บทที่ 3 เรื่องราวในอดีต

บทที่ 3 เรื่องราวในอดีต

 

กลางดึกคืนนั้นขณะที่เธอกำลังหลับอยู่ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆอนาตาเซียก็ได้ยินเสียงบางดังขึ้นเป็นระยะๆ มันเป็นเสียงของคนข้างห้องที่กำลังคนคุยกันอยู่ เสียงนั่นเหมือนกับว่าพวกเขากำลังประชุมกันอยู่มีเสียงคนหลายคนพูดถกเถียงกันไปมาไม่นานก็หยุดลง ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่ทันทีที่เธอได้ยินชื่อที่คุ้นหูเธอก็ลืมตาแล้วตรงไปที่กำแพงทันที เธอค่อยๆเอาหนูแนบกับกำแพงและตั้งใจฟังอย่างดี เธอได้ยินบทสนทนาบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจมาก

“เดมิร่าเธอตามหาผู้เฝ้าคทาเหนือพิภพไปถึงไหนแล้ว” เสียงชายคนหนึ่งถามขึ้น

“นายท่านจากที่เราทราบข่าวว่ากันว่ามันอาศัยแถวนี้ส่วนเรื่องคทาไม่มีใครเห็นมานานมากแล้วค่ะ”

“ตามหามันไปเรื่อยๆมันต้องซ่อนคทาเอาไว้ที่ไหนสักที่”

“ค่ะนายท่าน”

“พวกแกทุกคนต้องรีบตามหามันให้เจอโดยเร็วอย่าให้พวกที่สนับสนุนมันรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ไม่อย่างนั้นเราจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้”

“ค่ะ นายท่าน ส่วนเรื่องดาบมาธอร์นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้ได้ส่งคนไปตามราชินีหิมะแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะพ้นคำสาปแต่ก็ไม่น่าจะตามตัวยากค่ะ”

“ดี ไม่ว่ามันจะพ้นคำสาปหรื่อไม่ตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะต่อให้มันจะมีดาบมันก็สู้เราไม่ได้”

 

อนาตาเซียที่ยืนฟังอยู่นั้นได้ยินเสียงเพียงน้อยนิดเท่านั้นเธอจับใจความได้เพียงว่าพวกเขากำลังตามหาอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่เธอแน่ใจก็คือเสียงคนที่พูดอยู่นั้นคือเสียงของเดมร่าอาจารย์ที่หายตัวไปจากสตาเดเฟียหรืออาจารย์ที่เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนลูซิเฟอร์นั่นเอง

“อาจารย์เดมิร่ามาทำอะไรที่นี่” อนาตาเซียพูดขึ้นด้วยความสงสัย “ที่นี่ต้องมีอะไรแน่ๆเราต้องรู้ให้ได้ว่าพวกเขากำลังวางแผนทำอะไร”

เช้าวันรุ่งขึ้นระหว่างทาง

“อารอนนายอยู่แต่ในก้อนหินไม่เบื่อบ้างหรอ” อนาตาเซียถามขึ้น

“ก็เบื่อนะฉันอยู่ที่นี่มานานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว”

“นายมีเพื่อนบ้างรึเปล่า”

“ไม่นะ ปกติฉันไม่ปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นเพราะมันจะทำให้คนอื่นตกใจคิดว่าฉันเป็นผี”

“แล้วนานไม่ใช่ผีหรอ”

“ถ้าฉันเป็นผีป่านนี้ฉันคงจะหลอกคนอื่นไปทั่วแล้วไม่มาอยู่ในก้อนหินนี่ให้เบื่อหรอก”

“ก็คงงั้น จะว่าไปแล้วถ้าฉันเจ้าไปในสุสานอีกรอบฉันจะออกมาได้ใช่ไหม” อนาตาเซียถามอารอนระหว่างที่เธอกำลังเดินทางไปสุสาน

“ได้อยู่แล้วฉันจำทางที่นั่นได้เป็นอย่างดีไม่ต้องห่วง”

“เอาล่ะฉันจะต้องเริ่มหาจากตรงไหนก่อนดี”

“เอาเป็นว่าเริ่มตั้งแต่หน้าสุสานก็แล้วกัน”

“ได้” อนาตาเซียตอบและเริ่มคนหาสมุดบันทึกทันที “สมุดบันทึกของนายรูปร่างเป็นยังไงหรอ”

“อืม ขอนึกก่อนนะ มันก็น่าจะเหมือนกับสมุดบันทึกธรรมดานี่แหละคือฉันจำได้แค่นี้โทษที”

“แล้วนอกจากนี้มีอะไรที่พอจะทำให้ฉันรู้รึเปล่าว่าอันไหนคือสมุดบันทึกของนาย”

“อ๋อ มันจะมีอักขระโบราณอยู่บนปกและจะมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่จะเปิดมันได้”

“นายแน่ใจนะว่ามันอยู่ในสุสาน”

“ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่”

“ห่ะ ไม่แน่ใจ”

“ก็ฉันรู้จักที่นี่ที่เดียวหนิยังไงมันก็น่าจะอยู่ในนี้แหละ”

“เฮ้อ ! ฉันจะหาเจอไหมเนี่ย”

“หวังว่าเธอจะหามันเจอก็แล้วกัน”

อนาตาเซียใช้เวลาหาสมุดบันทึกอยู่นานแต่สุดท้ายแม้ว่าจะหาแทบจะทุกซอกทุกมุมของสุสานแล้วแต่เธอก็ยังหาไม่เจอ

“นายแน่ใจนะว่าสมุดบันทึกของนายอยู่ที่นี่ฉันพยายามหาแทบจะทุกที่แล้วนะแต่ทำไมไม่เจอ”

“จริงๆฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอก แต่ฉันก็ไม่รู้จะไปหามันที่ไหน”

“นายนี่ไม่รู้แล้วจะหาเจอได้ยังไงเล่า”

“ก็ฉันจำไม่ได้หนิ แฮะๆ”

“เธอมาทำอะไรที่นี่” เสียงชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะที่อนาตาเซียกำลังยืนมองไปยังพื้นอย่างจนปัญญา เธอหันหลังกลับไปแล้วพบว่าเสียงชายที่พูดเมื่อกี้คือเสียงของคาเลียต

“นายเองหรอ” อนาตาเซียถามขึ้นและในขณะนั้นอารอนก็ได้หลายไปแล้ว

“ใช่ ฉันเองเธอมาทำอะไรที่สุสาน”

“พอดีว่าฉันทำของหายเลยกลับมาหาน่ะ”

“ของหายหรอ”

“ใช่ มันเป็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งน่ะนายพอจะเคยเห็นสมุดบันทึกที่หล่นอยู่ที่นี่มาก่อนไหม”

“จริงๆแล้วก่อนหน้านี้หลังจากที่เธอกลับไปฉันก็เจอสมุดบันทึกเล่มหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าเป็นของเธอรึเปล่า”

“จริงหรอ ขอฉันดูสมุดบันทึกเล่มนั้นหน่อยได้ไหม”

“ได้สิ แต่ฉันเอามันกลับไปไว้ที่บ้านน่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเอามาให้เธอก็แล้วกัน”

“ตกลง”

“เธอก็กลับได้แล้วตอนนี้พวกอาจารย์กลับที่พักกันหมดแล้วไม่ได้อยู่ในป่าแล้วเธอกลับไปได้แล้วไม่ต้องมาอยู่ที่นี่บ่อยๆหรอก”

“เข้าใจแล้วฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้” พูดจบอนาตาเซียก็เดินออกจากสุสานและเตรียมตัวกลับไปยังที่พักของเธอทันที ตอนนี้เวลามาทัศนศึกษาเหลือเวลาอีก 2 วันโดยหลังจาก 2 วันเธอจะต้องกลับสตาเดเฟียแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็จึงต้องรีบเร่งหาสมุดบันทึกให้เจอโดยเร็ว ซึ่งเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าสมุดบันทึกที่คาเลียตจะนำมาให้นั้นจะใช่เล่มเดียวกับที่เธอตามหารึเปล่า

 

ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินมายังที่พักทั้งสองก็พูดคุยกันเรื่องสมุดบันทึกตลอดเวลา

“อารอนนายคิดว่าสมุดบันทึกที่คาเลียตเจอจะเป็นของนายรึเปล่า” อนาตนเซียถามขึ้นด้วยความอยากรู้ซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่าอารอนจะคิดเหมือนกับเธอรึเปล่า

“ฉันว่าน่าจะใช่นะ เพราะนอกจากของฉันแล้วคงจะไม่มีสมุดบันทึกของใครอีกหรอก”

“ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน”

“ว่าแต่เมื่อกี้นายหายไปไหนเร็วจัง”

“แหม่ ฉันอยู่ที่นี่มานานแค่ได้ยินเสียงลมหายใจฉันก็กลับเข้าไปในก้อนหินแล้ว”

“อย่างนี้นี่เอง ถึงว่าหันมาอีกทีนายก็หายไปแล้ว”

“อนาตาเซียมาอยู่ที่นี่นี่เอง” เสียงหนึ่งในเพื่อนสนิทของเธอเอ่ยขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า” อนาตาเซียถามกลับด้วยความงุนงง

“ก็เมื่อวานนี้เธอไม่อยู่ที่แคมป์จำได้ไหม” ลูเซียพูดขึ้น

“ใช่ ตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นเธอแล้ว ดีนะที่อาจารย์ยังไม่รู้ว่าเธอหายไป” เทียน่ากล่าวเสริม

“พวกเราคิดว่าเธอหลงอยู่ในป่ากำลังคิดอยู่เชียวว่าจะออกไปตามหา” โซอี้กล่าว

“ใช่ พวกเราคิดว่าถ้าวันนี้เธอยังไม่กลับมาหรือหาเธอไม่เจอคิดถึงว่าจะไปแจ้งอาจารย์อยู่แล้ว” มาเดลินกล่าว

“ว่าแต่เธอไปไหนมาหรอ” โซอี้ถามขึ้น

“อ่...อ๋อ พอดีเมื่อวานฉันไปทำธุระแถวนี้มาน่ะเลยไม่ได้กลับไปที่แคมป์”

“อย่างนี้นี่เองต่อไปก็บอกพวกเราก่อนด้วยล่ะ พวกเราจะได้ไม่ต้องกังวลขนาดนี้” เทียน่าพูดขึ้น

“ตกลง”

“เอ่อแล้วก็ เมื่อวานฉันไปนอนที่โรงเตี๊ยมมาได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนกับอาจารย์เดมิร่าไม่มีผิด”

“เธอคิดมากเกินไปรึเปล่าถ้าอาจารย์เดมิร่าอยู่ที่นี่จริงๆทางการก็น่าจะมาตามไปได้นะ” เทียน่ากล่าว

“แต่ก็ไม่แน่นะถ้าอาจารย์สามารถหลบซ่อนมาได้หลายปีแบบนี้บางทีอาจารย์อาจจะอยู่ที่นี่ก็ได้” มาเดลินกล่าว

“ก็อาจจะเป็นไปได้ แล้วเธอได้ยินอะไรอีกรึเปล่า” ลูเซียถามต่อ

“ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ว่าเท่าที่รู้เหมือนกับว่ากำลังตามหาอะไรสักอย่าง”

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ระวังตัวดีๆล่ะเท่าที่รู้ตอนนี้เราก็ไม่แน่ใจว่าคนที่เธอได้ยินเสียงจะเป็นอาจารย์เดมิร่าจริงๆรึเปล่า” โซอี้กล่าว

“ใช่ ไม่ว่ายังไงก็ควรระวังตัวเธอยิ่งชอบหายไปคนเดียวบ่อยๆอยู่ด้วย” ลูเซียพูดเสริม

 

เช้าวันรุ่งขึ้นคาเลียตก็นำสมุดบันทึกมาให้กับอนาตาเซียตามที่ได้กล่าวเอาไว้โดยเขานัดเจอกับอนาตาเซียที่ด้านหลังของสถานที่พัก

“นี่เป็นสมุดบันทึกที่ฉันเจอใช่ของเธอรึเปล่า” คาเลียตถามขึ้นขณะที่นำสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้กับอนาตาเซียเธอรับมันมาแล้วตรวจดูสมุดบันทึกอย่างสะเอียด

“ตามที่อารอนบอกสมุดบันทึกจะมีอักขระโบราณอยู่ที่ปก” อนาตาเซียคิดในใจ “อารอนๆใช่เล่มนี้รึเปล่า” อนาตาเซียก้มหน้าลงไปกระซิบถามอารอนที่อยู่ในกระเป๋า

“เท่าที่ฉันรู้สึกนะ ฉันรู้สึกว่าน่าจะเป็นเล่มนี้นี่แหละเพราะว่ามันมีพลังบางอย่างที่แฝงอยู่ในสมุดซึ่งพลังนั่นเหมือนกับพลังของฉันไม่มีผิด” อารอนตอบ เมื่อได้ยินดังนั้นอนาตาเซียก็รีบตอบคาเลียตทันทีว่า

“คาเลียตนี่เป็นสมุดบันทึกของฉันเองขอบคุณนายมากนะที่เอามาคืน”

“ไม่เป็นไร ฉันเองก็กำลังจะตามหาเจ้าของอยู่พอดีถ้าเป็นของเธอก็ดีแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวเข้ากลับก่อนนะ” พูดจบอนาตาเซียก็หมุนตัวกลับไปทันที “อารอนสมุดบันทึกของนายอยู่นี่นายจะปรากฏตัวแล้วเอาไปตอนไหน” อนาตาเซียกระซิบ

“เอาเป็นว่าเย็นนี้เธอกลับไปที่โรงเตี๊ยมก็แล้วกันฉันจะปรากฏตัวตอนที่ฟ้ามืดแล้วแล้วก็ที่ที่ไม่มีคน”

“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้เจอกัน”

“อืม”

 

โรงเตี๊ยม

“นี่ออกมาได้แล้วตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ฉันอยู่ในโรงเตี๊ยมแล้ว” เมื่อได้ยืนดังนั้นอารอนก็ปรากฏตัวออกมาทันที

“เฮ้อ! ในที่สุดฉันก็เจอสมุดบันทึกสักที”

“เอาล่ะที่นี่นายจะทำยังไงต่อ”

“คงจะต้องฟื้นฟูความจำกันสักหน่อยแล้ว เอาล่ะเอาสมุดบันทึกของฉันไปวางเอาไว้ที่โต๊ะ” เมื่ออารอนพูดจบอนาตาเซียก็นำสมุดบันทึกไปวางที่โต๊ะตามที่เขาบอกทันที

“ฉันวางเสร็จแล้ว แล้วไงต่อ”

“ฉันจะร่ายมนต์แล้วเธอถอยออกมา”

“อ๋อหรอ” อนาตาเซียรีบเดินออกมาจากโต๊ะแล้วยืนดูอารอนร่ายมนต์ทันที ไม่นานก็มีแสงสว่างออกมาจากสมุดบันทึกเล่มนั้นแล้วอารอนก็หายเข้าไปในสมุดด้วยความรวดเร็ว

“อย่าบอกนะว่าอารอนเข้าไปในสมุดเรียบร้อยแล้ว” อนาตาเซียพูดขึ้นด้วยความสงสัย “จะว่าไปแล้วโลกเวทมนตร์ยิ่งนานวันยิ่งลึกลับแฮะถึงฉันจะอยู่มาเป็นปีแล้วแต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เจออะไรใหม่ๆอยู่ตลอดไม่อยากจะคิดว่าถ้าฉันกลับไปอยู่ในโลกใบเดิมจะเป็นยังไง” อนาตาเซียพูดกับตัวเองตัวความอยากรู้ ตอนนี้เธอนั่งรออารอนอยู่ที่โต๊ะจนเวลาผ่านไปสักพักจนในที่สุดเขาก็กลับออกมา “เป็นยังไงบ้าง” อนาตาเซียถามขึ้น

“ก็ดี”

“ก็ดีหรอแล้วนายจำเรื่องราวในอดีตได้รึเปล่า”

“ฉันจำเรื่องราวในอดีตได้แล้วแต่ตอนนี้แค่ยังรู้สึกสับสนนิดหน่อย เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันเป็นอิสระจากก้อนหินก้อนนั้นแล้ว ส่วนเธอตอนนี้ก็ถือว่าได้ทดแทนบุญคุณที่ฉันเคยช่วยเธอเท่ากับว่าตอนนี้เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ฉันขอไปตัวก่อนนะ”

“เดี๋ยวก่อน ! นายจะไปไหนนายยังไม่ได้บอกอะไรฉันเลยเกี่ยวกับอดีตของนายน่ะ นายจะไปเลยหรอ”

“เฮ้อ ! ขอโทษนะฉันก็อยากจะบอกเธอนะแต่ว่าฉันมีสิ่งที่จะต้องไปทำน่ะ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกก็แล้วกัน” พูดจบอารอนก็หายตัวไปทันที

“เฮ้อ ! ไปซะแล้ว” อนาตาเซียพูดขึ้นด้วยความเศร้าใจ “ฉันพึ่งจะเคยมีเพื่อนเป็นคนแบบนายครั้งแรกยังไม่ทันได้ทำความรู้จักเท่าไหร่นายก็หายไปซะแล้ว เฮ้อ!”

 

กลางดึกคืนนั้น

ขณะที่อนาตาเซียกำลังนอนหลับอยู่นั้นอยู่ๆลมหนาวก็พัดเข้ามาในห้องของเธอเวลานั้นหน้าต่างที่โดนลมพัดอย่างรุนแรงก็ส่งเสียงดังปึงปังๆอยู่เป็นระยะๆความเย็นเริ่มพัดเข้ามาในห้องของเธอเรื่อยๆ ไม่นานอนาตาเซียก็ตื่นขึ้นจากเสียงเรียกของผู้หญิงคนหนึ่ง

“อนาตาเซียๆ ตื่นเร็ว” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเขย่าตัวและเรียกชื่อเธออย่างไม่หยุดหย่อน

“ฮืมมม ใครหรอ” อนาตาเซียพูดขึ้นมาด้วยความงัวเงีย

“อนาตาเซียฉันเอง”

“ใครหรอ”

“ฉันราชินีหิมะ”

“ราชินีหิมะ” ทันทีที่ได้ยินชื่ออนาตาเซียที่อยู่ในภวังค์ก็ตื่นขึ้นมาทันที “คุณมาได้ยังไง”

“เอาล่ะตอนนี้ฉันมีเรื่องด่วนอยากให้เธอช่วย”

“เรื่องด่วนหรอ”

“ใช่ ตอนนี้ฉันถูกลูซิเฟอร์ตามล่าอยู่เธอรับนี่ไปและเก็บเอาไว้” ราชินีหิมะพูดพร้อมกับยื่นดาบมาทอร์ให้กับอนาตาเซีย

“นี่คือดาบมาทอร์หนิ คุณเอามาให้ฉันทำไม ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”

“ไม่ได้ตอนนี้เธอต้องรับมันเอาไว้” ราชินีหิมะตอบ

“ทำไม เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”

“ฉัน ฉันไม่สามารถดูแลมันได้อีกแล้วลูซิเฟอร์กำลังตามหามัน”

“ลูซิเฟอร์หรอ”

“ใช่ เธอช่วยดูแลมันแทนฉันที”

“แต่ดาบ”

“ขอร้องล่ะ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากเธอฉันก็ไม่รู้จะพึ่งใคร”

“ก็ได้ค่ะ”

“แล้วก็จำเอาไว้นะถ้าไม่จำเป็นอย่าให้ใครรู้ว่าเธอมีดาบนี่เด็ดขาดอีกอย่างฉันมีเรื่องที่จะต้องขอร้องเธอ

“ขอร้องฉัน”

“ใช่ ฉันอยากจะขอให้เธอออกไปตามหาของวิเศษทั้ง 5 เพื่อที่จะได้เอาพลังของมันมารวมกันและกำจัดลูซิเฟอร์ ตอนนี้กำลังของพวกมันแข็งแกร่งขึ้นแล้วมันกำลังตามล่าคนที่ดูแลของวิเศษฉันเองก็เหมือนกัน”

“แต่คุณเคยบอกว่าพลังของลูซิเฟอร์สู้พลังของดาบไม่ได้นี่คะ”

“ตอนนี้ลูซิเฟอร์มีกริซอสูร กริซนั่นสามารถทำลายของวิเศษได้ ความจริงแล้วกริซนั่นคือกริซที่ถูกสร้างขึ้นมาจากปรโลก ที่ซึ่งเป็นโลกของวิญญาณหรือคนที่ตายไปแล้วกริซนั่นเป็นกริซที่มีอานุภาพมาก มีคนบางคนลงไปนำมันมาให้เขา ตอนนี้เธอต้องรีบตามหาของวิเศษทั้งหมดให้ได้เป็นทางเดียวที่จะสามารถช่วยเหลือทุกคนได้”

“แต่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครบ้างที่มีของวิเศษ”

“หนังสือเล่มนี้จะช่วยเธอได้” ราชินีหิมะพูดขึ้นพร้อมกับยื่นหนังสือโบราณ 1 เล่มให้เธอ”

“ตอนนี้ฉันมีเวลาไม่มากคงช่วยเธอได้แค่นี้ เอาล่ะฉันต้องไปก่อนแล้วไม่อย่างนั้นพวกมันอาจจะรู้ว่าฉันมาที่นี่” พูดจบราชินีหิมะก็จากไปพร้อมกับลมหนาวทันที ไม่นานสภาพอากาศในห้องก็กลับมาอบอุ่นเหมือนเดิมหลังจากที่เธอเก็บดาบเข้ากระเป๋ามิติของตัวเองเรียบร้อยแล้วเธอก็รีบเปิดอ่านประวัติผู้ดูแลของวิเศษทันที

“หนังสือรวมประวัติผู้ดูแลของวิเศษ” เสียงอนาตาเซียที่กำลังอ่านปกหนังสือที่ราชินีหิมะมอบให้เธอด้วยความอยากรู้ “อืม ในหนังสือบอกว่าผู้ที่ดูแลของวิเศษทั้ง 5 มีทั้งหมด 5 คน คือ 1 ราชินีหิมะแห่งเทือกเขาน้ำแข็งผู้ดูแลดาบมาธอร์

2 อารอน ราชาแห่งเงาผู้ดูแลคทาเหนือภิภพ เอ้ หรือว่าอารอนที่เราเจอคือเขาเองหรอ โชคดีที่มีรูปให้ดูไหนดูสิเป็นคนเดียวกันรึเปล่า” พูดจบอนาตาเซียก็รีบดูรูปของอารอนราชาแห่งเงาทันที “ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเขาจริงๆ เฮ้อ! ถ้ารู้อย่างนี้น่าจะขอที่ติดต่อเขาหน่อยก็ดี ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ต้องมาลำบากแบบนี้ แล้วฉันจะไปตามหาเขาที่ไหนดีล่ะเนี่ยพูดแล้วก็น่าโมโหอุตส่าห์เจอหนึ่งในผู้คนดูแลทั้ง 5 แล้วไม่น่าพลาดเลยเรา เอาล่ะอ่านคนต่อไปก่อนดีกว่า

3 เฮเลน่าราชินีแห่งหุบเขาไอทานีหรือราชินีเอลฟ์ผู้ดูแลคันศรแห่งเทวา “ราชชินีผู้ดูแลของวิเศษแต่ละองค์แลดูสวยจัง” อนาตาเซียพูดขึ้นด้วยความตะลึงขณะมองที่รูปภาพบนกระดาษ

4 แมคโลริคราชาแห่งท้องทะเลเป็นผู้ดูแลตรีศูลแห่งบัลลังก์ “ราชาแห่งทะเลดูท่าครั้งนี้คงจะต้องพึ่งมาเดลินซะแล้ว

5  เซ็นเซย่าราชินีแห่งพายุเป็นราชินีแห่งทะเลทรายลึกลับผู้ดูแลโล่มีทัสควบคุมพายุ “จะว่าไปแล้วครั้งนี้คงจะไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อนซะแล้วแถมยังยังไม่รู้ด้วยว่าจะหาเจอรึเปล่า เฮ้อ !” เสียงอนาตาเซียถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าใจ “จะเริ่มหาจากที่ไหนก่อนดี อืม......เอาเป็นว่าเริ่มที่ราชาแห่งเงาก่อนแล้วกันน่าจะมีโอกาสเจอมากกว่าอย่างอื่น ไม่อยากจะเชื่อว่าอารอนคือราชาแห่งเงาเจอเขาครั้งหน้าฉันจะต้องทำความเคารพรึเปล่า พูดแล้วก็ทำตัวไม่ถูกเลย” อนาตาเซียพูดกับตัวเองด้วยความสับสนและก็ตั้งใจอ่านหนังสือต่ออย่างขมักเขม้น

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!