เจ้าเอยกุมขมับเป็นรอบที่ร้อยของวัน เนื่องจากเมื่อคืนก่อนกว่าจะหลุดจากกรงเล็บชาละวันได้ ก็เล่นเอาสาหัสพอแล้ว เช้ามาก็ต้องกลับมาเผชิญชะตากรรมในดงเสืออยู่ดี ร่างบางพลางถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน
"เป็นอะไร? ไม่สบายรึเปล่า"
ฟ้าครามเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ในระหว่างนั่งรอประชุม เมื่อเห็นว่าเพื่อนมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
"ไม่มีอะไรหรอก เมื่อคืนแค่นอนไม่หลับ"
เจ้าเอยตอบกลับมา หากแต่ฟ้าครามยังไม่วางใจ เป็นเพื่อนกันมาก็หลายปี ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าเพื่อนเล่าความจริงไม่หมด
"เรื่องคนในหน่วยหรอ มีคนรังแกหล่อนอีกหรอ บอกได้นะ"
นั่นก็ส่วนนึง แต่มันมีมากกว่านั้นไง แต่จะให้บอกว่าเมื่อคืนอดีตแฟนหนุ่มบุกคอนโดของหล่อนอย่างอุกอาจก็กระดากปาก และกลัวเรื่องจะถึงหูอีกสามหน่อ เจ้าเอยยังไม่พร้อม
ยังไม่พร้อมโดนซักฟอกจริงๆ
ถึงแม้เมื่อคืนจะไม่มีอะไรเลยเถิด (มั้ง) แต่ทว่าสี่สหายของหล่อนนั้นไซร้จินตนาการล้ำเลิศ สามารถต่อเติมในส่วนที่หล่อนไม่ได้บอกหรือทำเมื่อคืนได้ดีมากอย่าบอกใครเชียว
ก็พวกหล่อนสนิทกันจนอ้าปากก็เห็นรูทวารเลยนะสิ
"ไม่มีอะไรจริงๆ เรื่องแค่นั้นฉันไม่ใส่ใจหรอก"
ก็บ้านะสิ แต่ละคนกวนบาทามาก คิดว่าอยู่ก่อนแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไงวะ จิ๊!
เจ้าเอยได้แต่บ่นในใจแม้จะคับแค้นใจและอึดอัดเพียงใด
"แน่ใจ"
"อืมมม ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แค่พักผ่อนน้อย"
"อืม..."
เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเข้าใจ ถึงแม้ฟ้าครามจะไม่เชื่อเลยก็ตาม
ตึกๆๆ
พรึ่บ!!!
สักพักทุกคนในห้องประชุมต่างลุกขึ้นยืนพร้อมกันทันที เพราะว่าสารวัตรประจำหน่วยได้เดินเข้ามาในห้องประชุมแล้ว
เจ้าเอยเองก็ลุกขึ้นตามทุกคน เพื่อแสดงถึงความเคารพและให้เกียรติบุคคลที่เข้ามาใหม่
"สวัสดีครับๆ อ่ะ เชิญนั่งๆ เชิญนั่งเลยครับ"
ทักทายทุกคนอย่างสบายใจเป็นกันเอง เฉกเช่นปกติ เฉกทำเอาเจ้าเอยอดที่จะเปรียบเทียบในใจไม่ได้เลย คิดถึงคนที่ทำให้ตัวเองมานั่งอยู่ตรงนี้ทีไรก็หงุดหงิดทุกที่
"เอาหละ ก่อนอื่นในหน่วยเรามีสมาชิกใหม่ด้วยนี่ ผมถูกเรียกไปพบท่าน'ผบตร' เพิ่งกลับมาเลยยังไม่ได้ทักทายทำความรู้จักเป็นการส่วนตัวเลย..."
"!!!"
ทุกชีวิตต่างหันมามองทางเจ้าเอย หลังจากสารวัตรเก่งเอ่ยขึ้น เจ้าเอยเองก็สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที พร้อมทั้งแนะนำตัว
"เอ่อ...สวัสดีค่ะ ดิฉัน ร้อยตำรวจโทจุฑารัตน์ พฤกษ์ธาสนค่ะ เพิ่งย้ายมาจากหน่วยฟินิกซ์..."
"พฤกษ์ธาสน..."
สารวัตรเก่งทวนนามสกุลของเจ้าเอยเสียงเบา ในขณะที่หลายคนหลุดขำกับท่าทีเหลอหลาของเจ้าหล่อน
"คิกคิก คักคัก คักคัก คิกคิก"
"อรึ้ม!"
"..."ทุกคน
สารวัตรเก่งกระแอ่มเสียงในลำคอ เป็นการหยุดเสียงหัวเราะไร้มารยาทของบางคนลง
"ยินดีที่ได้รู้จักนะหมวด...."
"เจ้าเอยค่ะ"
"อืม หมวดเจ้าเอย ฝากด้วยนะ"
"ค่ะ เช่นกันนะคะ"
คนสูงอายุยิ้มบางๆให้เป็นการตอบรับ ก่อนจะเกริ่นเข้าเนื้อหาการประชุมในวันนี้
เจ้าเอยนั่งลงประจำที่ และฟ้าครามก็บีบมืออีกคนไปทีนึงเป็นการให้กำลังใจ เจ้าเอยยิ้มมุมปากให้ ก่อนที่ทั้งคู่จะหันมาสนใจในการประชุมตรงหน้าต่อ
แต่ชีวิตเจ้าเอยไม่เคยจบวันลงแบบ Happy Ending เมื่อวันนี้เจ้าหล่อนดันเจอเรื่องที่ทำให้หนักใจเป็นที่สุด หากจะเปรียบชีวิตของหล่อน ก็คงเหมือนกันการปีนเขาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสูงยิ่งมีโอกาสตกลงมาสู่ดินได้ง่าย ลำพังแค่พยุงตัวเองไม่ให้ตกก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว แต่กลับประสบลมกระโชกแรงอยู่รํ่าไป
ประเดิมด้วยคดีโหดในฐานะน้องใหม่แห่งหน่วยพยัคฆ์ โหดร้ายทั้งกับกาย ใจ และมันสมองอันน่าเอ็นดูนี้จริง
"โธ่เอ๊ย จิ๊!"
อดที่จะสบถออกมาไม่ได้ ท่าทีหงุดหงิดเสียเต็มประดาทำเอาเพื่อนร่วมชะตากรรมคนใหม่อย่าง'หมวดลีโอ'อดที่จะเห็นใจสงสัยปนเห็นใจไม่ได้ ดูท่าเพื่อนร่วมภารกิจคนใหม่ของตนจะสติไม่เต็มบาท
เจ้าเอยเมื่อรู้ตัวว่าแสดงกิริยาไม่ดีต่อหน้าหมวดลีโอ ก็เกิดทำตัวไม่ถูกขึ้นมา และท่าทีแบบนั้นก็ทำเอาหมวดลีโอหลุดขำออกมาในที่สุด
"พรื่ดดดด ฮ่าๆๆๆๆ"
เพียงเท่านั้นแหละสายตาเจ้าเอยยิ่งเลิกลักไปใหญ่ วินาทีนี้เจ้าเอยทั้งอาย ทั้งโมโหในชะตากรรมของตัวเอง ไหนจะกิริยาปํ้าเป๋อที่หล่อนเพิ่งแสดงออกไปต่อหน้าไอ่ไลอ้อนคิงนี่อีก
อ้อ จริงสิ ลืมบอกไปว่าหมวดลีโอได้รับฉายาว่าไลอ้อนคิง เนื่องจากบุคลิกที่มีความเป็นผู้นำสูง และฝีมือที่หาจับได้ยากรวมทั้งไหวพริบรอบด้าน การันตีด้วยผลงานในการปราบปรามเหล่าอาชญากรนับครั้งไม่ถ้วน ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ชอบฉายานี้เลยก็ตาม แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมใคร เด็ดเดี่ยวและจริงจังกับภารกิจมาก เจ้าเอยไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นอีกฝ่ายหัวเพราะก๊ากออกมาแบบนี้เลย หลังจากที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายมาพอสมควร
"คริก~อื้อ...ฮี๊ ฮ่าาาาาๆๆๆ ฮี๊"
"..."
"โท..คิก โทษที ฮื่อๆๆๆ"
ระดับความอับอายเพิ่มขึ้นทะลุปรอท เพราะหมวดลีโอขำเสียงราวกับมอเตอร์สตาร์ทไม่ติด เลือดลมเจ้าเอยสูบฉีดขึ้นสองข้างแก้มอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับฝูงแกะนับล้านที่หลุดออกจากกรง เมื่อมองจากอากาศ ก็ไม่ปาน
"ฮุ้ว โทษทีที่เสียมารยาท ผมแค่เห็นแบบนั้นแล้วนึกถึงใครบางคนก็เท่านั้น"
"...อ๋ออออ แฮะๆๆ"
"คิกกก"
"..."
หลังจากขานรับแบบนั้นลีโอก็ทำท่าทีจะหลุดขำออกมาอีกครั้ง
"ฮ่าๆๆๆๆ"
และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ แม้ในท้ายที่สุดเขาก็หักดิบเบรกตัวเองไว้ได้
ยุบหนอ พองหนออออ
ภาพชายหนุ่มที่หัวเราะชอบใจกับหญิงสาวที่มีสีหน้าเขินอายอยู่ในสายตาของบุคคลที่สามเสมอ ราวกับจรเข้ร้ายที่เฝ้ามองดูเหยื่ออย่างเงียบๆในแม่น้ำ รอเวลาให้เจ้าสิงโตเผลอตัว ก่อนจะตะครุบเนื้อหนังให้สาแก่ใจ และลากเศษซากลงบาดาลไปในที่สุด
เจ้าเอยถอนหายใจหลังจากกลับมาถึงคอนโดส่วนตัว แต่สายตาก็ไม่วายสอดส่องไปทั่วห้อง เนื่องจากระแวงใครบางคนเมื่อคืนวานที่ลํ้าเส้นกันเข้ามา เมื่อพบว่าไม่มีใครก็ถอนใจอีกครั้งก่อนจะดำเนินกิจวัตรตามปกติสุข
แต่อย่างไรเสีย เจ้าเอยก็ไม่วางใจอยู่ดี แม้จะจากกันไปนานมากแล้ว ทว่าเจ้าเอยมั่นใจว่าจำนิสัยใครอีกคนได้ดี เลียมในความทรงจำนั้นนิสัยเสียอย่างหนึ่งคือชอบตามตื้อ ที่บอกว่าเสียเพราะมันมากจนเกินไป คนอะไรจะอยากเอาชนะปานนั้นอดไม่ได้เลยที่จะนึกถึงตอนที่เข้ามาจีบหล่อนใหม่ๆ สมัยมัธยมต้น คนอะไรตอแยไม่เลิก จนหล่อนต้องตกลงปลงใจไปในที่สุด
ไอ่ที่ซื้อลูกอม ขนมและเขียนจดหมายมาฝากนั้นก็ดูน่ารักอยู่หรอก แต่ไอ่ที่ไล่ข่มขู่เพื่อนผู้ชายหรือคนที่พยายามเข้าหาหล่อน เพื่อทำความรู้จักหรือจีบนี่สิ มันน่าตีจริงๆ นึกถึงช่วงนั้นที่ไรใจดวงน้อยก็พลันบีบรัดขึ้นมาดื้อๆ แม้จะไม่อยากคิดถึงคนใจร้ายแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าตอนที่ทั้งคู่มีกันและกันมันดีแค่ไหน
ฉับพลันเส้นประสาทเจ้าเอยกระตุกแรงทันที อยากจะลืมคนต้นปัญหา ทว่าโชคชะตาไม่เคยรับฟังกันเลย ชะรอยต้องมาทำคดีซึ่งไอ่ชาละวันนั่นเกี่ยวข้องโดยตรงอีก แม้อยากสบถออกมาเพียงใดก็ทำได้เพียงแค่เก็บไว้ในใจ ในเมื่อโชคชะตาไม่เห็นใจหล่อนก็จะไม่ให้ค่า ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิ์เหนือชีวิตตัวเอง
เมื่อหัวถึงหมอน คำด่ามากมายในหัวที่มีให้ชีวิตเส็งเคร็งก็ถูกแช่แข็งเอาไว้ทันที ตามมาด้วยเสียงกรนราวฟ้าร้อง สัตว์ป่าคลอดลูกแทน เป็นสัญญาณว่าหล่อนได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเป็นที่เรียบร้อย
ท่าทีน่าเกลียดในยามหลับ ทว่าก็ยังคงน่ารักเสมอในสายตาคนแอบมองอยู่ดี เลียมเฝ้ามองอยู่เงียบไปในมุมมืด มองดูคนรักเพียงคนเดียวทำกิจวัตรอย่างแสนรัก เจ้าเอยทำอะไรก็น่ารักไปเสียหมด เหมือนกับตอนนี้ที่เจ้าหล่อนนอนกรนเสียงดัง ท่านอนพิศดารเพียงใดก็ยังน่ารักในสายตาของเขาเสมอ
ทว่าในสายตาของเลียมไม่ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเอ็นดูคนบนเตียงทั้งหมด เนื่องจากเมื่อตอนเย็นเขาเห็นหล่อนไปหัวเราะต่อกระซิกกับไอ่ตำรวจจิ๊กโก๋นั่น ดังนั้นในแววตาของเลียมตอนนี้จึงผสมไปด้วยความน้อยใจ หมั่นไส้ หึงหวง หงุดหงิดและสารพัดที่คนหนึ่งจะรู้สึกได้
เพราะว่ารักจึงรู้สึกมาก
คืนก่อนที่เจ้าเอยไล่เขาด้วยท่าทีและน้ำเสียงแบบนั้น เลียมยอมรับเลยว่าเขาใจเสียมาก แม้ในใจเขาจะรู้ดีว่าอีกคนคงโกรธกันเป็นแน่ที่เขาหายไปโดยไม่บอกกล่าว ทว่าก็ไม่คิดว่าจะโกรธกันมากถึงขนาดไม่อยากเจอกันอีก ไม่แน่ว่าในหัวใจดวงน้อยๆนั้นอาจจะเกลียดเขาไปแล้วก็ได้
ถึงได้ไล่กันไปตายได้ง่ายดายเเบบนั้น
มันทำให้เลียมอดที่จะน้อยใจและตัดพ้อกีบตัวเองไม่ได้ ที่ผ่านมาเขายังตายทั้งเป็นไม่พออีกสินะ
ทั้งที่ตลอดระยะเวลาที่จากกันไป ไม่มีช่วงวินาทีไหนที่เลียมจะไม่คิดถึงเจ้าเอยเลย เขาเฝ้ารอตลอดเวลาที่จะได้กลับมาพบเธออีกครั้ง ยอมใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ต้องการ เชื่อฟังเหมือนหมาที่มีสายจูงมัดอยู่รอบคอตลอดเวลา ก็เพื่อรอให้วันนี้มาถึงวันที่เขาจะได้กลับมาเจอเธออีกครั้ง
เขารู้สึกจุกที่ตรงอกและมันโหวงเหวงยากเกินกว่าจะอธิบาย ในตอนนี้ที่สมองกับหัวใจขัดแย้งกันอย่างชัดเจน แม้'อองออ'จะกรีดร้องสาดคำด่าว่าโง่เพียงใด หัวใจกลับปิดหูไม่รับฟังสิ่งใจนอกจากเสียงของตัวเอง
เมื่อคิดได้ว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมา เขายังมีลมหายใจอยู่ไปเพื่ออะไร ใจเจ้ากรรมก็นั้นขึ้นมาเสียดื้อๆ เลียมก็อยากจะรู้ซะเหลือเกินว่าอีกคนลืมรักกันหมดสิ้นแล้วจริงๆ ถึงตอนนั้นเขาจะได้ติดต่อว่าควรจะอยู่ต่อแบบไหนดี หรือว่าไม่...
เลียมเฝ้ามองจนกระทั่งเจ้าเอยล้มตัวลงบนเตียงและได้เข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด พลางเท้าแกร่งก็ก้างไปยังข้างหน้าท่ามกลางความมืด ทว่าเขากลับมองเห็นทุกอย่างชัดเจนโดยเฉพาะใบหน้าผ่องนวลท่ามกลางแสงจันทร์นั้น
ยิ่งมองยิ่งหลงไหลและเหลวไหลอย่างลืมตัว
จมูกโด่งเผลอสัมผัสและสูดดมกลิ่นหอมจางจากแก้มนุ่มของร่างนิ่งบนเตียง
แฮกกก
เลียมถอนใบหน้าออกมาอย่างยากลำบาก เขาพรูลมหายใจรดต้นคอขาวระหงอย่างต้องการและโหยหา ทว่ากลับทำไม่ได้
เจ็บดีจริงจริง
เป็นเวลากว่าสามเดือนแล้วที่เจ้าเอยย้ายมาอยู่หน่วยพยัคฆ์ ที่ผ่านมาหล่อนปฎิบัติภารกิจร่วมกับหมวดลีโอเสมอเพราะฟ้าครามมีภารกิจอื่นที่สำคัญมาก แต่การร่วมงานกับผู้หมวดเนื้อหอมประจำหน่วยไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ฮึๆ ถึงจะโดนมองแรงแต่แล้วไง? เพราะอีกคนคอยให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีแม้บางครั้งจะดุไปหน่อย หมายถึงดูมาก เช่นตอนนี้
"ผู้หมวด! คุณต้องคล่องตัวกว่านี้นะ ถ้าเป็นภารกิจหลักคืนนี้อย่าให้เป็นอย่างเมื่อครู่เด็ดขาด!"
"..."
"อย่าแสดงจุดอ่อนให้มันเห็นช่องโหว่ ถึงแม้ไอ่นี่จะกระจอกมากเมื่อเทียบกับโจรอื่นๆ"
"...(กระจอกหรอว่ะ!)" เจ้าเอยคิดในใจ
"อย่าประมาท..."
น้ำเสียงไร้ซึ่งการตะคอก ทว่ากลับหนักแน่นฟังดูน่าเกรงขาม สมกับฉายาจะริง~
ก็เข้าใจได้แหละ
ทั้งคู่เพิ่งเสร็จภารกิจจากการเข้าจับกุมโจรที่ปล้นร้านทองอย่างอุกอาจกลางห้าง จริงๆเจ้าเอยกับผู้หมวดไลอ้อนคิงนี่ได้รับหน้าที่ให้มาเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของอาชญากรอีกคน ทว่ากลับเกิดเนืองเสียก่อน มีการต่อสู้เกิดขึ้นก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง มีผู้เคราะห์ร้ายได้รับบาดเจ็บแต่ถือว่ายังดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต วันนี้เจ้าเอยได้เห็นเต็มสองตาถึงฝีมือการต่อสู้ที่หาจับได้ยากของหมวดลีโอ ต่างจากคนที่หมกมุ่นอยู่กับการแกะกลไกของระเบิดอย่างหล่อน
ต้องขอบคุณเขาแหละ
แต่ทว่ามีอีกอย่างที่มันสะกิดต่อมเสือกของเจ้าเอยเหลือเกิ๊น ทั้งที่หมวดลีโอเนื้อหอมขนาดนี้ ฝีมือในการทำงานยังเป็นเลิศ แต่กลับไร้ซึ่งคนรู้ใจ จะบอกว่าเพราะเรื่องงานก็ไม่น่าใช่ ที่สำคัญพี่แกก็ไม่เหมือนประเภทที่จะซ่อนแฟนเอาไว้ด้วย หรือเขาจะชอบไม้ป่าเดียวกันว่ะ ฮึ่ย ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดไม่ออก แต่จะให้ถามออกไปก็คงต้องบอกตามตรงว่าหล่อนก็ไม่กล้า
"เฮ้อ~ ไม่ต้องคิดมากนะ..."
"...!?"
"ที่ผมพูดไปเพราะหวังดีและอยากให้คุณพัฒนาเร็วขึ้น"
"..."
"และอีกเรื่อง ที่คนพวกนั้นชอบพูดใส่คุณ อย่าให้ค่า! สนใจแค่หน้าที่ของคุณก็พอ ผมเห็น...ว่าคุณพยายาม"
ผู้หมวดลีโอเดินผ่านไปแล้ว ทว่ากลับทิ้งประโยคทรงพลังเมื่อครู่ไว้ให้กับเจ้าเอย และมันก็ดังก้องในโสตประสาทของหล่อนอย่างชัดเจน เจ้าเอยเพียงแต่ยิ้มมุมปากก่อนจะเดินตามเขาไป
แม้จะเจอเรื่องราวร้ายๆมาแค่ไหน แต่หล่อนก็ยังโชคดีเสมอที่มีเพื่อนๆ และเพื่อนร่วมงานคนนี้คอยให้กำลังใจ
5PM
เสียงดนตรีอันไพเราะจากเปียโนคลอไปที่งาน บ่งบอกถึงบรรยากาศอันรื่นเริงที่อบอวลอยู่เต็มหอประชุมใหญ่ ณ โรงแรงหรูใจกลางเมืองหลวงแห่งนี้ ผู้คนในงานคับคั่งไปด้วยผู้มีอันจะกินทั้งสิ้น เนื่องจากในคืนนี้จะมีการเปิดตัว Jewelry ชิ้นใหม่ของแบรนด์หรูอย่าง P.G.N.Light
จึงเป็นสาเหตุให้มีการรวมตัวของเหล่าเศรษฐี นักธุรกิจ เหล่าผู้ดีและผู้มีชื่อเสียงในสังคม รวมถึงนักข่าวจากสำนักข่าวน้อยใหญ่ต่างๆ ณ สถานที่แห่งนี้ ในขณะเดียวกันงานใหญ่เช่นนี้แน่นอนว่าต้องมีเจ้าหน้าที่และระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงมากเช่นกัน
แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่CEOของแบรนด์อย่งคุณ ลานอส ฌอว์น ฮอว์กตัน ไม่ประสงค์ให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในงานเลย นอกจากบอดี้การ์ดและเจ้าหน้าที่ของทางCEO เรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในแวดวงสังคมและเหล่านักข่าวที่มาร่วมงาน รวมไปถึงเจ้าเอยด้วย
คนมีอำนาจทำอะไรก็ได้
เนื่องจากตำรวจไม่ได้รับเชิญ หล่อนและผู้หมวดลีโอจึงแฝงตัวเข้ามา เพราะทางหน่วยสันนิษฐานเอาไว้ว่าจะมีการโจรกรรมเกิดขึ้นแน่นอนตามคำใบ้ปริศนาของบุคคลลึกลับ ซึ่งถูกส่งมาให้หน่วยพยัคฆ์เมื่อไม่นานมานี้
แต่จะเรียกว่าแฝงตัวก็ไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ซะทีเดียว เพราะเจ้าเอยมาในฐานะคู่รักของทายาทเจ้าของธุรกิจผลิตยา(ทางการแพทย์)ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ไม่ต้องบอกว่าเป็นหมวดลีโออีกแล้ว พ่อหนุ่มเนื้อหอมคนนี้มักมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้หล่อนเสมอ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่คนเคยเก็บกู้ระเบิดอย่างหล่อนต้องมาใส่สิ่งที่เรียกว่าชุดราตรี หึๆ สีแดง เกาะอก และขนเฟอร์สีขาวคันๆจักจี้แขนนี่ เป็นอะไรที่ไม่ถูกโฉลกกับตัวหล่อนจริงๆ ยังไม่รวมเครื่องประดับบนร่างกายของหล่อนและรองเท้าส้นเข็มหลายนิ้วนี่อีก เจ้าเอยอยากจะคำราม แต่เพื่อให้สมฐานะแฟนกำมะลอของคนข้างๆเจ้าเอยก็ต้องทนไว้~ อย่างน้อยก็ยังมีMakeupหนาเตอะที่คอยบดบังความเขินอายของหล่อนอยู่บ้าง ได้แต่พูดในใจว่า ยังไหวอยู่
"คุณสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี แขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานเปิดตัวเครื่องประดับในคอลเลคชั่นใหม่ของทางแบรนด์ P.G.N.Light ในค่ำคืนนี้ นอนดีต้อนรับทุกท่านนะครับ กระผมนายณที ศรีไศล ทำหน้าที่พิธีกรในคํ่าคืนนี้..."
พิธีกรในงานเริ่มกล่าวเปิดงานแต่เจ้าเอยหาได้สนใจไม่ นอกจากเค้กช็อกโกแลตหวานๆตรงหน้า เนื่องจากไม่ได้มีอาหารอะไรตกถึงท้องน้อยๆมาก่อนหน้านี้เลยเพราะหล่อนมัวแต่นั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ให้กับช่างแต่งหน้า ที่คุณลีโอคนดีคนเดิมจ้างมาประทินโฉมให้กับหล่อนอยู่หลายชั่วโมง ไม่สิ คงต้องเรียกว่าจ้างมาปฏิวัติใบหน้าของหล่อนน่าจะถูกต้องและฟังรื่นหูกว่า เพราะหล่อนใช้พลังตรงนั้นไปจนหมดสิ้น หล่อนจึงต้องเติมแบตเตอรี่ด้วยของหวานตรงหน้า แต่ก็ไม่วายโดนคนต้นเรื่องแอบเอ็ดใส่เบาๆ
"อย่ามัวแต่สนใจของกินจนลืมสังเกตุการณ์..."
นํ้าเสียงกับใบหน้าของเขาค่อนข้างขัดแย้งจนน่าขำแทนน่ากลัว เนื่องจากว่าเขาต้องกระซิบเอ็ดเธอแล้วรีบปรับสีหน้ากลับไปตอบคำถามของเหล่าผู้ดีในสังคมที่รู้จักบิดาของเขา
"ตายจริง นี่คุณสิงโตลูกชายคนรองคุณสิงห์นี่"
เพราะจู่ๆก็มีหญิงแปลกหน้าหนึ่งในสองคนเดินเข้ามาทักหมวดลีโอขึ้นมาอย่างสนิทสนม แม้จะแปลกใจที่อีกคนจำหน้าเขาได้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักหล่อนเลย และทั้งที่เจ้าตัวไม่ค่อยออกสื่อเลยก็ตาม แต่หมวดลีโอก็ตอบรับตามมมารยาท
"เอ่อ...ครับ"
"ไม่น่าเชื่อ คุณสิงห์แกบอกว่าลูกชายไม่ค่อยชอบออกงานสังคม พวกเราเลยไม่ค่อยพบปะคุณในงานสังคมเลย นับว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยนะครับ"
ชายลึกลับอีกคนข้างกันเอ่ยขึ้น เจ้าเอยคาดว่าคงเป็นผัวเมียกัน และเมื่อมีผัวเมียก็ต้องมีพ่อแม่ลูก หึๆ สาวน้อยดี๊ด๊าที่ยืนบิดข้างๆสองผัวเมียคู่นี้ ครอบครัวหรรษา
นี่ขนาดไม่คอยเจอพ่อคุณเขานะ ถ้าเจอบ่อยไม่อยากนึกภาพ
บันเทิงแน่
"ครับ..."
หมวดลีโอตอบกลับไปเพียงสั้นตามแบบฉบับของคุณเขา
"..."
"..."
"เอ่อ..นั่นสินะคะคุณสิงห์เองก็อายุมากแล้วดีจริงๆที่มีลูกชาย..."
ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่ลดความพยายาม
"อุ๊บส์!..."
เจ้าเอยจึงแทบหลุดขำคุณหญิงตรงหน้า เพราะหล่อนดูไม่ต่างจากแม่ค้าแม่เล้าเลย ที่พยายามชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อนำเสนอลูกสาวข้างๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสพูดไปถึงใจความสำคัญของบทสนทนา จุดประสงค์หลักของหล่อน
"เอ่อ..นี่?"
"อ๋อ นี่คู่หมั้นของผมเองครับ"
อีกฝ่ายหน้าเสียทันทีเมื่อหมวดลีโอตอบกลับไปแบบนี้ ทว่ายังคงรักษาท่าทีไว้อยู่ดังเดิม เจ้าเอยทึ่งกับทักษะนี่ของคนตรงหน้าจริงๆ นี่หรอสังคมผู้ดี
"อ อ๋อ เช่นนั้นเองสินะคะ...มิน่าล่ะคู่หมั้นคุณสิงโตสวยมากเลยนะคะเนี่ย ใช่ไหมลูก ญาดา"
"ค่ะ!" สาวน้อยตอบเสียงติดจะห้วน
และรอยยิ้มการเมืองจากคนแม่ถูกส่งมาให้เจ้าเอย หล่อนเพียงยิ้มมุมปากตอบกลับไป ในขณะที่คนเป็นสามีช็อกค้างกลางอากาศไปแล้ว ต่างจากคนข้างคุณหญิงที่ส่งสายตาไม่พึงใจมาให้หล่อนโดยตรง แต่ท่าทีที่แตกต่างกับชาติตระกูลของหล่อนก็ต้องถูกพับไว้เมื่อมีเสียงพิธีการประกาศขึ้นมา ทำลายสงครามขนาดย่อมลงไปทันที
"ในตอนนี้ก็ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีแล้วนะครับ กระผมขอเรียนเชิญคุณเลียม เลโอนอร์ ฮอว์กตัน ท่านรองประธานP.G.N.Light ได้ขึ้นมากล่าว Speech เล็กน้อยก่อนจะเริ่มเปิดตัวJiwelry ขอเรียนเชิญครับ"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments