เจ็ดเดือนต่อมา ธิดาคลอดลูกสาวหน้าตาน่ารัก ป๊ะตั้งชื่อ ซัลมา แปลว่าหญิงที่ปลอดภัย รอดพ้นจากสิ่งไม่ดีต่าง ๆ
ครั้นวันทำบุญโกนหัวลูกสาวเสร็จสิ้น ธิดาก็เริ่มทำงานปลูกผักกับมะ จะกลับตอนค่ำมืดมุ้งมิ้งเช่นเคยปฏิบัติมาก่อน ส่วนเลี้ยงลูกเป็นภาระก๊ะไสหนาบคนเดียว
ก่อนนั้น พี่สาวบอกจะไม่แต่งงานจะคอยเลี้ยงหลานให้น้องชาย วันนี้ก็ได้งานทำสมใจ ธิดาฉวยโอกาสทองทันที
เธอน่าจะเห็นแก่ลูกที่เติบโตขึ้นเห็นไออุ่นพ่อแม่ที่เคยคุยกันหลังแต่งงาน สองคนจะช่วยกันสร้างบ้านแสนสุข ไม่เช่นนั้นมือผีจะช่วยสร้างให้ได้วุ่นวายไม่รู้จักจบทีเดียว
ตั้งแต่ได้คลุกคลีฮาเร็มที่ใคร ๆ พากันอิจฉา ถามตนเองพลัดหลงมาได้ยังไงกันนะ หัวใจที่แช่มชื่นจากวันแต่งงาน แม่ศรีเรือน บ้านแสนสุขที่ฝันค่อย ๆหายหมดสิ้นแล้ว
สามปีผ่าน ธิดาเช้าไปเย็นกลับ ยังชอบกลิ่นขี้วัว ขี้แพะกองหน้าบ้าน คุ้นเคยฮาเร็มคอกวัวที่ไม่มีส่วนไหนเปลี่ยนแปลง
ห้องนอนที่ไม่เคยเก็บมุ้งหมอน เห็นสีคล้ำดำเหม็นสาบชั่วนาตาปี ยอมดมเหม็นคลุ้งได้ทั้งวันโดยไม่คิดจะนำไปซักล้างแต่อย่างใด
ทั้ง ๆ ที่รู้สิ่งแดกดันไม่ได้ผลก็ฝืนทำ หัวอกคนถูกพรากรักหนักปานนั้นหรือนี่ ภาพแดกดันให้เห็นตั้งแต่หน้าบ้าน ถึงที่นอนก็ไม่ผิด ห้องครัวกินข้าวใต้ถุนคือโคลนเน่าเหม็น วัว แพะหลุดคอกถ่ายเรี่ยราดก็ยังสูดดมกันอยู่ได้หน้าตาเฉย
ธิดาเห็นท่านสุลต่านยังสนุกกับนักท่องราตรีเนื้อหอมตั้งแต่ห้วยยะวาถึงห้องอาหาร เป็นเทพบุตรสุดเวหาอย่างไม่เบื่อหน่าย
สุลต่านติดนักร้องชื่อแก้วตา ณ เมืองอุดร ชนิดโงหัวไม่ขึ้น เที่ยวเฝ้าเวียนเอาใจ หาบ้านเช่าแห่งใหม่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ให้สมกับฐานะคู่รักนักธุรกิจผู้มั่งคั่งไม่ให้อายใคร ๆ
“เมื่อไหร่ป๋าเปิดตัวหนูสักทีคะ” นักร้องเอ่ยถามเมื่อเห็นรักสุกงอมเต็มที่
“รออีกไม่นานจ้ะ”
“กลัวเมียหรือคะ” นักร้องสาวหยอก หัวเราะเบา ๆ ไม่ให้สุลต่านเครียดนัก
“โอ ไม่หรอกจ้ะที่รัก ป๋ายุ่ง ๆ กับเรื่องธุรกิจที่บริษัทนะ เรื่องเมียไม่มีปัญหาหรอก” เขาเอ่ยใจเย็น
แต่เบื้องลึกร้อนผ่าว รู้สึกเม็ดเหงื่อผุดตามรูขุมขน ใช่แล้ว มารหัวใจขณะนี้ พุ่งเป้าที่ออแนหญิงหม้าย ผู้เคยสร้างวีรกรรมโชกโชนคนนั้น ให้นางตกลงมันยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา
ออแน สุไหงบาตูขึ้นชื่อไม่ยอมคน ดุอย่างกะแม่เสือดาว สมมติไม่สบอารมณ์ขึ้นมานางเอามีดปักอกหรือเชือดลูกกระเดือกใครก็ได้
เช้าวันที่อากาศดีกว่าทุกวัน สายลมจูบอำลาต้นเงาะในสวนแผ่วเบา ออแนชวนสุลต่านเดินชมวิวสวย ๆ ริมคลอง กลางบรรยากาศยามเช้าแสนโรแมนติก
“มีเรื่องจะคุยค่ะ” ออแนมองสามี
“ชุกลูกเราโตทุกวัน น้องอยากได้ดินเพิ่มสักแปลงค่ะ” นางพูด
ขยับเสื้อคอกระเช้ามองเห็นเนินอกขาวผ่อง เอ่ยถึงชื่อลูกชายที่ให้กำเนิดไล่ ๆ ลูกชายาเอกชื่อชุก สุไหงบาตู
นางท่องจำขึ้นใจลูกชายเมียทั้งสองนั้นได้รับมรดกเท่า ๆ กันจากบทบัญญัติแบ่งมรดก นางจะอาศัยช่องทางนี้เสกสมบัติเอามากองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“บอกได้เลยจ้ะ เว้นดาวบนฟ้าเท่านั้นแหละ” สุลต่านเปล่งสำนวนสำราญ
วันนี้เช่นกันที่เขาจะเลียบ ๆ เคียงถามแม่เสือสาว คิดยังไงผู้หญิงหมายเลขสาม
กลิ่นน้ำหอมฟุ้งทั้งห้องอย่างกะนอนแช่โรงงานน้ำหอมแรมเดือน ท่านสุลต่านนึกถึงมุ้งสีดำ หมอนสีเทา กลิ่นเหม็นอับห้องนอนบ้านชายาเอก ห้องนอนเบอร์สองไม่ผิดอะไรกับสวรรค์ดี ๆ นี่เอง
“ได้ยินบังติดนักร้องเหรอ” ออแนถาม
อาบู ฮาซันตอบด้วยประทับจูบหน้าผากแผ่วเบาราวกลัวเป็นรอยช้ำบนใบหน้าขาวผ่องของออแน สุไหงบาตู นอนเบอร์สองไม่ผิดอะไรกับสวรรค์
“บังพบลูกค้าถมดิน ไม่มีผู้หญิงหรอก”
“ไม่ได้โกรธนี่จ๊ะ” อดีตแม่หม้ายลังกาวีพูด
“สาบาน ไม่มีหรอกจ้ะ”
“บังจะมีใหม่อีกสักคนใครจะว่าได้ล่ะ น้องเข้าใจเรื่องนี้ดีค่ะ” ออแนเน้นเสียงออเซาะ หวังเพียงท่อนเดียวมันจะละลายสุลต่านได้ทั้งร่าง
“ถ้ามีจะบอกน้องคนแรกเลย”
“ต้องบอกคนแรกสิคะ” พูดพลางหัวเราะ
“สนใจอะไรล่ะ” อาบู ฮาซันตอบชัด ๆ
“บังจะให้ตรงไหนคะ” นางถามเสียงตื่นเต้น
“บอกมาสิ”
“น้องอยากได้สวนเงาะทั้งสิบไร่” ออแนตอบ
“ได้สิจ๊ะ”
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าดินนั้นให้ธิดาแล้วครึ่งหนึ่งก็ไม่สนใจ อาบู ฮาซันดีใจที่เมียหลีกทางตอบแทนรางวัลให้อย่างงาม จะให้หรือเอาคืนอยู่ที่ลิ้นเท่านั้น สมบัติมีมากเป็นภูเขาเลากาจะไปสนใจใครล่ะ
ตั้งแต่ออแน เปิดทางให้ฮาเร็มหมายเลขสามต้องเป็นจริงอีกไม่นาน เพื่อความสะดวกในการพักค้าง เขาคิดดื้อดึงจะปลูกฟากตรงข้าม มะห้ามก็จะไปสนใจทำไมล่ะ
ฝั่งตรงข้ามคฤหาสน์คอกวัวเป็นสวนละมุดมาหลายปี อากาศร่มรื่น ได้ปลูกใกล้ ๆ เพียงเดินข้ามถนนก็พบได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางเหมือนที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เขาคิดเข้าข้างตนเอง ไม่สนคำสั่งมะสักนิดเดียว
เพราะกลัวมีใครแย่ง มีไต้ก๋งเรือ พ่อค้าต่างมาขายขนมจีบ หวังเป็นเจ้าของหัวใจนักร้องสาวสวย ท่านสุลต่านชวนคู่หูเข้าเมืองรับบทเฝ้านักร้องตั้งแต่ห้องอาหารยังไม่ทันเปิด
“สวัสดีค่ะป๋า” นักร้องสาวทักทาย เดินนวยนาดเข้าหาเทพบุตรเจ้าของควนบาดะทองคำแห่งนั้น
คืนแรกที่เจอนั้นก็ได้ตกหลุมรักทันที เกิดมาไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยถูกใจแบบนี้ ซีตี ฟาตีมะเคยหัวเราะเมียแต่ละคนอ้วนเหมือนโอ่งเดินได้ ต่อไปจะเลิกแขวะสักที
ตั้งแต่คบนักร้องสาว ดินลูกควนคันละหกร้อยบาทถูกถมห้องอาหารในเมืองเสียครึ่งลูก เพราะเขาประเคนเงินทั้งรายวัน รายเดือน ให้นักร้องสาวอย่างอิ่มหนำก่อนที่จะนิกะห์ซะอีก น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านหมดเงินเท่าไร บ้าน รถ เครื่องอำนวยความสะดวก จ่ายค่าแชร์เดือนละสามพัน เอาใจนักร้องครบวงจรเจ้าบุญทุ่ม
“อยู่บ้านเลี้ยงควาย ที่นี่ควายเลี้ยง” แก้วตา พูดพร้อมกับหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
เธอกับเพื่อนชาวอีสานชอบนั่งนินทาสนุกปาก เพื่อน ๆ นักร้องรู้ดีแก้วตามีเส้นทางยังไง จากบ้านเพื่อหาเงินไม่ใช่ผัว สักวันหนึ่งเธอก็จะกลับสู่อ้อมกอดคนรักที่บ้านเกิด
“วันนี้มีข่าวนิกะห์มาฝากจ้า” สู บ่าวเบ้งคนรู้ใจเอ่ยตามน้ำทันควัน
“ตายจริงจะเป็นมุสลิมจริง ๆ แล้วดีใจจังค่ะสุลต่านขา” เธอทำตาโตอุทาน
พนมมือไหว้สวย ๆ อ่อนหวานด้วยมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียน สายตาหวานฉ่ำมองคนรูปหล่อราวจะกลืนหายลงท้อง ไม่เคยเจอตัวจริงมานาน หนนี้สวรรค์บันดาลให้สักที
“ฉันจะเลิกกินหมูนะ” บอกน้ำเสียงตื่นเต้น
รู้สึกปลาบปลื้มใจบทมุสลิมคนใหม่ ที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน เคยรู้เพียงเป็นมุสลิมกินหมูไม่ได้ ต้องมีคลุมหัวมิดชิด ตัดใจไม่ใส่กระโปรงสั้น ต้องซื้อหนังสือมุสลิมเบื้องต้นมาอ่านสักเล่ม
ส่วนเรื่องความเชื่อกุนุงยือไรคือที่อยู่พระอิศวรหรือที่อยู่ของพระเจ้าต้องเข้าใจใหม่ มุสลิมเชื่อว่าตูฮันคือผู้สร้างรวมทั้งสิ่งที่อยู่ระหว่างฟากฟ้าและแผ่นดินไม่มีทางเป็นอื่นได้อีกแล้ว
ท่านสุลต่านพานักร้องทำพิธีเข้าอิสลามบ้านโต๊ะอิหม่ามได้ชื่อใหม่ศรีจายา สมกับใบหน้าสวยงาม เสร็จพิธีเขาแวะห้างซื้อเสื้อผ้าใหม่หมด บอกอยู่บ้านเช่าเดิมชั่วคราวไปก่อน ค่อยสร้างฮาเร็มเสร็จจะรับไปอยู่ด้วยประสาผัวเมีย ศรีจายารู้สึกสายลมกำลังอุ้มเธอลอยขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าก็ไม่ผิด
นางยิ้มให้ท่านสุลต่านอย่างตื่นเต้น โชคดีมาก ๆ ที่ได้เจอคนรวย เพื่อนบางคนข้ามทะเลถึงเกาะลังกาวีเป็นลูกจ้างสุดท้ายแขกมาเลเซียหลอกกลับบ้านมือเปล่าก็มี
วันเวลาผันผ่านตามปกติ ฮาเร็มหลังใหม่สวยงามโดดเด่นอยู่คนละฟากถนน ปลูกอยู่ในเงาร่มรื่นต้นละมุดหลายสิบต้น ไม่สนใจคำมะอย่าให้เมียสองคนเผชิญหน้ากัน
“ลูกเห็นไหมป๊ะทำอะไร” ชายาเอกพูดลั่น
“มะใจเย็น ๆ ค่ะ” ธิดาพูด
“กูทนไม่ไหวแล้ว กูทนไม่ได้” ชายาเอกร้องตีโพยตีพายไม่ยอมหยุด
ธิดาดูผู้ให้กำเนิดสงสารจับใจ ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งเจอปัญหาไม่รู้จักจบสิ้นสักที ดูสิ ผมหงอกขาวโพลนรุงรัง ใบหน้าแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา มองผิวเผินเหมือนศพเดินได้ รักข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่งเป็นเช่นนี้เอง ทำไมมะพบกับคนชอบนอกใจเมียแบบไม่รู้จักพออย่างนี้นะ
ตั้งแต่แต่งงานสามีทำตัวเป็นคนเจ้าชู้ วัน ๆหลงตัวเองหน้าตาดี มิหนำซ้ำยังมีสมบัติมากมายก่ายกอง ฟุ่มเฟือยยังไงก็ไม่มีวันหมด
มะไม่มีอะไรทัดทานสามีได้อีก ความอดทนอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อาจจะทำให้มะเป็นบ้าไปจริง ๆสักวันหนึ่ง
“คิดไว้ไม่ผิดเลย เขาสร้างบ้านให้แล้วเห็นไหม” ชายาเอกพูด
“ผู้ชายอย่าเชื่อใจนะลูก” มะพูดเคี้ยวฟัน
“ทุกคนหรือเปล่าคะ” ธิดาถาม
เธอสงสารมะจับใจ มีสามีทั้งรวยแต่ไม่เคยทำอะไรให้เห็นเลยแม้แต่จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ หรือเปลี่ยนเชือกวัวให้ นอกจากขี้โม้ อวดรวย มะเกิดมาเพื่อรักเขา ขณะที่เขาเกิดมาเพื่อฆ่ามะจริง ๆ กระมัง
“สันดานเหมือนกันหมด ทั้งบ่าวเธอด้วยนั่นแหละ” นางเค้นเสียงเครียด มองหน้าลูกสาวจริงจัง ด้วยแรงไฟรักสุมอก นางมัดรวมผู้ชายรวมทั้งโต๊ะละใบที่เคยอยากได้ก็ไม่ยกเว้น
พูดถึงผู้ชายโลกทั้งใบนางพร้อมเปลี่ยนเป็นสีดำทันที สิ่งที่ทรมานหัวใจทุกวันนี้เกิดจากผู้ชายทั้งนั้นแหละ
ธิดาเชื่อฟังคำเตือนหน้าตาซื่อ ๆ แบบบ่าวทำให้ผู้หญิงน้ำตาร่วงมานักต่อนักแล้วเธออย่าได้วางใจเด็ดขาด
ใช่แล้ว สายลมโบราณ หมุนวนเหนือหลังคามันหาได้โบกพัดเล่นไร้แก่นสารหรอก จริง ๆ แล้วมันมีบางอย่างซ่อนเร้น เช่นกุนุงยือไรที่กุมความลับและความน่ากลัวนานนับร้อย ๆ ปีมาแล้วนั้น ยังประสงค์ลี้ลับบางที่ค่อย ๆ เปิดเผย ดั่งอุปรากรเรื่องยาว หรือบทกวีที่เพิ่งเริ่มต้น ที่กวีผู้เขียนเองก็ยังบอกบรรทัดต่อไปไม่ได้ว่าคืออะไร
ตั้งแต่ซื้อรถยนต์มาใช้ทำให้รายได้ติดลบทุกเดือน ทำท่าจะไปไม่รอด หยิบยืมจนเกิดหนี้สินรุงรัง ปวดหัวไม่เว้นวันถึงวันที่ต้องตัดสินใจ
บ่าวยอมเอ่ยปากขอให้ธิดาช่วยเป็นครั้งแรก รถยนต์ของเขาก็เหมือนของเธอนั่นแหละ และเธอก็มีเงินเก็บ เพียงให้หยิบยืมก็ช่วยผ่อนคลายได้บ้าง แต่เธอไม่ยอมปริปาก ยังคงบอกด้วยกิริยาเธอไม่เกี่ยวเป็นเรื่องของบ่าวคนเดียว
“เดือนนี้ไม่มีเงินเหลือคิดจะส่งรถคืนสหกรณ์ดีไหม มันไม่ไหวแล้วจริง ๆ” บ่าวพูด
ก๊ะไสหนาบ ไม่นึกเลยว่าน้องคิดถอดใจแบบนั้น แสดงว่าอยู่ในขั้นย่ำแย่ขนาดไหน
“เดือนนี้ ให้พี่ช่วยก่อนก็ได้นะ” พี่สาวเอ่ยขึ้น
พี่สาวสังเกตมานาน ธิดาโยนภาระสามีคนเดียว ตั้งแต่เงินใช้จ่ายในบ้านทุกบาท เป็นรายได้จากกรีดยางให้เมียเก็บไว้ ยามสามีมีปัญหาต้องช่วยเหลือกันบ้าง แต่เธอไม่ช่วยอะไรเลย
“ธิดาคงมีเหตุผลนะครับ” บ่าวพูดเสียงเบา
บ่าวเป็นคนอดทนแย้มยิ้มให้ทุกปัญหาเสมอ เธอไม่เคยได้ยินตำหนิเมียให้ฟัง ขนาดนี้ยังเข้าข้างเมียรักเสมอ
สุลต่านคนที่ให้ยุติธรรมเพียงลมปากก็เห็นแล้วว่า เขาเบียดเบียนเวลาเมียเก่าให้คนใหม่ชัดเจน ปากชอบอ้าง ถ้ามีทรัพย์เลี้ยงดูพวกนางได้อย่างดีอนุญาตให้มีสอง สาม หรือสี่ นั้นฟังให้ดูดีในร้านน้ำชาเท่านั้นแหละ
ชอบนินทาว่าเขาไม่เป็นธรรม เป็นเรื่องของคนขี้อิจฉาที่เขามีเมียสวย เขาทำตามพิธีไม่ได้ทำผิดหลักสักหน่อย ภาพเหล่านั้นสุลต่าน ไม่สนใจแม้แต่น้อย ท่านเดินเกินที่พฤติกรรมแดกดันให้ยุติ อย่าว่าแต่ชายาเอกเลยออแนก็ไม่ต่างกัน
ตั้งแต่สร้างฮาเร็มคนละฟากถนน อาการชายาเอกแทบจะคลุ้มคลั่ง ความทุกข์มันเดินนำหน้าความน่าละอายแล้วกระมัง วัน ๆ ไม่อายบ้างหรือที่เดินให้นมห้อยโตงเตงไปเลี้ยงวัวกลางแดด
ไม่มีใครรู้ ให้เมียเผชิญหน้ากันมันคือระเบิดเวลาชัด ๆ นางต้องทนเห็นอดีตนักร้องตรงข้ามเช้าเย็นทรมานขนาดไหน อาบู ฮาซันช่างไม่รู้จิตใจของลูกผู้หญิงเสียเลย
ทำไมชีวิตแสนเจ็บปวดไม่รู้จักจบสิ้นขนาดนี้นะ เคยดีใจได้ลูกชายสมใจ แต่ตูฮันก็ประสงค์ออแนได้ลูกชายเช่นเดียวกัน เด็กนั่นเกิดมาชิงสมบัติก็ไม่ผิดนัก ต่อไปไม่แย่งสมบัติกันวุ่นวายหรือ
ใครจะรู้บ้างหลังจากหมดเวลาข้าวใหม่ปลามัน เพียงได้ลูกชายคนแรก ออแนก็ต้องตกเบ็ดในคลองข้างบ้านหากิน ปล่อยให้หากินตามมีตามเกิด ไม่สนใจเหมือนตอนแต่งงานใหม่ ๆ
ชาวบ้านใกล้เข้าใจชีวิตเมียสุลต่านสุขสบาย มีเงินใช้จ่ายสนุกมือ ที่จริงคือช่วงสั้น ๆ ตอนเพิ่งเจอกันเท่านั้น ครั้นพอมีคนใหม่เขาก็เปลี่ยนเป็นคนละคนทันที
“ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่” สุลต่านตะคอกดัง ๆ
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ” ออแนตอบเสียงเบา
ชีวิตจริงสอนนิสัยให้ดูเวลาโกรธจัด สุลต่านเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เหมาะที่จะอยู่กันจนแก่เฒ่าได้หรอก
โอ้หนอ ทำไมความรักช่างเบาหวิว เหมือนเศษขยะที่พร้อมที่จะถูกสายลมพัดได้หายไปจากโลกตลอดเวลาเช่นนั้น
ตั้งแต่มีนักร้องมาแทนก็ออกฤทธิ์เดช นางต้องระวังตัวยิ่งกว่าเดิม ไม่รู้จะถูกหย่าทิ้งตอนไหน คำว่า ฉันหย่าเธอ ผู้ชายทำได้เพียงปลายลิ้น พูดให้พยานได้ยินสองคนที่ร้านน้ำชา ก็ทำให้สิ้นสภาพผัวเมียได้ทันที
ในวันที่ลูกสาวยังไม่กลับจากโรงเรียน ก๊ะไสหนาบทำกับข้าวตามปกติ
หลังจากหมดภาระเรื่องรถยนต์ บ่าวก็นึกถึงบ้านในฝัน ไปจ้างเขียนแบบให้เหมาะกับงบประมาณ มอบแบบบ้านให้เธอดู แทนที่จะดีใจกลับทำหน้าบึ้ง โยนลงตรงหน้าทันที
“อย่างกับเล้าไก่” เสียงเย็นชา
“มีเพื่อนแนะนำ คนนี้ออกแบบเก่ง ราคาก็ไม่แพงเลย” บ่าวพูดถึงคนเขียนแบบแปลนบ้าน ให้ธิดายอมรับ
ธิดามองดูแบบบ้านไม่สบอารมณ์ พึมพำอย่างหัวเสียใหญ่โตราวกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ที่สามีทำผิดพลาดใหญ่โตยนลงตรงหน้า ื่องยาก เธออาจมีใจอ
“ต่อมาข้างหน้าสักหน่อยสิ”
“หน้าบ้านเว้นเอาไว้ จะปลูกดอกไม้นะ” บ่าวบอกสิ่งที่ฝันอยากเห็นหน้าบ้านมีชีวิตชีวา สร้างแรงบันดาลใจเขียนบทกวีที่เขารักบ้าง
“ผู้ชายชอบดอกไม้อย่างกับพวกลักเพศ ปลูกมะพร้าว ปลูกปาล์มดีกว่า” เธอพูดตรง ๆ ตามนิสัย
“ดูดอกไม้บ้างสบายใจดีนะ” บ่าวแย้ง
“ไม่ค่ะ ฟังให้ดีนะ” ธิดาเอ่ยเสียงกร้าว
เธอบอกจะอาสาหานายช่างเอง บ่าวเพียงดูอยู่ห่าง ๆ ไม่ต้องทำอะไร บ้านในฝันทุกคนกลายเป็นในบ้านของคนคนเดียว เธอทำลายดอกไม้หน้าบ้านตั้งแต่ยังไม่ทันได้ปลูก ธิดาขยำกระดาษทิ้ง ตั้งแต่เขายังไม่ลงมือเขียนบทกวีเชียวหรือนี่
“ผมแค่คิดนะครับ” บ่าวเอ่ยเสียงเครียด
ธิดาสู้สุดฤทธิ์ บ้านของเธอนั้น มีคอกวัวอยู่หน้าบ้านตั้งแต่จำความได้ หรืออยากสูดดมมีไอเหม็นโชยแทนกลิ่นดอกไม้กระมัง
ตัดสินใจยืดเวลาสร้างบ้านก่อน ขืนดื้อดึงอาจชนวนถึงขั้นหย่าร้างก็ได้ ขัดแย้งสวนดอกไม้ แต่เหมือนดึงอิฐก้อนเดียวบ้านก็พร้อมพังครืนได้ง่าย ๆทีเดียว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments