ตอนที่ 16 ปีศาจ

หากจะพูดกันด้านพลัง

พลังเทพก็อาจจะถือว่าอยู่จุดสูงสุด แต่ในโลกของผู้สร้างใบนี้ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้ผู้ใดยิ่งใหญ่จนทำลายความสมดุล

ยกเว้นบุตรผู้ซึ่งไร้อารมณ์

แต่ก็ยังมีปลารอดแหอย่างอสูรครึ่งเทพเผ่าพันธุ์อมตะหรือก็คือเทียนจวิน

ที่ไม่รู้ที่มาของชาติกำเนิด  อยู่นอกเหนือกฎของธรรมชาติ

และบางทีร่างของโจจื่อเสียนเองก็เช่นกัน

แรงกดดันของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์ นอกจากจะไม่มีผลกับโจจื่อเสียนและหนานเฟิ่งหวงแล้ว

ยังรวมไปถึงฉิงที่เก้าอีกด้วย

อย่าได้ดูถูกสายเลือดอสูรครึ่งเทพอย่างเจ้าหญิงเมืองอสูรแห่งนี้

เพียงนางปลดปล่อยพลังออกมา แรงกดดันของเทพธิดาก็มลายหายไปทันที

"นี่เจ้า!"

สองครั้งในวันเดียว

ที่เทพธิดาขั้นสูงที่ต้องมาเป็นรองให้สตรีเผ่าพันธุ์ต่ำกว่าถึงสองนาง

ใบหน้างามที่เคยฉาบไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นถมึงทึง

"อยากสู้? หึหึ

ข้าก็อยากรู้นักว่าพลังเทพของเจ้าจะเก่งกาจสักแค่ไหน"

เงาร่างสีม่วงกะพริบหายไปจากห้องโถง

ตามด้วยเงาร่างสีขาว

สีหน้าของราชันอสูรที่สี่เปลี่ยนมาเป็นเคร่งขรึมจริงจัง

ร่างกะพริบหายไปจากบัลลังก์หิน

"พี่เฟิ่ง ผลึกอยู่ในดวงจิตของฉิงที่เก้า"

หนานเฟิ่งหวงนิ่วหน้าเล็กน้อย

ก่อนที่จะพาร่างบางในอ้อมแขนกะพริบหายไป

ซือซานและจูจูก็ตามผู้เป็นนายทั้งสองไปเช่นกัน

ครืน ครืน

บนยอดเขาห่างจากเมืองอสูรที่สี่ไปไม่ไกล

ร่างงดงามทั้งสองต่างยืนประจันหน้ากันกลางอากาศ สายลมกระโชกแรงจนเกิดเสียงดัง

ร่างใหญ่โตของราชันอสูรที่สี่ปรากฏขึ้นห่างพื้นที่การต่อสู้ไม่ไกล

ตามด้วยกลุ่มของโจจื่อเสียน และบรรดาเหล่าบริวารอสูร

"เซิ่งหนี่ว์! เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าทำงั้นหรือ!

เจ้ามาก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องหาทางบุกเข้าไปสังหารเจ้าในดินแดนเทพ!" มุมปากฉิงที่เก้ายกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน ดวงตาทอประกายสังหาร

"อสูรชั้นต่ำอย่างเจ้าน่ะหรือ

คิดจะสังหารข้า!" เส้นไหมสีทองปรากฏรอบนิ้วมือเรียวงามของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์ ก่อนจะกระจายเต็มท้องฟ้า

หมอกสีม่วงหลั่งไหลออกมาจากร่างเจ้าหญิงเมืองอสูร

กลายเป็นร่างจำแลงของนางนับสิบ

"ฆ่าได้หรือไม่! คงต้องลองดู!"

เงาร่างสีม่วงนับสิบพุ่งเข้าจู่โจมทันที

ทักษะที่เทพธิดาเซิ่งหนี่ว์ใช้

แม้ไม่ใช่ทักษะหลักของนาง แต่ก็ถือว่าค่อนข้างร้ายกาจ เพราะเส้นไหมเหล่านั้นสามารถตัดได้กระทั่งจิตวิญญาณ

เมื่อร่างจำแลงของฉิงที่เก้าเข้าปะทะกับปราการเส้นไหม

ก็กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

เห็นเช่นนั้นมุมปากของเซิ่งหนี่ว์กำลังจะยกขึ้น

แต่ก็ต้องชงักค้าง

เศษเล็กเศษน้อยของร่างจำแลงกลับกลายเป็นร่างใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

เรียกว่ายิ่งตัดยิ่งเพิ่ม

"ฮ่า ๆ เป็นเทพแล้วอย่างไร

เจ้าคงคิดว่าตนเองสูงส่งมากล่ะสิ ข้าจะบอกอะไรให้อย่าง

ผู้สร้างไม่มีทางยอมปล่อยให้เผ่าพันธุ์ใดยิ่งใหญ่จนลงมือทำลายความสมดุลของโลกใบนี้ได้

เพราะฉะนั้น ทักษะของเจ้าเมื่ออยู่ในดินแดนเทพก็อาจจะเป็นเลิศ แต่เมื่อนำมาใช้ในดินแดนอื่น

ย่อมต้องอ่อนด้อยเป็นธรรมดา วันนี้ ข้าจะแก้แค้นให้เทียนจวิน!!!"

ถึงแม้จะตกใจกับพลังของสตรีตรงหน้า

แต่ถึงอย่างไรก็เป็นถึงเทพธิดา

เส้นไหมสีทองถูกเรียกกลับ ก่อนที่ร่างระหงจะหลบหลีกการโจมตีของร่างอสูรจำแลงนับร้อยร่าง

โจจื่อเสียนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ห่างๆ

ตกตะลึงในคำพูดของฉิงที่เก้ายิ่งกว่าพลังอันสูงส่งของนางเสียอีก

แก้แค้นให้ข้าหรือ?

 ด้วยความที่ไม่ได้มีความคิดซับซ้อน เทียนจวินย่อมคิดไม่ถึงเรื่องความชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์

แต่มันไม่ใช่กับฉิงฉิง

หลังจากที่เทียนจวินถูกมหาเทพกักขัง

ฉิงที่เก้าก็คาดเดาได้ทันทีว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ

จนในที่สุดนางก็สืบรู้ว่าเป็นแผนชั่วของเซิ่งหนี่ว์

และนั่นทำให้เจ้าหญิงแห่งเมืองอสูรต้องกักตนฝึกฝนบ่มเพาะพลังมาหลายหมื่นปี

เพื่อจะบุกดินแดนเทพ แก้แค้นให้เทียนจวิน

วูมมมมมม

อั่ก!

การต่อสู้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อไร้ตะเกียงอมตะซ้ำดวงจิตยังบาดเจ็บ

พลังของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์จึงตกเป็นรองฉิงที่เก้า  ไม่นานนางก็ได้รับบาดเจ็บ ร่วงหล่นลงมากระแทกพื้น

เพราะการสัมผัสกับร่างอสูรจำแลง

ทำให้พลังเทพของนางถูกดูดกลืนหายไปทีละเล็กทีละน้อย

เซิ่งหนี่ว์ค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืน

ยกฝ่ามือขึ้นกุมหน้าอก ดวงตาคู่งามจ้องเขม็งไปยังสตรีชุดม่วง นัยน์ตาดำค่อยๆ แผ่ขยายจดบดบังตาขาวจนมิด

ครืนนนน!

หมอกดำสนิทกระจายออกมาจนท่วมร่าง

จนกระทั่งร่างเทพธิดาที่เคยอยู่ในชุดขาวบริสุทธิ์ เปลี่ยนมาเป็นชุดดำสนิท

เงาร่างสีดำกะพริบหายจากพื้นดิน ขึ้นมายืนกลางอากาศ

แค่เล็บทั้งห้ากางออก

ร่างจำแลงของฉิงที่เก้าก็ถูกดูดหายเข้าไปในร่างเซิ่งหนี่ว์จนหมด

"ปีศาจ!!?"

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงเมืองอสูร

ราชันอสูรที่สี่ รวมทั้งซือซาน และจูจู ต่างก็พากันรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

มีเพียงสองคนที่ดูจะไม่ตกใจกับการเปลี่ยนเปลงของเทพธิดาเซิ่งหนี่ว์

หนานเฟิ่งหวงนั้นคงไม่ต้องเอ่ยถึง

ต่อให้เซิ่งหนี่ว์กลายเป็นอะไร ก็มิอาจทำให้ชายหนุ่มสนใจได้อยู่ดี

เพราะอารมณ์ความรู้สึกเกิดกับคนเพียงคนเดียว

ส่วนโจจื่อเสียนก็รู้อยู่ก่อนแล้วด้วยทักษะการส่องจิต

แต่ไม่นึกว่านางจะเปิดเผยตัวตนเร็วถึงเพียงนี้ จากประสบการณ์ของเทียนจวิน

เวลานี้ฉิงฉิงไม่อาจสู้ปีศาจเซิ่งหนี่ว์ได้แน่

ยังไม่ทันที่โจจื่อเสียนจะเอ่ยเตือน

เสียงกรีดร้องของวิญญาณพยายาทก็ดังจนแสบแก้วหู

หลุมดำชั่วร้ายปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า

"ถึงกับต้องให้ข้าใช้ร่างจริง!

ข้าจะทำให้จิตวิญญาณของเจ้ากลายมาเป็นทาสของข้า!! "

เสียงเหยียบเย็นเอ่ยขึ้นอย่างเนิบช้า

ฝ่ามือสะบัดเพียงเบาๆ พลังในหลุมดำก็พุ่งไปพันรัดร่างของฉิงที่เก้า

พยายามดึงนางเข้าไป

เจ้าหญิงเมืองอสูรไร้ซึ่งหนทางต่อต้าน

เพราะพลังแตกต่างกันเกินไป ทำให้ร่างของนางถูกดูดเข้าไปใกล้หลุมดำมากขึ้นทุกที

"ต่อให้ข้าต้องตาย! ข้าก็จะลากเอาเจ้าไปด้วย!

นางปีศาจชั่ว! "

แสงสีทองส่องประกายออกมาจากดวงจิตของเจ้าหญิงเมืองอสูร

ช่วยชะลอการถูกดูดเข้าไปหาหลุมดำให้ช้าลง

ราชันอสูรที่สี่เห็นท่าไม่ดี

บนแผ่นหลังก็มีปีกางออก พร้อมกับสองเขางอกออกมาพ้นศีรษะ "ลูกเก้า

อย่าได้ทำเช่นนั้น!! " ร่างใหญ่โตรีบเข้าไปช่วยบุตรี

แต่กลับถูกฝ่ามือยักษ์คว้าจับตัวเอาไว้

"วันนี้ไม่เพียงพวกเจ้าที่จะกลายมาเป็นทาสของข้า! แต่ข้าจะทำให้ดินแดนอสูรกลายเป็นดินแดนร้าง! ฮ่าๆ "

"ฉิงฉิง!! "

ครืน

สายฟ้าในร่างโจจื่อเสียนคำรามลั่น เทียนจวินไม่อาจปล่อยให้ฉิงที่เก้าใช้พลังจากผลึกทำลายจิตวิญญาณของตัวเองได้

ดวงตามีสายฟ้าวาบผ่าน

ตั้งแต่ปลุกเส้นวิญญาณเส้นที่ห้ามา

โจจื่อเสียนยังไม่เคยได้ทดสอบพลังและทักษะของมันเลยสักครั้ง

ตอนนี้ร่างทั้งร่างแทบจะกลายเป็นสายฟ้า

ครืน ๆ

มังกรวารีตัวอ้วนทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าขานรับพลังของผู้เป็นนาย

พร้อมกับเมฆดำทะมึนที่เข้ามาแทนที่ความมืดของเซิ่งหนี่ว์

ไม่เพียงแค่โจจื่อเสียนเท่านั้นที่ไม่ต้องการให้ฉิงที่เก้าใช้พลังของผลึก

หนานเฟิ่งหวงเองก็เช่นกัน ถึงแม้ความต้องการจะแตกต่าง แต่ก็มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน

ดวงไฟสีทองปรากฏขึ้นในแววตา

มังกรขาวตัวมหึมาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเคียงคู่กับมังกรวารี

โฮกกกกกกก

การกระทำของทุกคนทำให้ปีศาจเซิ่งหนี่ยกยิ้มมุมปาก

"คราแรกข้าคิดจะรอให้พวกเจ้าได้ผลึกจนครบเสียก่อนแล้วค่อยดึงวิญญาณมาเป็นทาส

แต่ในเมื่อพวกเจ้ารีบนัก ข้าจะได้จัดการทีเดียวพร้อมกันเลย"

ปากของหลุมดำเริ่มขยายใหญ่ขึ้น

อสูรระดับต่ำที่อยู่ใกล้ถูกดูดหายเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ทำให้พวกที่เหลือต้องพากันถอยห่าง

แม้แต่ร่างราชันอสูรที่ถูกพันธนาการก็กำลังถูกดูดเข้าไปเช่นกัน

"ปีศาจชั่ว! เจ้ารู้หรือไม่ ว่ากำลังทำลายสมดุลของโลก!"

ราชันอสูรที่สี่ ถือกำเนิดช้ากว่าเทียนหลงไม่เท่าไหร่ ย่อมเข้าใจถ่องแท้

"ฮ่า ๆ ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร

ก็นั่นคือจุดประสงค์ของข้า เมื่อไหร่ที่ข้าได้หัวใจของเทียนหลง

โลกนี้จะไม่ใช่ของผู้สร้างที่ไร้ตัวตนอีกต่อไป"

เซิ่งหนี่ว์ถึงกับแหงนหน้าหัวเราะลั่น  ในความคิดของนาง ผู้สร้างก็มีเพียงนามที่ผู้อื่นเรียก

ยังมิเคยมีผู้ใดได้เห็นตัวตน แต่เทียนหลงต่างหากคือผู้ควบคุมโลกทั้งใบ

ไม่ว่าจะเป็นมิติของดินแดนหรือเผ่าพันธุ์ใด

ขอเพียงนางทำให้เทียนหลงเป็นของนางได้

นางก็จะกลายเป็นผู้สร้าง

แต่มันจะเป็นอย่างที่ปีศาจเซิ่งหนี่ว์คิดจริงหรือ

เปรี้ยงงงงง

สายฟ้าฟาดลงมาครั้งเดียว ก็ทำลายพันธนาการบนร่างของฉิงที่เก้าทั้งหมด

ร่างบอบบางแทบจะโปร่งใสปรากฏขึ้นข้างกายเจ้าหญิงเมืองอสูร

"ฉิงฉิง! หยุด! อย่าได้ทำลายผลึก

ไม่เช่นนั้นวิญญาณเจ้าจะแตกสลายไปด้วย!"

โจจื่อเสียนมองสบตาสตรีชุดม่วง พร้อมกับแบมือออก "ฉิงน้อย ส่งมันมาให้ข้า"

นานเท่าไหร่แล้ว

ที่ไม่เคยมีใครเรียกนางเช่นนี้ ตั้งแต่เขาผู้นั้นถูกจองจำ "พี่เทียน"

ฉิงที่เก้าเรียกผลึกออกจากดวงจิตอย่างว่าง่าย

ส่งให้โจจื่อเสียนโดยไม่อิดออด และโจจื่อเสียนก็ส่งมันต่อให้หนานเฟิ่งหวง

เซิ่งหนี่ว์จ้องมองร่างแทบจะโปร่งใสของโจจื่อเสียนเขม็ง

ไม่อาจเชื่อว่าพลังของมนุษย์ธรรมดาจะทำลายพันธนาการของนางได้

หากจะบอกว่าเทียนจวินคือปลารอดแหของผู้สร้าง

โจจื่อเสียนก็คงจะไม่ต่างกันนัก และในสายตาของเซิ่งหนี่ว์

ทั้งสองยังมีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง

แต่ที่สมควรตายที่สุด คือทั้งคู่บังอาจได้หัวใจของมหาเทพ

อย่าคิดว่านางไม่รู้

ว่าที่เทียนหลงกักขังเทียนจวินไว้ เพราะอะไร

"ช่างสมควรตายนัก!!!"

ความโกรธเกรี้ยวของเซิ่งหนี่ว์

ทำให้ปากของหลุมดำขยายใหญ่ขึ้น เกิดเป็นพายุหมุน ที่ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป

"เฟิ่งหวง! ส่งผลึกทั้งหมดมาให้ข้า

เจ้ามันแค่เสี้ยววิญญาณโง่งม ข้าจะช่วยส่งเจ้ากลับเข้าไปยังดวงจิตหลักเอง!"

ร่างใหญ่โตสิบสามร่างปรากฏขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ ราชันอสูรทั้งแปดรวมทั้งผู้เฝ้าประตูทั้งห้าต่างสัมผัสถึงหายนะที่กำลังจะมาเยือนดินแดนอสูรได้

และพวกเขาไม่อาจยินยอมให้มันเกิดขึ้น

ขวับ!

ฝ่ามือใหญ่ที่พันธนาการราชันอสูรที่สี่ถูกขวานยักษ์ทำลายลง

เก้าอสูรราชันและห้าโฉ่วเหมินต่างจับจ้องไปยังเงาร่างสีดำท่ามกลางพายุหมุนไม่วางตา

"ฮ่า ๆ ดี มากันครบเลยก็ดี

ข้ายังต้องการทาสเพิ่ม" ไม่เพียงไม่เกรงกลัว ใบหน้าชั่วร้ายของเซิ่งหนี่ว์ยังแสดงความพึงพอใจออกมาอย่างชัดเจน

"หนานเฟิ่งหวง! อย่าให้ข้าต้องเอ่ยซ้ำ!

ส่งผลึกทั้งหมดมาให้ข้า เรื่องที่เทียนหลงต้องการ ข้าจะหาไปให้เอง!"

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!