เสียงครวญของสายลม

เสียงลมหวีดหวิวแทรกผ่านซากอาคารร้าง ราวกับเสียงคร่ำครวญของวิญญาณที่ถูกลืม เศษอิฐและหินปลิวกระแทกพื้นดินเป็นจังหวะ ดังก้องคล้ายเสียงกลองแห่งความหายนะที่ไม่มีวันหยุด

Dokuritsu Shita ก้าวเท้าลงบนผืนดินที่เต็มไปด้วยเศษซากอารยธรรม ลมที่พัดผ่านใบหน้าทำให้เขาต้องหรี่ตา เศษฝุ่นและใบมีดเล็กๆ ถูกพัดวนอยู่ในอากาศเหมือนดักแด้ที่รอจู่โจมเหยื่อ

“ที่นี่มันที่ไหนกันแน่...” เขาพึมพำเบาๆ พลางมองรอบตัว ตึกสูงที่ครั้งหนึ่งอาจเคยเป็นแหล่งอาศัยของผู้คน ตอนนี้กลับกลายเป็นเงาที่โดนสายลมกัดเซาะจนพังทลาย เหลือเพียงโครงสร้างที่ผุกร่อนและเงาอันน่ากลัวที่ทอดยาวบนพื้น

ทุกย่างก้าวของเขาดังก้องไปทั่วบริเวณ เศษแก้วแตกที่กระทบเท้าส่งเสียงแหลมคมในความเงียบ เสียงลมยังคงพัดวนอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนทุกครั้งที่ลมแรงขึ้น เงาบางอย่างจากมุมตึกจะเคลื่อนไหวราวกับกำลังสะกดรอยตามเขา

ทันใดนั้น หน้าจอสี่เหลี่ยมโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าดวงตา มันลอยค้างอยู่กลางอากาศ ส่องแสงวูบวาบราวกับถูกฉายขึ้นมาจากอีกมิติหนึ่ง ความโปร่งแสงของมันดูแปลกประหลาด เพราะแม้มันจะลอยอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่มีน้ำหนัก ไม่มีสัมผัส เหมือนภาพลวงตาที่ควรจะจางหายไปในพริบตา

[ระบบผู้ช่วยถูกเปิดใช้งาน]

ชื่อผู้เล่น: Dokuritsu Shita

ตำแหน่งปัจจุบัน: เขตที่ 3 - เมืองแห่งสายลมอัปยศ

เขากะพริบตา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววระแวง ก่อนจะลองยื่นมือแตะหน้าจอเบาๆ ปลายนิ้วผ่านมันไปโดยไม่มีความรู้สึกใดๆ มันชัดเจน แต่กลับไร้ตัวตน จากนั้น หน้าจอโปร่งแสงเริ่มขยายและเปลี่ยนรูปร่าง

สัญลักษณ์ต่างๆ ปรากฏขึ้นราวกับถูกสร้างจากกลไกที่มองไม่เห็น

[ภารกิจ] - กำหนดเป้าหมายที่คุณต้องทำเพื่อความอยู่รอด

[แผนที่] - นำทางในดินแดนอันกว้างใหญ่ พร้อมข้อมูลของแต่ละเขต

[สกิลและความสามารถ] - สร้างและปรับแต่งพลังของคุณ

[ปาร์ตี้] - เชื่อมโยงกับพันธมิตร

[การผสมสกิล] - พัฒนาพลังที่ลึกล้ำยิ่งขึ้น

[ช่องเก็บของ] - เก็บเสบียงหรือวัตถุต่างๆเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง

เขาเลื่อนสายตาไปยังตัวเลือกต่างๆ แต่ละหัวข้อดูเหมือนจะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเอาชีวิตรอด แต่ลึกๆ แล้วเขารู้ว่าความช่วยเหลือเหล่านี้ไม่อาจเชื่อถือได้ทั้งหมด

ก่อนที่เขาจะได้ทำความเข้าใจสิ่งที่แสดงอยู่ตรงหน้า เสียงลมกระโชกแรงก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ได้เป็นเพียงเสียงลมธรรมดา แต่มีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ภายในสายลมนั้น ฝุ่นและเศษทรายถูกพัดขึ้นมาจนฟุ้งกระจายบดบังทัศนวิสัย

ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นเงาร่างลางๆ ก่อตัวขึ้นจากฝุ่นที่ถูกพัดวน มันเริ่มจากกลุ่มฝุ่นที่ฟุ้งกระจายไร้ทิศทาง ก่อนจะรวมตัวกันช้าๆ จนกลายเป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ แขนและขาที่ดูเหมือนถูกปั้นจากเงาโปร่งแสง ไร้ผิวหนังหรือโครงสร้างที่มั่นคง ทุกส่วนของร่างกายมันเหมือนจะพริ้วไหวตามสายลม แต่ที่ทำให้ Dokuritsu รู้สึกขนลุกยิ่งกว่าคือ ใบหน้าของมันไม่มีดวงตา ไม่มีปาก มีเพียงรอยแตกเป็นเส้นสายที่กระจายอยู่เหมือนรอยแผลเก่า ลมพัดผ่านตัวมันจนเกิดเสียงหวิวเบาๆ ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร แต่หากถูกมันคงไม่ดีแน่นอน

Dokuritsu ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว สายลมที่พัดผ่านร่างของเขาทำให้เสื้อผ้าปลิวไหวเล็กน้อย ดวงตาของเขายังคงจับจ้องที่รูปร่างลางๆ ตรงหน้า มันเคลื่อนไหวช้าๆ ฝุ่นที่หมุนวนรอบตัวมันยังคงปกคลุมทัศนวิสัยราวกับม่านหมอกที่ไม่อาจมองทะลุได้ ความคิดแรกแวบเข้ามาในหัวคือการที่เขาต้องรีบหลบเจ้าพวกนั้นให้ไว เขากวาดสายตาไปรอบตัวอย่างรวดเร็วเพื่อมองหาทางหนี ซากอาคารร้างที่พังทลายอยู่ข้างหน้าอาจเป็นทางเลือกเดียว เขาย่อตัวลงและเริ่มก้าวถอยหลังอย่างระมัดระวัง เสียงรองเท้ากระทบเศษแก้วบนพื้นทำให้เขาเผลอกลั้นหายใจชั่วขณะ เขาหลบเข้าไปในซอกอาคารที่กำแพงยังคงพอมีโครงสร้างเหลืออยู่บ้าง ผนังหินเย็นเฉียบแนบหลังของเขา เขาหายใจช้าๆ พยายามควบคุมสติ หัวใจที่เต้นรัวในอกต้องไม่ทำให้เขาพลาด

ทันใดนั้น หน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นตรงหน้าดวงตา ส่องแสงเบาๆ เหมือนกับรู้ว่าตัวเขากำลังต้องการคำแนะนำ

[ข้อมูลมอนสเตอร์]

ชื่อ: Dust Phantom

ประเภท: วิญญาณธาตุฝุ่น

กลุ่มฝุ่นและลมที่รวมตัวกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้มันมีชีวิตขึ้นมา แต่ไม่มีใครรู้ว่าฝุ่นเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของร่างกายมันจริงๆ หรือเป็นเพียงเกราะป้องกันบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน บางคนเชื่อว่า Dust Phantom อาจเป็นเงาของวิญญาณที่ถูกผูกมัดอยู่ในโลกนี้ และใช้ฝุ่นเป็นเปลือกห่อหุ้มเพื่อซ่อนตัวตนที่แท้จริง

ลักษณะพิเศษ:

เคลื่อนไหวไปพร้อมกับลมและฝุ่น

ตรวจจับเหยื่อผ่านแรงสั่นสะเทือนและเสียง

เขาขมวดคิ้วเมื่ออ่านข้อความบนหน้าจอจบ ความคิดในหัววิ่งพล่านราวกับกลไกที่ทำงานรวดเร็ว กลุ่มฝุ่นที่รวมตัวกันโดยไม่ทราบสาเหตุ... หรือบางทีฝุ่นอาจเป็นเพียงสิ่งที่ปกปิดตัวตนที่แท้จริงของมัน

"ถ้าฝุ่นเป็นแค่เกราะด้านนอก... แล้วแกนพลังงานมันอยู่ตรงไหน?" เขากวาดสายตาผ่านรอยแตกเล็กๆ บนกำแพงเพื่อมองดู Dust Phantom อีกครั้ง มันยังคงเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ ฝุ่นที่หมุนวนรอบตัวเหมือนม่านลวงตา แต่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ลมพัดแรงจนฝุ่นบางลง เขาเห็นอะไรบางอย่าง เรืองแสงอยู่ภายในตัวของมัน

"'บางทีนั่นคงเป็นแกนของมัน แต่จะทำลายมันยังไงล่ะ?"

เขากวาดสายตามองไปรอบตัวเพื่อหาอาวุธ แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงซากอิฐ เศษหิน และเหล็กที่ผุกร่อนจากสายลมกัดเซาะ ไม่มีอะไรที่พอจะใช้ต่อสู้ได้เลย

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะของบาร์เทนเดอร์ดังขึ้นในหัว เสียงที่แฝงเล่ห์เหลี่ยมและความลับ

"ผู้เล่นทุกคนจะได้รับพลังพิเศษ... และในกรณีของคุณคือพลังควบคุมเลือด คุณสามารถสร้างอาวุธจากเลือดของตัวเอง"

ดวงตาของ Dokuritsu เบิกกว้าง ความคิดวิ่งพล่าน—เขาเผลอลืมไปว่าตัวเองมีพลังนี้อยู่ในมือแล้ว หน้าจอโปร่งแสงยังลอยอยู่ตรงหน้า เขาเลื่อนสายตาไปยังเมนู

[สกิลและความสามารถ] ก่อนจะกดเลือกลงไปอย่างรวดเร็ว

[สกิลและความสามารถ]

ชื่อพลังหลัก: ควบคุมเลือด

ระดับพลัง: 1

จงหลับตาและจินตนาการถึงศาสตราที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าเอง

บรรจงสร้างจากโลหิตด้วยความละเมียดละไมดุจงานศิลป์ แต่จงจำไว้ให้ดี—โลหิตที่เป็นแหล่งพลังของเจ้า คือดาบสองคมที่พร้อมจะกัดกินตัวตนหากเจ้าใช้อย่างประมาท ทุกหยดเลือดที่รินไหล คือราคาที่เจ้าต้องจ่าย

เมื่อโลหิตมากไป

กายาจะแตกสลาย แต่หากเจ้าบรรจงใช้อย่างชาญฉลาด ศาสตราที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นทั้งเกราะป้องกันและดาบแห่งความพินาศ เลือดนั้นไม่ใช่เพียงสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิต—แต่คือพลังอันล้ำค่า หากเจ้าเข้าใจมันอย่างแท้จริง

ในระดับนี้ พลังของเจ้าจะยังคงอยู่ในขอบเขตที่พื้นฐานเท่านั้น อาวุธที่สร้างจะต้องใช้งานในระยะประชิด การควบคุมระยะไกลหรือการเปลี่ยนรูปอาวุธอย่างซับซ้อนยังไม่อาจทำได้ จงอย่าประมาทในข้อจำกัดนี้

เลือดในกายของเขาไหลเวียนเร็วขึ้น ราวกับคลื่นที่ซัดกระแทกฝั่ง ฝ่ามือเริ่มแผ่ความอุ่นร้อนออกมา ความรู้สึกเหมือนพลังที่รอวันปะทุ เส้นเลือดที่ข้อมือเต้นเป็นจังหวะเดียวกับหัวใจ เขาหลับตา ปล่อยให้สัญชาตญาณนำทาง

“ลองเริ่มจากอะไรที่ง่ายๆ ก่อน...” เขาคิดในใจ ภาพของมีดสั้นเล่มเล็กที่ผูกด้วยโซ่ ผุดขึ้นในความคิด มันไม่ต้องใหญ่โต—แค่พอจะจับได้ถนัดมือ

“จงบรรจงสร้างมันขึ้นมา... ด้วยจิตที่มั่นคง” เสียงหนึ่งดังก้องในหัว ราวกับคำแนะนำที่มาจากเบื้องลึกของสัญชาตญาณ

หยดเลือดที่ร่วงหล่นกลางอากาศลอยค้างไว้ มันสั่นไหวและขยายตัว เลือดที่ไหลจากฝ่ามือหมุนวนเป็นเถาวัลย์สีแดงเข้มที่เติบโตไม่หยุด เสียงเตือนดังก้อง “โลหิตคือพลัง—แต่จงใช้อย่างชาญฉลาด”

ใบมีดโค้งคมกริบค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ผิวมีดเงาวาวราวอัญมณีต้องแสง ด้ามจับประดับด้วยลายเส้นเลือดที่พันเกี่ยวแน่นหนา ที่ปลายด้ามมีโซ่โลหิตเส้นยาวต่อออกไป แข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่นราวกับถูกหลอมจากโลหิตบริสุทธิ์

Dokuritsu กระชับด้ามมีดในมือ ปลายโซ่ที่พาดอยู่บนพื้นส่งเสียงแผ่วเบา มันคืออาวุธที่พร้อมจะพลิกแพลง—ทั้งขว้างออกไปและดึงกลับมาราวกับเป็นส่วนต่อขยายของร่างกาย

เมื่ออาวุธสมบูรณ์ มันส่องประกายเย็นเยียบด้วยอำนาจที่ยากจะต้านทาน โซ่โลหิตนั้นไม่ได้มีไว้แค่ตรึงเป้าหมาย แต่ยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ตามเจตจำนงของผู้ใช้ จะเป็นมีดที่แยกตัวออกเป็นเสี้ยวคมดั่งใบมีดเล็กๆ หรือรวมตัวกันกลายเป็นหอกพุ่งทะลวงก็ได้

เขาลืมตาขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววเจตจำนงแน่วแน่ มีดถูกยกขึ้น ปลายโซ่เคลื่อนไหวช้าๆ พร้อมสำหรับการโจมตี

เสียงลมยังคงหวีดหวิว แต่ในหัวของ Dokuritsu มันกลับเงียบสนิทราวกับเวลาหยุดเดินชั่วขณะ เขาค่อยๆ ย่อตัวลง หยิบอิฐก้อนหนึ่งที่หล่นอยู่ใกล้เท้าขึ้นมา น้ำหนักของมันเย็นเยียบจนรู้สึกถึงความสั่นไหวเล็กๆ จากฝุ่นที่ลอยวนรอบตัว

“ต้องล่อพวกมันไม่ให้สนใจก่อน” เขาคิดในใจ

เขาโยนอิฐก้อนนั้นไปยังมุมตึกที่อยู่ห่างออกไป เสียงกระทบพื้นดังก้องในความเงียบ Dust Phantom ตัวหนึ่งสะดุ้งและเคลื่อนตัวไปตามเสียงทันที แต่ก่อนที่เขาจะผ่อนลมหายใจ เขาเห็นอีกสองตัวกำลังลอยวนอยู่ไม่ไกลนัก ลมหายใจของเขาชะงัก ดวงตาจับจ้องไปยังเป้าหมายที่ใกล้ที่สุด

ไม่มีเวลาให้ลังเลอีกแล้ว

เขากระชับมีดโลหิตในมือแน่น ก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ปลายมีดแหวกอากาศและปักลึกลงในร่าง Dust Phantom เลือดของเขาผสานเข้ากับพลังเวทย์จนเกิดประกายแสงแดงวาบ แกนพลังงานแตกกระจายก่อนที่ร่างของมันจะสลายไปในสายลม

ทันใดนั้น เสียงลมหวนดังขึ้นจากด้านหลัง มอนสเตอร์อีกตัวจับแรงสั่นสะเทือนได้และใช้เวทย์ลมพุ่งโจมตีใส่เขา Dokuritsu หันตัวหลบโดยสัญชาตญาณ คมลมเฉือนผ่านต้นแขนจนเกิดบาดแผลเล็กๆ เลือดหยดลงบนพื้น แต่เขาไม่หยุด

เขากัดฟันและพุ่งเข้าไปหลบหลังซากกำแพงหิน ความเย็นจากผนังที่แตกร้าวซึมเข้าสู่แผ่นหลัง ลมหายใจแรงกระทบกับความเงียบที่แฝงไปด้วยอันตรายรอบตัว

“จะพลาดอีกไม่ได้แล้ว” เขากำโซ่โลหิตในมือแน่นก่อนจะเหวี่ยงมันสุดแรง เสียงโซ่ที่เสียดสีกับพื้นหินดังก้องกังวานไปทั่ว มอนสเตอร์สองตัวหันไปตามเสียงและเคลื่อนตัวเข้าไปทางจุดที่โซ่กระทบพื้น

นี่คือโอกาสเดียวของเขา

Dokuritsu พุ่งออกจากกำบัง พร้อมกับปามีดโลหิตไปยัง Dust Phantom ตัวหนึ่ง ใบมีดหมุนด้วยความเร็วสูง แต่พลาดเป้า ปลายมีดเฉียดแกนพลังงานไปเพียงเล็กน้อย แสงสีแดงวาบออกมา แต่ไม่เพียงพอจะทำลายมัน มือกำโซ่แน่น ปล่อยกระแสพลังเวทย์ให้ไหลผ่านเส้นโลหิตที่พันรอบปลายมีด

ใบมีดเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง มันยืดออกและกลายเป็นดาบยาวคมกริบ แสงสีแดงเข้มส่องประกายจากคมดาบที่สั่นไหวพร้อมจะสังหาร

Dokuritsu พุ่งตัวอีกครั้ง ร่างกายของเขาเคลื่อนที่รวดเร็วเหมือนเงา เสียงลมหวีดหวิวกลายเป็นฉากหลังที่เลือนราง เขาใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงดาบลงบนแกนพลังงานของมอนสเตอร์ตรงหน้า เสียงแตกดังสนั่นราวกับแก้วถูกทุบ ร่างของ Dust Phantom สลายไปในพริบตา

มอนสเตอร์ตัวสุดท้ายพุ่งเข้ามาในระยะที่พอดี

Dokuritsu ไม่รอช้า เขาฟันดาบออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่เหลือ เสียงคมดาบฉีกอากาศก่อนจะกระทบกับแกนพลังงานของมอนสเตอร์ ลมหวนเงียบลงชั่วขณะ ก่อนที่มันจะระเบิดออกและสลายไปในอากาศ

เขาหอบหายใจแรง ลมหายใจที่ร้อนผ่าวเหมือนควันจากหม้อเดือด มือที่กำดาบยังคงสั่นเล็กน้อย เลือดที่เสียไปทำให้ร่างกายอ่อนล้า แต่จิตใจของเขายังไม่หยุดหมุนวน ดาบในมือเริ่มสั่นไหว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นของเหลวสีแดงเข้ม ไหลหยดจากปลายดาบผ่านฝ่ามือและซึมลงสู่พื้น ทุกหยดเลือดที่เคยสร้างอาวุธ ไหลกลับเข้าสู่ผิวหนังของเขา ราวกับถูกเรียกคืนโดยสัญชาตญาณ พลังอันอุ่นร้อนนั้นค่อยๆ หายไป เหลือเพียงความหนักหน่วงในร่างกายที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่

“จะพักนานกว่านี้ไม่ได้” เขาพึมพำเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกวาดมองไปรอบๆ เศษซากอาคารที่พังทลาย เศษหินที่ถูกลมพัดปลิวกระจาย มันไม่มีที่ไหนปลอดภัยพอจะใช้พักฟื้นระยะยาวได้

การต่อสู้เมื่อครู่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เขาไม่สามารถทนอยู่ในสถานะนี้นานเกินไปได้ เพราะเมื่อไหร่ที่มอนสเตอร์ปรากฏตัว เขาอาจไม่มีพลังเหลือมากพอที่จะสู้อีกครั้ง

“ฉันต้องหา ที่หลบภัยที่มั่นคงพอจะใช้พักฟื้นได้”

Dokuritsu ลุกขึ้นช้าๆ แม้จะเจ็บแปลบที่ต้นแขนจากบาดแผลเล็กๆ เขาก็ไม่ได้สนใจมันนัก เขาเริ่มเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง สายลมยังคงพัดหวีดหวิวเหมือนเสียงคร่ำครวญของวิญญาณในดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง ดวงตาของเขาจับจ้องทุกสิ่งที่อาจกลายเป็นทางรอดหรือเบาะแสใหม่

จนกระทั่งสายตาเขาสะดุดเข้ากับ สัญลักษณ์แปลกตาที่สลักอยู่บนกำแพงหินเก่า เส้นลวดลายที่ถูกกัดเซาะด้วยกาลเวลา แต่ยังคงเห็นโครงร่างชัดเจนพอจะทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น

“นี่มัน...” เขาหยุดอยู่ตรงหน้ากำแพง สายตาจับจ้องไปที่สัญลักษณ์นั้น มันดูเหมือนบางอย่างที่เขาเคยเห็นมาก่อน ราวกับฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใต้สำนึก แต่ไม่ว่าจะพยายามนึกแค่ไหนก็ไม่อาจดึงความทรงจำเหล่านั้นออกมาได้

สายตาของเขากวาดมองไปรอบกำแพง และพบว่ามันเชื่อมต่อกับทางเดินที่นำไปยังโครงสร้างที่ดูเหมือนหอคอยเก่าที่ยังไม่พังทลายทั้งหมด ตัวอาคารแม้จะเก่าแก่แต่ยังคงมีส่วนที่ดูมั่นคงพอให้ใช้เป็นที่หลบภัยได้ เขาเร่งฝีเท้าเดินต่อไป แม้ร่างกายจะอ่อนล้า แต่จิตใจของเขากลับตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงลมที่เคยชวนให้หวาดหวั่นกลับกลายเป็นเพียงเสียงพื้นหลังที่เขาไม่สนใจอีกต่อไป

เมื่อเดินมาถึงหอคอยเก่า เขาเปิดประตูไม้อย่างระมัดระวัง ฝุ่นลอยฟุ้งจากการเคลื่อนไหวของบานประตู ภายในมีซากโต๊ะไม้เก่าและเก้าอี้ที่หักพังอยู่ตามพื้น แต่กำแพงหนาและช่องแคบระหว่างบันไดหินทำให้ที่นี่ดูปลอดภัยกว่าภายนอกมากนัก

เขานั่งลงพิงกำแพงหินเย็นๆ ปล่อยให้ร่างกายได้พักชั่วครู่ เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงค่อยๆ ผ่อนลง เขาปิดตาและปล่อยให้ความคิดวิ่งวนอยู่กับสิ่งที่ได้พบเจอในวันนี้

พลังเลือดที่ยังควบคุมได้เพียงพื้นฐาน เบาะแสแรกที่เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ลึกลับ และคำถามมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบ

“ฉันจะต้องหาคำตอบให้ได้...” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามองเพดานหอคอยที่แตกร้าว เสียงลมยังคงพัดหวีดหวิวอยู่ด้านนอก แต่คราวนี้มันเหมือนเสียงที่ปลุกเขาให้พร้อมจะลุกขึ้นอีกครั้ง

เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น—และเขาจะไม่หยุดจนกว่าจะค้นพบความจริง

ฮอต

Comments

Giuliana Antonella Gonzalez Abad

Giuliana Antonella Gonzalez Abad

ชื่นชมความคิดสร้างสรรค์และความพยายามของแอดมากนะคะ 💪👍

2025-05-17

0

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!