ยามอุ้ย โถงประชุมตระกูลเฉินเรื่องสอบเข้าสำนักของลูกหลานตระกูลเฉินเฉินฮวาคิดว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ก็ไม่ต่างจากการรวมญาติกันเท่าไหร่หรอก
เฉินฮวาเดินมาถึงก็นั่งลงเพื่อฟังพวกผู้ใหญ่ประชุมกันเกี่ยวกับลูกหลานที่สอบเข้าสำนักได้แน่นอนว่ายังไงก็ถูกเปรียบเทียบเหตุการณ์แบบนี้ควรชินได้แล้วนะสำหรับรสแต่ไม่ใช่เฉินฮวาที่ถูกเปรียบเทียบประจำและเธอไม่เคยแก้ไข้คำพูดเหล่านั้นเลย
"คุณหนูรองก็คงสอบได้เป็นแค่ศิษย์สายนอกสินะ"ญาติผู้ใหญ่พูดขึ้น
"ใช่ๆ นางแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยโดดเด่นอยู่แล้ว"คนในห้องโถงต่างพากันพูดจาเสียดสี
"ไม่เหมือนกับหลิงเอ๋อของข้าได้เป็นถึงศิษย์สายในโดยแค่สอบครั้งแรก"เฉินฮวาก็ฟังพวกป้าอวยลูกตัวเองต่อไปเธอรอพวกเขาอวยกันให้เสร็จก่อนและปิดฉากด้วยความประทับใจ หึหึไม่รู้ซะแล้วคนแบบนี้และที่รสในร่างเฉินฮวาเกลียดที่สุด
"คุณหนูรองคงไม่กล้าพูดอะไรสินะ เพราะไม่มีอะไรให้พูด"และเวลาทุกคนรอคอยก็มาถึงหลังจากที่ป้าๆ ลุงๆ ทั้งหลายอวยกันเสร็จเฉินฮวาก็ลุกขึ้นทำให้ทุกคนเงียบทันที
"ข้าจะบอกข่าวดีให้ฟังนะ ข้ามีปรานอยู่ที่ขั้น8 เป็นศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักวารีสวรรค์ ถ้าทุกคนไม่เชื่อดูนี่ ดูส่ะ?! "เฉินฮวาก็หยิบตราเจ้าสำนักขึ้นมาทำให้ญาติถึงกับพูดไม่ออก
คุณชายใหญ่ที่เคร่งขรึมตลอดเวลาถึงกับหลุดยิ้มออกมาทำให้ญาติพากันหน้าเสีย ไม่ใช่...ไม่ใช่สิต้องเรียกหน้าพังยับไม่เหลือเค้าโครงแล้ว เป็นใครมาจากไหนถึงชอบเสียดสีคนอื่นอยากจะถีบแล้วทุบๆ ให้หมดยางเลยคอยดูเฉินฮวาคิดในใจ
ฉันเนี่ยโครตเกลียดเหตุการณ์แบบนี้เลยบอกตรงปากว่างมากก็กินสิ...สรรหาอะไรมาพูดกันนักหนาเหลือเกินเฉินฮวาเม้มปากบ่นกับพฤติกรรมที่มีทุกยุคทุกสมัยมันต้องถูกสั่งสอน
เรือนหลังเล็ก ยามซวี (19.00~20.59 น.) ใบไม้ปลิวไสวลมออนๆ พัดมาเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศเรือนหลังเล็กค่อนข้างปรอดโปร่ง
"สูดดดดดด"
เฉินฮวาถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางมองไปที่ดวงจันทร์ที่กำลังเรืองแสงเปล่งประกายบนนภายิ่งทำให้หน้ามอง
"ตุบ?! โอ้ย! "
เสียงของคนร้องมาจากทางตรงไม้เฉินฮวาใช้วิชาตัวเบาทยานออกไปดูที่มาของเสียงนั้น ไปจีฉี่ที่ตกลงมาจากตรงไม้ก็ยืนขึ้นมาปัดฝุ่นเฉินฮวาที่มาเห็นว่าเป็นใครเธอเอามือกายหน้าผากก่อนที่จะเลิกสนใจเดินกลับตำหนักทันทีทว่าชายหนุ่มรูปร่างหล่อเหลาก็มาขวางทางไว้
"หลบข้าจะไปเข้านอน"
เหมือนเสียงของเธอจะทำให้อีกฝ่ายไม่ได้ยินก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดเข้าตำหนักปิดประตูลงกลอนไปจีฉี่ที่เห็นการกระทำของหญิงสาวถึงกับคิ้วกระตุกตัวแข็งข้างเหมือนความหล่อของเขาจะไม่ทำให้หญิงสาวสนใจได้เลย
แค่ปิดประตูลงกลอนไม่ได้เป็นปัญหาต่อไป่จีฉี่แม้แต่น้อยเขาใช้วิชาสลายร่างเข้าไปในห้องนอนของเธอ เฉินฮวาที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสบายใจเธอถึงกับเว้นระยะห่างระหวางชายหญิงถึงเธอจะอยากได้พระรองแค่ไหน......ที่กระโดดออกมาไม่ใช่ว่ากลัวพระรองจะทำอะไรนะแต่กลัวตัวเองอดใจไม่ไหว
"ประตูทางเข้ามีใยท่านไม่เข้า"
"ข้าชอบเข้าทางหน้าต่าง"
คำตอบที่กวนทีนแบบนี้เฉินฮวากับร้องกรี๊ดในใจกับท่าทางกวนประสาทของพระรองไปจีฉี่ที่เห็นท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าเขาถึงกับขมวดคิ้วสงสัยกับทางแปลกประหลาดนั้นว่านั่นคือกุลสตรีหรือ
เฉินฮวาขี้เกียจตอล้อต่อเถียงก็หันหลังกลับไม่สนใจคนตรงหน้าสักนิดแต่จู่มือของไปจี่ฉี่ก็คว้าหมับเข้าที่แขนของเฉินฮวาทำให้เธอเสียหลักลมลงซุกอกของเรื่อนร่างบุรุษ แต่ถ้าคือตอนนี้วิญญาณของรสที่ตอนนี้กำลังพลุ่งพลานจะเข้าไปกอดจูบกับไปจีฉี่แต่วิญาณเฉินฮวาบอกว่ามันไม่ดี (อารมณ์ประมาณนางฟ้ากับนางมารเพื่อให้ตัดสินใจ)
"นี่เรือนผู้อื่นท่านอยากเข้ามาก็เข้ามาได้งั้นเหรอ"
"ได้สิถ้าข้าอยากเข้า"
เฉินฮวาอยากทุบและลากเข้าห้องประเดี๋ยวนี้คนอะไรกวนประสาทแต่ยังหน้ารักใช่พระรองต้องเป็นของเรา ไปจีฉี่ขมวดคิ้วสงสัยสายตาแบบนั้นมันอะไรกัน
"วันพรุ่งจะมีการประลองของสำนักบุปผาเจ้าจะไปดูหรือไม่ผู้ที่เข้าชมมีสิทธิ์ประลองด้วยได้"ไปจีฉี่กล่าวเป็นนัยเพื่อให้เฉินฮวาไป
"ไม่เอาไม่อยากไปอ่ะ"
ลานประลองสำนักบุปผา
"เจ้าจะพาข้ามาทำไมกันเดี๋ยวคู่หมั้นเจ้าก็ไม่พอใจ"เฉินฮวาที่นั่งอยู่บนลานประลองบ่นอุบอิบขณะรอชมประกวดความสามารถของอัจฉริยะคนใหม่
"เจ้าบอกไม่มาแต่ก็มาจนได้นะ"ไปจีฉี่พูดล้อเลียน
"เห้อข้าคร้านจะเถียงกับเจ้าเต็มทีคนอะไรวาจาคมคายดั่งอิสตรี"
"เจ้าก็วาจาห้าวหาญราวกับบุรุษ"
เฉินฮวาที่เถียงกับไปจีฉี่ที่ตอนนี้ปลอมตัวมาดูงานประลองและแน่นอนใยหลงเสวี่ยก็ต้องสังเกตเห็นเธอกับไปจีฉี่ พลันสายตาอีกคู่ก็มองมาที่เธอเช่นเดียวกันนั่นก็คือโจวหลันนั่นเองเฉินฮวาถึงกับเอามือก่ายหน้าผากกับการปลอมตัวที่โครตจะเนียน
"ขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาชมการประลองของสำนักบุปผาเพื่อประกาศอัจฉริยะที่มีเส้นชีพจรศักสิทธิ์ให้ทุกคนประจักแก่ความสามารถของเธอ"ทันใดนั้นหลงเสวี่ยก็ก้าวขาออกมาบนเวทีเพื่อท้าประลองแต่ไม่มีสิทธิ์ในสำนักคนไหนถ้าประลองนางเลย
ในขณะที่ศิษย์สำนักอื่นก็รู้สึกรำคาญใจก็พากันท้าทายหลงเสวี่ยผ่านมาหลาย10คนก็ไม่ทำให้เธอเปลืองแรงเลย นี่สินะที่เรียกว่าสกิวนางเอกเหอะเดี๋ยวจะได้รู้จักกับสกิวนักเขียนส่ะหน่อย
"ข้าศิษย์สายตรงเจ้าสำนักวารีสวรรค์ขอท้าประลอง'
เฉินฮวาพลางพูดออกมาท่ามกลางฝูงชนและกระโดดขึ้นไปบนเวทีไปจีฉี่ที่ดึงแขนเสื้ออยู่ก็ถูกสลัดออกฝูงชนต่างซุบซิบกันการประลองต่อไปนี้ถึงจะน่าตื่นเต้น
"ข้าจำนางได้นางคือคนที่อายุน้อยที่สุดในสำนักวารีสวรรค์ที่มีพลังขั้น8แต่หลงเสวี่ยเองถึงจะมีพลังขั้น7แต่เส้นชีพจรสามารถลบจุดบกพร่องนี้ได้"
เฉินฮวาตอนนี้ที่ประจันหน้ากับหลงเสวี่ยกลางเวทีพลางปลดปล่อยแรงกดดันมัจฉาที่เป็นวิชาของสำนักวารีสวรรค์ หลงเสวี่ยเองก็ปลดปล่อยเส้นชีพจรบุปผาศักดิ์สิทธิ์ออกมาเกิดเป็นกลีบดอกไม้ลอยรอบตัวเธอ
เฉินฮวาไม่รอช้าใช้ทักษะดินแดนเหมัณฑ์ทันทีทำให้ลานประลองทั้งลานกลายเป็นน้ำแข็งหลงเสวี่ยที่ตอนนี้ยื่นอยู่บนลานน้ำแข็งก็ได้ใช้ทักษะมีดดอกไม้เข้าโจมที่เฉินฮวาแต่ไม่ทันที่มีดดอกไม้จะเข้าถึงก็กลายเป็นน้ำแข็งแล้วก็ตกลงพื้นไป
ฝูงชนต่างตื่นเต้นกับการสู้กันของสองอัจฉริยะสองสำนัก ทางด้านหลงเสวี่ยเองที่ตอนนี้ถูกกดดันไม่น้อยแต่เฉินฮวายังไม่ได้ใช้พลังถึงครึ่งนึงด้วยซ้ำ
"ข้าจะใช้ทักษะสุดท้ายถ้ามันทำอะไรเจ้าไม่ได้ข้าขอยอมแพ้"
"เชิญเลย"
เฉินฮวาตอบเรียบๆ ไม่ได้สนใจอะไร ทว่าอยู่ดีลานประลองก็เกิดการสั่นไหวขึ้นดอกไม้ก็งอกเต็มลานประลองเลื้อยเข้าพยามจะรัดเฉินฮวา
"ท่านเจ้าสำนักวิชานั้นอันตรายมากนางยังฝึกไม่ถึงขั้น"
เจ้าสำนักบุปผาก็ยกมือขึ้นเพื่อห้ามเหล่าผู้อาวุโสที่กำลังจะไปหยุดหลงเสวี่ย ตอนนี้ลานประลองผุดดอกไม้เต็มไปหมดทำให้เหล่าผู้อาวุโสของสำนักบุปผาต่างพากันวิตกกังวลวิชานี้เป็นวิชาที่ร้ายกาจมากเฉินฮวาอาจถึงตายได้แต่....ทุกคนคิดผิดเฉินฮวาที่ยืนอยู่บนลานประลองกลับแค่รู้สึกคันๆ เท่านั้นและใช้ทักษะสบั้นเต๋าทำให้ลานดอกไม้ต่างถูกพังทลายลง
เหล่าผู้อาวุโสของหลายสำนักที่ตอนนี้กำลังตกตะลึงกับวิชาสบั้นเต๋าของสำนักวารีสวรรค์ที่ไม่ผู้ใดฝึกได้มานานแล้วนอกจ่กเจ้าสำนักวารีสวรรค์คนปัจจุบันแต่ตอนนี้กลับเพิ่มมาหนึ่งแสดงว่านางตองมีเส้นชีพจรหยินที่หายากอยู่แน่
แต่ผู้อาวุโสหลายสำนักเดาถูกครึ่งนึงเพราะว่ามันไม่ใช่เส้นชีพจรหยินธรรมดาแต่เป็นเส้นชีพจรสวรรค์ที่เหล่าทวยเทพยังอิจฉา
หลังจากที่สบั้นเต๋าถูกใช้ไปแล้วควันขโมงก็หายไปเผยให้เห็นเรือนร่างของหลงเสวี่ยที่อยู่กลางลานประลองผู้อาวุโสที่เห็นก็เข้าไปรับและหายตัวเจ้าไปในสำนักทันที
ชายในลานประลองต่างตาเป็นประกายที่เห็นในเรือนร่างของอิสตรีอัจฉริยะตอนนี้หลงเสวี่ยก็สลบไปแล้ว
"ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง"
เฉินฮวาหัวเราะอย่างชั่วร้ายและเดินกลับที่อย่างสบายใจไปจีฉี่ตอนนี้ก็ลงมาเดินใกล้เฉินฮวาแล้ว
"อะไรเจ้าจะมาทำร้ายข้าเรื่องทำคู่หมั้นเจ้าขายขี้หน้าหรอ"
"เปล่าๆ ข้าคะ..แค่ออกมาเฉย"
ไปจีฉี่ที่เห็นทักษะสบั้นเต๋าแล้วยังเสียวสันหลังไม่หายต่อจากนี้เขาจะไม่เถียงคนผู้นี้อีก
"เสี่ยวฮวาชนะศิษย์สำนักบุปผา!!? "
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments
mama
แปลงงหน่อยค่ะ
2022-03-01
0