หลังเสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะจางลง เมืองชายแดนเหนือกลับมาคงความสงบอีกครั้ง แต่ในใจของ วอซอ รู้ดีว่าชัยชนะไม่ได้หมายความว่าศึกสงครามจะจบลงตลอดไป
เขายืนอยู่บนระเบียงปราสาทมองลงไปยังเมือง ท่ามกลางซากควันไฟจากศึกเมื่อคืนที่ยังคงหายใจรุนแรง ปรากฏภาพของบ้านเรือนชำรุด บ้างเสียหาย บ้างยังตั้งตระหง่าน
> —ตรวจสอบความเสียหายของเมือง: บ้านเรือนเสียหาย 12 หลัง, โรงเก็บเสบียง 2 แห่งถูกไฟไหม้, พื้นที่เพาะปลูกยังคงปลอดภัย 100%—
อามินรายงานในหัวของเขา
วอซอพยักหน้า “เราต้องรีบฟื้นฟูเมืองให้ประชาชนมั่นคง…ไม่ใช่แค่ป้องกันศึก แต่ให้พวกเขาอยู่ดีมีสุข”
---
การวางแผนเมือง
เมืองชายแดนเหนือมี พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 1,000 ไร่ วอซอใช้เวลาทั้งเช้าและบ่ายร่วมกับอามินและขุนนางในการวางแผน
> —จากข้อมูลของพื้นที่และจำนวนประชากร เราสามารถจัดสรรได้ดังนี้—
—ข้าวสาลี: 500 ไร่ (เพียงพอเลี้ยงประชากรเมืองและทหาร)
—สุกร: 200 ไร่ (โรงเรือนและพื้นที่วิ่ง)
—ม้า: 150 ไร่ (เลี้ยงเพื่อกองทัพและการขนส่ง)
—ไก่: 150 ไร่ (เพื่อไข่และเนื้อสำหรับประชากร)
—พื้นที่เหลือใช้สำหรับถนน ตลาด และลานฝึกทหารประมาณ 50 ไร่—
วอซอพยักหน้าเห็นด้วย เขาแบ่งงานให้ขุนนางจัดสรรคนงานและทหารในการสร้างคอกสุกร โรงเก็บเมล็ดพันธุ์ และคอกม้า
“เราต้องจัดลำดับความสำคัญ” วอซอกล่าว “ข้าวสาลีต้องปลูกก่อน เพราะนี่คืออาหารหลัก ถัดไปจึงเป็นสุกรและไก่ ม้าไว้สำหรับทหารและการคมนาคม”
> —ข้าจะคำนวณอัตราผลผลิตต่อไร่และจำนวนประชากร—
อามินฉายข้อมูลภาพรวมสัดส่วนให้วอซอเห็นเป็นกราฟและตัวเลขแบบเรียลไทม์
วอซอมองกราฟและยิ้มเล็ก ๆ “หากเราปลูกตามนี้ ภายในหนึ่งฤดูกาลเราจะมีข้าวเพียงพอสำหรับประชากรและทหาร แถมมีสุกร ไก่ และม้าเพียงพอด้วย”
---
การสร้างระบบเกษตรและเลี้ยงสัตว์
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังศึก วอซอสั่งให้ทหารและประชาชนช่วยกันปรับปรุงพื้นที่เพาะปลูก บริเวณทุ่งข้าวสาลีถูกไถพรวนและหว่านเมล็ดพันธุ์อย่างเป็นระเบียบ ส่วนสุกรถูกย้ายไปคอกที่สร้างใหม่ ม้าและไก่ได้รับอาหารและน้ำสะอาด
> —ตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำ: ดินเหมาะสมต่อการเพาะปลูกข้าวสาลี, สุกรและไก่มีอาหารเพียงพอ, น้ำสะอาดจากลำธารยังไม่ปนเปื้อน—
อามินรายงาน
วอซอเดินไปตรวจคอกสุกรและคอกม้า พูดกับประชาชนที่กำลังทำงานด้วยรอยยิ้ม
“เราจะไม่ปล่อยให้เมืองนี้อดอยากอีกต่อไป ทุกชีวิตสำคัญเท่ากับดินแดนที่เราปกป้อง”
ประชาชนและทหารต่างพยักหน้าเต็มใจ พลังและความหวังเริ่มกลับคืน
---
การบริหารจัดการทรัพยากร
วอซอสั่งให้ตั้ง คลังอาหารกลางเมือง แยกเป็นข้าวสาลี สุกร ไก่ และม้า เพื่อจัดสรรให้เพียงพอทั้งเมืองและกองทัพ
> —เราสามารถเก็บข้าวสาลีได้ 1,200 ตันต่อฤดูกาล
—สุกร 500 ตัว, ไก่ 1,200 ตัว, ม้า 300 ตัว— อามินคำนวณ
เขายังวางระบบสต็อกฉุกเฉินสำหรับกรณีเกิดศึกหรือภัยธรรมชาติ แนะนำให้ปลูกพืชหมุนเวียน เช่น ข้าวฟ่างและผักพื้นเมือง เพื่อให้ประชาชนมีอาหารหลากหลาย
วอซอยังมอบหมาย คณะกรรมการทหารและพลเรือนร่วมกันดูแลพื้นที่เกษตร เพื่อป้องกันการแย่งชิงและป้องกันโรคระบาดในสัตว์
---
ความสัมพันธ์กับประชาชน
ตลอดสัปดาห์ วอซอออกตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกเอง เขาช่วยจับปลาในลำธาร ดูแลสุกร และสนทนากับชาวบ้านเกี่ยวกับความต้องการอาหารและการทำงาน
หญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้าน พยักหน้าให้เขาพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณเจ้าชาย…ท่านไม่เหมือนผู้ปกครองคนก่อน ท่านใส่ใจประชาชนจริง ๆ”
วอซอยิ้มตอบ “ข้าก็เป็นประชาชนเช่นเดียวกัน พวกเจ้าไม่ใช่เพียงชาวบ้าน แต่คือผู้ที่ช่วยปกป้องแผ่นดินแห่งนี้”
อามินกระซิบในหัวเขา
> —นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชน ความสัมพันธ์นี้จะช่วยให้เมืองเข้มแข็งในระยะยาว—
---
แผนการพัฒนาเมืองต่อไป
ในช่วงค่ำวอซอและอามินนั่งวิเคราะห์ผลการพัฒนาเมือง เขาวางแผนให้เกิด ถนนเชื่อมหมู่บ้าน, ระบบชลประทานสำหรับข้าวสาลี, พื้นที่ซ้อมทหารกลางแจ้ง
> —หากใช้ระบบนี้ ประชากรจะมีอาหารเพียงพอตลอดปี และทหารพร้อมรับมือศึกครั้งต่อไป— อามินรายงาน
วอซอยิ้มบาง ๆ มองแผนที่เมืองและทุ่งเพาะปลูก
“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องทำ หลังจากศึกแล้ว…เมืองนี้จะไม่ล่มอีกต่อไป ทุกชีวิตของประชาชนจะปลอดภัยและอยู่ดีมีสุข”
ในใจเขารู้สึกว่า ภารกิจของเจ้าชายชายแดนเหนือไม่ได้มีเพียงแค่การรบ แต่รวมถึง การสร้างเมืองให้เป็นป้อมปราการและบ้านที่อบอุ่นสำหรับทุกชีวิต
---
และเมื่อคืนปกคลุมดินแดนเหนือ แสงดาวส่องลงบนทุ่งข้าวสาลีที่เพิ่งปลูกใหม่ เสียงสุกรและไก่ร้องโหยหวนเบา ๆ แสดงถึงชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองชายแดนเหนือ
วอซอยืนอยู่บนระเบียงปราสาท หัวใจสงบและมั่นคง
“นี่คือก้าวแรกของเมืองชายแดนเหนือ…ก้าวแรกของการสร้างอนาคตใหม่”
อามินกระซิบในหัวเขา
> —และนี่คือการวางรากฐานสำหรับสงครามที่จะมาถึง…ท่านจะต้องแข็งแกร่งทั้งในสนามรบและในใจประชาชน—
วอซอพยักหน้า…พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments