ยามอู่ ทางถนนย้านการค้าวันนี้เป็นกำหนดการที่โจวหลันและหลงเสวี่ยจะเข้าหากันเฉินฮวาไม่พูดร่ำทำเพลงแต่งหน้าแต่งตัวออกจากเรือนมุ่งออกไปเพื่อไปดูเหตุการณ์ของเนื้อเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น เฉินฮวาคิดจะเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องทั้งเล่มอยู่แล้วโดยคิดเอาไว้ว่าจะไปตีสนิทหลงเสวี่ยให้คลาดกับเหตุการณ์นั้นๆ
"ซือซินวันนี้เจ้าไม่ต้องไปกับข้าเดี๋ยวข้าไปคนเดียว"
"ตะ..แต่คุณชายใหญ่"
"ไม่มีแต่ทั้งนั้นฟังข้าก็พอ"
ซือซินที่กำลังจะเอ่ยปากขึ้นถึงกับปิดปากลงเกือบไม่ทันถ้าคุณหนูของเธอบ้ามาอีกเธอจะไม่ตายเลยเราะเฉินฮวาตอนนี้ก็ได้ถึงย่านการค้าแล้วก็เข้าไปดูโจวหลันกับหลงเสวี่ยที่แอบคุยกันเฉินฮวากระหย่งตัวใช้ปลายเท้าทำตัวให้สูงขึ้นเพื่อดูเหตุการณ์ที่เหมือนในนิยายว่าพระเอกจะหล่อขนาดไหน
"เจ้าทำอะไร"
เสียงของบุรุษเสียงแข็งที่จู่ๆ ก็โพล่งพูดออกมาเฉินฮวามองชายตรงหน้ากระโดดถ้อยหลังออกมาเพื่อรักษาระยะฟ่างระหว่างชายหญิง เธอกมหน้าดุ้มและทำเนียนไม่สนใจชายตรงหน้าที ฉิบหายละไปจีฉี่พระรองของข้าทำไมท่านต้องโผล่มาเวลานี้
"เจ้าไปไหนหยุดก่อน!!! "
เสียงของบุรุษดังทำให้โจวหลันกับหลงเสวี่ยที่กำลังสนทนากันหันมามอง เฉินฮวาเห็นท่าไม่ดีแล้วก็ใช้วิชาตัวเบาทะยานออกไปเพื่อไม่ให้ไป่จีฉี่ตามทัน ไปจีฉี่ที่เห็นเฉินฮวาทยานออกไปก็ไม่ได้ตามไปเพราะรอดูเรื่องที่สำคัญกว่า
"นึกว่าใครที่แท้ก็องค์รัชทายาทนี่เอง"โจวหลันเป็นคนแรกที่พูดออกมา ไปจีฉี่ที่เห็นหลงเสวี่ยอยู่กับโจวหลันก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเพราะนางเป็นคู่หมั่นของเขา
"ข้าไม่ได้มาทำอะไรเพคะ ท่านพี่"หลงเสวี่ยพูดออกมาหลงเสวี่ยกรีดน้ำตา แสร้งร้องไห้เพื่อให้คนตรงหน้าหลงเชื่อว่าตนไม่ได้มาทำอะไรจริงๆ
เฉินฮวาที่ตอนนี้กลับมาดูเหตุการณ์อีกครั้งถึงกับหนังตากระตุกเบา เยสเข้...นางเอกโครตต.....แหลเลยเฉินฮสาถึงกับส่ายหน้ากับจริตจการของนางเอกตามสเต็ปคุณชายรองก็หลงเชื่อโจวหลันก็ออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เจ้าจะแอบดูอีกนานไหม"
เฉินฮวาถึงกับกลั้นหายใจเมื่อได้ยินเสียงของบุรุษตรงหน้าพูดออกมา แต่ก็ถูกจับได้แล้วเป็นไงเป็นกันเธอเดินกมหน้าดุ่มเข้าไปหาไป่จีฉี่กับหลงเสวี่ยลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ
"ข้าไม่ได้แอบดู ข้าแค่ผ่านทางมาเฉยๆ "เฉินฮวาตอยแบบไม่ใส่ใจและทำทีไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไป่จีฉี่ถึงกับอมยิ้มองครักษ์ประจำกายขององค์รัชทายาทที่เห็นเขายิ้มถึงกับโลกจะแตกย้านเมืองจะล่มสลายเพราะเขาไม่เคยยิ้มเลย
หลงเสวี่ยที่เห็นองค์รัชทายาทยิ้มก็รีบพูดกับเฉินฮวาต่อ เฉินฮวาที่เห็นอาการกินน้ำส้มสายชู (หึงหวง) ของหลงเสวี่ยถึงกับคิดในใจว่าอยากตบในเนื้อเรื่องอีนางเอกให้ความหวังสองฝ่ายและเลือกพระเอก
เฉินฮวาตอนนี้กำหมัดแน่นพร้อมจะต่อยนางเอกแน่ถ้ายังไม่หยุดแสดงอาการแสร้งทำแบบนี้ทำให้เธอเองถึงกับอดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ ไปจีฉี่ที่เห็นอาการของเฉินฮวาก็จับมือเธอออกมา หลงเสวี่ยก็ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น
"นางเอกหรอนี่มันนางร้ายชัดๆ นางวันทองสองใจมาคุยด้วยหน่อยทำเป็นหวงสรุปมึงชอบใครคะชอบจับปลาสองมือบอกเลยพระรองจอง"เฉินฮวาบ่นอุบอิบแต่ก็ลืมไปว่ามีคนข้างๆ เดินมาด้วย
"เจ้าพูดอะไรของเจ้าข้าฟังไม่ถนัด"
"เรื่องของหม่อมฉันเพคะองค์รัชทายาท"
เฉินฮวาที่พูดออกไปถึงกับทำให้ไปจีฉี่ถุงกับหยุดเท้าลงและมองคนตรงหน้าเพราะเรื่องที่ไปจีฉี่เป็นองค์รัชทายาทยังไม่มีใครรู้นอกจากองค์จักรพรรดิกับฮองเฮา เฉินฮวาที่พูดผิดไปเริ่มแก้ตัวกับคนตรงหน้าก่อนที่จะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ เฉินฮวาตอนนี้เหมือนกลืนอะไรแข็งๆ ลงคอทำให้พูดอะไรลำบาก
"อะ..เอ่อ...คือว่า"เธอกระพริบตาถี่มองไปที่บุรุษตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังมองมาทางเธออย่างคาดโทษแต่ไม่ทันที่ไปจีฉี่จะถามอะไร เฉินเซียนเทียนก็เดินออกมาจากไหนไม่รู้
"น้องรองกลับบ้าน"
"เพคะ พี่ใหญ่"
เฉินฮวาที่ตอนนี้เหมือนสวรรค์ทรงโปรดส่งม้าจาวมาช่วยชีวิต เฉินเซียรเทียนกระเหม่นตามองไปที่ไปจีฉี่ราวกับกะกินเลือดกินเนื้อไปจี่ฉี่ที่เห็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเฉินถึงกับห้าวถอยหลังไปสองก้าว
เมื่อเฉินฮวากัยเฉินเซียนเทียนไปแล้วไปจีฉี่ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะความโล่งอก
"ใครจะคิดกันว่านางเป็นคุณหนูรองของตระกูลเฉินพี่ชายนางเป็นอัจฉริยะในรอบหมื่นปีที่บรรลุปราณแท้จริงก่อนอายุ18แต่ถึงพี่จะโหดก็........."ไปจีฉี่สลัดความคิดออกทันทีเมื่อคิดถึงท่าทางเมื่อกี้ของเฉินเซียนเทียน
"พี่ใหญ่ไม่น่าไปมองเขาอย่างนั้นเลยนะเจ้าคะ"
"น้องรองนี่เจ้าเห็นบุรุษอื่นดีมากกว่ากี่งั้นรึ"
เฉินเซียนเทียนนั่งนิ่งๆ แผ่กลินอายเย็นเชียบออกจากร่างมาเบาถึงกับทำให้เฉินฮวาถึงกับหนาวสั่นและรีบง้อพี่ใหญ่ตนสักที
"พี่ใหญ่เจ้าคะข้าจะเห็นชายอื่นดีกว่าพี่ใหญ่ได้อย่างไรเพคะ"
เฉินฮวาทำน้ำเสียงออดอ้อนคนตรงหน้าเพื่อให้เขาสงบลง เฉินเซียนเทียนอยู่กับคนอื่นจะเป็นคนเคร่งขรึมแค่อยู่กับน้องสาวตัวเองก็ดังดอกไม้ที่พึ่งผลิบาน
ยามเซิ่น (15.00~16.59) เฉินฮวาและเฉินเซียนเทียนก็กลับมาถึงตระกูลเฉิน เฉินเซียนเทียนก็แยกตัวออกไปพักผ่อนก่อนเฉินฮวาเองตอนนี้ก็อยู่เรือนจองตัวเองแล้วก็เรียกซือซินเข้ามา
"ซือซินเจ้าเข้ามานี่หน่อย"
"มาแล้วค่ะคุณหนู~^"
เสียงขานรับดังมาแต่ไกลเฉินฮวาที่ซื้อของมาเยอะแยะก็ให้ซือซินเอาไปเก็บและของที่เป็นอาหารก็ให้นำไปให้สาวใช้กินได้เลย
นี่ก็ผ่านมา4วันแล้วที่ข้าเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้ข้าจะสามารถเปลี่ยนเรื่องราวได้ไหมนะฉันจะไม่ลืมว่าตัวฉันเป็นใครมาเพื่อทำอะไร ฉัน รสริน วงค์ศิริ จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับโลกนี้ให้ได้
ยามไฮ่ เฉินฮวารู้สึกนอนไม่หลับก็ออกมารับลมข้างนอกตำหนัก (เปลี่ยนจากเรือน) และมองไปที่ดวงจันทร์ด้วยความคิดถึงโลกใบเก่าเธอก็ร้องเพลงจันทร์เจ้าเอ๋ยที่เป็นภาษาไทยออกมาโดยไม่รู้ตัวไปจีฉี่ตอนนี้ที่อยู่บนหลังคาตำหนักของเฉินฮวาเธอได้สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหลังคาบ้าน
"นั่นใคร!! "เฉินฮวาใช้ลมปราณโจมตีไปทางเงา
"ข้าเอง"
เสียงจองบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นเฉินฮวาที่เห็นใบหน้านั้นชัดๆ ก็กระโดดถอยหลังออกมาอย่างไกล
"ทะ..ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร"เธอพูดตะกุกกัก
"ปีนกำแพงขึ้นมา"
คำตอบที่ได้ถึงกับทำให้เฉินฮวาอยากพุ่งเข้าไปต่อย นี่มันบ้านคนอื่นเท่ากับลักลอบเข้ามานะ
"มาทำอะไร"
"ถามเจ้าเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าคือรัชทายาท"
ตามจริงไปจีฉี่ที่มาหาวันนี้ไม่ได้มาถามเรื่องนั้นแค่อยากมาเจอหน้าเด็กน่ารักคนนี้เฉยๆ ไปจีฉี่แสร้งทำหน้าเคร่งขรึมเพื่อให้หญิงสาวตรงหน้าเกรงกลัวตอนแรกเฉินฮวาก็กลัวๆ นะแต่ตอนนี้มันเริ่มจะเยอะละ
"ทำไมจะรู้ไม่ได้มีสมองก็คิดสิ"
เฉินฮวาสบถคำพูดออกมาห้าวหานเยี่ยงผู้ชายทำให้ไปจีฉี่ยิ่งชอบกิริยาท่าทางนี้ เฉินฮวาที่เห็นคนตรงหน้าไม่สนใจก็ก็เริ่มรู้สึกโมโหจะเดินเข้าห้องทันทีแต่ไปจีฉี่ก็เดินเข้าไปด้วยเธอจึงหยุดเท้าลงและมองไปที่บุรุษข้างหลัง
"ห้องข้า"
"><"
ไปจีฉี่ก็ไม่ได้สนใจก็เดินตามเฉินฮวาเข้าห้องสาวใช้ที่เดินผ่านมาเห็นก็ปิดปากเงียบสนิทและวิ่งออกไปไม่ให้เฉินฮวารู้ตัว
"ท่านมีอะไรจะพูดก็พูดมาข้ามีเวลาไม่มากเดี๋ยวคนมาเห็นเข้าจะดูไม่งาม"เฉินฮวาก็เปิดคำถามตรงไปที่พระรองที่ไม่สนโลกอะไรเลยเธอเองก็รู้ว่าพระรองไม่ได้เข้ามาเพราะเรื่องที่เธอเป็นองค์รัชทายาทแน่นอน
"ข้าไม่มีอะไร ข้าแค่อยากเจอหน้าเจ้า
เฉินฮวาถึงกับเบือนหน้าหนีที่อีตาพระรองมายอดเขาถึงห้องนอนถ้ามาเห็นสงสัยก็คงไม่วายทะเลาะกับนางเอกแน่ๆ ไปจีฉี่ที่เห็นเฉินฮวาเบือนหน้าหนีก็เข้าไปยืนด้านหน้าเฉินฮวาที่อยู่ต่ำกว่าไป่จีฉี่ก็เขย่งเท้าใช้ปลายเท้าทำตัวให้ขึ้นเพื่อให้เสมอกับคนตรงหน้า
ใบหน้าของทั้งสองนั้นใกล้กันมากทำให้เฉินฮวาใบหน้าร้อนผ่าวพลักไปจีฉี่เบาๆ ออกจากห้องทันที แต่ไม่ทันที่ไปจีฉี่จะออกจากห้องของเฉินฮวาเสียงจองคุณชายใหญ่ก็ดังขึ้นและเดินเข้ามาทางเรือนของเธอ
ฉิบหายละเฉินฮวารีบให้ไปจีฉี่เข้าไปอยู่ใต้เตียงและเธอก็แกล้งนอนเฉินเซียนเทียนที่มาถึงหน้าห้องของเธอก็ตะโกนเรียกเฉินฮวาให้ออกมา
"น้องรอง! "
"เพคะ"
เฉินฮวาแสร้งทำเสียงงัวเงียคล้ายคนพึ่งตื่นไปจีฉี่ที่อยู่ใต้เตียงถึงกับปรบมือให้กับการแสดงในใจเฉินเซียนเทียนก็เดินเข้ามาในห้องพลางสำรวจดูรอบห้องและมองไปที่เฉินฮวาที่ห่มผ้าอยู่
"พี่ใหญ่มีอะไรรึป่าวคะ"
"พี่ได้รับรายงายว่ามีบุรุษมาพบเจ้าในยามวิการพี่เลยมาตรวจดูถ้าไม่มีอะไรพี่กลับก่อนนะฝันดี"
เฉินเซียนที่กำลังก้าวออกไปสังเกตเห็นผ้าห่มของเฉินฮวาตกพื้นก็เดินเข้าไปเก็บให้ไปจีฉี่ที่อยู่ใต้เถียงถึงกับกลั้นหายใจใจสั่นระริกๆ
"เจ้าทำผ้าตก"
"ขอบคุณเพคะ"
เฉินเซียนเทียนก็เดินออกไปเฉินฮวาและไปจีฉี่ต่างถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ไปจีฉี่คลานออกมาจากใต้เตียงพลางสำรวจดูรอบๆ ว่าไม่มีใครอยู่แล้ว
"ท่านอย่ามาเจอข้าแบบนี้อีก"
"เออน่าไว้เจอกันที่ตลาดยามอู่"
เฉินฮวาที่กำลังจะพูดประโยคต่อไปไปจีฉี่ก็ใช้วิชาตัวเบาทยานออกไปแล้วทำให้เธอถึงกับกุมขมับเพราะนิสัยของรัชทายาทที่แอบปีนบ้านคนอื่นตอนเช้าเฉินฮวาและเฉินเซียนเทียนต้องเข้าสำนักศึกษา
เฉินเซียนก็ศิษย์สำนักอัคคี เป็นศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักเป็นอัจฉริยะในรอบหมื่อนปีขนาดราชวงศ์ยังต้องเกรงใจตระกูลเฉินอยู่3ส่วนปีนี้เป็นปีที่สำนักหลายๆ สำนักเปิดรับสมัครศิษย์ตอนแรกเฉินฮวากะว่าจะเข้าสำนักอักคีแค่ปราณของนางมีคุณสมบัติธาตุน้ำเลยต้องเข้าสำนักวารีสวรรค์
แน่นอนว่าใยนางเอกต้องอยู่สำนักบุปผาที่เปิดรับสมัครเฉพาะศิษย์ผู้หญิงเช่นเดียวกับสำนักวารีสวรรค์เฉินฮวาที่ตอนนี้ก็รอลงทะเบียนตรวจวัดคุณสมบัติ
"ในปีนี้สำนักวารีสวรรค์ของพวกเราได้ทำการเปิดรับสมัครศิษย์ โดยที่ผู้สมัครสอบต้องผ่านบททดสอบของทางสำนักทำให้ผ่านถึงจะได้เข้าเป็นศิษย์สายนิกเพื่อขัดเกล่าถ้ามีลมปราณขั้นหกขึ้นไปจะถูกรับเป็นศิษย์สายในทันทีโดยที่ไม่ต้องทำการทดสอบ
หลายคนทำการทดสอบเพื่อวัดพลังปราณผ่านมาหลายคนมีแต่คนที่ได้เป็นศิษย์สายนอกก็มาถึง จ้าวหนิงเยียน เสียงกระซุบกระซิบกันว่านางเป็นคนที่พลังลมปราณขั้นหกและสามารถเป็นศิษย์สายในได้ทันทีเฉินฮวาที่มองไปที่จ้าวหนิงเยียนก็รู้ว่าเป็นตัวละครลับที่โผล่ออกมาตอนสุดท้ายทำให้นางเอกได้ตกเป็นทาสของพระเอกและได้รักกัน
"ตัวละครลับต้องโผล่มาตอนใกล้จบแต่ข้านี่เจอตัวละครลับตั้งแต่ต้นเรื่องข้าจะมำยังไงดีให้เนื้อเรื่องนี้มันถูกสับเปลี่ยนให้หมด"เธอเม้มปากบ่นกับความยุ่งเยิงจองนิยายที่มีความซับซ้อนมากเกินไปเฉินฮวากระตุกยิ้มอย่างชั่วร้ายและก็มาถึงคราวเธอที่ต้องวัดพลัง
นางคือคุณหนูรองตระกูลเฉินว่ากันว่ามีพลังบมปราณขั้น7เสียงซุบซิบของฝูงชนทำให้เฉินฮวายิ้มอย่างภูมิใจและว่างมือส่งพลังปราณเข้าไปเพื่อตรวจสอบและสิ่งที่ทุกคนคาดหวังก็มาถึง
"ขะขั้น..ปะ...แปด"
เสียงฝูงชนกลายเป็นตกตลึงทันทีความเร็วบ่มเพาะนี้เทียบเท่ากับพี่ชายของเธอที่เป็นบุตรฟ้าประทานไม่ใช่สิตอนเฉินเซียนเทียนอายุ15มีลมปราณแค่ขั้น7เท่านั้นแสดงว่าเธอเหนือกว่าพี่ชายนางที่เป็นอัจฉริยะนางคือสัตว์ประหลาด
เฉินฮวาก็ลงออกมาจากแท่นวัดพลังและเดินสวยๆ ไปรอผลประกาศอันดับหนึ่งในการสอบแน่นอนว่าไม่ใช่ใครที่ไหนที่ได้ที่หนึ่งก็คือเธอนั่นเองทำให้เต้าสำนักวารีสวรรค์ออกมากล่าวประกาศทดสอบรอบต่อไป
"ต่อไปเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติเส้นลมปราณที่สอบตัวต่อตัวกับอาจารย์ของสำนักไม่ให้ใครดูเพราะมันเป็นความลับของแต่ละบุคคลคุณหนูเฉินตามข้ามา"เสียงของเจ้าสำนักเรียกเฉินฮวาเข้าพบเป็นการส่วนตัวทำให้ศิษย์หลายๆ คนต่างอิจฉาตาร้อน
"เรียกข้ามาพบมีอะไรรึเจ้าคะ"
"ข้าจะทำการตรวจสอบคุณบัติเส้นชีพจรของเจ้าเอง"
เจ้าสำนักวารีสวรรค์ก็จับไปที่ชีพจรของเฉินฮวาและทำการตรวจสอบถึงกับทำให้เธอเหงื่อตกขึ้นมาเฉินฮวาที่เห็นสีหน้าไม่ดีของเจ้าสำนักก็เข้าไปประคองไว้ เจ้าสำนักที่ตั้งสติเรียนเรียงคำพูดได้แล้วก็ค่อยบอกเฉินฮวาเกี่ยวกับเส้นชีพจรของเธอ
"เจ้ามีเส้นชีพจรหยินสวรรค์"
วันต่อมาข่าวของคุณหนูตระกูลหลงของสำนักบุปผาต่างดังไปทั่วเมืองว่านางมีเส้นชีพจรบุปผาศักดิ์สิทธิ์เฉินฮวาก็เบ้ปากถ้าทุกคนรู้ว่าเธอมีเส้นชีพจรสวรรค์ไม่ฆ่าตัวตายเลยหรอ แต่ถ้าเรื่องที่เธอมีเา้นชีพจรสวรรค์แพร่ออกไปมันจะเกิดอันตรายกับเฉินฮวาและครอบครัวเลยเก็บมันไว้เป็นความลับมีเพียงแค่เจ้าสำนักวารีสวรรค์เท่านั้นที่รู้
เรื่องที่เฉินฮวาเป็นศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักต่างถูกกลบกลื่อนโดยข่าวของหลงเสวี่ยเฉินฮวาไม่ค่อยสบอารมณ์ทำใยนางเอกเท่าไหร่เพราะชอบทำให้พระรองเธอเสียใจเธอก็ไม่ยอมเช่นกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments
mama
อ่านแบบงงๆ
2022-03-01
0