รุ่งอรุณแรกของวันวิวาห์ เสียงกลองมงคลดังสนั่นไปทั่วเมือง ธงสีแดงถูกประดับประดาเต็มสองข้างทาง ชาวบ้านต่างออกมายืนดูขบวนเจ้าบ่าวด้วยความตื่นเต้น
ภายในจวนหลี่ บ่าวไพร่วุ่นวายกับการจัดเตรียมพิธี บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นบาน ทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดของตระกูลที่คุณหนูหลี่หมิงจูได้แต่งเข้าสู่จวนอ๋องผู้ทรงอำนาจ
ทว่าท่ามกลางความยินดีเหล่านั้น มีเพียงหมิงจูที่นั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลืองในห้องหอ ดวงตาสีดำขลับจับจ้องใบหน้าของตนเองในชุดเจ้าสาวสีแดงสด
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเย็นเชียบ—รอยยิ้มที่ไม่มีผู้ใดมองออกว่าซ่อนความแค้นราวไฟนรกเอาไว้
> “พิธีวิวาห์ในวันนี้… หากเป็นชาติก่อน ข้าคงเปี่ยมด้วยความหวัง ทว่าชาตินี้ มันคือเวทีแห่งการลวงคืน”
เสียงบ่าวสาวร้องเรียกอยู่ด้านนอก
“คุณหนูเจ้าขา ถึงเวลาสวมผ้าคลุมหน้าแล้วเจ้าค่ะ!”
อวี้หลานเข้ามาช่วยจัดผ้าคลุมปักดิ้นทองลงบนศีรษะหมิงจู ขณะเดียวกันก็พึมพำด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “คุณหนูเจ้าขา นี่คือวันสำคัญที่สุดในชีวิตของท่าน โปรดอย่ากังวลเลยเจ้าค่ะ…”
หมิงจูหันไปมองบ่าวสาวที่ซื่อสัตย์คนนั้น แววตาอ่อนลงเล็กน้อย นางเอื้อมมือแตะไหล่เบา ๆ
“อวี้หลาน เจ้าจงจำคำข้าดี ๆ ไม่ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น…จงอยู่ให้ห่างจากอ๋องเฉิงหง”
อวี้หลานชะงัก ก่อนจะยิ้มละไมโดยไม่เข้าใจความหมายลึกซึ้งในคำเตือนนั้น
เสียงฆ้องกลองดังขึ้นอีกครั้ง ขบวนเจ้าบ่าวมาถึงจวนหลี่แล้ว
อ๋องเฉิงหงในชุดมงคลสีแดงทอง ก้าวลงจากหลังม้า ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้คน ใบหน้าคมคายแฝงรอยยิ้มอ่อนโยนในแบบที่ครั้งหนึ่งเคยมอมเมาหมิงจูจนตาบอด
แต่คราวนี้…หมิงจูเพียงก้มศีรษะ ซ่อนรอยยิ้มเหยียดที่มุมปากไว้ใต้ผ้าคลุมหน้า
> “เฉิงหง… ในที่สุดก็ถึงวันของเจ้า แต่เจ้าหาได้รู้ไม่ ว่าวันนี้มิใช่ชัยชนะของเจ้า หากแต่เป็นวันเริ่มต้นของการสูญสิ้น”
พิธีแต่งงานดำเนินไปตามธรรมเนียม—เจ้าสาวถูกพาเข้าสู่เกี้ยวมังกร ขบวนแห่เคลื่อนไปตามถนน เสียงกลองแตรขลุ่ยดังสนั่น ผู้คนต่างโบกมือแสดงความยินดี
ทว่าเมื่อขบวนเคลื่อนผ่านศาลาริมน้ำที่อยู่นอกเมือง กลับปรากฏขบวนเสด็จของฮ่องเต้ประทับอยู่ที่นั่นโดยบังเอิญ
สวีเหลี่ยนหยาง จักรพรรดิผู้สูงส่ง ประทับบนรถม้าสีดำเรียบหรู รายล้อมด้วยองครักษ์ในชุดเกราะดำเป็นแถวราวกำแพงเหล็ก บรรยากาศรอบกายของพระองค์เงียบสงัดจนแม้แต่ลมหนาวยังดูเกรงกลัว
เพียงแค่สายตาคมกริบที่ทอดมามอง…หมิงจูก็รู้สึกเหมือนถูกอ่านทะลุถึงก้นบึ้งหัวใจ
ในชั่วขณะที่ขบวนเจ้าบ่าวหยุดนิ่งตามธรรมเนียมถวายความเคารพ หมิงจูภายใต้ผ้าคลุมหน้าก็หันสายตาขึ้นสบกับฮ่องเต้โดยไม่ตั้งใจ
หัวใจนางเต้นแรง—สายตานั้นมิใช่เพียงสายตาของผู้ปกครองแผ่นดิน แต่เหมือนสายตาที่กำลังประเมินและจับตามองเป้าหมายบางอย่าง
> “สวรรค์… ข้าจะถือว่านี่คือสัญญาณ… ข้าต้องหาทางเข้าถึงเขาให้ได้”
เมื่อถึงจวนอ๋อง พิธีไหว้ฟ้าดินและบรรพชนเริ่มต้นขึ้น บ่าวไพร่และแขกเหรื่อมากมายต่างส่งเสียงอวยพร
อ๋องเฉิงหงจับมือหมิงจูแน่น พาไปคำนับต่อหน้าแท่นบูชา เสียงเขานุ่มนวลชวนให้หญิงสาวหลงใหล
“หมิงจู… จากนี้ไปเจ้าคือภรรยาของข้า เป็นผู้หญิงของข้าเพียงผู้เดียว”
หมิงจูยิ้มอ่อนใต้ผ้าคลุมหน้า แต่ในใจกลับหัวเราะเยาะเยียบ
> “ภรรยา? เพียงอีกไม่นาน เจ้าจะได้ลิ้มรสว่าการมีภรรยาผู้รู้ความจริงและถือดวงใจแค้นอยู่ในอกนั้น…คือหายนะเช่นไร”
---
ค่ำคืนนั้น เมื่อแขกเหรื่อทยอยกลับ และห้องหอถูกจุดโคมแดงสว่างไสว อ๋องเฉิงหงเดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มเปี่ยมความพึงใจ
เขาเอื้อมมือจะเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก…
แต่ทันใดนั้น—เสียงฆ้องยามดังขึ้นอย่างกะทันหันจากนอกจวน ตามมาด้วยเสียงองครักษ์ตะโกนลั่น
“ฮ่องเต้เสด็จ!”
ทั้งจวนอ๋องสั่นสะเทือนด้วยความโกลาหล อ๋องเฉิงหงชะงัก ใบหน้าเปลี่ยนสีไปชั่วขณะ ก่อนจะฝืนยิ้มแล้วหันไปต้อนรับ
หมิงจูใต้ผ้าคลุมหน้าก้มศีรษะ… แต่ริมฝีปากกลับโค้งยิ้มเย็น
> “สวีเหลี่ยนหยาง… เจ้าเลือกเวลามาได้เหมาะนัก”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments