กลางป่าเขียวชอุ่มในเช้าวันหนึ่ง เสียงนกประหลาดร้องก้องในอากาศ ผีเสื้อยุคก่อนประวัติศาสตร์กระพือปีกสีเขียวสะท้อนแดด ขณะที่ชายหนุ่มรูปร่างบอบบางคนหนึ่งกำลังคลานเข่าอยู่บนพื้นอย่างมุ่งมั่น
“เห็ดดินกลิ่นเปรี้ยว... เห็ดแผงปลวก… อ๊ะ เจอแล้ว! เห็ดก้นตุ่ม!”
อูฮา เด็กหนุ่มจากเผ่าหินสีฟ้า ผู้เชี่ยวชาญด้านการหาพืชพรรณพื้นป่า แต่อ่อนเรื่องทิศทางสุด ๆ ตอนนี้กำลังนั่งจ้องเห็ดดอกเล็ก ๆ บนตอไม้ด้วยสายตาเปล่งประกาย
“แม่เฒ่าต้องดีใจแน่เลย ข้าหาเจอ...”
กึก... กึก...
เสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินมาเบื้องหลัง เขาชะงัก หูตั้ง
“สัตว์ร้าย? เสือดึกดำบรรพ์? หรือยักษ์กินเห็ด?”
ยังไม่ทันหันกลับไปดู สิ่งสุดท้ายที่อูฮาจำได้คือเงาดำทะมึนกับเสียงคำรามเบา ๆ ว่า “...เมีย?”
โครม!
ทุกอย่างดับวูบ
⋯⋯⋯⋯⋯
“อื้อ…”
เมื่ออูฮาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นถ้ำ กลิ่นหินชื้น ๆ กับขนสัตว์คลุ้งในจมูก มีคบไฟปักไว้ที่ผนังถ้ำ บรรยากาศสลัว ๆ และร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งกำลังนั่งแกะเนื้อสัตว์อยู่ใกล้ ๆ
ชายผู้นั้น… ตัวโตอย่างกับเสาไม้บ้าน ผิวเข้มแดดเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นตามร่าง หน้าตาหล่อแบบดิบเถื่อน ดวงตาเหมือนสัตว์ป่า
“เจ้า… ฟื้นแล้ว เมียของข้า”
อูฮานิ่งไป 3 วินาที ก่อนจะกรี๊ดจนถ้ำสะเทือน
“มะ เมียอะไรของเจ้า! ข้าไม่ใช่เมียใครทั้งนั้น!”
โกรันขมวดคิ้ว “เจ้าเป็นของข้า ข้าเลือกเจ้า ข้าลากเจ้ามาแล้ว เจ้าเลยเป็นเมียของข้า”
อูฮาอ้าปากจะเถียง แต่ชะงักไปนิดเมื่อเห็นหัวกระโหลกสัตว์ที่เรียงอยู่ด้านหลังถ้ำอย่างมีระเบียบ เหมือนถ้วยรางวัล
“ข้าแค่มาหาเห็ด! ไม่ได้มาแต่งงานกับใครนะ!”
“เห็ด?” โกรันเอียงคอ “เจ้าพูดเหมือนสิ่งนั้นสำคัญกว่าได้อยู่ในถ้ำกับข้าซะอีก”
อูฮาลุกพรวดแต่เซไปนิด ยังมึนหัวไม่หาย “เจ้าตีหัวข้าใช่ไหม?! เจ้าใช้ไม้ฟาดข้าหรือเปล่า?!”
“ก็… ข้ากลัวเจ้าจะหนี”
“…จะไม่หนีได้ยังไงวะ!”
โกรันยักไหล่แบบไม่รู้สึกผิดแม้แต่นิด เขาหยิบเนื้อปิ้งส่งให้อูฮา “กินสิ เมียต้องกินเยอะๆ ให้ร่างกายแข็งแรง”
“เจ้าหยุดเรียกข้าว่าเมียสักที!!” อูฮาร้องเสียงสูง แต่ท้องดันร้องจ๊อกออกมาอย่างหักหลัง
โครกกก
เขาหยิบเนื้อมากินด้วยท่าทีขัดใจแต่ไม่มีทางเลือกเพราะหิวจัด ขณะเดียวกันก็คอยหาทางหนีอยู่ในหัว
⋯⋯⋯⋯⋯
เวลาผ่านไปครึ่งวัน โกรันยังคงดูแลอูฮาอย่างเต็มที่ ป้อนน้ำ เอาผ้าหนังสัตว์มาห่ม แถมยัง “ตกแต่ง” มุมในถ้ำให้ดูดีเพื่อที่จะทำให้ “เมียสามารถอยู่ได้”
“นี่เจ้าปูหนังสัตว์เพิ่มเพราะข้าจริง ๆ เหรอ?”
“ใช่ ข้าเห็นเจ้าหนาว เจ้าตัวบาง เดี๋ยวก็ป่วย”
อูฮามองอีกฝ่ายอย่างงง ๆ ปนซึ้งปนโมโห
“เจ้าไม่เข้าใจเลย ข้าไม่ได้อยากอยู่ในถ้ำ! ข้าแค่เดินหลงทาง! ข้าต้องกลับไปเผ่าของข้า!”
โกรันดูเหมือนจะนิ่งไปนิด ก่อนตอบเสียงเบา ๆ
“แต่ข้าจะเหงานะถ้าเจ้าไป...”
“...หา?”
“ข้าอยู่คนเดียวมานาน เพิ่งได้เจอเจ้าที่หัวใจข้ารู้สึกแปลก เจ้าเดินมาจากแดนฟ้า ข้าก็คิดเลย...ท่านเทพจะต้องส่งเจ้าให้ข้าแน่ ๆ”
อูฮาหลุบตา เขาเริ่มสับสนแล้วว่าโกรันนี่มันคนป่าโง่ ๆ หรือจริงใจเกินไปกันแน่
“ก็แล้ว... เผ่าเจ้าล่ะ? พวกเขาจะคิดยังไงถ้าอยู่ ๆ ข้าก็โผล่มาในถ้ำนี้?”
โกรันทำหน้านึกอยู่พักหนึ่ง
“อาจคิดว่าเจ้าท้องแล้วก็ได้”
“เจ้าบ้าเหรอ! แค่ตีหัวมา ข้าจะท้องได้ยังไง!”
“ก็... หากเทพส่งมา บางทีเจ้าอาจมีลูกข้าแล้ว”
อูฮาเอามือกุมหัว… เริ่มจะบ้าไปกับตรรกะของเจ้าบ้านี่แล้วจริง ๆ
⋯⋯⋯⋯⋯
ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าและเสียงโวยวายดังเข้ามาใกล้ปากถ้ำ
“เฮ้! โกรัน! ข้าได้กลิ่นคนแปลกหน้าในถ้ำเจ้า! อย่าบอกนะว่าตีหัวใครมาแล้ว?!”
เสียงชาวเผ่าระคนหลายคนเริ่มดังขึ้น โกรันเดินไปยืนบังอูฮาอย่างเงียบ ๆ พร้อมประกาศเสียงดังฟังชัด
“เขาเป็นเมียข้า ห้ามใครแตะต้อง”
เสียงแตกตื่นดังขึ้นรอบถ้ำทันที
“อะไรนะ! เมียโกรัน!?”
“เทพมันเถอะ!เขาไปลากเด็กหนุ่มจากเผ่าไหนมาอีกแล้ว?!”
“แต่ตัวขาวผ่องขนาดนี้ ท่าทางจะเลี้ยงง่าย…”
อูฮารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นจุดศูนย์กลางของลานประลอง คนทั้งเผ่ามุงดูเขาเหมือนเป็นหินล้ำค่าที่เพิ่งเจอใต้แอ่งน้ำ
“…ข้าจะร้องไห้จริง ๆ แล้วนะ…”
โกรันหันมากอดเขาแน่นกว่าเดิม พูดเสียงจริงจัง
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง…เมียของข้า”
อูฮานั่งหน้าบูดอยู่ตรงก้อนหินในถ้ำ พลางจ้องพวงผลไม้ดึกดำบรรพ์ที่โกรันเอามาให้แง่ง ๆ มันมีสีม่วงสดใสแต่กลิ่นคล้ายถุงเท้าที่ถูกลืมตากในลมชื้นสองเดือน
“นี่มันกินได้แน่เหรอ?” อูฮาทำหน้าปลง
โกรันพยักหน้าหนักแน่น “กินแล้วอึสามวัน ขับพิษดีนัก ข้าให้เจ้าเพราะข้ารักเจ้า”
“เอ่อ… ขอบคุณนะ แต่ถ้ารักข้า อย่าให้ข้าอึจนพรุนจะได้ไหม?”
ก่อนที่อูฮาจะสาดอารมณ์ประชดแรงไปกว่านี้ เสียงฝีเท้าตึงตังก็ดังเข้ามาจากทางเข้าถ้ำพร้อมเสียงร้อง “ไอ่โกรัน!! เจ้าไปลากเมียใครมาวะ!?”
“ไม่ใช่เมียใคร! เมียข้า!!” โกรันตะโกนตอบอย่างภูมิใจ
กลุ่มชายฉกรรจ์รูปร่างบึกบึน ผิวหยาบจนเหมือนหินพังมาเยี่ยมเยียนกันถึงถ้ำ มาคู่กับผู้หญิงตัวเล็กแต่เสียงดังราวกับภูเขาถล่ม
หญิงคนหนึ่งจ้องหน้าอูฮา ก่อนพูดเสียงอ้อแอ้เหมือนพูดกับลูกนกพร้อมยื่นมือเข้าไปใกล้คนตรงหน้าที่อยู่ใกล้กับร่างสูงบึกบึนข้างๆ
“โอ๊ย ตาคนนี้ขาวจั๊วะ ข้าเห็นแล้วอยากบีบแก้มของเขา!”
“อย่ามาแตะนะ ข้าไม่ใช่ลูกเจ้านะยัยป้า!” อูฮาดิ้นหลบมือรู้สึกแปลกเกินไปที่จะให้ใครมาสัมผัสตัวเอง “ข้าเป็นมนุษย์วัยทำงาน... เอ่อ วัยหาหญ้าต้มกิน!”
“เจ้าพูดตลกจังเลย ฮิๆๆ” อีกคนหัวเราะ เสียงเหมือนจระเข้หาว
โกรันยืนกอดอกมองอยู่ด้านหลัง ราวกับภูเขาหวงของ มีคนเอื้อมมาจะแตะอูฮาทีไร เขาก็กระแอมเสียงดัง ๆ จนคนทั้งเผ่าเงียบ
“เจ้าแตะเมียข้า ข้าจะหักหอกเจ้า”
“โอ๊ย ข้าแค่หยอกๆ อย่าเอาหอกมาขู่ข้านะโกรัน!”
“ก็หอกเจ้าอยู่ใกล้ข้าเกินไป!”
อูฮามองไปมา งงกับบทสนทนาเสียดแทงใจนี้เหลือเกิน
⋯⋯⋯⋯⋯
เวลาผ่านไป อูฮาถูกจับแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหนังสัตว์จากฝีมือหญิงชราประจำเผ่า ที่ตัดเย็บแบบไม่มีเย็บ
“ข้า... ไม่มีเข็มเย็บ ข้าเลยใช้ฟันกัดรูแล้วร้อยเชือก” หญิงชราพูดพลางโชว์เสื้อคลุมที่ดูเหมือนห่อมันฝรั่ง
“ดูเหมือนกระสอบ…” อูฮาพึมพำ
“หือ?”
“เปล่า! ข้าชอบมาก! หอมกลิ่นควายป่าดี!”
และเมื่อคิดว่าวันนี้คงไม่จะแย่ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว จู่ ๆ ก็มีเสียงตีกลองดังขึ้น
ตึง! ตึง! ตึง!
“เมียใหม่โกรัน จงออกมาเต้นแสดงความสามารถ!”
“หา! ข้าไม่ใช่นักแสดงนะ!”
“ไม่เต้น เทพจะไม่อวยพรให้มีลูกแฝด!” ชาวเผ่าคนนึงตะโกนจากหอคอยไม้ไผ่
“เจ้าไม่มีทางเลือกนะ” โกรันกระซิบข้างหู เขายื่นไม้ตีกลองมาให้อย่างจริงจัง
อูฮากัดฟันแน่น มองไม้ตีกลองแล้วถอนหายใจ
“ได้… ถ้าจะหนีไม่ได้ ข้าจะเต้นให้สุดชีวิต!”
⋯⋯⋯⋯⋯
สองชั่วโมงต่อมา อูฮาหมดแรงนอนหอบอยู่ข้างกองไฟ ส่วนชาวเผ่าก็เต้นวนรอบตัวเขาไปมา บางคนยื่นกระดูกไก่ให้เป็นของขวัญ
“เจ้าเต้นเก่งมาก! ข้าไม่รู้ว่านั่นคือศิลปะหรือการชัก!” หญิงแก่ตะโกนชมเสียงสดใส
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน…”
โกรันนั่งอยู่ข้าง ๆ ป้อนน้ำมะตูมยุคหินให้ดื่มจากเปลือกหอยใหญ่
“เจ้าเก่งมากเมียของข้า ข้าภูมิใจ”
“หยุดเรียกเมียข้าได้ไหม… ข้ายังไม่ได้ผูกอะไรเลยนะ!”
“ผูกคืออะไร?”
“เอ่อ… คือพิธีผูกข้อเท้า…”
“โอ๊ะ! เดี๋ยวข้าเอาเถาวัลย์มามัดข้อเท้าเจ้าไว้เลย!”
“ไม่! ข้าหมายถึง… ไม่ใช่แบบนั้นนน!”
⋯⋯⋯⋯⋯
คืนนั้น อูฮาเขียนแผนหนีบนพื้นทรายด้วยกระดูกไก่…
รอจังหวะโกรันหลับ
วิ่งไปทางซ้ายของถ้ำ
ปีนหน้าผา
หาทางกลับเผ่าตัวเอง
อย่าลืมเห็ด!
แต่แล้วโกรันก็เดินมานั่งข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ พร้อมพูดว่า
“ข้าเตรียมขนสัตว์ให้เจ้าปูทางหนีแล้วนะ หากเจ้าคิดจะหนีจริง ๆ อย่างน้อยจะได้ไม่หนาวเท้า…”
อูฮาเงียบไป
“เจ้า…รู้?”
โกรันพยักหน้าเบา ๆ “แต่ข้าไม่ห้ามหรอก หากเจ้าไม่อยากอยู่กับข้า...”
อูฮามองหน้าเขาแล้วถอนหายใจเฮือก
“…ข้ายังไม่ตัดสินใจ แต่เอาเถอะ คืนนี้ขอข้าหนุนแขนเจ้าก่อนแล้วกัน แขนนุ่มดี…”
“นุ่ม?” โกรันขมวดคิ้ว “เจ้าเรียกแขนนักรบว่านุ่ม?”
“นุ่มเหมือนหินที่โดนน้ำฝนหลายปีแล้ว…”
“โอ๊ะ! ข้าชอบคำเปรียบเทียบของเจ้า!”
"ฮ่าฮ่าฮ่า"
ทั้งสองนอนขำกลิ้งในถ้ำ ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องเบา ๆ และแสงคบไฟนิ่งสงบ
คืนนี้ ยังไม่ต้องหนี อูฮาคิดในใจ
แต่พรุ่งนี้... ก็อีกเรื่องหนึ่ง
รุ่งเช้าในถ้ำหินที่กลิ่นเนื้อย่างยังไม่จาง โกรันลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพื่อย่างหมูป่าให้ “เมีย” ของตน อูฮาลืมตาขึ้นมาเห็นเงาหลังอันใหญ่โตของโกรันกำลังพัดควันด้วยใบปาล์มอย่างตั้งใจ คิ้วขมวดเป็นปม แต่ปากยิ้มโดยไม่รู้ตัว
“นี่ข้าสูดดมกลิ่นควันจนสมองเบลอ หรือไงเนี่ย…?” อูฮาพึมพำกับตัวเอง
โกรันหันกลับมาพร้อมเนื้อไม้เสียบยาวเกือบเมตร “ข้าหมักด้วยน้ำผลไม้หวาน ๆ ที่ทารกยังชอบกิน ข้าให้เจ้าอันใหญ่สุด เพราะเจ้าหอมที่สุด”
“ข้าไม่ใช่หมา!!” อูฮาร้องลั่น แต่ก็รับเนื้อมาด้วยมือสองข้างอย่างไม่อิดออด
พอกัดเข้าไปคำแรก ดวงตาก็เบิกโพลง
“อร่อย… นี่เจ้าใส่อะไรลงไป?”
“ข้าแค่ล้างมือก่อนหมัก”
อูฮากรอกตาขึ้นข้างบนยังเบื่อหน่าย “…ข้าไม่ควรถามเลยใช่มั้ย?”
ระหว่างที่อูฮากำลังจะฟาดเนื้ออีกคำ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากหน้าถ้ำ
“เมียโกรัน! วันนี้เจ้าต้องเข้าร่วมพิธี ‘บูชาไข่กลิ้ง’ เพื่อเสริมพลังการตั้งครรภ์!”
“บูชาอะไรนะ!?” อูฮาทำหน้าสยอง
โกรันยิ้มภูมิใจ “เป็นประเพณีประจำฤดู! ข้าก็เคยทำ! ข้าเคยกลิ้งไข่นกกระจอกเทศจนขาหลุด!”
“โกรัน… นั่นคือเหตุผลที่เจ้าขาเป๋เหรอ?”
“ใช่! เจ็บเพื่อเผ่า เจ็บเพื่ออนาคตของลูก!”
อูฮากัดเนื้อย่างต่อไปเงียบ ๆ ในใจรู้สึกว่า อนาคตของเขาอาจไม่ใช่แค่การหนีอีกต่อไป แต่เป็นการ ‘อยู่รอด’ แบบเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ
⋯⋯⋯⋯⋯
ในพิธี ‘บูชาไข่กลิ้ง’ ชาวเผ่ารวมตัวกันบนลานหินขรุขระกลางหุบเขา มีไข่ขนาดเท่าลูกฟักทองวางเรียงรายบนผืนใบตองใหญ่ กลุ่มพ่อเฒ่าแม่เฒ่าเป่าแตรหอยจนเสียงดังปลุกนกทั้งป่า
“ข้าไม่กลิ้งนะ ข้าจะเดินผ่านเบา ๆ ก็พอมั้ย?” อูฮาถามด้วยเสียงสั่น
“ไม่ได้! ต้องกลิ้งแบบใช้สะโพก ถ้าไม่สะโพก ลูกจะไม่สมบูรณ์!” แม่เฒ่าตอบด้วยสีหน้าเข้มงวด
อูฮามองโกรันที่ยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ
“ถ้าเจ้าไม่อยากทำ ข้าจะกลิ้งแทน!”
“ไม่ต้อง! เดี๋ยวเจ้าขาหลุดอีก!”
และแล้ว พิธีบูชาไข่กลิ้งก็เริ่มขึ้น พร้อมเสียงร้องเชียร์จากชาวเผ่า อูฮากลิ้งตัวไปมาจนเหมือนหนอนกำลังงงกับทิศทาง เสียงหัวเราะดังลั่นทั่วหุบเขา
“อ๊า! เปลือกไข่เข้าก้นข้าาาา!”
“สุดยอด! ลูกเจ้าจะได้เกิดมาทนทาน!!”
⋯⋯⋯⋯⋯
คืนนั้น หลังจบพิธี อูฮากลับมาถ้ำด้วยก้นที่เป็นรอยปื้นม่วง ๆ โกรันเอายาหมักใบไม้มาแต้มให้ พูดเสียงเบาเหมือนกล่อมลูกหมู
“เจ็บไหมเมียของข้า…”
“หยุดเรียกแบบนั้นเถอะ ข้าอายชาวถ้ำข้าง ๆ”
“ชาวถ้ำข้าง ๆ หูหนวก!”
“แล้วเจ้าตะโกนทำไมเล่าาาา!!”
โกรันหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็เงียบลงแล้วพูดเบา ๆ
“แต่ข้าดีใจที่เจ้าร่วมพิธี… แม้เจ้าจะกลิ้งเหมือนหินกลมที่มีขาก็เถอะ”
อูฮามองหน้าเขา ยิ้มมุมปาก “ข้าจะถือว่านั่นเป็นคำชม…”
และในค่ำคืนนั้น ภายใต้ผ้าคลุมหนังสัตว์กลิ่นแดด อูฮาไม่ได้คิดเรื่องหนีเลยแม้แต่นิดเดียว...
แต่พรุ่งนี้... เขาจะคิดใหม่ก็ได้
รุ่งเช้าวันต่อมา อูฮาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนทับแขนโกรันอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าแขนของโกรันใหญ่พอจะเป็นแพไม้ไผ่พาอูฮาข้ามแม่น้ำได้
“เจ้าขยับได้แล้ว แขนข้าชาเหมือนหินที่แช่น้ำ” โกรันพูดเสียงทุ้มพลางกลอกตา
“งั้นปลุกข้าสิ ไม่ใช่ให้นอนทับแบบนั้น!”
“ข้ากลัวเจ้าตื่นมางอแง…”
“แล้วตอนนี้ข้างอแงไหม?”
“งอแงมาก”
อูฮาทำหน้าบูด แต่ก็ยอมขยับตัวแล้วลุกไปนั่งข้าง ๆ กองไฟเช้า มือเท้าคางอย่างหมดหวังพูดพึมพำ
“ข้าต้องหาทางหนีก่อนที่เจ้านี่จะเอาข้าไปจดทะเบียนกับหัวหน้าเผ่า…”
โกรันที่ได้ยินเดินมาแล้วนั่งลงข้าง ๆ ยื่นห่อใบไม้ที่มีเนื้อย่างอยู่ข้างในส่งให้
“กินเสียก่อน เจ้าไม่มีแรงหนีหรอกหากท้องว่าง”
“เจ้านี่! พูดออกมาแบบนั้นไม่คิดจะขวางเลยรึไง!”
“ก็ข้าแค่… อยากให้เจ้ารู้สึกว่าอย่างน้อย มีคนในเผ่านี้ที่อยากดูแลเจ้า”
อูฮาเงียบไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ตอบรับใด ๆ เขาก้มลงกัดเนื้อย่างคำหนึ่งแล้วต้องเบิกตาโต
“อร่อยมาก!! ทำไมเจ้าไม่บอกว่าเจ้าทำอาหารได้!”
“ข้าบอกว่าเป็นนักล่าที่ดีที่สุด เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เนื้อเสียเปล่ารึไง” โกรันยิ้มมุมปาก
อูฮาหยิบเนื้อย่างชิ้นที่สองทันที ไม่ลืมจ้องหน้าโกรันด้วยสายตากึ่งระแวงกึ่งประทับใจ
⋯⋯⋯⋯⋯
พิธีกรรมง้อเมียที่เกือบล่ม
ตอนสาย ชายชราประจำเผ่าเดินถือกระบุงไข่กระจอกเทศมาเต็มมือ พร้อมตะโกนว่า
“ถึงเวลาพิธี 'ไข่กลิ้งคืนใจ' แล้ว!”
“หา?” อูฮาหันขวับ “ฟังดูเหมือนอะไรที่เปื้อน ๆ!”
“นี่เป็นพิธีง้อคู่หมาย ผู้ชายต้องกลิ้งไข่ไปหาผู้หญิง ถ้าไข่แตกก่อนถึงตัว แปลว่าใจเจ้าไม่มั่น!”
โกรันมองไข่ลูกยักษ์แล้วก้มดูมือตัวเอง “ข้าจะต้องกลิ้งมันจริง ๆ รึ?”
“อย่าคิดโยนล่ะเจ้าโกรัน! ครั้งที่แล้วเจ้าโยนไข่ใส่หัวคนจนเขาจำความไม่ได้ถึงทุกวันนี้” หญิงแก่ขู่
อูฮาพ่นลมหายใจ “เอาเถอะ ข้าดูแล้วกันว่าหัวใจเจ้าหนักแน่นแค่ไหน”
โกรันคุกเข่าลงอย่างนักรบผู้จริงจัง วางไข่ลูกใหญ่ลงกับพื้นอย่างทะนุถนอมแล้วเริ่ม… กลิ้งมันด้วยหน้าผาก
“เจ้าทำอะไร!?” อูฮาแทบจะสำลักน้ำ
“ข้าอยากให้เจ้ารู้ ว่าข้าจะถ่อมตัวแม้แต่หน้าผากก็ไม่หวง!”
ไข่ลูกนั้นกลิ้งอย่างช้า ๆ ไปทางอูฮา ระหว่างทางมีทั้งเด็กน้อยวิ่งตัดหน้า มีไก่วิ่งไล่ไข่ และมีชายแก่ที่สะดุดไข่จนล้มกลิ้งเองไปก่อน
แต่สุดท้าย โกรันก็กลิ้งไข่มาถึงปลายเท้าอูฮาได้โดยไม่แตก
“เจ้ายอมรับข้าหรือยัง?” โกรันถามพร้อมรอยยิ้มเปื้อนโคลน
อูฮามองไข่… แล้วมองหน้าคนที่เต็มไปด้วยโคลน… แล้วมองไข่อีกครั้ง
“ถ้าข้าปฏิเสธ ข้าจะโดนบังคับกินไข่นี่ไหม?”
“เปล่า ข้าจะกินมันเอง เพราะมันมีความหมายระหว่างเรา”
“…เอาเถอะ ข้าแค่จะอยู่ต่อ เพราะไข่นี่เหนื่อยจะกลิ้งกลับแล้ว”
ทั้งเผ่าส่งเสียงโห่ร้องยินดี โกรันยืนขึ้นทั้งที่โคลนเต็มตัว ยื่นมือให้เขา
“คืนนี้ข้าจะจัดพิธีต้อนรับเจ้าสู่อ้อมอกของเผ่า”
“หมายถึง…?”
“งานเลี้ยงขาไก่ย่าง กับการเต้นรำรอบกองไฟ 8 ชั่วโมง”
“…ข้ากลับไปกลิ้งไข่แทนได้ไหม?”
⋯⋯⋯⋯⋯
อูฮานั่งถอนหายใจอยู่ริมถ้ำ ข้างตัวมีโกรันที่กำลังนั่งเย็บเสื้อผ้าให้เขาด้วยหนามเม่น
อูฮามองภาพนั้นแล้วยิ้มบาง ๆ อย่างไม่รู้ตัว
“เจ้าก็ไม่ได้แย่นัก… ถ้าไม่นับว่าตัวใหญ่จนแย่งแสงแดดไปหมด”
“ข้าจะตัวเล็กลงให้ก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการ”
“ไม่ต้องหดตัว ข้าแค่ล้อเล่น…”
คืนนี้ยังคงไม่ใช่วันที่อูฮาจะหนี เพราะเขาเริ่มรู้สึกว่าอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้เลวร้าย
โปรดติดตามตอนต่อไป
เชิงอรรถ
^เป็นคำอุทานดัดแปลงจากคำว่า 'โอ้พระเจ้า'
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 11
Comments
porpan'ng
สามีดีเด่นขนาดนี้ไม่หนีแล้วได้มั้ยคะ
2025-10-17
0
porpan'ng
เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกัน/Facepalm/
2025-10-17
0