บทที่ 2 : "หอมแก้มคือการขอแต่งงาน?"

รุ่งเช้าแสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านช่องถ้ำเข้ามากระทบใบหน้าอูฮา เขาลืมตาขึ้นแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะเสียงกรนเบา ๆ ข้าง ๆ ยังอยู่

“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ... หัวหน้าเผ่าเขี้ยวดินของข้า…”

โกรันนอนตะแคงหันหน้ามาทางเขา มือใหญ่ ๆ พาดข้ามหน้าท้องเขาอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับว่านี่คือการนอนประจำวัน

“นี่ข้าไม่ได้เป็นหมอนข้างนะ” อูฮาพึมพำ ก่อนจะค่อย ๆ ดันแขนใหญ่นั่นออก แต่ยังไม่ทันดันแรง มือใหญ่ก็กระตุกกลับมาอีกครั้ง ราวกับสัญชาตญาณนักรบที่ไม่ปล่อยเป้าหมายหลุดมือ

“ข้าฝันว่าเจ้าจะหนี…” โกรันพึมพำทั้งที่ยังหลับตา

อูฮาสะดุ้งนิด ๆ “…ฝันแม่นจริงวุ้ย”

เขาค่อย ๆ คลานออกจากถ้ำแบบไม่ให้ปลุกสัตว์ป่า หรือผัวเผลอ ก่อนจะไปล้างหน้าล้างตาที่ลำธารใกล้ ๆ

ระหว่างทาง ก็เจอกลุ่มหญิงเผ่ากำลังถักเชือกกับปูหอยกันอยู่ บางคนหันมาทักเขา

“อรุณสวัสดิ์เมียหัวหน้า!”

“ข้าไม่ใช่เมีย!!”

“ยังไม่ใช่! แต่เร็ว ๆ นี้ใช่แน่นอน ฮิ ๆ ๆ” พวกนางหัวเราะร่วนกันเป็นระลอกคลื่น

อูฮาปั้นหน้าปกติแล้วเดินต่อไปอย่างเร็ว “ข้าเป็นแค่คนหลงป่า! ยังไม่อยากหลงรักใคร!”

พอถึงลำธาร เขาก็รีบก้มหน้าล้างตัวแรง ๆ เหมือนจะลบความรู้สึกบางอย่างที่แปลกไปในใจ

‘โกรันไม่ได้ทำอะไรไม่ดี…เขาแค่…เอาใจแบบป่าเถื่อน’

พอคิดถึงตอนที่โกรันย่างเนื้อให้อย่างตั้งใจ ปูผ้าขนสัตว์หนา ๆ ให้เขานอน แล้วยังช่วยไล่แมลงด้วยมือเปล่าเมื่อคืน...

“…แล้วทำไมข้าต้องรู้สึกเขินกับคนที่เคยเอาไม้ฟาดหัวข้าด้วยล่ะวะ!?”

ทันใดนั้น เสียงน้ำกระเพื่อมข้าง ๆ ก็ดังขึ้น

“อรุณสวัสดิ์ เมียของข้า”

อูฮาหันขวับ โกรันยืนอยู่ในน้ำครึ่งตัว เปลือยท่อนบนเต็ม ๆ พร้อมหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามกล้ามเนื้อแน่นราวกับปั้นจากหิน

“เจ้า!! มะ-มาเงียบอะไรขนาดนั้น!?”

“ข้าฝึกเดินล่ากวางแบบไม่ให้เหยื่อรู้ตัว… แต่เห็นเจ้าหน้าแดงกว่าเหยื่อเสียอีก”

“บะ…บ้า! ข้าหน้าแดงเพราะล้างหน้าด้วยน้ำเย็น!”

โกรันหัวเราะในลำคอ เดินเข้ามาใกล้ แล้วหยิบปลาที่เพิ่งจับได้มาจ่อหน้าเขา

“เจ้าหิวไหม ข้าจับปลามาให้”

อูฮามองปลากระดิก ๆ แล้วถอนหายใจ “เจ้าจับปลาทุกเช้ารึไง?”

“ไม่เคยเลย… จนเจอเจ้า”

“อึก…”

ไม่รู้ทำไมอยู่ดี ๆ ลมหายใจก็ติดขัด อูฮารีบรับปลาแล้วหันหลังหนีทันที

“ข้าจะเอาไปปิ้ง!” เขาวิ่งกลับถ้ำโดยไม่รอคำตอบ ใบหูแดงแจ๋

ที่หน้าไฟกลางเผ่า

อูฮากำลังย่างปลาอยู่เงียบ ๆ พลางพยายามไม่มองโกรันที่นั่งขัดหินข้าง ๆ แบบจริงจัง… และไม่มีเสื้อ

‘นี่มันทรมานแบบไหนวะเนี่ย’

ขณะนั้นเอง มูแซเดินมาจากมุมหนึ่ง ใส่เสื้อคลุมหนังสัตว์ฟูฟ่องสีรุ้งที่เหมือนขโมยมาจากละครโรงเล็ก

“เหวอ~ นี่มันเช้าแล้วเหรอ ข้าแสบตาเหลือเกินไม่ใช่ว่าเจ้านั้นกำลังมาเดินแบบเหรอ?”อูฮาพูดเบาๆ ในลำคอ

“เจ้าพูดว่าอะไรยะ?”มูแซจีบปากจีบคอพูด

“เจ้าอย่าใส่ใจเลย…”เหลือบมองโกรันที่ยังคงตั้งใจขัดหินกับมูแซผู้สวยเริ่ดที่สุดในปฐพีแล้วอูฮาก็ถอนหายใจ

มูแซทิ้งตัวลงข้างอูฮาแล้วกระซิบกระซาบ “เจ้าดูหน้าร้อนนะยะ หรือโดนคนป่าหล่อเล่นกล้ามใส่แต่เช้า?”

“ข้าไม่ได้ร้อน! แค่…ไฟมันแรง!!” อูฮาปฏิเสธเสียงแข็งทำท่านำปลาร้อน ๆ ใส่ใบไม้แก้เขิน

มูแซหัวเราะคิก “ถ้าไม่ชอบเขา เจ้าไม่หน้าแดงทุกครั้งที่เขายิ้มให้หรอกนะ”

“ข้าไม่ได้ชอบ…”

แต่เสียงเบากว่าตอนที่เขาเคยตะโกนว่า 'ข้าไม่ใช่เมีย!' มากนัก

โกรันเดินเข้ามา วางหินขัดใหม่ไว้ข้างเขา

“ข้าขัดหินให้เจ้าทำกระจก”

“เอ่อ…ขอบใจนะ?”

“ข้าอยากให้เจ้าเห็นว่าเจ้า…น่ามองแค่ไหน เวลายิ้ม”

อูฮาที่โดนดาเมจนิ่งไป ใบหน้าของเขาแดงเหมือนแอปเปิ้ลเลย

มูแซเงียบไป

ชาวเผ่าหยุดเคี้ยวหอยชั่วขณะ

อูฮากลั้นใจแล้วหันไปพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า

“...นี่ข้ากำลังพ่ายแพ้คนป่าหล่ออย่างงั้นเรอะ?”

โกรันเลิกคิ้ว “เจ้าเรียกข้าว่าหล่อเหรอ?”

“ไม่! ข้าหมายถึง…แพ้…ปลา!! เจ้าอย่าเข้าใจผิดล่ะ! ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้ารอแต่อย่างใด”

มูแซล้มลงกับพื้นหัวเราะลั่นกับคนปากแข็งข้างเขาที่ยิ่งพูดยิ่งเผยไต๋ออกมา

อูฮารู้เลยว่าเช้านี้จะถูกล้อไปอีกสามวันแน่นอน…

บ่ายแก่ ๆ แสงแดดผ่านช่องถ้ำมากระทบลำตัวของอูฮาที่นั่งซ่อมเครื่องมือหินอยู่ข้างกองไฟ ไอร้อนจากเปลวไฟผสมกลิ่นไม้แห้งชวนให้อบอุ่นแต่ยังคงรู้สึกสดชื่นในอากาศช่วงเย็น

โกรันยังนั่งอยู่ไม่ไกล มือใหญ่หยิบกิ่งไม้แห้งขึ้นมา ก่อนจะเริ่มถูหินสองก้อนจนมีประกายไฟลุกโชนขึ้นมาเป็นจุดเล็ก ๆ

“เจ้าเห็นไหม ข้าใช้เวลาเกือบครึ่งวันกว่าจะได้ไฟกองนี้” โกรันพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจ

อูฮายิ้มแหย ๆ พร้อมถอนหายใจเบา ๆ “นี่นายโกรัน... ข้ารู้ว่าเจ้าทำดีที่สุด แต่มันเหมือนตอนที่ข้าพยายามวิ่งแล้วล้มทุกครั้งไงไม่รู้”

โกรันขมวดคิ้ว “เจ้าจะบอกข้าว่าข้าไม่เก่ง?”

“เปล่า ข้าแค่บอกว่า... ข้าแพ้ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ถ้าคิดจะล้ม... ล้มให้สวย ๆ ก็พอ”

โกรันยิ้มอย่างอบอุ่น มือหยาบกร้านของเขาลูบผ่านไหล่อูฮาอย่างทะนุถนอม

“ข้าจะไม่ยอมแพ้กับเจ้าเด็ดขาด” เขาพูดเสียงต่ำแต่หนักแน่น

อูฮารู้สึกแก้มร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าบาง ๆ เผลอสบตากับโกรัน รู้สึกเหมือนลมหายใจร้อน ๆ จากปากหนาของเขาเป่ารดอยู่ที่แก้ม

“โกรัน... ข้ารู้สึก...แปลก ๆ”

“แปลกยังไง?”

“ก็... ข้าคิดถึงเจ้าทุกวัน อยากให้เจ้าอยู่ใกล้ ๆ แต่ข้าก็ยังกลัวไม่ยอมรับว่ารู้สึกยังไง”

โกรันไม่พูดอะไร แต่ขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้น มือหยาบกร้านจับมืออูฮาอย่างแน่น

“ถ้าเจ้ากลัว ข้าจะเป็นที่พักให้” โกรันว่า แล้วเอื้อมมือลูบไล้ปลายนิ้วอูฮาอย่างแผ่วเบา

อูฮาหายใจติดขัด รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้นจนแทบทะลุอก

“ข้า... ข้าไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ไม่รู้ว่าข้าจะเชื่อความรู้สึกนี้ได้หรือไม่”

“ข้าเชื่อเจ้า”

เสียงโกรันกระซิบเหมือนเวทมนตร์ที่ทำให้อูฮาผ่อนคลายลง เขาค่อย ๆ ปล่อยมือให้โกรันจับได้เต็ม ๆ อย่างไม่ขัดขืน

โกรันเลื่อนมือไปจับแผ่นหลังบาง ๆ ของอูฮา ค่อย ๆ กดลงอย่างนุ่มนวล และเริ่มสัมผัสถึงเส้นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงแต่อ่อนโยนภายใต้ผิวหนังเรียบเนียน

“เจ้าผอมแต่ก็แข็งแรงมากนะ ข้าชอบเวลาที่เจ้าขัดเครื่องมือหินแบบนี้ ดูตั้งใจจนข้ารู้สึกว่าเจ้าทุ่มเททุกอย่าง”

“อย่ามาชมข้าแบบนั้นสิ ข้าจะเขินจนทำเครื่องมือแตกซะเปล่า ๆ”

โกรันหัวเราะเสียงทุ้ม ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบที่ขมับอย่างเบามือ

“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าพัง แต่จะคอยปกป้องทุกอย่างที่เป็นเจ้า”

อูฮายิ้มออกมา รู้สึกหัวใจฟูขึ้นเป็นลูกโป่งที่พองใหญ่เต็มอก

แต่ก็ยังมีความกลัวเล็ก ๆ ที่ทำให้เขารู้สึกหวั่นใจ

“นายโกรัน... ข้า... กลัวนะ กลัวจะเสียใจ กลัวจะเจ็บ”

“ข้าจะอยู่กับเจ้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

โกรันพูดด้วยเสียงหนักแน่น จนอูฮารู้สึกได้ถึงความจริงใจที่มาจากใจลึก ๆ

ในขณะที่สองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น โกรันจึงหยิบกิ่งไม้ที่เปล่งประกายไฟขึ้นมาอีกครั้ง แล้วลูบไล้มือของอูฮาอย่างนุ่มนวล

“วันนี้ข้าจะสอนเจ้าอีกอย่างนะ”

“อะไร?”

“การสัมผัสด้วยใจ ไม่ใช่แค่มือ” โกรันกระซิบพร้อมส่งสายตาอบอุ่น

อูฮาหัวเราะเบา ๆ “ข้าไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่ก็พร้อมจะเรียนรู้”

แล้วสองคนก็เริ่มเล่นเกมจับมือกัน ลูบไล้สัมผัสไปตามนิ้วมือและหลังมือของอีกฝ่าย จนหัวใจของอูฮากระตุกตลอดเวลา

ในใจเขารู้ดีว่า นี่ไม่ใช่แค่เกม...

แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความรักแบบคนป่าที่นุ่มละมุนและจริงใจ

แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าสาดเข้ามาในถ้ำเบา ๆ ทำให้ใบหน้าขาวของอูฮาที่นอนห่มหนังสัตว์อยู่ดูนวลเนียนและน่ามองยิ่งขึ้น แม้เขาจะยังหลับตาอยู่ แต่คิ้วขมวดเล็กน้อยเหมือนกำลังฝันประหลาด

“อือ... อย่าเอาไม้ตีหัวข้านะ...” เขาพึมพำในฝัน ก่อนจะสะดุ้งลุกขึ้นมาแล้วหันซ้ายขวาอย่างงง ๆ

โกรันนั่งอยู่ตรงประตูถ้ำ หันหน้ามาทางอูฮา ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ข้าฝันว่าเจ้าพูดถึงข้า”

“เจ้าแอบฟังข้าพูดละเมอเหรอ!” อูฮาหน้าแดงทันที รีบคว้าหนังสัตว์คลุมหน้าตัวเอง

“เปล่าเลย ข้าไม่ได้แอบฟัง ข้าแค่บังเอิญได้ยิน” โกรันยักคิ้ว ทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้

วันนั้นตรงกับวันพิธีประจำปีของเผ่าเขี้ยวดิน พิธีที่จัดขึ้นเพื่อบูชาดวงจันทร์และเสริมดวงผัวเมียให้ครองรักกันยืนยาว ใคร ๆ ก็ต้องเข้าร่วม แม้แต่ “เมียจากท่านเทพ” ส่งมาอย่างอูฮา

อูฮาถูกจับแต่งตัวด้วยชุดประจำเผ่า ใบหน้าถูกทาสีด้วยดินขาวและถ่านดำ ลิงลูน่ายืนมองเขาแล้วก็แค่นเสียงคล้ายจะบอกว่า “อย่าเขินไปหน่อยเลย”

“ข้าไม่อยากไปเลย จะให้ข้าร่วมพิธีกับคนที่ลากข้าเข้าถ้ำเนี่ยนะ!”

มูแซเดินเข้ามาในฉาก ชุดเต็มยศพร้อมขนนกประดับ “เลิกบ่นแล้วออกไปสวยด้วยกันเร็ว เจ้าโดนเลือกเป็น ‘คนรับหอม’ ด้วยนะ!”

“หอมอะไร!?”

“ก็ในพิธีวันนี้ มีธรรมเนียมว่า หัวหน้าเผ่าจะหอมแก้มคู่ของตนเพื่อประกาศต่อดวงจันทร์ว่า ‘นี่คือเมียข้า’”

อูฮาช็อก เหงื่อแตกพลั่ก

“ไม่นะ! ไม่! ข้าไม่อยากให้คนทั้งเผ่ารู้ว่าข้าเป็น... เป็นอะไรแบบนั้นน่ะ!”

“เอ้า ก็เป็นเจ้าเมียเขาไปแล้วไม่ใช่เรอะ?” มูแซแซวพลางขำ อย่างไม่สนใจประมาณว่าอูฮาพูดอะไรไร้สาระ

ตัดฉากมาที่พิธีโกรันยืนอยู่ท่ามกลางวงเต้นไฟ กล้ามเนื้อสะท้อนแสงเพลิงอย่างอลังการ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา และที่อูฮาที่เดินเขิน ๆ ตามมาทีหลัง

โกรันส่งยิ้มมาให้ แล้วจับแขนอูฮาเบา ๆ “เจ้าพร้อมหรือยัง?”

“ไม่... ไม่พร้อมเลยซักนิด!”

“ดี ข้าก็ไม่รอแล้ว”

พูดจบ โกรันก็ก้มลงหอมแก้มอูฮาเต็ม ๆ เสียงดังฟอด! คนทั้งเผ่าร้องเฮกันสนั่น ลิงลูน่าปรบมือด้วยสองเท้าอย่างตื่นเต้น

อูฮายืนตัวแข็งเป็นหิน แก้มแดงลามไปถึงหู

“เจ้า... เจ้าทำบ้าอะไร!”

“ธรรมเนียม ข้าก็แค่ประกาศว่าเจ้าคือของข้าแล้ว”

“บ้าที่สุด!”

แต่ในใจอูฮากลับเต้นระรัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน... เขาไม่รู้เลยว่า การหอมแก้มแค่ครั้งเดียว จะทำให้รู้สึกเหมือนแต่งงานแล้วจริง ๆ...

และนั่นแหละ... คือจุดเริ่มต้นของความรู้สึกใหม่ที่กำลังค่อย ๆ งอกงามในใจเขา

ในยามเช้าที่พระอาทิตย์แง้มปากฮื่มเบา ๆ เหนือขอบเขา แสงแดดอุ่น ๆ เลียปลายหญ้าเหมือนลิ้นของกวางจิ๋ว อูฮาก็ยังนอนตะแคงอยู่ในผ้าหนังสัตว์ ซุกหัวกับท่อนแขนของโกรันอย่างหมดสภาพ

เหตุการณ์เมื่อคืนยังสะท้อนอยู่ในหัวเหมือนเสียงกลองของชาวเผ่า...

‘หอมแก้ม’

‘หอม’

‘แก้ม!’

“บ้าเอ๊ย...” อูฮาเอามือปิดหน้าตัวเอง พลิกตัวออกจากแขนโกรันเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ย่องไปนั่งกอดเข่าอยู่ริมถ้ำ

“หอมแก้ม... แปลว่าแต่งงานเหรอ? แล้วข้าก็... คือว่าข้า...”

เขานั่งเขินอยู่กับหินอย่างนั้นอยู่เกือบสิบนาที ก่อนที่เสียงฝีเท้าตุ๊บตั๊บของมูแซจะวิ่งกระแทกถ้ำเข้ามาอย่างไม่มีมารยาท

“โอ๊ย! หน้าข้าเปรี้ยวขึ้นมาเลย ข้าบอกแล้วว่าเผ่านี้มันรุนแรง! แต่โรแมนติกนะยะ!” มูแซพรางพูดอะไรที่ไม่ค่อยรู้เรื่องวิ่งมานั่งข้างอูฮาอย่างตื่นเต้น พร้อมส่งผลไม้กลม ๆ สีแดงให้ “กินนี่ คลายความเขิน”

อูฮาเหล่มองไปทีก่อนถาม“ผลไม้อะไรนี่?”

“ลูกบ๊วยยุคหิน! เปรี้ยวจนใจสั่น” มูแซหัวเราะร่วน “แล้วตกลงว่าไง เจ้าแต่งแล้วเหรอ?”

“ข้ายังไม่ได้ผูกอะไรเลย!”

“นี่มันไม่มีพิธีผูกเพื่อสมรสหรอก! มีแต่หอมแล้วปักหอก!”

“เอ่อ... ปักหอก?”

“หมายถึงปักหอกหน้าถ้ำ เป็นสัญลักษณ์ว่าคู่นี้ ‘จองแล้ว’ ใครเข้าไปแทรกก็จะโดนหักหอก”

“...พวกเจ้าชอบเล่นคำกับหอกมากไปไหม?”

ขณะที่สองคนกำลังเถียงกันสนุกสนาน โกรันก็ตื่นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ เดินมาหลังอูฮาแบบเงียบกว่ากิ้งก่าไต่ไม้ แล้ววางมือปุ ๆ บนหัวเขา

“อรุณสวัสดิ์ เมียของข้า”

อูฮาสะดุ้งสุดตัว “ข้าไม่ใช่เมียเจ้า!”

“เจ้าหอมแล้ว”

“ข้าถูกเจ้าหอมนะ!!”

“ไม่ต่างกัน ข้ารับผิดชอบ” โกรันพูดหน้าตายแล้วเอาหอก (ของจริง) ไปปักหน้าถ้ำอย่างภูมิใจ

อูฮาเบิกตาโพลง “นี่เจ้าทำอะไร!?”

“ปักหอก ป้องกันคนมาแย่งเมียข้า”

“ข้าไม่ใช่เมียเจ้า!!”

มูแซปรบมือกรุ๊บ “ยินดีด้วยจ้า! คืนนี้เตรียมเข้าเรือนหอ!”

“ถ้ำ!! ไม่ใช่เรือนหอ!!”

ไม่ว่าจะพูดยังไง โกรันก็ดูจะไม่เข้าใจเรื่อง ‘พื้นที่ส่วนตัว’ หรือ ‘การตกลงร่วมกัน’ เลยแม้แต่น้อย เขาคิดแค่เพียงว่า ‘รัก \= ปักหอก’ เท่านั้น

อูฮาได้แต่นั่งหมดอาลัย ปากพึมพำเบา ๆ ว่า “สงสัยข้าต้องหนีอีกรอบ...”

แต่แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมองหอกที่ปักหน้าถ้ำ มันมีขนนกสีขาวผูกอยู่กับปลาย เป็นสัญลักษณ์ที่ดูเหมือนจะมีความหมายพิเศษอะไรบางอย่าง...

“...แล้วเจ้าผูกขนนี่มาทำไม?”

“ขนของนกที่ข้าล่าได้ครั้งแรก เป็นของสำคัญ ข้าผูกให้เจ้า เพราะข้ารักเจ้า” โกรันตอบง่าย ๆ เหมือนบอกว่า ‘ฟืนวันนี้เยอะดี’

อูฮากัดปากแน่น เขาไม่รู้จะโต้กลับอย่างไรดี กับผู้ชายที่ซื่อกว่าหมูป่า แต่กลับทำให้หัวใจตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะ

“...ข้าจะไม่ยิ้ม ข้าจะไม่ใจอ่อน... ข้าจะ... ฮึก...”

“เจ้าร้องไห้?” โกรันรีบเข้ามานั่งข้าง ๆ ใช้นิ้วปาดน้ำตาอย่างเบามือแบบที่ไม่เข้ากับภาพลักษณ์เลยสักนิด

“เปล่า ฝุ่นเข้าตา!”

“เจ้าร้องไห้แล้วดูน่ารัก”

“โอ๊ย! พอเลยยย!!” อูฮาทุบพื้นถ้ำ แล้วล้มตัวลงนอนกลิ้งหนีเหมือนลิงป่วนเมือง

โกรันหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “คืนนี้ ข้าจะกอดเจ้าแน่น ๆ นะ”

“ไม่ต้องมาแตะเลย!!”

“กอดผ่านผ้าหนังสัตว์”

“นั่นก็ไม่ช่วยอะไรเลย!!”

เสียงหัวเราะก้องอยู่ในถ้ำอีกครั้ง ก่อนพระอาทิตย์จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมเสียงตีกลองประกาศข่าวใหม่...

ตึง! ตึง! ตึง!

“เผ่าหมีกำลังจะเดินทางมาเยี่ยม!”

...และแล้วเรื่องราววุ่นวายในวันนี้ก็ได้จบลงไปอีกวัน

โปรดติดตามตอนต่อไป

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!