หากจะพูดกันด้านพลัง
พลังเทพก็อาจจะถือว่าอยู่จุดสูงสุด แต่ในโลกของผู้สร้างใบนี้ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้ผู้ใดยิ่งใหญ่จนทำลายความสมดุล
ยกเว้นบุตรผู้ซึ่งไร้อารมณ์
แต่ก็ยังมีปลารอดแหอย่างอสูรครึ่งเทพเผ่าพันธุ์อมตะหรือก็คือเทียนจวิน
ที่ไม่รู้ที่มาของชาติกำเนิด อยู่นอกเหนือกฎของธรรมชาติ
และบางทีร่างของโจจื่อเสียนเองก็เช่นกัน
แรงกดดันของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์ นอกจากจะไม่มีผลกับโจจื่อเสียนและหนานเฟิ่งหวงแล้ว
ยังรวมไปถึงฉิงที่เก้าอีกด้วย
อย่าได้ดูถูกสายเลือดอสูรครึ่งเทพอย่างเจ้าหญิงเมืองอสูรแห่งนี้
เพียงนางปลดปล่อยพลังออกมา แรงกดดันของเทพธิดาก็มลายหายไปทันที
"นี่เจ้า!"
สองครั้งในวันเดียว
ที่เทพธิดาขั้นสูงที่ต้องมาเป็นรองให้สตรีเผ่าพันธุ์ต่ำกว่าถึงสองนาง
ใบหน้างามที่เคยฉาบไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นถมึงทึง
"อยากสู้? หึหึ
ข้าก็อยากรู้นักว่าพลังเทพของเจ้าจะเก่งกาจสักแค่ไหน"
เงาร่างสีม่วงกะพริบหายไปจากห้องโถง
ตามด้วยเงาร่างสีขาว
สีหน้าของราชันอสูรที่สี่เปลี่ยนมาเป็นเคร่งขรึมจริงจัง
ร่างกะพริบหายไปจากบัลลังก์หิน
"พี่เฟิ่ง ผลึกอยู่ในดวงจิตของฉิงที่เก้า"
หนานเฟิ่งหวงนิ่วหน้าเล็กน้อย
ก่อนที่จะพาร่างบางในอ้อมแขนกะพริบหายไป
ซือซานและจูจูก็ตามผู้เป็นนายทั้งสองไปเช่นกัน
ครืน ครืน
บนยอดเขาห่างจากเมืองอสูรที่สี่ไปไม่ไกล
ร่างงดงามทั้งสองต่างยืนประจันหน้ากันกลางอากาศ สายลมกระโชกแรงจนเกิดเสียงดัง
ร่างใหญ่โตของราชันอสูรที่สี่ปรากฏขึ้นห่างพื้นที่การต่อสู้ไม่ไกล
ตามด้วยกลุ่มของโจจื่อเสียน และบรรดาเหล่าบริวารอสูร
"เซิ่งหนี่ว์! เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าทำงั้นหรือ!
เจ้ามาก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องหาทางบุกเข้าไปสังหารเจ้าในดินแดนเทพ!" มุมปากฉิงที่เก้ายกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน ดวงตาทอประกายสังหาร
"อสูรชั้นต่ำอย่างเจ้าน่ะหรือ
คิดจะสังหารข้า!" เส้นไหมสีทองปรากฏรอบนิ้วมือเรียวงามของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์ ก่อนจะกระจายเต็มท้องฟ้า
หมอกสีม่วงหลั่งไหลออกมาจากร่างเจ้าหญิงเมืองอสูร
กลายเป็นร่างจำแลงของนางนับสิบ
"ฆ่าได้หรือไม่! คงต้องลองดู!"
เงาร่างสีม่วงนับสิบพุ่งเข้าจู่โจมทันที
ทักษะที่เทพธิดาเซิ่งหนี่ว์ใช้
แม้ไม่ใช่ทักษะหลักของนาง แต่ก็ถือว่าค่อนข้างร้ายกาจ เพราะเส้นไหมเหล่านั้นสามารถตัดได้กระทั่งจิตวิญญาณ
เมื่อร่างจำแลงของฉิงที่เก้าเข้าปะทะกับปราการเส้นไหม
ก็กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
เห็นเช่นนั้นมุมปากของเซิ่งหนี่ว์กำลังจะยกขึ้น
แต่ก็ต้องชงักค้าง
เศษเล็กเศษน้อยของร่างจำแลงกลับกลายเป็นร่างใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
เรียกว่ายิ่งตัดยิ่งเพิ่ม
"ฮ่า ๆ เป็นเทพแล้วอย่างไร
เจ้าคงคิดว่าตนเองสูงส่งมากล่ะสิ ข้าจะบอกอะไรให้อย่าง
ผู้สร้างไม่มีทางยอมปล่อยให้เผ่าพันธุ์ใดยิ่งใหญ่จนลงมือทำลายความสมดุลของโลกใบนี้ได้
เพราะฉะนั้น ทักษะของเจ้าเมื่ออยู่ในดินแดนเทพก็อาจจะเป็นเลิศ แต่เมื่อนำมาใช้ในดินแดนอื่น
ย่อมต้องอ่อนด้อยเป็นธรรมดา วันนี้ ข้าจะแก้แค้นให้เทียนจวิน!!!"
ถึงแม้จะตกใจกับพลังของสตรีตรงหน้า
แต่ถึงอย่างไรก็เป็นถึงเทพธิดา
เส้นไหมสีทองถูกเรียกกลับ ก่อนที่ร่างระหงจะหลบหลีกการโจมตีของร่างอสูรจำแลงนับร้อยร่าง
โจจื่อเสียนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ห่างๆ
ตกตะลึงในคำพูดของฉิงที่เก้ายิ่งกว่าพลังอันสูงส่งของนางเสียอีก
แก้แค้นให้ข้าหรือ?
ด้วยความที่ไม่ได้มีความคิดซับซ้อน เทียนจวินย่อมคิดไม่ถึงเรื่องความชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์
แต่มันไม่ใช่กับฉิงฉิง
หลังจากที่เทียนจวินถูกมหาเทพกักขัง
ฉิงที่เก้าก็คาดเดาได้ทันทีว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ
จนในที่สุดนางก็สืบรู้ว่าเป็นแผนชั่วของเซิ่งหนี่ว์
และนั่นทำให้เจ้าหญิงแห่งเมืองอสูรต้องกักตนฝึกฝนบ่มเพาะพลังมาหลายหมื่นปี
เพื่อจะบุกดินแดนเทพ แก้แค้นให้เทียนจวิน
วูมมมมมม
อั่ก!
การต่อสู้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อไร้ตะเกียงอมตะซ้ำดวงจิตยังบาดเจ็บ
พลังของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์จึงตกเป็นรองฉิงที่เก้า ไม่นานนางก็ได้รับบาดเจ็บ ร่วงหล่นลงมากระแทกพื้น
เพราะการสัมผัสกับร่างอสูรจำแลง
ทำให้พลังเทพของนางถูกดูดกลืนหายไปทีละเล็กทีละน้อย
เซิ่งหนี่ว์ค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืน
ยกฝ่ามือขึ้นกุมหน้าอก ดวงตาคู่งามจ้องเขม็งไปยังสตรีชุดม่วง นัยน์ตาดำค่อยๆ แผ่ขยายจดบดบังตาขาวจนมิด
ครืนนนน!
หมอกดำสนิทกระจายออกมาจนท่วมร่าง
จนกระทั่งร่างเทพธิดาที่เคยอยู่ในชุดขาวบริสุทธิ์ เปลี่ยนมาเป็นชุดดำสนิท
เงาร่างสีดำกะพริบหายจากพื้นดิน ขึ้นมายืนกลางอากาศ
แค่เล็บทั้งห้ากางออก
ร่างจำแลงของฉิงที่เก้าก็ถูกดูดหายเข้าไปในร่างเซิ่งหนี่ว์จนหมด
"ปีศาจ!!?"
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงเมืองอสูร
ราชันอสูรที่สี่ รวมทั้งซือซาน และจูจู ต่างก็พากันรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
มีเพียงสองคนที่ดูจะไม่ตกใจกับการเปลี่ยนเปลงของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์
หนานเฟิ่งหวงนั้นคงไม่ต้องเอ่ยถึง
ต่อให้เซิ่งหนี่ว์กลายเป็นอะไร ก็มิอาจทำให้ชายหนุ่มสนใจได้อยู่ดี
เพราะอารมณ์ความรู้สึกเกิดกับคนเพียงคนเดียว
ส่วนโจจื่อเสียนก็รู้อยู่ก่อนแล้วด้วยทักษะการส่องจิต
แต่ไม่นึกว่านางจะเปิดเผยตัวตนเร็วถึงเพียงนี้ จากประสบการณ์ของเทียนจวิน
เวลานี้ฉิงฉิงไม่อาจสู้ปีศาจเซิ่งหนี่ว์ได้แน่
ยังไม่ทันที่โจจื่อเสียนจะเอ่ยเตือน
เสียงกรีดร้องของวิญญาณพยายาทก็ดังจนแสบแก้วหู
หลุมดำชั่วร้ายปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า
"ถึงกับต้องให้ข้าใช้ร่างจริง!
ข้าจะทำให้จิตวิญญาณของเจ้ากลายมาเป็นทาสของข้า!! "
เสียงเหยียบเย็นเอ่ยขึ้นอย่างเนิบช้า
ฝ่ามือสะบัดเพียงเบาๆ พลังในหลุมดำก็พุ่งไปพันรัดร่างของฉิงที่เก้า
พยายามดึงนางเข้าไป
เจ้าหญิงเมืองอสูรไร้ซึ่งหนทางต่อต้าน
เพราะพลังแตกต่างกันเกินไป ทำให้ร่างของนางถูกดูดเข้าไปใกล้หลุมดำมากขึ้นทุกที
"ต่อให้ข้าต้องตาย! ข้าก็จะลากเอาเจ้าไปด้วย!
นางปีศาจชั่ว! "
แสงสีทองส่องประกายออกมาจากดวงจิตของเจ้าหญิงเมืองอสูร
ช่วยชะลอการถูกดูดเข้าไปหาหลุมดำให้ช้าลง
ราชันอสูรที่สี่เห็นท่าไม่ดี
บนแผ่นหลังก็มีปีกางออก พร้อมกับสองเขางอกออกมาพ้นศีรษะ "ลูกเก้า
อย่าได้ทำเช่นนั้น!! " ร่างใหญ่โตรีบเข้าไปช่วยบุตรี
แต่กลับถูกฝ่ามือยักษ์คว้าจับตัวเอาไว้
"วันนี้ไม่เพียงพวกเจ้าที่จะกลายมาเป็นทาสของข้า! แต่ข้าจะทำให้ดินแดนอสูรกลายเป็นดินแดนร้าง! ฮ่าๆ "
"ฉิงฉิง!! "
ครืน
สายฟ้าในร่างโจจื่อเสียนคำรามลั่น เทียนจวินไม่อาจปล่อยให้ฉิงที่เก้าใช้พลังจากผลึกทำลายจิตวิญญาณของตัวเองได้
ดวงตามีสายฟ้าวาบผ่าน
ตั้งแต่ปลุกเส้นวิญญาณเส้นที่ห้ามา
โจจื่อเสียนยังไม่เคยได้ทดสอบพลังและทักษะของมันเลยสักครั้ง
ตอนนี้ร่างทั้งร่างแทบจะกลายเป็นสายฟ้า
ครืน ๆ
มังกรวารีตัวอ้วนทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าขานรับพลังของผู้เป็นนาย
พร้อมกับเมฆดำทะมึนที่เข้ามาแทนที่ความมืดของเซิ่งหนี่ว์
ไม่เพียงแค่โจจื่อเสียนเท่านั้นที่ไม่ต้องการให้ฉิงที่เก้าใช้พลังของผลึก
หนานเฟิ่งหวงเองก็เช่นกัน ถึงแม้ความต้องการจะแตกต่าง แต่ก็มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน
ดวงไฟสีทองปรากฏขึ้นในแววตา
มังกรขาวตัวมหึมาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเคียงคู่กับมังกรวารี
โฮกกกกกกก
การกระทำของทุกคนทำให้ปีศาจเซิ่งหนี่ยกยิ้มมุมปาก
"คราแรกข้าคิดจะรอให้พวกเจ้าได้ผลึกจนครบเสียก่อนแล้วค่อยดึงวิญญาณมาเป็นทาส
แต่ในเมื่อพวกเจ้ารีบนัก ข้าจะได้จัดการทีเดียวพร้อมกันเลย"
ปากของหลุมดำเริ่มขยายใหญ่ขึ้น
อสูรระดับต่ำที่อยู่ใกล้ถูกดูดหายเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้พวกที่เหลือต้องพากันถอยห่าง
แม้แต่ร่างราชันอสูรที่ถูกพันธนาการก็กำลังถูกดูดเข้าไปเช่นกัน
"ปีศาจชั่ว! เจ้ารู้หรือไม่ ว่ากำลังทำลายสมดุลของโลก!"
ราชันอสูรที่สี่ ถือกำเนิดช้ากว่าเทียนหลงไม่เท่าไหร่ ย่อมเข้าใจถ่องแท้
"ฮ่า ๆ ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร
ก็นั่นคือจุดประสงค์ของข้า เมื่อไหร่ที่ข้าได้หัวใจของเทียนหลง
โลกนี้จะไม่ใช่ของผู้สร้างที่ไร้ตัวตนอีกต่อไป"
เซิ่งหนี่ว์ถึงกับแหงนหน้าหัวเราะลั่น ในความคิดของนาง ผู้สร้างก็มีเพียงนามที่ผู้อื่นเรียก
ยังมิเคยมีผู้ใดได้เห็นตัวตน แต่เทียนหลงต่างหากคือผู้ควบคุมโลกทั้งใบ
ไม่ว่าจะเป็นมิติของดินแดนหรือเผ่าพันธุ์ใด
ขอเพียงนางทำให้เทียนหลงเป็นของนางได้
นางก็จะกลายเป็นผู้สร้าง
แต่มันจะเป็นอย่างที่ปีศาจเซิ่งหนี่ว์คิดจริงหรือ
เปรี้ยงงงงง
สายฟ้าฟาดลงมาครั้งเดียว ก็ทำลายพันธนาการบนร่างของฉิงที่เก้าทั้งหมด
ร่างบอบบางแทบจะโปร่งใสปรากฏขึ้นข้างกายเจ้าหญิงเมืองอสูร
"ฉิงฉิง! หยุด! อย่าได้ทำลายผลึก
ไม่เช่นนั้นวิญญาณเจ้าจะแตกสลายไปด้วย!"
โจจื่อเสียนมองสบตาสตรีชุดม่วง พร้อมกับแบมือออก "ฉิงน้อย ส่งมันมาให้ข้า"
นานเท่าไหร่แล้ว
ที่ไม่เคยมีใครเรียกนางเช่นนี้ ตั้งแต่เขาผู้นั้นถูกจองจำ "พี่เทียน"
ฉิงที่เก้าเรียกผลึกออกจากดวงจิตอย่างว่าง่าย
ส่งให้โจจื่อเสียนโดยไม่อิดออด และโจจื่อเสียนก็ส่งมันต่อให้หนานเฟิ่งหวง
เซิ่งหนี่ว์จ้องมองร่างแทบจะโปร่งใสของโจจื่อเสียนเขม็ง
ไม่อาจเชื่อว่าพลังของมนุษย์ธรรมดาจะทำลายพันธนาการของนางได้
หากจะบอกว่าเทียนจวินคือปลารอดแหของผู้สร้าง
โจจื่อเสียนก็คงจะไม่ต่างกันนัก และในสายตาของเซิ่งหนี่ว์
ทั้งสองยังมีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง
แต่ที่สมควรตายที่สุด คือทั้งคู่บังอาจได้หัวใจของมหาเทพ
อย่าคิดว่านางไม่รู้
ว่าที่เทียนหลงกักขังเทียนจวินไว้ เพราะอะไร
"ช่างสมควรตายนัก!!!"
ความโกรธเกรี้ยวของเซิ่งหนี่ว์
ทำให้ปากของหลุมดำขยายใหญ่ขึ้น เกิดเป็นพายุหมุน ที่ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป
"เฟิ่งหวง! ส่งผลึกทั้งหมดมาให้ข้า
เจ้ามันแค่เสี้ยววิญญาณโง่งม ข้าจะช่วยส่งเจ้ากลับเข้าไปยังดวงจิตหลักเอง!"
ร่างใหญ่โตสิบสามร่างปรากฏขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ ราชันอสูรทั้งแปดรวมทั้งผู้เฝ้าประตูทั้งห้าต่างสัมผัสถึงหายนะที่กำลังจะมาเยือนดินแดนอสูรได้
และพวกเขาไม่อาจยินยอมให้มันเกิดขึ้น
ขวับ!
ฝ่ามือใหญ่ที่พันธนาการราชันอสูรที่สี่ถูกขวานยักษ์ทำลายลง
เก้าอสูรราชันและห้าโฉ่วเหมินต่างจับจ้องไปยังเงาร่างสีดำท่ามกลางพายุหมุนไม่วางตา
"ฮ่า ๆ ดี มากันครบเลยก็ดี
ข้ายังต้องการทาสเพิ่ม" ไม่เพียงไม่เกรงกลัว ใบหน้าชั่วร้ายของเซิ่งหนี่ว์ยังแสดงความพึงพอใจออกมาอย่างชัดเจน
"หนานเฟิ่งหวง! อย่าให้ข้าต้องเอ่ยซ้ำ!
ส่งผลึกทั้งหมดมาให้ข้า เรื่องที่เทียนหลงต้องการ ข้าจะหาไปให้เอง!"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments