ฝนตกในเดือนที่สามของฤดูใบไม้ผลิ
หยาดน้ำหล่นกระทบพื้นหินในลานด้านหลังพระตำหนักอวิ๋นเหออย่างแผ่วเบา
เสียงสายฝนคล้ายบทเพลงจากสรวงสวรรค์ ทว่าหญิงสาวในชุดคลุมบางกลับมิได้หลบซ่อน
ซูหรูเยว่
นางนั่งอยู่ใต้ต้นหลิวเล็ก ๆ ที่เพิ่งปลูกใหม่เมื่อไม่นาน ร่มกระดาษสีอ่อนบังใบหน้าเรียบเฉย
ที่ปลายสายตาของนาง
คือม่านฝนสีเทาที่ขอบฟ้า และความคิดบางอย่างที่นางพยายามกลบฝัง
---
> “ฝนแบบนี้ ทำให้ข้ารู้สึก...ไม่ต้องฝืนเงียบอีกต่อไป”
นางพึมพำกับตัวเอง ขณะปล่อยให้ความเปียกชื้นแทรกซึมผ่านแขนเสื้อ
เมื่อตอนยังเยาว์ ทุกครั้งที่แคว้นซางเกิดเหตุวุ่นวาย
นางจะหลบไปยังศาลาเล็กหลังวังและนั่งฟังเสียงฝน
เพราะฝน...กลบเสียงทะเลาะ เสียงร้อง เสียงด่าว่า—ได้หมด
เหมือนตอนนี้...
---
> “องค์หญิง” เสียงหนึ่งดังจากด้านหลัง
นางหันกลับช้า ๆ
พบขันทีน้อยยืนตัวสั่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตก
> “องค์รัชทายาทเสด็จมายังตำหนัก...ขอรับ!”
นางชะงัก ปลายนิ้วกำด้ามร่มแน่น
มิใช่เพราะความกลัว
แต่เพราะนางไม่คาดคิดว่าเขาจะมา...ในเวลาแบบนี้
---
⛩ ภายในตำหนักอวิ๋นเหอ – เวลาเดียวกัน
เสียงประตูเปิดออกพร้อมร่างสูงของบุรุษในชุดคลุมดำ
องค์รัชทายาท หลี่เจิ้งเหวิน
บุรุษผู้ไม่เคยเข้าเยี่ยมหญิงใดในวังเว้นแต่ราชการ
กลับย่างก้าวเข้าตำหนักของสตรีผู้เป็นเพียง “ชายาในนาม”
> “องค์หญิงซู อยู่ที่ใด?” เขาเอ่ยเสียงเรียบ แต่เย็นเยียบ
ขันทีรีบคุกเข่า
> “ฝ่าบาท...พระชายาเสด็จไปที่ลานหลังตำหนัก ตั้งแต่ฝนเริ่มตก...ยังไม่เสด็จกลับเลยพะยะค่ะ”
หลี่เจิ้งเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย
ริมฝีปากเม้มแน่น
> “หญิงผู้นี้ คิดว่าตนแกร่งนักหรืออย่างไร”
แม้กล่าวเช่นนั้น...แต่ก้าวเท้าของเขากลับเร่งขึ้น
---
🌧 ลานหลังตำหนัก – ใต้ต้นหลิว
เสียงฝีเท้ากระทบน้ำแฉะๆ ดังใกล้เข้ามา
หรูเยว่เงยหน้าขึ้นช้า ๆ ร่มของนางเอียงเล็กน้อย เผยให้เห็นดวงตาสีดำลึกที่ไม่อาจอ่านใจได้
องค์รัชทายาทยืนอยู่ตรงหน้า
แม้สายฝนจะโปรยปรายลงบนไหล่เขา แต่เขากลับไม่สนใจ
> “เจ้าชอบฝน...ถึงกับนั่งกลางสายฝนเช่นนี้หรือ”
> “ฝนมิได้ทำร้ายใครเพคะ”
> “แต่มันทำให้เจ้าป่วยได้”
นางนิ่งไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงเบา
> “หากหม่อมฉันล้มป่วย...จะมีผู้ใดใส่ใจหรือเพคะ”
เขาชะงัก ดวงตาคมกริบมองตรงไปยังใบหน้านิ่งสงบของนาง
เงียบไปเนิ่นนานก่อนเขาจะถอดเสื้อคลุมของตนออก
แล้ววางลงบนบ่าของนางอย่างแผ่วเบา
> “ข้าไม่ชอบฝน…แต่มิได้หมายความว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าทนอยู่ใต้มันตามลำพัง”
---
วินาทีนั้น หัวใจของนางไหวสั่น
ไม่ใช่เพราะความหนาวของฝน
แต่เพราะความอบอุ่น...ที่หลุดรอดออกมาจากเบื้องหลังความเย็นชาของเขา
> “ท่านไม่ต้องทำเช่นนี้เพื่อหม่อมฉันหรอกเพคะ”
> “ข้าไม่เคยทำสิ่งใดโดยไร้เหตุผล”
หลี่เจิ้งเหวินกล่าว พลางเอื้อมมือดึงร่มของนางขึ้น
แล้วเดินนำอย่างนิ่งขรึม
เสียงฝนยังคงตก แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาเปลี่ยนไป
จากเคยหนักอึ้ง...กลายเป็นความสงบที่พอจะพิงใจได้
---
คืนนั้น
ภายในตำหนักเงียบงัน
แต่องค์หญิงแห่งแคว้นซาง และองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเยียน
ต่างคนต่างเริ่มเฝ้ามอง “กันและกัน”
โดยไม่รู้ตัว...
---
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments