ถ้าชั้นคือดวงจันทร์ นายก็คงจะเป็นท้องฟ้า
. ในค่ำคืนหนึ่งที่เงียบสงบไร้ซึ่งแสงจันทร์และแสงของดวงดาวมีเพียงแต่ท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงใดๆ แต่ในขณะเดียวกันมีปราสาทที่ดูโบราณแต่กลับสะอาดราวกับเพิ่งถูกสร้างขึ้นมาไม่นานได้มีแสงไฟเล็กๆจุดประกายขึ้นมาจากมือของชายที่ใส่ชุดดำกับเสื้อคลุมสีดำอย่างมิดชิดที่ซ่อนอยู่ในห้องแนวญี่ปุ่นโบราณที่อยู่ด้านในปราสาทแห่งนี้
"ในที่สุด"
"ในที่สุด!!!"
"สิ่งที่ท่านผู้นั้นต้องการ!!!"
"ข้ายินดีจะถวายชีวิตเพื่อท่าน!!!"
. สิ้นประโยคของชายชุดดำเขาก็เริ่มพูดพึมพำอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นภาษาหรือไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นภาษาอะไรกันแน่
. ในขณะเดียวกันเสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งรีบ ทั้งตื่นตระหนก แล้วกระวนกระวาย ได้วิ่งเข้ามาเพื่อเปิดประตูพร้อมพูดว่า
"แกเป็นใคร!!!"
"มันสายไปแล้ว"
. ชายชุดดำพูดพร้อมยิ้มให้เห็นถึงใบหน้าที่ซ่อนอยู่ในผ้าคลุม ใบหน้าที่ซ่อนอยู่นั้นแสดงให้ถึงดวงตาที่เบิกกว้างแล้วรอยยิ้มที่ยิ้มอย่างปิติยินดี ไม่ต่างอะไรกับคนบ้าคนนึง
"พวกแกทุกคนต้องตาย"
"นี่คือจุดประสงค์ของท่านผู้เป็นใหญ่ในโลกมืด"
. สิ้นสุดคำของชายผู้นี้ประกายแสงเล็กๆนั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นไฟที่ลุกไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บริเวณนั้น
. แน่นอนรวมไปถึงชายชุดดำคนนั้นด้วย
.
.
.
"คางูยะ!"
"ค่ะ!!!"
. เสียงของหญิงสาวผมสีทองที่ดูสวยงามราวกับแม่พระเลยก็ว่าได้ ได้เรียกเด็กหญิงตัวเล็กๆ ผมสีม่วง เหมือนเด็กประถมไม่มีผิด แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองคงจะเป็นหูที่ยาวและแหลมราวกับอยู่ในเทพนิยาย
"แฮกๆๆ"
. มีเสียงหอบของเด็กสาวตัวน้อยที่หนูโตกว่าคางูยะเล็กน้อย มีผมและทาเป็นสีน้ำตาล
"คะ...คุณหนูอยู่นี่เองหรอคะ!"
. เสียงของเด็กสาวยังคงหอบอยู่เนื่องจากวิ่งตามหาเด็กสาวอีกคนมาได้สักพักแล้ว
"คุจัง! ไม่เป็นไรใช่มั้ย!!"
"ก็...แค่เหนื่อยนิดหน่อยเองค่ะ"
. ถึงอย่างนั้นน้ำเสียงของเธอยังคงแสดงถึงความเหนื่อยของเธออยู่
"คุซาโกะพยายามหาลูกแทบแย่เลยนะ"
"ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ!"
. เด็กสาวได้ให้อภัยเด็กสาวอีกคน"
"แต่ว่าลูกมาทำอะไรอยู่ที่นี่หรอ!"
"ก็หิ่งห้อยมันสวยนี่นา"
"อย่างกับดวงดาวของวันนี้เลย!"
. ที่ที่เด็กสาวทั้งสองและหญิงสาวกำลังยืนอยู่เป็นทุ่งหญ้าใกล้ๆกับปราสาทโบราณแห่งนี้ ทุ่งหญ้าถูกประดับไปด้วยหิ่งห้อยมากมาย แล้วต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นที่อยู่ใจกลางของทุ่งหญ้า แต่ต้นไม้ทั้ง 2 ต้นเป็นต้นไม้ที่พิเศษไม่เหมือนต้นไม้ต้นอื่น แทนที่จะเติบโตเหมือนต้นไม้ปกติ แต่ทั้ง 2 ต้นกลับเติบโตโดยลำต้นของทั้งสองไขว้กันเป็นเกลียวขนาดใหญ่ ทั้งสองออกดอกตลอดทั้งปี ต้นหนึ่งออกดอกเป็นสีชมพูมีกลีบที่เป็นเอกลักษณ์ ส่วนอีกต้นเป็นดอกสีม่วงที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆออกดอกเป็นช่อยาวลงมาจากต้น
"แม่ค่ะ"
"ดอกไม้พวกนั้น..."
"นายหญิง!!!"
. เด็กน้อยยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงใครสักคนแทรกขึ้นมา
"มีอะไร?"
"ไฟไหม้ครับ!! ไฟกำลังไหม้ปราสาทอยู่!!!"
"รีบบอกให้ทุกคนอพยพออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!!!"
"ครับ!!!"
. สิ้นสุดการสนทนาก็ได้เกิดระเบิดขนาดใหญ่เกือบเท่าประสานดังนี้
"ทั้งสองคนหนีไปซะ"
"แล้วแม่ละคะ!"
"ไม่ต้องห่วงแม่หรอกแม่สัญญาแม่จะกลับไปหาลูกแน่ๆ"
"คุซาโกะพาคางูยะหนีไปให้ไกลที่สุด"
"แล้วก็..."
"อย่าหันหลังกลับมาเด็ดขาด"
"ค่ะนายหญิง"
. คุซาโกะได้พาคางูยะหนีเข้าไปในป่าที่อยู่ใกล้ๆ กับทุ่งหญ้า แต่ถึงอย่างนั้นสาวน้อยร่างเล็กก็คงยังเรียกหาผู้เป็นมารดาของเธออย่างเศร้าสร้อย ส่วนเด็กสาวอีกคนกลับทำได้เพียงแค่หลั่งน้ำตาให้กับนายหญิงของเธออย่างไม่มีทางเลือก
. หญิงสาวได้วิ่งกลับเข้าไปในปราสาทของตนราวกับมีบางอย่างต้องทำให้เร็วที่สุด
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
.
.
.
แถม
"พูด"
("คิด")
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments