สายลมแห่งกาลเวลาได้มอบสร้อยมาลาอายุขัยให้ผู้คนเพิ่มขึ้นทั้งในและนอกฮาเร็มแห่งห้วยยะวา ให้บ่าวธิดาและลูกสาว ให้สุลต่านกับเมียทั้งสาม รวมทั้งโต๊ะ ลีมะหญิงชราผู้ขาดแคลนที่ห้วยซูกาอย่างเท่าเทียมกัน
ทั้ง ๆ ที่วัยน่าจะอยู่กับมัสยิดหรือจองกุโบร์ได้แล้ว แต่อาบู ฮาซันก็ยังเป็นชายเฒ่าวัยเจ็ดสิบห้า ที่ยังขับฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ผลตักขายดินต่อเนื่องตลอดหลายปีทำให้เนินควนดินอ้วนพีเป็นแท่งแหลมชี้ฟ้า ควนดินถูกขุดขายแลกเงิน หมดเปลืองกับผู้หญิง ต้นทุเรียนพื้นเมืองเหลือไม่ถึงสองต้น
วันที่สุขภาพยังดีแต่เรื่องชวนปวดหัว ชุกลูกชายกับเมียใหม่เกเร ติดยางอมแงม เป็นเหยื่อโอชะชิ้นใหม่ให้ผู้ใหญ่หมาด โต๊ะเกตโชว์ผลงานชิ้นโบแดง ในฐานะผู้ใหญ่บ้านมือปราบยาเสพติด
ส่วนผู้สืบสันดานสัก ฮาซันมีนิสัยเจ้าชู้ไม่ทิ้งแถว เพียงอายุสิบเจ็ดก็ชวนสาวขึ้นเตียงถูกแจ้งความจับเข้าคุก ให้ลูกสาววิ่งเคลียร์จบที่ให้แต่งงานกัน
ชายาเอกยอมจ่ายเงินให้แลกไม่ต้องเข้าคุกข้อหาพรากผู้เยาว์ รวบเงินเก็บค่าเย็บจาก ปอกเม็ดมะขาม ปาดน้ำตาขายแม่วัวตัวหนึ่งให้เป็นค่าสินสอดฝ่ายสาวแบบสายฟ้าแลบ
ลูกชายว่าทำสนุก ๆ ไม่อยากแต่งงาน ฝืนเข้าพิธีนิกะห์ เปลี่ยนนามสกุลเมีย ชื่อสัก ตะโละไสด้วยโมโหที่ป๊ะที่ต่อว่าไอ้ลูกไม่รักดี จะไปตายที่ไหนก็เชิญมันช่างเจ็บกระดองใจยิ่งนัก
ชายาเอกเสียดายเงินเก็บ แต่ปล่อยให้สักเข้าคุกย่อมเจ็บปวดกว่า นางด่าสุลต่านลับหลังว่าพร้อมเกิดลูกแต่ก็ฆ่าลูกในไส้ได้ทุกคน
วัน ๆ โต๊ะ ลีมะ นั่งฟังรถแบ็กโฮเหมือนปีศาจกำลังกินดิน เพราะอยู่ใกล้ ๆ เนินควน อดกังวลไม่ได้ว่าหมดควนแล้ว จะมีอะไรช่วยบังแดดบังลมเหมือนอย่างเคย
หญิงชรามาขอพลอยอาศัยขนำไม้เก่า ๆ ริมห้วยซูกาใกล้ควนบาดะมานาน เล่ากันว่าเมื่อก่อน มีสมบัติมากมาย ครั้นยกให้ลูก ๆ หมดก็ไม่มีใครดูแล น้อยใจมาขอทำขนำเพียงลำพัง
โต๊ะ ลีมะมีชื่อเสียงหมอขับไล่ญินสิงร่างคน จึงมีผู้มาใช้บริการ มอบข้าวของเงินทองให้แกได้ประทังชีวิตต่อลมหายใจไปวัน ๆ
วันเวลาผ่านพ้นนาน ๆ มีเสียงเล่าลือว่าเลี้ยงผีไว้ใช้งาน คนกรีดยางเห็นหญิงเฒ่ามีตาสีแดง แกจึงถูกเล่าลือเป็นผีเสียเอง เด็ก ๆ ไม่กล้าไปวิ่งเล่นแถวนั้นกลัวผีควนบาดะหักคอ
อีกครั้งหนึ่งที่สายลมกุนุงยือไรพัดข้ามภูเขาอีกฟากหนึ่ง มันได้แวะจุมพิตวนอุทยานแห่งชาติทะเลบัน ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศ ก่อนที่เคลื่อนย้ายทางใต้ พุ่งมองเป้าหมายไม่คลาด สายลมประหลาดเห็นฮาเร็มดั่งวัตถุสีขาวลอยเคว้งคว้างขึ้นไร้ทิศทางก่อนหายลับสายตา
สายลมแสยะยิ้มเย้ยหยันผู้ชายคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มั่งคั่ง ขุดดินขายซื้อความสมบูรณ์ของชีวิตราคาถูกสนองกิเลสกองมหึมา ไม่ผิดอะไรกับขุดหลุมฝังศพตัวเอง
สายลมได้มองเห็นบ่าวคิดถึงป๊ะ จูมิด อยากคุยกับผู้เฒ่าเล่าให้ฟัง ผัวเมียสมัยก่อน เพื่อนบ้านไม่เห็นเดินคู่กันจะถามหาทันที ยอมโกหกสามีไม่สบาย ทั้ง ๆ ที่นอนบิดขี้เกียจที่บ้าน ผัวเมียสมัยก่อนช่างมีกลวิธีถนอมความรัก เช่นถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสีย
วัน ๆ บ่าวได้ยินแต่เสียงชายาเอกชอบนินทาลับหลัง นางไม่รู้หรือผลบุญทำไว้ตลอดชีวิตจะโอนถ่ายให้สามีอย่างน่าเสียดาย
สายลมร้อยปีก่อตัวเงียบ ๆ บ่าวรู้สึกเหมือนได้เป็นแมลงปอตัวเล็กถูกบางอย่างโยนขึ้นด้านบนบินหลงทางเหนือทุ่งหนีตายก่อนที่จะถูกสายลมพัดหายอีกไม่ช้าไม่นานนัก
สมาชิกในรั้วฮาเร็มตกอยู่ในอาการสับสน ออแนบอกตนเองต้องออกจากสถานที่อันตรายแห่งนี้ให้เร็วที่สุด
อาบู ฮาซันเข้าใจว่าเงินซื้อทุกอย่าง คิดได้เช่นนี้คนอยู่ด้วยก็ลำบากใจ เขาพร้อมที่จะขับไล่ไสส่งได้ง่าย ๆ สักวัน เขาไม่เคยให้ความสำคัญกับลูก ๆ ไม่สอน ไม่เตือน ไม่ให้เรียนหนังสือ นางรอให้สามีออกจากคุกดีกว่าสุ่มเสี่ยงกับคนไร้หัวใจ สามีเก่าเป็นโจรแต่สอนลูกอย่าเดินทางผิด ก็นับเป็นสิ่งดีงามขุนโจรปล้นเรือมีความดีติดตัวบ้าง ไม่เหมือนประมุขใหญ่ฮาเร็มลวงโลก ก่อนโบกมือลาเธอต้องตักตวงสมบัติให้ได้มากที่สุด
ออแนรู้ดีว่าสามีมีดินตรงไหนบ้าง นอกจากสวนเงาะที่แย่งคืนจากบ่าว ยังมีที่ดินอีกหลายแห่ง ทั้งต้นประดู่ ห้วยยะวาขนาดไม่รู้บางแปลงอยู่ตรงไหน นางตั้งเป้าหมายเงียบ ลูกติดสองคน ต้องมีที่ดินอาศัยเป็นชื่อของตัวเองให้ได้
ทั้ง ๆ ที่รู้จักร้านน้ำชาใกล้โรงพักกัมปงโฉลงเท่านั้น เขาวางใจจ่าสันติเป็นผู้จัดการมรดก สุลต่านไม่ใช่แกล้งโง่แต่เป็นคนโง่ตัวจริงเสียงจริง คิดได้ยังไงให้คนขี้เมาที่ร้านน้ำชาเป็นตัวแทน สมมติแกเบี้ยวขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น ที่ดินนับร้อย ๆ ไร่ในมือคนขี้เหล้านั้นมันอันตราย เกิดเขาหักหลังขึ้นมามันน่ากลัวขนาดไหน ทรัพย์สมบัติมากมายที่ครอบครอง มิฟุ้งกระจายหายในสายลมดอกหรือ
ออแนรู้จักผู้ชายหลายคน นางสนิทสนมกับจ่าสันติเป็นการส่วนตัว จึงมองทะลุปรุโปร่งจะใช้กลอุบายใดกับสุลต่านอุปโลกน์ ยึดครองสมบัติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นางก็หยอดคำหวานให้ทั้งบนและข้างเตียง สมองคิดหาช่องทางฮุบที่ดินอีกหลายแห่ง ลูกชายชื่อหมานมีลูกเล็ก ๆ สองคน จะเป็นลูกเสือลูกโจรก็ตาม พวกเขาต้องมีที่อยู่อาศัยและมีอนาคตที่ดี นางนึกถึงผัวโจร แต่เขาไม่เคยใจร้ายกับลูกเมีย นางจะกลับไปใช้ชีวิตกับเขาอีกครั้งแน่นอน
“วันนี้บังรับอะไรดีคะ” ออแนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล น้ำเสียงหวานคืออาวุธของนางที่นางชายาเอกไม่เคยให้เลย ผู้ชายนั้นอยากฟังคำหวาน ๆ ฟังแล้วไพเราะเสนาะหู ไม่มีใครอยากฟังสบถหยาบคายกันหรอกนะ
ชายาเอกเอาเป็นเอาตายเรื่องการหมุนเวียนเข้าเวรขนาดดูนาฬิกาเป็นนาที ออแนจึงยืดหยุ่นให้รู้ใจสุลต่านจอมเจ้าชู้ มาช้ากลับเร็วก็ไม่เอ่ยปริปากพูดสักคำ ตั้งแต่สุลต่านผรุสวาทอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ นางก็คิดหนัก นางต้องหาจุดอ่อนให้เจอ ก่อนที่จะลวงเขาให้ตายสนิทก่อนลงมือขั้นต่อไป
“ถึงเวรน้องสบายใจได้ เข้าดึกดื่นเที่ยงคืนยังไงก็ได้นะคะ” เสียงหวานปานน้ำผึ้ง
“น้องช่างรู้ใจ” ท่านสุลต่านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มือขวาควักธนบัตรใบสีแดงหนึ่งปึกมอบให้
“เพราะน้องรักบังอาบูยังไงล่ะ” ออแนกรีดเสียงหวานเพิ่มขึ้น ให้สุลต่านยิ้มหน้าบาน เหมือนยกภูเขาออกจากอก
นางมองคนเห็นแก่ตัวได้ทะลุปรุโปร่งจึงงัดใช้กลยุทธ์กินรอบโต๊ะซะเลย มีโอกาสต้องฉวยเอาไว้ก่อน วันถูกเฉดหัวทิ้งก็ยังมีที่คุ้มกะลาหัวได้อย่างสบาย วัน ๆ ออแนสนุกรังวัดที่ดินแปลงบนเตียงไม่เบื่อหน่าย นางแปลงสินทรัพย์นาน้อยผืนเดียวเป็นทุนได้กำไรมหาศาล
นางเปิดทางสะดวกให้ลูกติดได้สร้างบ้านมีหน้ามีตา แค่ยกยอป๊ะได้พึ่งใบบุญท่านสุลต่านบ้ายอ ผู้ชอบอ้างเดินตามรอยโต๊ะครูสอน การแต่งงานนั้นเป็นแนวทางที่ดี มี สอง สาม สี่ก็ได้ ถ้ามีความสามารถเลี้ยงดู ยิ่งได้เลี้ยงหญิงหม้ายและลูก ๆ ยิ่งได้กุศลแรงกล้ายิ่งนัก
จริง ๆ แล้วอาบู ฮาซันเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อนิสัยคุยโม้และใจดำ สักวันหนึ่งมีสิทธิ์ถูกทิ้งง่าย ๆ ไม่มีที่ซุกหัวนอนก็ได้ นางจะทำทุกทางที่จะได้แผ่นดินมายึดครองให้มากที่สุด
ออแนเคยฝันให้ลูกชายได้ดี มีการศึกษาสมลูกชายคนรวยแห่งห้วยยะวาแต่ลูกชายคบเพื่อนเกเร สร้างความเดือดร้อนไม่เว้นแต่ละวัน สุลต่านก็ไม่สนใจ อ้างเด็กนิสัยไม่ดีจะไปตายที่ไหนก็เชิญ เขาไม่เคยคิดวางแผนอนาคตลูกให้เปลืองสมอง
“เกิดแล้วเอาอะไรอีก” อาบู ฮาซันพูดถึงลูกในไส้คนหนึ่งอย่างดูแคลน ออแน ยิ้มแห้งแล้ง แต่ละคำพูดของเขาราวผุดจากขุมนรก
“เขาเป็นลูกของเรานะ” นางเตือน
อยากเตือนสติสามีให้คิดใหม่ ลูกดีชั่วก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้เลย
“ถ้าไม่รักดีก็ไม่ใช่” สุลต่านตอบสั้น ๆ แต่มันให้ความเจ็บปวดถึงขั้วหัวใจ
“บังไม่รักลูกเหรอ” ออแนเอ่ย
“มันไม่รักดีเองจะให้ทำยังไงล่ะ” อาบู ฮาซันตะคอกเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
เขาไม่เคยถามว่าก่อนลูกหลงทางผิดมีคนตักเตือนบ้างหรือเปล่า เขาเก่งแต่ผลิตอย่างเดียว อ้างว่าเกิดมาก็เป็นบุญแค่ไหนแล้ว
เมื่อนางอยากให้เขาช่วยพร่ำสอนลูกบ้าง เขาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ชอบอ้างว่าเรียนปอเนาะ แต่งงานสนองบัญชาแต่เงินทองก็ไม่ยื่นให้ ปล่อยให้ลูกตกอยู่ในวงล้อมยาเสพติดไม่ตายก็ติดคุกเช่นนั้น
นางเคยเกลียดชังสามีเป็นโจรมาก่อน เพิ่งได้เห็นคุณค่าเมื่อได้เจอสุลต่าน เพิ่งรู้นักเลงขี้คุกรักลูกรักเมีย ดีกว่าคนรวยที่ใจดำอำมหิตร้อย ๆ เท่าซะอีก
วัน ๆ ท่านอาบู ฮาซันหลงคำยอเหล่าเพื่อนกินขุดดินขายขับรถลอยชาย ไม่คิดบ้างว่าเผาผลาญไปทุกวันสมบัติมากมายก็มีวันหมดเหมือนกัน หรือเพราะไม่เคยรับรู้ความยากลำบากรุ่นป๊ะที่สร้างมาให้นั้น กว่าจะตกทอดมาถึงมือเขาวันนี้หนักหนาเพียงใด เกิดมาเห็นที่ดินมากเป็นภูเขารอให้ถลุงอยู่ก่อนแล้ว จึงคิดสั้น ๆ เพียงว่า ชีวิตนี้ไม่ต้องขวนขวายอะไรก็อยู่สบายทั้งชาติอยู่แล้ว
เช้าวันนั้น ดนเพื่อนรักขับรถสวนทางกับธิดาที่กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์ไปหามะห้วยยะวาตามปกติ ทั้งสองยิ้มให้แก่กันแทนการทักทาย
เห็นว่าเพื่อนรักลูกมาแต่เช้า ป๊ะอุตส่าห์ลุกขึ้นร่วมวงสนทนาด้วย อาจมีเรื่องสำคัญหรือแวะเวียนตามประสาเพื่อนรักที่มีส่วนอย่างมากที่ทำให้สองคนได้แต่งงานกัน
ดน ทุ่งบุหลังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เพื่อนลอยลมรัก ที่กำลังพัดไปในดินแดนที่ไม่รู้จักเช่นนี้ ดนเป็นเพื่อนสนิทเท่าที่บ่าวมีอยู่ก็ว่าได้
“แกไม่น่าพูด กลัวลูกเขยผลาญสมบัติ ใครได้ยินจะทำให้เข้าใจเอ็งผิด ๆ”
“ข้าเอะใจ ตอนขอที่ดินคืนแล้ว” บ่าวพูด
มันเสียความรู้สึกมากกว่าดินห้าไร่ แบ่งให้เมียคนที่สอง ดูบ่าวกระหายสมบัติของพวกเขาเต็มประดา ด้อยค่าแต่งงานเพื่อหวังสมบัติเท่านั้น
เขาเสียดายที่มอบดินให้ลูกสาวชิ้นเดียว แต่ไม่คิดที่ดินขายประเคนให้นักร้องห้องอาหารในเมืองแบบเจ้าบุญทุ่ม ยอมเสียเงินเท่าไรเท่ากันอย่างไม่เสียดาย
มีเสียงนินทาจากนักท่องราตรี นางมีสามีอยู่แล้วที่บ้านเกิด สองหญิงชายเจอกันเหมือนฝนตกขี้หมูไหลก็ไม่ผิด
ท่านสุลต่านท่องจำเพียง เธอเป็นมุสลิมใหม่ชื่อศรีจายา ไม่ใช่นักร้องคนเดิม เป็นคนใหม่ที่พร้อมจะนับถือตูฮันผู้สร้างพหุจักรวาล
ส่วนเรื่องมีสามีและลูกรออยู่นั้น เขาไม่เห็นจะสนใจเลย
“ข้าสงสารเอ็งว่ะ” ดนพูด
“ดักคอไม่ให้ขายสมบัติเมียมั้ง” ป๊ะเอ่ยขึ้น
“ใช่ครับ ไม่ถนอมน้ำใจกันมั่งเลย” ดนตอบ
มองเพื่อนรักด้วยความเข้าใจ
ดน ทุ่งบุหลังนั้น คิดตลอดเวลาว่าเบื้องหลังการแต่งงานของหนุ่มสาวคู่นี้นั้น เขาได้รับรู้ตั้งแต่ทั้งสองแรกเจอกันแล้ว เปรียบหนุ่มสาวแต่งงานคือการสร้างมัสยิดหลังหนึ่ง เขาก็เป็นหนึ่งผู้มีส่วนร่วมเต็มร้อย แต่เวลานี้มัสยิดหลังนั้นกำลังมีรอยร้าวไปทั่วอาคาร บอกอีกไม่นานมันอาจจะพังครืนลงมาก็ได้ ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียนี่กระไร
เพื่อนสังเกตนานแล้ว บ่าว หลังจากแต่งงานเพื่อนก็แทบเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาเคยบอกฐานะจนรวยไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผัวเมียต้องช่วยตามกำลังไม่ใช่แบบศัตรู เศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้ ถึงเวลาช่วยแบ่งเบาภาระกันบ้าง
ธิดารู้ดีตั้งแต่บ่าวผ่อนรถยนต์ภาระการเงินก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่ก่อนแล้ว ก็ยิ่งย่ำแย่หนักขึ้นอีก แต่ละเดือนหาเงินผ่อนหายใจไม่ทัน วิ่งกู้หนี้ยืมสินไปทั่ว เมียน่าจะยื่นมือช่วยได้แล้ว ไม่ใช่ให้เขาจมน้ำตายคนเดียว
นับวันก็ยิ่งเห็นว่าใยผูกพันธิดากับแม่ยายไม่ธรรมดา ไม่เหมือนสายสัมพันธ์เช่นลูกกับแม่ทั่วไป แต่มีฉากหลังที่คอยฉุดกระชากผัวเมียอีกคู่หนึ่งลงเหวสีดำอย่างน่ากลัว
“ซื้อรถหาเหาใส่หัวเองทำไมล่ะ” ธิดาเอ่ยขึ้นในวันที่เขาบ่นค้างค่างวดผ่อนรถติด ๆ กัน
ธิดามีเงินที่ฝากมะนับแสนบาท ยามวิกฤติเช่นนี้น่าจะช่วยให้หยิบยืมสักเดือนสองเดือนค่อยใช้คืนให้ แต่ครั้นได้ฟังเสียงเมียรักแล้วต้องเปลี่ยนใจ เขาทำได้เพียงแต่คิดเท่านั้น
บ่าวมองเธอขับรถลับสายตา วันชื่นคืนสุขเบื้องหลังรอยยิ้มแสนสวย ผู้หญิงที่เจอในงานมงคลปีนั้นหายเกือบหมดสิ้นแล้ว
ป๊ะวัยแปดสิบมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ชายหนุ่มที่มะเสียชีวิตตั้งแต่เล็ก ๆ จนเติบใหญ่ส่งร่ำเรียนกลับบ้านเป็นโต๊ะละใบ มีอาชีพกรีดยางที่เขาปลดระวาง คิดว่าลูกชายคงมีชีวิตที่ดีขึ้น มีคู่ครองก็ช่วยเหลือกันน่าจะสร้างหลักปักฐานมั่นคง เขาจะได้นอนตายตาหลับสักที โชคชะตาแต่งงานกับลูกสาวคนร่ำรวยแห่งตำบล มีที่ดินรวมพัน ๆ ไร่ ใคร ๆ ก็พูดว่าเขาโชคดีที่ได้แต่งงานกับคนรวยมากมายตั้งตัวได้เร็ว ความจริงแล้ว เขาไม่ได้พึ่งพาอะไรได้เลยสักอย่างเดียว
เช้านี้อดที่จะสงสารลูกชายไม่ได้เลย ธิดาเป็นคนกตัญญูกับมารดาประกอบอาชีพส่วนตัว มีเงินทองเป็นของตัวเอง ดีเหมือนกันไม่ต้องยุ่งกับสิ่งที่เธอฝัน บ่าวยิ้มแห้งแล้งให้กับคนที่สนิททั้งสอง หนึ่งคือเพื่อนรักสองคือป๊ะที่มีแต่ความจริงใจต่อกัน
ทั้งสองมั่นคงเรื่องรักคล้ายกัน ดน ทุ่งบุหลัง ไม่แต่งงาน ตั้งแต่มะตายป๊ะก็ไม่แต่งอีก เชื่อว่าผู้หญิงที่ไม่ทรยศสามีตายไปก็จะเป็นนางฟ้า หรือบีดาดารีบนสวรรค์
ให้ตายสิ เธอไม่น่าส่งยิ้มดั่งจันทร์งามในโรงจอดวันนั้นเลย ทุกวันนี้เธอรักแม่ผู้ขาดแคลนความรัก เติมเต็มหุบเขาแสนเทวษลูกนั้น บ่าวรู้แล้วว่าที่เธอตัดสินใจแต่งหาได้มีความรักอะไรเขาเลย นอกจากจะหนีออกจากบ้านไปให้ไกลบ้านที่มีเสียงก่นด่า ป๊ะมะสองคนมีแต่เรื่องไม่เว้นแต่ละวัน
แว่วเสียงจากปลายยอดกุนุงยือไร ไกลโพ้น เสียงกลองดุฟดังขึ้นพร้อมขลุ่ยไม้ไผ่ทำนองโศกเศร้ากรีดหัวใจบ่าวได้มองเห็นใครคนหนึ่ง นั่งเขียนบทกวีที่กลั่นจากหัวใจด้วยมือสั่นระริก เขาเริ่มเขียนคำแรกแล้วหยุดคิดนิ่งนาน
ธอตัดสิากกับแม่ยายนับแสน งได้ ค ใครคนนั้นวางปากกาฟังด้วยความตั้งใจ ชวนคิดถึงเหตุการณ์ผ่านมาในชีวิตคู่ครอง ตั้งแต่วันแรกแต่งงานถึงวันมีโซ่ทองคล้องใจ แต่เมื่อวันนั้นมาถึงพายุร้ายก็พัดผ่านมากระชากทุกสิ่งหายวับไปกับตา
ท่านให้หนุ่มสาวแต่งงาน แต่ยังได้ห้ามไม่ให้ผัวเมียหย่าร้างกัน เมื่อรักหวานชื่นกลายเป็นยาพิษให้สองคนแยกทางสั่นสะเทือนถึงบัลลังก์ของพระองค์ทีเดียว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments