบแค่การต่อสู้ระหว่างผู้เล่นหรอกนะครับ” บาร์เทนเดอร์หัวเราะเบาๆ “ในแต่ละเขตจะมีภารกิจที่คุณต้องทำ เช่น การล่ามอนสเตอร์ การไขปริศนา หรือแม้แต่การกำจัด Boss ประจำเขต”
เขาดีดนิ้วอีกครั้ง ภาพของมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
บาร์เทนเดอร์หยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “แต่ระวังให้ดีนะครับ ทุกเขตในสนามประลองจะถูกปิดตายทีละส่วนเมื่อเวลาผ่านไป หากคุณยังอยู่ในเขตที่ถูกปิด คุณอาจถูกลบออกจากเกมทันที หรืออาจถูกพลังเวทย์ทำลาย”
“คุณสามารถสร้างปาร์ตี้ร่วมกับผู้เล่นคนอื่นได้ด้วยนะครับ” บาร์เทนเดอร์พูดพลางยิ้มบางๆ “แต่ต้องระวัง เพราะพันธมิตรที่คุณไว้ใจอาจกลายเป็นศัตรูได้ทุกเมื่อ”
“และแน่นอน ผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะได้รับพรศักดิ์สิทธิ์จากเหล่าทวยเทพ” เขาหยุดเล็กน้อยเพื่อให้คำพูดนี้ซึมลึกเข้าไปในหัว Dokuritsu “คุณสามารถเลือกที่จะชี้นำอนาคตของโลกใบใหม่ได้—จะสร้างสวรรค์ที่สงบสุข หรือปล่อยให้โลกถูกกลืนด้วยความมืดก็ขึ้นอยู่กับคุณ”
Dokuritsu ส่ายหน้าเบาๆ “มันฟังดูบ้าบอมาก” เขาพูดขึ้น “คุณจะบอกว่าผมต้องต่อสู้เพื่อชีวิตและทำภารกิจในสนามรบพิลึกๆ นี่เหรอ?”
บาร์เทนเดอร์หัวเราะเบาๆ “ถ้าคุณไม่เชื่อ” เขาดีดนิ้วอีกครั้ง
เวทย์มนตร์แสงสีทองลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะหมุนวนเป็นวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงออกมา ภาพลวงตากลายเป็นภาพที่เหมือนจริงจน Dokuritsu รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกดึงดูดเข้าไป
“คุณจะรู้ว่ามันจริงหรือไม่ก็ต่อเมื่อคุณก้าวออกไปจากที่นี่” บาร์เทนเดอร์กระซิบ “แล้วตอนนั้นคุณจะไม่มีโอกาสย้อนกลับมาอีก”
Dokuritsu สูดลมหายใจลึก แต่ยังคงมีบางสิ่งที่ค้างคาใจ เขากำหมัดแน่นและจ้องมองบาร์เทนเดอร์ “แล้วความทรงจำของผมล่ะ? คุณบอกว่าที่ผมจำได้อาจเป็นของปลอม แล้วของจริงมันอยู่ที่ไหน? ผมจะได้มันคืนเมื่อไหร่?”
บาร์เทนเดอร์ยิ้มบางๆ แต่ดวงตาสีแดงลึกลับกลับฉายแววบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง
“ความทรงจำที่แท้จริงของคุณ...” เขาเน้นเสียงช้าๆ “ซ่อนอยู่ในสนามประลองแห่งนี้แหละครับ”
Dokuritsu ขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไง?”
“เกมนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ยังเป็นการต่อสู้เพื่อความจริงด้วย” บาร์เทนเดอร์เดินวนไปรอบๆ เคาน์เตอร์ พลางใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ “ความทรงจำของคุณถูกซ่อนไว้ในสถานที่ลับ บางทีมันอาจอยู่ในเขตที่ถูกลืม บางทีมันอาจถูกผนึกไว้ใน Relic ที่คุณต้องค้นหา”
เขาหยุดเดิน ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ “หรือบางทีมันอาจซ่อนอยู่ในตัวผู้เล่นคนอื่นๆ”
Dokuritsu หายใจสะดุด “คุณกำลังจะบอกว่า...”
บาร์เทนเดอร์พยักหน้าเล็กน้อย “บางทีการค้นหาความทรงจำอาจต้องแลกมาด้วยการกำจัดผู้เล่นคนอื่น หรืออาจต้องเจอ Boss ที่ครอบครองเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับอดีตของคุณ”
“แล้วถ้าผมไม่อยากต่อสู้ล่ะ?” Dokuritsu พูดเสียงต่ำ แต่แฝงด้วยความดื้อรั้น “มีทางอื่นไหม?”
“ไม่มีทางอื่นหรอกครับ” บาร์เทนเดอร์ยิ้มเย็นชา “ในโลกใบนี้ มีเพียงผู้ที่พร้อมจะต่อสู้เท่านั้นที่จะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ”
Dokuritsu กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ความลังเลยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ “แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าความทรงจำนั้นเป็นของจริง?”
บาร์เทนเดอร์หัวเราะเบาๆอีกครั้ง “คุณจะรู้ได้เมื่อถึงเวลา” เขากล่าวพร้อมกับแววตาที่บ่งบอกว่าเขารู้อะไรมากกว่านั้น แต่ไม่คิดจะบอก
“ตอนนี้ สิ่งเดียวที่คุณต้องทำคือก้าวไปข้างหน้า”
Dokuritsu สูดลมหายใจลึก เขายังไม่อยากเชื่อทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“ผมต้องทำยังไง?”
บาร์เทนเดอร์ยิ้มอย่างพอใจ “แค่ก้าวออกจากประตูไป แล้วเกมก็จะเริ่มเองครับ”
ประตูไม้บานใหญ่เปิดออก ลมหนาวพัดเข้ามาปะทะใบหน้า Dokuritsu เขามองออกไปยังความมืดเบื้องหน้า ก่อนจะก้าวเท้าออกไป โดยทิ้งความลังเลไว้เบื้องหลัง เสียงประตูปิดลงช้าๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะของบาร์เทนเดอร์ที่ก้องสะท้อนไปในห้อง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments