บทที่ 2 บุรุษปริศนา
เช้าวันรุ่งขึ้นอนาตาเซียทำทุกอย่างตามปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยวันนี้อาจารย์ได้พาเธอไปตั้งแคมป์ในป่าเพื่อที่จะได้เพิ่มความสนุกและเรียนรู้เรื่องพืชพรรณในป่าโดยนักเรียนทุกคนจะได้รู้และเข้าใจว่าพืชแต่ละชนิดมีประโยชน์อะไร ขณะนั้นเองทันทีที่โอลิเวียกับเพื่อนของเธอเห็นว่าอนาตาเซียกลับมาโดยไม่ได้ติดอยู่ในสุสานและเธอยังปลอดภัยไม่เป็นอะไรอีกมันจึงทำให้ทั้งสามรู้สึกแปลกใจมาก
“ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้” โอลิเวียพูดขึ้นขณะที่เห็นอนาตาเซียเดินมารวมกลุ่มกับนักเรียนคนอื่นๆที่กำลังเตรียมตัวเลือกจุดสำหรับตั้งแคมป์
“หรือว่ามันเจอทางออก” วิกตอเรียที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดเสริม
“เป็นไปไม่ได้ต้องมีคนพามันออกมาแน่” ไครีย์ตอบขึ้นอย่างรวดเร็ว
“จะยังไงตอนนี้มันก็ออกมาแล้วเราต้องหาวิธีอื่น” โอลิเวียกล่าว
“วิธีอื่นหรอ” วิกตอเรียถามขึ้น
“ใช่ แต่จะต้องให้มันโหดกว่านี้ แล้วก็เรื่องสุสานฉันว่าคงจะเป็นแค่เรื่องหลอกเด็กครั้งต่อไปเธอก็อย่าไปเชื่ออะไรแบบนี้อีกก็แล้วกัน” โอลิเวียพูดด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
“แล้วเธอจะทำยังไงต่อ” วิกตอเรียถาม
“ในเมื่อครั้งนี้มันออกมาได้ ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องหาอย่างอื่นที่หนักกว่าเดิมดูสิว่าครั้งต่อไปมันจะยังโชคดีอยู่ไหม เอาล่ะเธอสองคนไปสำรวจดูว่าแถวนี้มีอะไรที่พอจะทำให้มันหายหน้าไปจากที่นี่แล้วก็ครั้งนี้ห้ามพลาดเหมือนครั้งที่แล้วอีกล่ะ” โอลิเวียกล่าวความไม่พอใจ
“ได้ เราสองคนจะรีบไปเดี๋ยวนี้” พูดจบวิกตอเรียและไครีย์ก็รีบออกไปจากกลุ่มตั้งแคมป์ทันทีเพื่อไปสำรวจรอบๆป่า ทั้งสองคนเดินเดินไปเรื่อยจนพบกับหลุมขนาดใหญ่ที่นายพรานใช้เป็นกับดักสำหรับจับสัตว์เพียงแต่ว่าหลุมนี้ไม่ได้ถูกใช้มานานแล้วดังนั้นวิกตอเรียและไครีย์จึงช่วยกันใช้ร่ายเวทย์ทำให้หลุมใหญ่ขึ้น
“วิกตอเรียฉันร่ายคาถาเรียบร้อยแล้ว”
“เอาล่ะฉันจะร่ายคาถาเอาเศษหญ้าและกิ่งไม้ออกก็แล้วกัน”
“ตกลง”
“ครั้งนี้เราจะพลาดไม่ได้” หลังจากที่ทั้งสองก็ได้จัดการหลุมเรียบร้อยแล้วทั้งสองก็ได้ร่ายคาถาปกปิดหลุมเอาไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นหรือใครสามารถมองเห็นหลุมนี้ได้
“วิกตอเรียตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเราจะทำยังไงให้มันมาตกหลุมนี่ดี” ไครีย์ถามด้วยความสงสัย
“ถ้าจะส่งจดหมายไปแบบครั้งที่แล้วมันก็ดูจะยังไงๆอยู่ ถ้าอย่างนั้นพวกเราลองทำแบบนี้ดูไหม ฉันจะให้พิน่าไปหามันทำเป็นว่าของหายแล้วขอให้อนาตาเซียไปช่วยหาแล้วเมื่อไหร่ที่มันเผลอก็ผลักมันลงไปในหลุมโดยฉันจะทำสัญลักษณ์เอาไว้ให้พิน่ารู้ว่าหลุมอยู่ตรงไหน”
“ตกลงแผนนี้ใช้ได้เลย แล้วก็อย่าลืมอาศัยจังหวะที่มันอยู่คนเดียวด้วยนะจะได้ไม่มีใครสามารถช่วยมันออกมาจากหลุมได้”
“แน่ใจใช่ไหมว่าพิน่าจะใช้การได้”
“แน่นอนยายนั่นไม่ค่อยมีเงินก็แค่เอาเงินให้มันก็ทำตามที่เราสั่งแล้ว”
“ดี ถ้าอย่างนั้นเรารีบเอาแผนไปบอกโอลิเวียเถอะ”
“อืม” หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยทั้งสองก็กลับไปหาโอลิเวียที่แคมป์ด้วยความรวดเร็ว
เย็นวันนั้นขณะที่อนาตาเซียกำลังยังจดบันทึกอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่นั้นพิน่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอก็เดินมาหาอนาตาเซียด้วยท่าทีที่เป็นกังวลและพูดกับเธอว่า
“อนาตาเซียคือว่าก่อนหน้านี้ฉันออกไปเดินเล่นแล้วบังเอิญทำสร้อยที่คุณยายให้หายไปแถวต้นไม้ใหญ่ด้านนู้นเธอไปช่วยฉันหาหน่อยได้ไหม”
“อ๋อ ได้สิ” พูดจบอนาตาเซียก็หยุดเขียนสมุดบันทึกและเดินตามพิน่าไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ไกลออกไปจากจุดตั้งแคมป์ซึ่งเธอเองก็ไม่คิดว่ามันจะไกลขนาดนี้ “ พิน่าเธอทำไมถึงออกมาเดินเล่นไกลจัง” อนาตาเซียถามขึ้นด้วยความสงสัย
“อะ...อ๋อ คือว่าฉันชอบออกมาหาที่สงบๆนะ” พิน่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
“อย่างนี้นี่เองต่อไปก็ระวังตัวด้วยล่ะเธอออกมาเดินไกลขนาดนี้ระวังจะหลงทางนะ”
“จ๊ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ นั่นไงถึงต้มไม้ใหญ่พอดีเลยฉันจะหาตรงนี้ส่วนเธอไปหาตรงนั้นนะ”
“ตกลง” ทั้งสองต่างช่วยกันหาสร้อยอย่างขมักเขม้น ทันใดนั้นขณะที่อนาตาเซียกำลังก้มหน้าหาสร้อยอยู่นั้นพิน่าก็อาศัยจังหวะที่อนาตาเซียกำลังก้มหน้าหาสร้อยอยู่นั้นพิน่าก็ผลักอนาตาเซียลงไปในหลุมขนาดใหญ่ทันที “อ้า.....ตุบ” เสียงอนาตาเซียร้องออกมาด้วยความตกใจ “โอ๊ย ! หลุมอะไรมาอยู่แถวนี้เนี่ย พิน่าๆฉันตกลงมาในหลุมช่วยฉันด้วย” เงียบ “เอ๊ะ ทำไมไม่มีเสียงตอบ พิน่าได้ยินไหมฉันตกลงมาในหลุม” อนาตาเซียพูดอีกครั้งพร้อมกับตะโกนออกไปให้ดังกว่าเดิม “พิน่าๆได้ยินรึเปล่า ทำไมไม่มีเสียงใครตอบกลับมาเลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” ขณะที่อนาตาเซียกำลังยืนงงอยู่ในหลุมจู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นหูของบุคคลบุคคลหนึ่งพูดขึ้นที่ปากหลุมด้วยน้ำเสียงที่เยอะเย้ยว่า
“ตะโกนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก” เสียงวิกตอเรียที่ยืนอยู่ปากหลุมพูดขึ้นด้วยความสะใจ
“ไงอนาตาเซีย อยู่ข้างล่างรู้สึกเป็นยังไงบ้าง” โอลิเวียที่ยืนอยู่ด้านบนของหลุมเอ่ยขึ้น
“โอลิเวีย นี่เป็นฝีมือของเธอเองหรอ”
“อะไรกันฉันก็แค่บังเอิญผ่านมาก็เท่านั้น”
“โกหกเธอเป็นคนทำใช่ไหม”
“ฮ่าๆๆ ถ้าใช่แล้วจะยังไง ทำได้ดีมากเลยพิน่าครั้งนี้เธอไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ เอาเป็นว่าฉันจะให้รางวัลกับเธอก็แล้วกัน ไครีย์เอารางวัลให้พิน่าหน่อยสิ” พูดจบไครีย์ก็ยื่นถุงสีแดงที่มีเงินอยู่จำนวนหนึ่งให้กับพิน่า
“ขอบคุณ” พิน่าตอบและหลังจากที่รับเงินเรียบร้อยแล้วพิน่าก็เดินจากไปทันที
“เธอเป็นคนบอกให้พิน่ามาหลอกฉันหรอ”
“ฉลาดหนิ แต่มาฉลาดตอนนี้ก็คงจะไม่ทันแล้วล่ะ”
“โอลิเวียเอาฉันขึ้นไปเดี๋ยวนี้”
“แล้วถ้าไม่ เธอจะทำอะไรฉันได้ เอาล่ะขอให้นอนในหลุมให้สนุกนะ คืนนี้เธออาจจะโดนแมลงอะไรแถวนี้กัดจนตัวลายก็ได้นอนตากลมสักคืนคงจะไม่เป็นไรหรอกเพราะเธอน่ะเก่งอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ฮ่าๆๆ พวกเราไปกันเถอะ”
“เดี๋ยว โอลิเวียๆๆ กลับมาเอาฉันขึ้นไปเดี๋ยวนี้นะ โอลิเวีย”
แม้ว่าอนาตาเซียจะพูดอะไรหรือตะโกนดังแค่ไหนแต่ตอนนี้ในป่าก็ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอเพราะพวกของโอลิเวียก็ได้กลับไปที่แคมป์ส่วนเธอก็อยู่ในป่าที่มืดมิดและไร้ซึ่งผู้คน
“ไม่อยากจะเชื่อว่าพวกนั้นจะทำแบบนี้” อนาตาเซียสถบออกมาด้วยความโมโหพร้อมกับนั้งลงไปยังพื้นทันที ขณะที่เองก็มีเสียงปริศนาพูดขึ้นว่า
“ดูท่าครั้งนี้เธอคงจะซวยจริงๆแล้วล่ะ” เสียงของชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“นั่นเสียงใคร” อนาตาเซียพูดและมองไปรอบๆ
“ฉันเอง”
“ใคร นายอยู่ไหน”
“ฉันอยู่นี้ เธอลองก้มลงมองมาที่กระเป๋าสิ”
เมื่อได้ยินดังนั้นอนาตาเซียก็ก้มลงมองไปยังกระเป๋าของตนและพบว่าในกระเป๋าของเธอมีก้อนหินที่เธอบังเอิญถือติดมาจากสุสาน
“นายอยู่ในก้อนหินหรอ”
“ใช่ ฉันอยู่ในก้อนหิน”
“เอ่อ......ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพานายมาด้วยนะเอาเป็นว่าถ้าฉันออกไปได้แล้วฉันจะเอานายไปคืนที่สุสานก็แล้วกัน”
“ไม่ต้องๆเรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”
“นายจะช่วยฉันออกไปจากที่นี่หรอ”
“ฉันช่วยเธอออกไปได้นะถ้าเธอต้องการ เธออยากจะกลับไปที่ตั้งแคมป์เลยรึเปล่า”
“ฉันว่าฉันอยากหาที่สงบๆอยู่สักพักพรุ่งนี้ตอนเช้าค่อยกลับแคมป์ก็ไม่เป็นไร นายพอจะรู้จักสักที่ไหม”
“ทำไมเธอไม่เป่านกหวีดที่ผู้ชายคนนั้นให้เธอล่ะบางทีเรื่องที่พักเขาอาจจะช่วยเธอได้ก็ได้นะ”
“อืม ฉันยังไม่อยากไปรบกวนเขาเอาเป็นว่านายช่วยฉันออกไปจากหลุมนี่ก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวฉันค่อยตัดสินใจทีหลัง”
“ก็ได้”พูดจบชายคนนั้นก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้งทันทีที่เสียงดีดนิ้วจบลงอนาตาเซียก็ขึ้นมาบนหลุมทันที
“เวทย์ของนายนี้ร้ายกาจไม่เบา”
“มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว”
“ทำไมนายถึงมาอยู่ในก้อนหินได้แล้วนายมีร่างรึเปล่า”
“ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่ามาอยู่ในนี้ได้ยังไงส่วนเรื่องร่างฉันจะปรากฏร่างได้แค่บางครั้งบางคราวเท่านั้น”
“งั้นหรอแล้วนายจะให้ฉันทำยังไงกับนายส่งนายกลับสุสานหรอ”
“ฉันไม่อยากกลับสุสาน อืม......เอาเป็นว่าเมื่อกี้ฉันช่วยเธอเท่ากับว่าเธอติดหนี้บุญคุณฉัน 1 ครั้ง”
“เฮ้อ ! ว่าแล้วเชี่ยวคงจะไม่ได้ช่วยกันเปล่าๆหรอก เอาล่ะนายอยากให้ฉันทำอะไรเป็นการตอบแทน”
“เธอต้องช่วยฉันตามหาสมุดบันทึก”
“สมุดบันทึก”
“ใช่ ในนั้นมันจะมีความทรงจำของฉันอยู่”
“นายจำไม่ได้แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าในนั้นมีความทรงจำของนายอยู่”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“นายมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไงหรอ”
เมื่อได้ยินดังนั้นชายในก้อนหินก็ปรากฏร่างขึ้นตรงหน้าของอนาตาเซียทันที เขามีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงสวมผ้าคลุมสีดำยาวและแต่งตัวค่อนข้างเหมือนคนในยุคก่อน เขามีผมสีดำสนิทผิวสีขาวเหลืองดวงตาสีเขียวมรกตปากสีธรรมชาติพร้อมกับเคี้ยวเล็กๆสองข้าง
“นายเป็นเผ่าแวมไพร์หรอ”
“ใช่”
“นายมีชื่อรึเปล่า”
“ฉันชื่ออารอน”
“ฉันอนาตาเซีย ยินดีที่ได้รู้จัก”
“นอกจากสมุดบันทึกนายจำอะไรได้อีกบ้าง”
“เท่าที่ฉันจำได้ก็มีแค่นี้ ฉันรู้แค่ว่าฉันจะต้องตามหาสมุดบันทึกซึ่งมันจะบอกประวัติของฉันทั้งหมดแล้วก็ถ้าเธอช่วยฉันตามหาสมุดบันทึกฉันจะถือว่าเธอได้ใช้หนี้บุญคุณที่ฉันเคยช่วยเธอก็แล้วกัน”
“ตกลง แล้วจะให้ฉันเริ่มหายังไง”
“สมุดบันทึกของฉันถูกซ่อนเอาไว้ที่ไหนสักที่ในสุสาน”
“สุสานที่ฉันเจอนายน่ะหรอ”
“ใช่”
“แล้วจะให้ฉันเริ่มหาตรงไหนก่อน”
“ฉันว่าเธอไปหาที่พักก่อนเถอะส่วนเรื่องตามหาสมุดบันทึกพรุ่งนี้ฉันจะส่งสัญญาณเอง”
“เอาแบบนั้นก็ได้”
“แล้วตกลงเธอจะไปพักที่ไหน”
“อืม...ไม่รู้สิ”
“เฮ้อ ! ถ้าเธอไม่มีที่ไปก็กลับไปพักที่แคมป์เถอะ”
“จริงๆฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากกลับไปที่แคมป์แต่ฉันคิดว่าฉันจะอาศัยช่วงที่พวกนั้นคิดว่าฉันอยู่ในหลุมไปทำธุระน่ะ”
“ธุระ”
“ใช่”
“พวกนั้นชอบตามเธอหรอ”
“พวกนั้นแค่ชอบจับผิดน่ะ ช่วงหลังๆมานี่พวกนั้นมักจะตามฉันแล้วก็ก่อกวนอยู่บ่อยๆฉันก็เลยเบื่อ”
“อ๋อ แล้วถ้าหายไปอาจารย์จะไม่ตามหาเธอหรอ”
“ไม่หรอกคนเยอะจะตายเขาไม่มาสนใจคนแค่คนเดียวหรอกมันก็แค่การออกมาทัศนศึกษา ไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายเท่าไหร่อาจารย์ไม่ทันสังเกตเรื่องนี้หรอก”
“แล้วเธอจะไปไหน”
“พอดีกว่าฉันสงสัยอะไรบางอย่างกับพวกที่เอาฉันมาปล่อยในสุสานน่ะ”
“สงสัยหรอ สงสัยอะไร”
“ตอนที่ฉันเข้าไปในสุสานระหว่างทางกลับฉันเจอต่างหูข้างหนึ่งหล่นอยู่ที่พื้นซึ่งฉันคิดว่าคนที่เป็นเจ้าของต่างหูนี่ต้องเป็นคนที่ส่งจดหมายให้ฉันเพื่อให้ฉันเข้าไปในสุสานฉะนั้นฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ”
“อาจจะเป็นพวกผู้หญิงเมื่อกี้ก็ได้นะ”
“ถ้าเป็นพวกนั้นก็ดี”
“ดีหรอ”
“ใช่ ยังไงก็เป็นการทำเพื่อความสะใจ ไม่ได้มีเจตนาอื่น”
“เธอนี่ชีวิตดูวุ่นวายจัง ฉันช่วยเธอตามหาเจ้าของต่างหูได้นะ”
“จริงหรอ”
“ใช่ เอาต่างหูนั่นวางบนฝ่ามือแล้วยื่นออกมาสิ” เมื่อได้ยินดังนั้นอนาตาเซียก็ทำตามที่อารอนพูดทันที อารอนใช้พลังเวทย์บางอย่างร่ายลงไปบนต่างหูหลังจากนั้นต่างหูก็ส่องแสงและลอยขึ้นทันที “ต่างหูนี่จะลอยไปที่ที่เจ้าของของมันอยู่ถ้าเธอเดินตามไปก็จะพบกับเจ้าของมัน เมื่อได้ยินอารอนพูดเสร็จอนาตาเซียก็เดินตามต่างหูข้างนั้นไปทันทีต่างหูลอยมาที่แคมป์ของเธอและค่อยๆลอยเข้าไปยังที่พักของโอลิเวีย
“เป็นเธอจริงๆด้วย โชคดีที่ไม่ใช่คนอื่น”
“คนอื่นที่เธอว่าเธอหมายถึงใครหรอ” อารอนถามขึ้นด้วยความอยากรู้
“นายไม่ต้องสนใจหรอกเอาล่ะฉันจะไปหาที่อื่นพักนายจะกลับเข้ามาอยู่ในก้อนหินเลยไหม”
“อืม แล้วเธอได้ที่พักแล้วหรอ”
“ได้แล้วล่ะ ฉันจะไปพักที่โรงเตี๊ยม”
“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นฉันไปล่ะ” พูดจบอารอนก็กลับเข้าไปอยู่ในก้อนหินทันที
โรงเตี๊ยม
แอ๊ด เสียงประตูโรงเตี๊ยมเปิดออกและชายเจ้าของร้านก็พบกับหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม ซึ่งคนที่เปิดประตูโรงเตี๊ยมก็คืออนาตาเซียที่กำลังต้องการหาที่พักและเธอก็มาเจอโรงเตี๊ยมแห่งนี้พอดี
“สาวน้อยเธอมากี่คน” ชายเจ้าของโรงเตี๊ยมถามขึ้น
“คนเดียวค่ะ”
“จะเอาที่พักแบบธรรมดาหรือพิเศษ”
“เอาที่พักที่อยู่ชั้นบนและมีหน้าต่างค่ะ”
“ตกลง” พูดจบชายเจ้าของโรงเตี๊ยมก็ยื่นกุญแจห้องให้กับอนาตาเซีย ส่วนเขาก็รับถุงเงินที่อนาตาเซียให้ไปทันที หลังจากรับกุญแจมาเรียบร้อยแล้วอนาตาเซียก็เดินไปที่ห้องของเธอทันที เมื่อเธอมาถึงห้องพักเธอตรงไปนอนบนที่เตียงด้วยความเหนื่อยล้าไม่นานเธอก็หลับเข้าสู่ในห่วงนิทราโดยไม่รู้ตัว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 18
Comments