นิยายเรื่องราวการผจญภัยของนายฮ้อยอินทร์ในการคุมกองทัพควายจากเชียงรายสู่เมืองย่าโม ตอนที่ 2: ป่าทและรอยสักพญานาค ผู้ประพันธ์ทรงวุฒิ แสนละมูล นปก.กระเต็นเขียว
ความมืดมิดปกคลุมผืนป่าทึบราวกับผ้ากำมะหยี่สีดำสนิท เสียงแมลงกลางคืนและเสียงร้องของสัตว์ที่ไม่คุ้นหูดังก้องกังวานเป็นระยะ สร้างความวังเวงและน่าขนลุกให้กับขบวนของนายฮ้อยอินทร์ กลิ่นดินชื้นและใบไม้ผุพัดโชยมาตามลมเย็นยะเยือก
"นายฮ้อยครับ... แถวนี้มันน่ากลัวอีหลีเด้อ" บรรยากาศแถวนี้มันน่ากลัวขะหนาดว่า เหมือนกันก่อครับนายฮ้อย อ้ายจ่อยกระซิบเสียงแผ่วเบา ดวงตาเหลือกลานมองไปรอบข้างด้วยความหวาดระแวง
นายฮ้อยอินทร์ขี่ม้าขนสีทับทิมนำหน้าขบวนอย่างใจเย็น ใบหน้าคมเข้มภายใต้แสงตะเกียงยังคงสงบนิ่ง แต่ในใจลึกๆ เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติของป่าแห่งนี้เช่นกัน ต้นไม้สูงตระหง่านบดบังแสงจันทร์จนหมดสิ้น เหลือเพียงแสงสลัวจากตะเกียงที่ลูกน้องถือไว้เท่านั้น
"อย่าได้ย่านไปเลยอ้ายจ่อย เฮามากันหลายคน บ่มีหยังน่ากลัวดอก" นายฮ้อยอินทร์ปลอบโยน แต่คำพูดนั้นก็ดูเหมือนจะไม่สามารถดับความกังวลในใจของลูกน้องได้
ขณะที่ขบวนเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ พลันก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้หักดัง "เป๊าะ!" ใกล้ๆ ทุกคนหยุดชะงัก หันมองไปยังทิศทางของเสียงด้วยความตื่นตระหนก
"เสียงหยังวะนั่น?" อ้ายคำถามเสียงสั่น
นายฮ้อยอินทร์ยกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบ เขาเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ ดังขึ้นอีก ความเงียบกลับเข้ามาปกคลุมผืนป่าอีกครั้ง แต่ความรู้สึกระแวดระวังยังคงอยู่
"ระวังตัวไว้ให้ดี อาจจะมีสัตว์ป่า" นายฮ้อยอินทร์สั่งเสียงเบา ก่อนจะนำขบวนเคลื่อนที่ต่อไปอย่างช้าๆ และระมัดระวังมากขึ้น
คืนนั้น พวกเขาตัดสินใจพักแรมในลานหินกว้างกลางป่า นายฮ้อยอินทร์สั่งให้ก่อกองไฟให้ใหญ่ขึ้น เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและคลายความหนาวเหน็บ อ้ายคำและอ้ายจ่อยผลัดกันเฝ้ายามตลอดทั้งคืน
ในยามดึกสงัด ขณะที่ทุกคนหลับใหล นายฮ้อยอินทร์ลุกขึ้นมานั่งข้างกองไฟ เขามองไปยังเปลวไฟที่ลุกโชนอย่างใจเหม่อลอย ความกังวลเกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด
ทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นแสงประหลาดวูบวาบอยู่ไม่ไกลจากที่พัก แสงนั้นเป็นสีเขียวมรกต เรืองรองอย่างน่าพิศวง นายฮ้อยอินทร์ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ และเดินเข้าไปใกล้แสงนั้นด้วยความสงสัย
เมื่อเข้าไปใกล้ เขาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น แสงสีเขียวนั้นมาจากดวงตาของสัตว์ขนาดใหญ่คู่หนึ่ง ที่กำลังจ้องมองมาที่เขาจากเงามืด ดวงตานั้นเปล่งประกายราวกับอัญมณีล้ำค่า สร้างความหวาดหวั่นและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
นายฮ้อยอินทร์ ยืนตัวแข็งทื่อเหมือนปูนปั้นอยู่กับที่ราวกับถูกสาป เขาไม่เคยเห็นสัตว์ที่มีดวงตาเช่นนี้มาก่อน มันมีขนาดใหญ่โต มหึมา รูปร่างคล้ายเสือ แต่มีเกล็ดสีดำสนิทปกคลุมทั่วทั้งตัว และมีแผงคอสีทองอร่าม
สัตว์ร้ายตัวนั้นส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอ ขนลุกชันไปทั้งร่างของนายฮ้อยอินทร์ เขารู้สึกได้ถึงพลังอำนาจและความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากสัตว์ตรงหน้า
"นี่มันตัวอะไรกัน?" นายฮ้อยอินทร์พึมพำกับตัวเองด้วยความตกใจ
ทันใดนั้นเอง สัตว์ร้ายตัวนั้นก็กระโจนเข้าใส่นายฮ้อยอินทร์อย่างรวดเร็ว นายฮ้อยอินทร์ตกใจสุดขีด รีบกระโดดหลบอย่างหวุดหวิด แต่คมเขี้ยวของมันก็เฉียดแขนของเขาไป ทำให้เกิดรอยขีดข่วนยาว
ด้วยสัญชาตญาณ นายฮ้อยอินทร์รีบชักมีดหมอที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา ปลายมีดส่องประกายวาววับภายใต้แสงจันทร์ เขาตั้งท่าเตรียมต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่ไม่รู้จักตรงหน้า
การต่อสู้ระหว่างนายฮ้อยอินทร์กับสัตว์ร้ายในป่าทมิฬดำเนินไปอย่างดุเดือด สัตว์ร้ายตัวนั้นว่องไวและแข็งแกร่ง มันพุ่งเข้าโจมตีนายฮ้อยอินทร์อย่างไม่ยั้ง นายฮ้อยอินทร์ต้องใช้ความคล่องแคล่วและประสบการณ์ที่มีทั้งหมดในการหลบหลีกและตอบโต้
ในที่สุด เมื่อโอกาสมาถึง นายฮ้อยอินทร์ก็แทงมีดหมอเข้าที่สีข้างของสัตว์ร้ายอย่างแม่นยำ สัตว์ร้ายร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงสิ้นใจ
นายฮ้อยอินทร์ยืนหอบหายใจ มองไปยังร่างของสัตว์ร้ายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นดิน เขารู้สึกเหนื่อยล้า แต่ก็โล่งใจที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้
เมื่อลูกน้องของนายฮ้อยอินทร์ตื่นขึ้นมาและเห็นซากสัตว์ร้าย พวกเขาก็ตกตะลึงกับขนาดและความน่ากลัวของมัน
"นายฮ้อย... นี่มันตัวอะไรกันครับ? ผมบ่เคยเห็นมาก่อนเลย" อ้ายคำถามด้วยความสงสัย
นายฮ้อยอินทร์ส่ายหน้า "ข้าก็บ่ฮู้ แต่ที่แน่ๆ มันเป็นสัตว์ที่อันตรายมาก"
หลังจากนั้น นายฮ้อยอินทร์สังเกตเห็นรอยสักประหลาดบนลำตัวของสัตว์ร้าย มันเป็นลายเส้นสีทองคล้ายรูปพญานาคที่พันรอบตัว
"รอยสักนี่มันหมายความว่าอย่างไร?" นายฮ้อยอินทร์พึมพำ
ขณะที่เขากำลังพิจารณารอยสักอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงชายชราดังขึ้นมาจากเงามืด
"นั่นคือสัญลักษณ์ของผู้พิทักษ์แห่งป่าทมิฬ"
นายฮ้อยอินทร์และลูกน้องหันไปมองตามเสียง ก็พบชายชรา หนวดเคลายาวสีขาวโพลน นุ่งห่มด้วยชุดสีน้ำตาลเข้ม เดินออกมาจากความมืด
"ท่านเป็นใคร?" นายฮ้อยอินทร์ถามด้วยความสงสัย
"ข้าคือผู้เฒ่าที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้มานานแสนนาน" ชายชราตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม "สัตว์ที่ท่านฆ่าไปเมื่อครู่ คือผู้พิทักษ์ที่คอยดูแลความสมดุลของป่า"
นายฮ้อยอินทร์รู้สึกตกใจและเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไป
"ข้า... ข้าบ่ฮู้ ข้าคิดว่ามันจะมาทำร้ายพวกข้า" นายฮ้อยอินทร์กล่าวด้วยความรู้สึกผิด
"ข้ารู้" ผู้เฒ่ากล่าว "แต่การกระทำของท่านได้ปลุกบางสิ่งบางอย่างที่หลับใหลอยู่ในป่าแห่งนี้แล้ว"
"บางสิ่งบางอย่าง?" นายฮ้อยอินทร์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"นับจากนี้ไป การเดินทางของพวกท่านจะยากลำบากยิ่งขึ้น จงระวังภัยที่มองไม่เห็น และจงเคารพต่อผืนป่า" ผู้เฒ่ากล่าวเตือน ก่อนจะเดินหายเข้าไปในความมืด
คำพูดของผู้เฒ่าสร้างความกังวลให้กับนายฮ้อยอินทร์และลูกน้อง พวกเขารู้สึกได้ว่าการเดินทางในป่าทมิฬแห่งนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และภัยอันตรายที่แท้จริงอาจจะยังมาไม่ถึง
รุ่งเช้าวันใหม่ ขบวนของนายฮ้อยอินทร์ออกเดินทางต่อด้วยความระมัดระวังมากขึ้น พวกเขาพยายามที่จะไม่รบกวนธรรมชาติ และเคารพต่อผืนป่าตามคำเตือนของผู้เฒ่า
แต่แล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงลำธารใหญ่ สายน้ำไหลเชี่ยวและลึกจนไม่สามารถข้ามไปได้โดยง่าย
"เอาจังใดดีครับนายฮ้อย? เฮาจะข้ามน้ำนี่ไปได้อย่างไร?" อ้ายคำถามด้วยความกังวล
นายฮ้อยอินทร์มองไปยังสายน้ำที่ไหลเชี่ยวด้วยความหนักใจ เขาไม่เคยเจอลำธารที่ใหญ่และเชี่ยวขนาดนี้มาก่อน
ขณะที่พวกเขากำลังหาทางข้ามลำธารอยู่นั้นเอง ก็เกิดลมพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ต้นไม้ใหญ่โยกคลอน กิ่งไม้หักโค่น ฝนตกลงมาอย่างหนักจนมองอะไรไม่เห็น
"แย่แล้ว! พายุมาแล้ว!" นายฮ้อยอินทร์ตะโกนสั่งให้ทุกคนหาที่หลบภัย
ขบวนของนายฮ้อยอินทร์ต้องเผชิญกับพายุฝนกระหน่ำกลางป่าทมิฬอย่างหนักหน่วง พวกเขาพยายามที่จะประคองฝูงควายและรักษาสัมภาระให้ปลอดภัย ท่ามกลางลมแรงและสายฝนที่โหมกระหน่ำ
นายฮ้อยอินทร์รู้สึกได้ว่าพายุครั้งนี้ไม่ใช่พายุธรรมดา มันรุนแรงและน่ากลัวเกินกว่าที่เขาเคยเจอะเจอมา ราวกับว่าธรรมชาติกำลังโกรธเกรี้ยวพวกเขา
ในใจของนายฮ้อยอินทร์เริ่มเกิดความสงสัยว่า เหตุการณ์ร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ เกี่ยวข้องกับสัตว์ร้ายที่เขาสังหารไปหรือไม่? หรือว่าพวกเขาได้ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่าแห่งนี้โดยไม่รู้ตัว?
การเดินทางในป่าทมิฬยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรคและความลึกลับ นายฮ้อยอินทร์และลูกน้องจะต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายที่มองไม่เห็น และไขปริศนาของรอยสักพญานาคบนตัวสัตว์ร้าย เพื่อให้สามารถเดินทางออกจากป่าแห่งนี้ไปสู่จุดหมายปลายทางได้สำเร็จ
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments