"ใต้เปลวเทียนลางเลือน ผู้ใดกันแน่…ที่หวั่นไหวก่อน?"
คืนที่ฝนตกผ่านไปแล้ว
แต่บางสิ่งกลับตกค้างในใจมากกว่าหยาดน้ำใด ๆ
ในห้องนอนเงียบสงบของตำหนักอวิ๋นเหอ—องค์หญิงซูหรูเยว่นั่งอยู่เบื้องหน้ากระจกสำริด
แสงตะเกียงส่องต้องดวงหน้างดงามที่ดูเงียบสงบ ทว่าในดวงตาแฝงคลื่นน้ำที่ยากจะควบคุม
นางลูบบ่าเบา ๆ ตรงจุดที่เสื้อคลุมขององค์รัชทายาทเคยสัมผัส
มันอบอุ่น…จนยังไม่ลืมเลือน
> "เหตุใดจึงต้องดีต่อข้า?"
"เราก็แค่คนแปลกหน้าที่ถูกพันธะสัญญาผูกไว้…มิใช่หรือ?"
---
⛩ ฝั่งองค์รัชทายาท – พระตำหนักฉางหยาง
หลี่เจิ้งเหวินยืนอยู่หน้ากล่องไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ใต้โต๊ะทรงจีน
ในนั้นมีเพียงพัดเก่าใบหนึ่ง กับแผ่นผ้าผืนจิ๋วปักชื่อ...
> “หรูเยว่”
เขามองมันเนิ่นนาน
ก่อนจะวางพัดลงช้า ๆ และเดินไปยืนที่หน้าต่าง มองไปยังตำหนักอวิ๋นเหอที่อยู่ไกลลิบ
> "เจ้าจำข้าไม่ได้…แต่นั่นไม่เป็นไร"
"เพราะข้าไม่ลืมเจ้าเลย…แม้แต่วันเดียว"
ใช่แล้ว...
ครั้งหนึ่งในอดีต
เมื่อครั้งเจิ้งเหวินยังมิได้เป็นองค์รัชทายาท
เขาเคยเสด็จไปยังแคว้นซางเพื่อศึกษาและฝึกงานราชการ
และเคยบังเอิญช่วย "เด็กหญิงคนหนึ่ง" ที่กำลังร้องไห้อย่างเงียบ ๆ ใต้ต้นหลิวในวังหลัง
เขาไม่เคยลืม
แต่นาง—กลับไม่เคยรู้ว่า “เขา” คือ “ชายคนนั้น”
---
🌸 วันรุ่งขึ้น – พระลานหลวง
การประชุมขุนนางมีประเด็นร้อนแรง
ขุนนางกลุ่มหนึ่งเสนอให้มี “การแต่งตั้งชายาเอก” อย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมอำนาจวังหน้า
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากเสนาบดีฝ่ายซ้าย
> “ฝ่าบาท แม้องค์หญิงซูจะได้รับพระราชทานตำหนัก แต่ยังมิได้ประกอบพิธีแต่งอย่างสมบูรณ์ หากปล่อยไว้เกรงว่าจะเกิดความเสื่อมเสียแก่ราชสำนัก”
เสียงอีกฝ่ายค้านทันที
> “แต่พระชายานางนั้น...มาจากแคว้นซางซึ่งเคยศึกกับเรา จะไว้วางพระทัยได้อย่างไร!”
บรรยากาศเริ่มตึงเครียด
ขณะที่องค์รัชทายาทหลี่เจิ้งเหวินนั่งนิ่ง พลางใช้พัดไม้เคาะโต๊ะเบา ๆ
ดวงตาคมหรี่ลง
> “ข้ายังมิได้ตัดสินใจ...แต่หากผู้ใดกล้าล้ำเส้นกับคนของข้าอีก ข้าจะถือว่าผู้นั้นล่วงเกินราชฐาน”
คำพูดนี้ทำให้ทั้งท้องพระโรงเงียบงันในทันที
---
💮 ตำหนักอวิ๋นเหอ – เย็นวันเดียวกัน
ซูหรูเยว่ได้รับข่าวจากขันทีน้อยว่าวันนี้พระองค์มีพระดำรัสปกป้องนางในที่ประชุมขุนนาง
นางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง…หัวใจเต้นแผ่วแต่สม่ำเสมอ
> “องค์รัชทายาทผู้อ่อนโยนแบบนั้น…มีอยู่จริงหรือ?”
นางเดินออกมายังลานหลังตำหนักอีกครั้ง
ใต้ต้นหลิวต้นเดิมที่ฝนตกวันก่อน
มีกล่องผ้าเล็ก ๆ วางไว้พร้อมแผ่นกระดาษ…
> “เจ้าชอบฝน แต่ข้าเกลียดมัน...
แต่หากฝนพาเจ้ามาอยู่ตรงนี้ ข้าก็ยอมยืนใต้ฝน…ไปพร้อมกัน”
ไม่มีชื่อ ไม่มีลายเซ็น
แต่เธอรู้ดีว่าเป็นของใคร
ริมฝีปากบางของซูหรูเยว่คลี่ออกอย่างแผ่วเบาเป็นครั้งแรก
...เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้งหรือฝืนใจ
...แต่เป็นรอยยิ้มของคนที่เริ่มไม่สามารถ "เกลียด" บุรุษผู้หนึ่งได้อีกต่อไป
---
ในหัวใจขององค์หญิง
คำพูดที่อยากจะเอ่ยมากที่สุด แต่ยังไม่กล้าพูดก็คือ...
> “ท่านจะปล่อยข้าไป…หรือจะยื้อข้าไว้กันแน่ องค์รัชทายาท...”
แต่ในใจของเขา
คำตอบนั้น…แน่นิ่งชัดเจนมานานแล้ว
> “หากข้าจะยื้ออะไรไว้ในชีวิตนี้ได้...ข้าก็อยากให้เป็นเจ้า”
---
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments