เมื่อชายผู้นั้นถูกล๊อกตัว หญิงสาวที่นั่งร้องไห้ก็ลุกขึ้นยืน หันมาจ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น แล้วเอ่ยถามชายที่อยู่ตรงหน้า
"มึงฆ่ากูทำไม" เธอยืนกำหมัดแน่น
ชายคนนั้นก็ยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า "มึงอย่าเพ้อเจ้อ กูไปฆ่ามึงตอนไหน มึงก็ยืนหัวโด่อยู่นี่ไง" ชายผู้เกรี้ยวกราดตะคอกใส่หน้าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอจ้องหน้าเขาอย่างไม่กระพริบตา แล้วกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย ทันใดนั้นร่างเล็กของหญิงสาวคนนั้นก็ค่อยๆหงายหลัง สาวน้อยใส่ฮู้ดรีบกระโจนไปรับเธอ พบว่าหญิงสาวผู้นั้นสลบไปแล้ว จากนั้นสาวน้อยใส่ฮู้ดรู้สึกเสียวแปร๊บที่หูทั้งสองข้างของเธอเหมือนมีคลื่นเสียงหลายร้อยเดซิเบลกระแทกเข้ามาในหู เธอเงยหน้ามองชายที่กำลังถูกตำรวจคุมตัว ทันใดนั้น มีภาพปรากฏขึ้นในหัวของเธอ สิ่งที่เธอเห็น คือ
มีหญิงสาวผมยาว มีสีดำไปทั้งตัว ผมยาวปิดหน้าปิดตา กำลังเกาะที่หลังของชายคนนั้น และพยายามเอามือทั้งสองข้างบีบคอของชายคนนั้นอีกด้วย
เมื่อสาวน้อยใส่ฮู้ดเห็นเช่นนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า "นับแต่นี้ต่อไป คุณจะไม่มีวันได้พบกับความสงบสุขอีกเลย เขาจะไม่มีวันปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน ใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับผลกรรมเช่นนั้น" เธอมองไปยังชายผู้นั้น เพื่อเป็นการบอกเขาเป็นนัยๆ จากนั้นเธอก็ละสายตาจากชายคนนั้น เธอก้มมองลงไปที่พื้นอย่างเหม่อลอย แล้วพูดขึ้นอีกว่า "เธออย่าได้ลงมือทำอะไรเขาเลย เธอจะมีบาปติดตัวเปล่าๆ ดีไม่ดี เธออาจจะไปพบกับเขาอีกในชาติหน้าก็ได้" สาวน้อยค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา พูดต่ออีกว่า "เจอกันชาตินี้ไม่พอหรือไง ปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรมเถอะ ชั้นไม่ได้ขอให้เธอปล่อยวางโดยเร็วหรอกนะ แต่ชั้นอยากจะบอกว่า ขอให้เธอค่อยๆรอดูชีวิตของเขานับจากนี้เถอะ เขาจะต้องชดใช้ให้เธออย่างสาสมแน่นอน จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ได้ ต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น" เมื่อสาวน้อยพูดจบเธอก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความสะใจเบาๆ เธอหวังว่าเขาจะคิดได้บ้าง ชายคนนั้นพยายามดิ้นและอาละวาดไม่ยอมให้จับ จนตำรวจต้องลากตัวขึ้นรถ ส่วนสาวน้อยที่กำลังประคองตัวหญิงสาวที่กำลังหมดสติอยู่นั้น ถูกล้อมไปด้วยชาวบ้านที่กำลังทำหน้าสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"เอ่อ... ป้าคะ มียาดมไหมคะ?" สาวน้อยใส่ฮู้ดถามขึ้น ป้าคนนึงก็ควักยาดมออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วยื่นให้สาวน้อย แต่เธอก็ไม่รับยาดมนั้น
"คือ.... หนูต้องกลับบ้านแล้วค่ะ ฝากที่เหลือด้วยนะคะ " สาวน้อย ลุกขึ้นแล้วรีบปรี่หนีออกมา แต่ก็มีป้าคนนึงเรียกเธอ
"หนู หนู.... หยุดก่อนลูก" ป้ารีบเดินมาดักหน้า
"หนูเป็นใครลูก หนูเป็นเจ้าแม่ตำหนักไหน" ป้าถามด้วยความตื่นเต้น
"เปล่าค่ะ ไม่ใช่ๆ หนูก็แค่คนธรรมดานี่แหละค่ะ ไม่ใช่เจ้าแม่ที่ไหน" เธอรีบตอบด้วยความตกใจ และคิดในใจว่า 'ทุกคนคิดว่าเราเป็นร่างทรงแน่ๆ' เธอจึงรีบหันหลังกลับ แล้วมีเสียงนึงตะโกนขึ้นมา "แล้วหนูเป็นใครล่ะ? ทำไมต้องปิดหน้าปิดตาด้วย" สาวน้อยถอนหายใจยาวๆแล้วหันกลับไปยังต้นเสียงที่ตะโกนถามเธอ เธอจึงถอดแมสที่ปิดหน้าออก เอาฮู้ดที่คลุมหัวออก แล้วเงยหน้าตรงๆ พร้อมกับสบตากับทุกคนที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มให้หวานๆหนึ่งที พร้อมกับพูดว่า "หนู น้ำมนต์ เองค่ะ พวกลุงพวกป้าก็เคยเห็นหนูนี่คะ เวลาไปทำบุญที่วัด" ลุงกับป้ามองหน้ากันเลิ่กลั่ก แล้วก็ร้อง "อ๋อออออ" พร้อมกัน "นี่เจ้าน้ำมนต์เองรึ หายหน้าหายตาไปซะนานเชียว พอกลับมาทีก็ทำเอาพวกข้าใจหายใจคว่ำหมด" ป้าที่ส่งยาดมให้พูดขึ้น พร้อมกับเอามือทาบอก "ป้า แต่ป้าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกหลวงปู่นะ ไม่งั้นหนูโดนบ่นหูชาแน่เลย" สาวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนเพราะว่าเธอไม่อยากถูกพระอาจารย์ดุ เรื่องที่เธอมายุ่งกับสิ่งที่มองไม่เห็นแบบนี้ เธอจึงหันหลังมุ่งหน้ากลับบ้านทันที
น้ำมนต์ เดินไปพราง คิดไปพราง 'ทำไมคนเรา จึงได้ทำร้ายใครได้ง่ายๆ ขนาดนี้นะ คุยกันดีๆก็ได้ ไม่เห็นจะต้องฆ่ากันเลย เห้อ.... สุดท้ายแล้วคนที่ทุกข์ ทรมานก็คือพวกเขาเอง' เธอเดินไปถอนหายใจไป
เธอได้ยืนมองดูดาวบนฟ้าระหว่างทางกลับบ้าน คืนนี้ฟ้าสวยจัง ถึงแม้ว่าดวงจันทร์จะมีครึ่งเสี้ยวก็ตาม "โลกนี้สวยงามเสมอ.... แต่คนต่างหากที่ทำให้มันดูแย่" เธอพูดเปรยออกมา ด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ เธอเหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือ เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ "กลับบ้านดีกว่า จะได้ไปเม้าให้แม่ฟัง" เธอรีบวิ่งกลับบ้านด้วยความร่าเริง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 8
Comments