สายลมแห่งกุนุงยือไรยังคงโบกพัดข้ามเส้นพรมแดนให้กำลังใจเครือญาติเดินทางไปมาเซอตูลกับเกอดะฮ์หรือชื่อใหม่ของไทรบุรีสม่ำเสมอ
สายลมโบราณพัดข้ามร่องอดีตวันสุดท้ายของตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ดอนัลด์ แมคกิลลิฟเรย์ มาเลเซียประกาศเป็นเอกราช ตงกู อับดุล ราห์มาน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก
สายลมม้วนตัวผ่านชายแดนวังประจัน ห้วยยะวา ต้นประดู่ กัมปงโฉลง ห้วยซูกา และลอยวนเหนือกุโบร์ ที่ป๊ะ ยีสันนอนอยู่ใต้ผืนดิน ลอยอ้อยอิ่งแถวนั้น
ในทันใด มันม้วนตัวคล้ายก้อนเมฆรูปงูใหญ่ยักษ์สีขาว ท่อนหัวตั้งอยู่ปลายยอด หางม้วนกอดรัดควนบาดะทั้งลูกเอาไว้คล้ายงูใหญ่ทำท่ากลืนกินควนดินแห่งนั้น
สายลมแห่งภูเขากุนุงยือไร หรือที่ชาวพุทธเรียกว่าเขาพระสุเมรุที่อยู่ของพระอิศวร หรือที่อยู่ของพระเจ้าที่บูชา ที่ยังลึกลับดำมืดลอยผ่านกาลเวลาไม่เสื่อมคลาย
สายลมยังทำหน้าที่สำรวจสิ่งที่มองเห็นและไม่เห็นด้วยตาเปล่าที่เกาะเกี่ยวเป็นก้อนเดียวกันด้วยสายตาของนักล่าหัวคนที่เกาะเสากระโดงเรือสำเภาสัญชาติตะวันตกปีนั้น
ค่ำมุ้งมิ้งแล้ว ท่านสุลต่านเตรียมลงจากบ้านเช่นเคย ไม่สนใจเสียงอาซานชวนละหมาดจากสุเหร่าเชิญชวนผู้ศรัทธาร่วมพิธีอีกครั้ง
“หยุดบ้างเถอะ” มะเตือน
“ได้เมียนักร้องแน่คอยดูสิ” ชายาเอกพูด
เมื่อได้ยินแม่ยายเตือนลูก นางก็ได้โอกาสวิจารณ์ทันที หมั่นไส้ที่ใส่น้ำหอมคลุ้งเดินผ่านคอกวัวโชยกลิ่นเหม็น
“อยู่บ้านกูเหม็นตูบงพร้าวเน่า” เขาพูด
เปรียบเนื้อตัวเมียเหม็นเป็นจาวมะพร้าวเน่า ไม่อยากอยู่ใกล้ด้วย เป็นข้ออ้างเที่ยวหาความสุขนอกบ้านดีกว่า
“ท้องแปดเดือน ใกล้คลอดอยู่นะ” นางพูด
“ช่างมันสิ” สุลต่านพูดห้วนสั้น
“นี่เวลาผีออกหากินนะลูก” มะเตือน
คนสมัยก่อนสอนลูกห้ามออกจากบ้านเวลามืดค่ำ จะอยู่ที่ไหนก็ให้รีบกลับบ้านโดยเร็ว เพราะเป็นเวลาผีออกล่าเหยื่อ
“กูเป็นผีมีเงิน ผีทำอะไรกูไม่ได้หรอกจะบอกให้” อาบู ฮาซันตอบดัง ๆ
ก่อนที่จะก้าวเดินลงจากบ้านพาตัวหายไปราตรี ไม่สนใจเมียและมะอีก เขาได้พาตัวเองเดินสุดเส้นทางที่คำตักเตือนก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว มิหนำซ้ำยังท้าทายเดิมพันให้แก่ชีวิตอย่างอหังการ นำดินบนควนท้าทายกิเลสตน หารู้ไม่ราคาที่ต้องจ่ายคืนแพงขนาดไหน
อาบู ฮาซันติดนิสัยเที่ยวราตรี เวลาค่ำมืดราวกับมีผีกวักมือเรียกกลับบ้านดึกทุกคืน แก้เก้อนิสัยเที่ยว ก่อนนอนยังชอบบ่นให้ฟัง เชือกวัวเก็บไม่เป็นที่ ตับจากใต้ถุน เปลือกมะขามในรองเท้าคู่โปรด เป็นนิสัยที่ไม่ดีของเมียคนเดียว
ในฐานะเมียเบอร์หนึ่งอดถามไม่ได้ ทุกวันนี้ทนอยู่เพื่ออะไรกันนะ เขาเป็นคนน่าเบื่อ นิสัยชอบอวดตนเหนือใคร ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลยสักอย่างเดียว
เพียงห้าเดือนถัดมาตูฮันได้ตอบรับคำพูดเล่น ๆชายาเอก เขาได้ติดพันนักร้องห้องอาหารเซอตูลคาเฟ่ มีชื่อแก้วตา ณ เมืองอุดร
คลั่งไคล้ขนาดไปรอตั้งแต่หัวค่ำห้องอาหารยังไม่ทันเปิด แปลงกายเป็นมดแดงเฝ้ามะม่วง กลัวจะมีใครแย่งไป
แก้วตาหญิงหม้ายอีสานออกจากบ้านท่องคำว่าไม่รวยไม่กลับ ขึ้นชื่อหญิงแกร่งทำงานได้สารพัด คนงานก่อสร้าง เด็กนั่งดริงก์ จับไมค์ร้องเพลง นักสู้ชีวิตระดับแตกลายงาคนหนึ่ง
“ตัวจริงหล่อจังค่ะ” นักร้องสาวสวยทักทาย
“มีเงินเยอะด้วย” สู บ่าวเบ้งสวมบทไอ้สีแก้วพลอยรุ่ง อุ้มลูกพี่ขึ้นทำเนียบเจ้าบุญทุ่มทันที
“ต้องพิสูจน์แล้วละค่ะ” แก้วตาเอียงคอพูด
ตั้งแต่ออกจากบ้านทิ้งลูกชายและสามีติดเหล้าไว้ข้างหลัง เจอผู้ชายนับร้อยพัน พูดได้เต็มปากว่าสุลต่านคือคนที่มองหาชั่วชีวิตทีเดียว
“ได้สิจ๊ะ” ตอบรับทันที
วันรุ่งขึ้นท่านสุลต่านพาเธอนั่งรถชมอลังการแผ่นดินสองลูกควน กะว่าชมแผ่นดินเสร็จแล้ว จะแวะซื้อทุเรียนหมอนทองราคาแพงแกะกินที่ชายหาดปากบาราให้เต็มคราบ
“เขตที่ดินถึงโน้น” เขาชี้ บอกให้นักร้องเห็นเป็นขวัญตา สิ่งที่พูดกลางแสงสีเสียงในห้องอาหารจับต้องได้จริง ๆ
“กว้างใหญ่เกือบครึ่งโลกนะบัง”
“เรียกสุลต่านสิจ๊ะ” เขาหัวเราะเต็มลำคอ
อาบู ฮาซันชอบให้เรียกสุลต่าน ผู้มีเงินทอง มีผู้หญิงในฮาเร็มให้ความสุข แต่เขามีควนดินตักขายเงินทองมากมายเหมือนกัน
“เราไปฉีกทุเรียน ชมทะเล กันดีไหม” ผู้มั่งคั่งหัวเราะสำราญใจ
วันที่สุลต่านแอบพานักร้อง เป็นวันเดียวกันที่ชายาเอกไล่ฝูงแพะออกหากิน นึกได้ว่าเป็นฤดูทุเรียนบ้านให้ผล จึงเดินข้ามฟากไปยังควนบาดะ เห็นสภาพควนแทบเข่าทรุด ทุกมุมถูกขุดขายมองคล้ายคนปากแหว่ง ทุเรียนเหลือไม่กี่ต้น เก็บทุเรียนกระรอกเจาะหาบกลับบ้านสามลูก
เมื่อสายลมรักได้พัดพาอีกครั้ง หากเทียบกับเมียทั้งสอง นักร้องอีสานก็เป็นเทพธิดาเดินดิน เมียคนหนึ่งหน้าแหลมรูปร่างผอมกะหร่อง อีกคนอ้วนพีเหมือนหมีควาย
ตอนนี้เขาเจอปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเพิ่งแต่งงานไม่ถึงครึ่งปี ออแนคงจะไม่ยอมเปิดไฟเขียวง่าย ๆ หรอก
นางผ่านผู้ชายเยอะ เป็นเมียตำรวจ เมียไต้ก๋งเรือประมง โจรปล้นเรือน้ำมันเถื่อน ขอร้องหยุดที่นางอย่าปันใจให้ใครอีก สุลต่านคือเทวดาองค์สุดท้ายจะขออยู่ถึงวันตายจาก
สุลต่านคิดหนักอกจะทำยังไงออแน ยอมรับแบบไม่มีเลือดตกยางออก ยอมเปิดไฟเขียวไม่หึงหวงขั้นอาละวาด อับอายชาวบ้านอย่างที่เคยทำ เขาจะได้เปิดตัวเมียคนใหม่สักที
สายลมจากเทือกเขาไกลโพ้นได้มองเห็นบ่าวในคืนที่นั่งมองย้อนทวนคืนวันผ่านพ้น เขานั่งฟังเข็มนาฬิกาเคล้าเสียงปี่กลองทำนองเศร้าโศกเรื่องราวที่ดำเนินไป
ภายใต้ฮาเร็มบ่าวก็เช่นคนหลงทางเดินเวียนโถงถ้ำที่ไม่มีทางออก ทั้งรอบด้านสี่ทิศคือสีดำสนิท ไม่มีแสงสว่างปลายถ้ำลึกลับและน่ากลัวแห่งนั้น
กระทั่งสองอาทิตย์ต่อมา บ่าวได้รับข่าวดี ธิดาตั้งท้องสามเดือนแล้ว เขาดีใจที่จะได้เป็นป๊ะของลูกตัวน้อย ๆ ที่จะลืมตาดูโลก น่าแปลกที่ธิดากลับไม่ยินดียินร้ายอะไรนัก
ส่วนท่านสุลต่านวัน ๆ จ้างรถขุดดินขายมีเงินใช้จ่ายเหมือนใบไม้เช่นเดิม บอกเพื่อนฝูงจะเปิดบริษัทภูมิสันติ จำกัด แก้ปัญหา ไม่ต้องแบ่งกำไรกับผู้รับจ้างหน้าเลือด ในเร็ว ๆ นี้จะซื้อแบ็กโฮมือสอง รถบรรทุกหกล้อ รถตักดิน เปิดรับคนงานใหม่ครบวงจรไปเลย
“ทั้งรถเมียมือสองหมด” สู บ่าวเบ้งหยอก
“ยุ่งอะไรด้วยล่ะ” สุลต่านตอบ
อาทิตย์ต่อมามีรถแบ็กโฮ รถบรรทุกหกล้อและรถตักอย่างละคัน ทั้งสามอยู่สภาพมือสอง คลานต้วมเตี้ยมเหมือนหอยทาก ไปนอนหมดแรงเชิงควนบาดะ
ตั้งแต่เปิดบริษัทเช้าถึงเที่ยงคุมงานขุดลูกรังขาย กลางวันวางมาดผู้จัดการ ขับฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ขับโฉบไปเหนือใต้ ตกกลางคืนแต่งตัวใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวพับศอก ชายเหน็บเข้ากางเกงยีน จับรถโตโยต้าคราวน์ 2.0 เฝ้านักร้องอีสานที่ห้องอาหารในเมืองเป็นกิจวัตรประจำวัน
บ่าวเห็นตัวเองเป็นกวีหลงอยู่ในโถงถ้ำสีดำนั่งหัดเขียนงาน ถ้อยคำไร้วรรคพิกลพิการไม่ผิดกวีจากมือผีคอยกำกับ บางถ้อยคำเกี่ยวโยงถึงกิ่งไม้บนกุนุงยือไรที่อยู่ไกลโพ้น
แว่วเสียงกลองและขลุ่ยผิวไม้ไผ่ ทำนองลึกลับดังลอดโถงถ้ำมืด บ่าวเดินทางตามเสียงนานจนรู้สึกฝีเท้าระบม แต่เขาก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้เขยื้อนไปไหนเลย
วัน ๆ ชายาเอกเสียใจชีวิตคู่ รักเขาข้างเดียว เหมือนข้าวเหนียวนึ่งน้ำท่วมไม่ถึงก็แห้งแหงแก๋ ปากชอบต่อว่าสามีสารพัด แต่เจอหน้าก็ปิดปากเงียบ ไม่กล้าพูดกล้าเถียงสักคำ
นางชายาคนที่สองผู้หนีร้อนมาพึ่งเย็นก็ได้แต่จ้องสมบัติตาลุกวาว วัน ๆ ไม่ทำงานอะไรนอกจาก ทาปากแดงยั่วสุลต่านสมองหมกมุ่นจะทำยังไง จะได้ครองแผ่นดินให้มากที่สุด
“ผู้ชายไว้ใจไม่ได้เลยจริง ๆ” นางพูด
ในสภาพเต็มกลืนกับสิ่งที่อาบู ฮาซันทำ นางจึงเลือกลูกผจญภัยด้วยกันบนถนนรักข้างเดียว เกี่ยวธิดาให้ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย
“จะทำยังไงดีล่ะ”
“ต้องเอาชนะให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่งั้นเราจะแพ้จนวันตายรู้ไหม” นางพูดด้วยความมั่นใจ
“เราเป็นเมียต้องให้ผัวเลี้ยง อย่ายอมให้แตะสมบัติเงินทองเราเด็ดขาด เมื่อเขาทิ้งก็ไม่เดือดร้อนยังไงล่ะ” นางสอนให้ลูกสาวยึดมั่น
“ธิดาจะระวังเรื่องนี้ค่ะ” ธิดาตอบรับ
ซีตี ฟาตีมะดีใจที่ลูกสาวเข้าใจง่าย ๆ อย่างลูกที่ดีเชื่อฟังผู้ให้กำเนิด ประโยคทองคำชีวิตคู่ ใช้เท้าข้างหนึ่งอยู่แบบไม่เปลืองเงิน สมบัติติดตัวไม่หาย แต่เท้าอีกข้างเตรียมชักออกวันถูกทิ้ง ไม่มีเส้นผ่ากลางให้สร้างบ้านแสนสุขบ้างเลย
สองเดือนถัดมา ชายาเอกถึงกำหนดคลอดลูก ได้บุตรชายให้เป็นผู้สืบสันดานหรือวาริสที่จะช่วยดูแลมรดกตามที่นางฝันไว้
ลูกชายนั้นจะได้สมบัติทั้งหมดสามส่วนจากสี่ส่วน สมมติเป็นผู้หญิงอีก สมบัติทั้งหมดก็จะแบ่งให้พี่ชายของสามี ธิดาก็ได้เพียงส่วนหนึ่งเหมือนเดิม
ธิดาขอดูแลน้องและขออยู่เป็นเพื่อนมะสักพักหนึ่ง บ่าวก็ไม่ว่าอะไร ออกเรือนแล้วลูกก็รับใช้ผู้มีพระคุณได้เสมอ
นางดีใจที่ได้ลูกชายไม่ถึงเดือน ได้ยินข่าวออแนก็ได้ลูกชายเช่นกัน ส่วนแบ่งสมบัติลูกชายก็ลดน้อยลงไปด้วย ทำไมต้องเป็นเช่นนี้นะ
มีลูกสองคนแล้ว ท่านสุลต่านยังเป็นคนเดิม ไม่เคยหยุดพักดูแลลูกน้อยที่ตั้งชื่อว่าสัก เพราะวัน ๆวุ่นกลับไปมามีฮาเร็มถึงสองแห่ง วันเวลาไม่เท่าเทียมที่เห็นได้ชัด เมียคนใหม่ชวนหลงใหลมากกว่า ถึงเวลาค้างคืนให้ชายาเอกรอแล้วรอเล่าไม่สนใจ
พฤติกรรมสามีทำให้นางไร้ทางออก บางวันเดินนุ่งผ้าปาเต๊ะรัดเอวลวก ๆ คลุมท่อนบนไปให้วัวกินน้ำกลางนา ผ้าคลุมหลุดลุ่ยอวดผมหงอกขาวกระเซิง นมเหี่ยวห้อยโตงเตงก็ไม่สนใจ
มะก็ทำงานไม่รู้จักเหนื่อยให้ลืมสามีได้บ้าง ตอนกลับจากเลี้ยงวัวยังตัดใบจากหอบมากอง นำใบจากมาเย็บติดกันวางขายให้ซื้อมุงหลังคาเป็นรายได้พิเศษอีก
กลางคืน มะลุกขึ้นแกะมะขามทีละเม็ดปั้นเป็นก้อนหนึ่งเม็ด สองเม็ด สามเม็ด แต่ละเม็ดถูกอบด้วยพลังงานชนิดใดกันหนอ
วันเวลาเดินอย่างซื่อสัตย์ ธิดาช่วยเลี้ยงน้องสม่ำเสมอ ธิดาเฝ้าทั้งมะและน้องชาย มองเห็นบ้านแล้วอดจะห่วงไม่ได้เลย
“ทำไมลำบากอย่างนี้นะ” ธิดารำพึง
“มันขุดดินถมเมือง ต่อไปจะไม่เหลือคอยดูสิ” นางว่ามันแทนสามี ปากคอเราะร้ายขึ้นทุกครั้งที่เห็นภาพรถแบ็กโฮตักดินขายทุกวัน แต่ไม่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้านเลย
ธิดานั่งฟังมะระบาย เธอเติบโตมากับเรื่องแบบนี้ วัยเด็ก วัยสาว ถึงวันแต่งงานก็ยังคงเดิม ชีวิตวัยสาวเต็มไปด้วยคำถามที่ไร้คำตอบ ปล่อยให้มันพัดผ่านอยู่ในสายลม
สายลมกับวันเวลาได้ให้ชีวิตติดบ่วงและสาบสูญได้ไม่ยาก ให้ได้เจอคนรัก แต่งงาน มีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่มันหาได้รับประกันทั้งสามจะมีความสมบูรณ์ได้หรือไม่
ทั้ง ๆ ที่เคยฝันร่วมกันมีรถ มีบ้าน มีลูก เธอไม่ได้ดีใจเลย บ่าวอุตส่าห์ดาวน์รถยนต์คันหนึ่ง หวังให้สมาชิกทุกคนได้รับความสะดวก โดยเฉพาะป๊ะที่ต้องพาไปหาหมอประจำเธอก็ไม่เห็นสำคัญอะไรกับสมบัติร่วมสร้างนั้นสักนิด
บ่าวอยากถาม ธิดาต้องการอะไรกับชีวิตคู่ เป้าหมายที่เคยฝันร่วมตอนรักกันหายไปไหน บ้านแสนสุขที่สัญญาจะร่วมสร้างด้วยกันด้วยแรงกายแรงใจ สักวันหนึ่งจะได้ชื่นชมด้วยกัน เสียงของไฟฝันยังก้องกังวาน เวลาเพียงไม่นานก็กลายเป็นเสียงลมใบ้เท่านั้น
จริง ๆ แล้วบริษัทไม่มีอยู่จริง สุลต่านพูดเล่นน้ำชาให้เพื่อนฝูงฟัง ตั้งชื่อหลอก ๆ อ้างเรื่องเวลากับชายาเอกไปไหนมาไหนอย่างสะดวกเท่านั้น แต่ละวันหลงใหลเมียชื่อออแน ครั้นกลางคืนก็ไปห้องอาหารเป็นกิจวัตร
อาบู ฮาซันฟาดทั้งตัวบุคคลและองค์กรของรัฐ สมบัติเองไม่ได้เดือดร้อนใครเสียภาษีทำไมกัน
เขาด่าฝากถึงคนขี้อิจฉาที่หัวเราะเยาะตามร้านน้ำชา ถูกแซวแบ็กโฮรถหกล้อมือสอง เพื่อนฝูงท้วงอาจจะซ่อมบ่อย ๆ จะได้ไม่คุ้มเสีย
“ช่างกูนิ รถเสียก็ไปซ่อมสิวะ”
“สุลต่านคนมีบุญ” สู บ่าวเบ้งพูด
ทุกครั้งที่ได้ยินคนรายล้อมป้อยอเขาให้หลงเคลิบเคลิ้มเหมือนได้ลอยขึ้นสวรรค์ ยามใดเงยหน้ามองเห็นดินควนสูงลิ่ว ก็เห็นกองเงินมหาศาลหยิบใช้เท่าไรก็ไม่มีวันหมด
“รวย หล่อครบสูตร” ลูกคู่ให้ลูกยอไม่หยุด
“ฝันกูต้องเป็นจริง” อาบู ฮาซันเอ่ย
“ผู้หญิงอยากเป็นเมียสุลต่านทุกคนเลย”
“โต๊ะครูไม่ได้ร่ำรวยเลี้ยงเมียสองคน ทำไมกูจะทำไม่ได้จริงไหม” สุลต่านเอ่ยชัดคำ
เขาชอบอ้างโต๊ะครู มีเงินทองไม่มากก็เลี้ยงเมียมากกว่าหนึ่งได้ เขามีเงินและสมบัติกองโตูดเล่นโย่อมทำได้ดีกว่าเป็นไหน ๆ
เพื่อนฝูงยอมรับ เขาคือผู้มั่งคั่งตัวจริงแห่งห้วยยะวา ทำให้สุลต่านยิ่งลำพองตน เพราะนิสัยเป็นคนหูเบา เชื่อคนง่าย บ้ายอ เพียงยอว่าสุลต่านใจบุญใครยืมเงินไม่ต้องใช้คืน
ขณะที่อาบู ฮาซันเกาะเข็มนาฬิกาสุขใจ แต่วันเวลาบ่าวหมุนช้าราวเข็มนาฬิกาอมทุกข์ เพราะการเงินย่ำแย่ลงทุกวัน
ตั้งแต่ซื้อรถผ่อนสหกรณ์อัล-อิหม่าน ครบงวดผ่อนสิ้นเดือนต้องวิ่งหยิบยืมเพื่อนฝูงวุ่นวาย ถึงเวลาผัวเมียช่วยกัน เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง จะเป็นจะตายเป็นเรื่องบ่าวคนเดียวเท่านั้น
ว่าง ๆ แทนที่ผัวเมียวางแผนการเงิน รองรับเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รายจ่ายมากกว่ารับ ต้องแก้ปัญหาหยิบยืมเพื่อนฝูง ธิดากลับชวนคุยนิสัยผู้ชายแทน
“ผู้ชายชอบเมียหลายคนใช่ไหม” ธิดาถามขึ้น
“ไม่จริงหรอกครับ”
“สมมติวันหน้าเกิดรวยขึ้นมาล่ะ” ธิดาพูด
“ถึงมีเงินก็ไม่ทำผมรักธิดาครับ” บ่าว เอ่ยขึ้น
ธิดายิ้มตอบ หลังแต่งงานเขายังยึดอาชีพกรีดยาง มีปัญหาเรื่องเงินต้องกู้สหกรณ์ ใช้วิธีกู้วนฉุกเฉินงูกินหางเป็นทางออก
เคยฝันไว้หลังแต่งงานเก็บเงิน บ้านใหม่สักหลัง ตอนนี้เลิกคิดก่อนดีกว่า เพราะเริ่มชัดเจนว่าทั้งสองสร้างฝันไม่เหมือนกัน เขารู้สึกวังเวงเหมือนคนหลงป่าดงดิบลึกลับไม่มีทางออก ทั้งผืนป่าเป็นกำแพงสีดำทั้งสี่ด้านกั้นเอาไว้
ภาพมันฟ้องทุกค่ำคืนให้เห็น ดึกดื่นขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านกรีดยางคนเดียว เพื่อน ๆ มีเมียนั่งซ้อนท้าย ได้เพียงแต่มองตาปริบ ๆ จะอิจฉาก็ไม่ได้ เป็นโต๊ะละใบต้องสำรวมกายและใจตลอดเวลา
ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าหลังสละโสดมีเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กายคงดีไม่น้อย จะได้ช่วยกันทำมาหากินสร้างครอบครัว แต่เวลานี้เขาโดดเดี่ยวอย่างกับเดินคนเดียวเชิงเขา ฟังเสียงลมครวญมาจากปลายยอดลงห่มป่า เขาแว่วได้ยินกลองเคาะสลับเสียงขลุ่ยผิวไม้ไผ่แว่วจากกุนุงยือไรกรีดลึกลงในวิญญาณ เจ็บปวดราวสัตว์ติดกับดักนายพราน
เกือบสามปีบ่าวได้เห็นลูกผู้ชายอกสามศอกมีใจเล็กเท่ามด แต่มีมือขนาดยักษ์กินตะกละตะกลามไม่เลือกหน้า
และที่ฮาเร็มโบราณนั่นอีกเช่นกันที่เขาเห็นผู้ที่ตูฮันได้ประทานอดทนให้สตรีเพศ นางใช้ลมหายใจสัมผัสโลกข้างนอก ไม่ผิดไอร้อนที่พวยพุ่งจากกาต้มน้ำเดือดตลอดเวลา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments