ยามซวี (ยามสองยามสามราวสองทุ่ม)
ท้องฟ้ายามค่ำมืดสนิท ดาวพร่างพรายราวเพชรเล็ก ๆ ที่สวรรค์โปรยลงมา
ในจวนหลี่ ทุกคนยังคงสาละวนอยู่กับการเตรียมงานแต่งงานในวันรุ่งขึ้น
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่า “เจ้าสาว” ที่ควรอยู่รอคอยอย่างตื่นเต้นนั้น กลับสวมชุดคลุมดำซ่อนหน้า ลอบออกทางกำแพงด้านหลังอย่างเงียบงัน
เสียงฝีเท้าม้าสามตัวแทรกผ่านความมืด ขบวนราชองครักษ์ในชุดสีดำเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวก้าวขึ้นรถม้าลึกลับที่มิได้มีตราสัญลักษณ์ใด ๆ
เพียงพริบตาเดียว รถม้าก็แล่นออกจากจวนหลี่ ราวเงาที่กลืนหายไปในราตรี
สวนหลวง ยามค่ำคืน สงบเย็นและเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง
หมิงจูก้าวลงจากรถม้า สายตากวาดมองไปรอบ ๆ หัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
แม้นางจะตั้งใจมั่นไม่หวั่นไหวต่อความตาย แต่การแอบมาพบจักรพรรดิในยามนี้ก็ไม่ต่างจากเดินอยู่บนคมดาบ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากเงาไม้ใหญ่
บุรุษในชุดมังกรสีดำลายทอง ก้าวออกมาอย่างสง่างาม แม้ไม่สวมมงกุฎ แต่รัศมีอำนาจที่โอบล้อมร่างก็ทำให้โลกทั้งใบเงียบสงบลง
สวีเหลี่ยนหยาง
หมิงจูชะงัก มองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างระวัง แววตาคมกริบของเขาเหมือนอ่านทะลุความคิดของนางได้ทุกประโยคโดยไม่ต้องพูดออกมา
“หลี่หมิงจู...” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น แผ่วเบาแต่กลับก้องสะท้อนในใจนาง “เจ้ากล้าจริง ที่มาในคืนเช่นนี้”
หมิงจูสูดลมหายใจลึก รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อตอบอย่างไม่สั่นคลอน
“หากหม่อมฉันไม่กล้า... คงไม่มีวันได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง”
เหลี่ยนหยางเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นราวกับเพลิดเพลินกับคำตอบ
“กลับมามีชีวิต... เจ้าหมายถึงอะไร?”
ดวงตาของหมิงจูไหววูบไปชั่วครู่ ความลับเรื่องการย้อนชาตินางมิอาจบอกผู้ใดได้ แต่ความแค้นที่ฝังใจ...นางจะใช้เป็นเกราะกำบัง
“หม่อมฉันรู้ว่าอ๋องเฉิงหงมิใช่บุรุษที่พระองค์ควรไว้ใจ” น้ำเสียงนางหนักแน่น “เขา...ไม่เพียงคิดหักหลังตระกูลหลี่ แต่ยังอาจลอบคิดคดต่อราชบัลลังก์!”
คำพูดนั้นทำให้แววตาเหลี่ยนหยางคมกริบขึ้นทันตา แสงดาวบนฟ้าสะท้อนในดวงตาเขาราวคมดาบ
“เจ้ามีหลักฐานหรือ?”
หมิงจูเม้มปากแน่น...ในตอนนี้นางยังไม่มีหลักฐานใด แต่ความทรงจำที่ชัดเจนในชาติก่อนคือตราประทับราชสำนักปลอม ที่เฉิงหงใช้ลวงพ่อของนางออกไปจนถูกลอบสังหาร
“ในยามนี้หม่อมฉันยังไม่มี... แต่ข้าขอสาบานต่อฟ้า หากหม่อมฉันพูดเท็จ ขอให้ตายโดยไร้ที่ฝัง!”
เหลี่ยนหยางมองนางนิ่งนาน จนหัวใจหมิงจูเต้นแรงแทบทะลุอก
สุดท้าย ริมฝีปากของเขาก็คลี่ยิ้มบาง รอยยิ้มที่ไม่อาจอ่านได้ว่าคือความพอใจหรือเพียงหยอกเย้า
“สตรีเช่นเจ้า...กล้าหาญนัก” เขาก้าวเข้ามาใกล้เพียงไม่กี่ก้าว กลิ่นเย็นสะอาดเฉพาะตัวแผ่ซ่าน “เจ้ารู้หรือไม่ ว่าคำที่เจ้าพูดออกมา หากผิดพลาดเพียงนิด...จะเป็นโทษถึงประหารทั้งตระกูล”
หมิงจูสบตาเขาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “ตระกูลหลี่ถูกฆ่าล้างตระกูลเพราะเชื่อใจผิดครั้งหนึ่งแล้ว หากต้องตายเพราะความจริงอีกครา ข้าก็ไม่เสียใจ!”
เสียงหัวเราะทุ้มต่ำเล็ดลอดจากริมฝีปากเหลี่ยนหยาง
“น่าสนใจ... เจ้าหญิงฟีนิกซ์ผู้ลุกขึ้นจากเถ้าธุลี... เช่นนั้นข้าจะรอดู ว่าเจ้าจะโบยบินสูงเพียงใด”
คืนนั้น ทั้งสองสนทนากันถึงแผนการที่ยังไม่ชัดเจน
แต่เพียงพริบตาที่หมิงจูมองลึกเข้าไปในดวงตาของจักรพรรดิผู้สูงศักดิ์ นางก็รู้—
เขาคือบุรุษผู้เดียวในโลกนี้ ที่อาจเป็นทั้ง ดาบคมที่สุด และ เกราะหนาที่สุด ของนาง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments