ตอนที่4 แดนกระจกพันเงา

เส้นทางหินแคบทอดผ่านกลางหุบเขาหมอก

บรรยากาศรอบกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายลางร้ายจากพลังตกค้างของแดนต้องห้าม

เสียงฝีเท้าของสามหนุ่มดังก้องในความเงียบ

เฟยหลง, หนิงเทียน, และ หลิวสิง กำลังมุ่งหน้าไปยัง “แดนกระจกพันเงา”

สายลมพัดกลิ่นหมอกและกลิ่นดอกไม้แปลกประหลาดมาจาง ๆ

หลิวสิง เดินไปบ่นไป

“เราควรได้พักยาวกว่านี้หน่อยนะ ข้าเจ็บหลัง ข้าเหนื่อย ข้า—”

เฟยหลง หยุดเดิน หันหลังกลับ

“เจ้าอยากขี่ข้าไหมล่ะ?”

หนิงเทียน เอ่ยเสียงเรียบโดยไม่หันกลับ

“อย่าชวน…เดี๋ยวเขารับจริง”

“ข้าว่ากลิ่นนี่…ไม่ธรรมดา” — หนิงเทียนเอ่ยเยือกเย็น

หลิวสิง ดมกลิ่นแล้วเบิกตากว้าง

“ข้ารู้จัก! นี่มัน...กลิ่น ‘บุปผาทลายจิต’ ของศาลาร้อยบุปผา!”

ไม่ทันจะก้าวต่อ

เสียงหญิงสาวหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นกลางหมอก

“มีคนรู้จักกลิ่นข้าด้วย...น่ายินดีนัก”

ซูเม่ยฮวา ก้าวออกมาจากม่านหมอกด้วยท่วงท่าราวบทกวี

ชุดประจำสำนักศาลาร้อยบุปผาสีชมพูม่วงพริ้วไหว เธอถือพัดเล็กประดับดอกเหมย

ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในแววตาซ่อนพิษเย็นเฉียบ

ข้างเธอคือชายหนุ่มรูปร่างสูง ผมยาวดำสนิท ใส่ชุดดำปักลายจันทรา

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงยืนสงบ เงียบ เย็นชา

หลิวสิง รีบบอกเบา ๆ

“หมอนั่นคือ เยว่เหิน จากลัทธิจันทราเร้น…เขาใช้อาคมเงาและคำสาป”

เฟยหลง ยิ้มกว้าง

“หืม? หญิงงามกับชายลึกลับปรากฏตัวพร้อมกัน...เหมือนนิยายรักเลยแฮะ”

ซูเม่ยฮวา หัวเราะเบา ๆ

“เจ้าคือเฟยหลง อันดับหนึ่งจากประลองสินะ? ข้าเพียงอยากรู้ว่าทำไมกระบี่เจ้าจึงเลือกเจ้าเป็นนาย”

เฟยหลงหมุนกระบี่ลู่เสียนในมือเบา ๆ

“ข้าให้มันกินใบชาดี ๆ ทุกเช้า มันเลยรักข้า”

เยว่เหิน เอ่ยด้วยเสียงเย็น

“เสียใจด้วย แต่ข้าจะขอผ่านทางนี้…อย่างสงบ หรือไม่สงบก็ได้”

หนิงเทียน เอ่ยเรียบ

“ก็แล้วแต่เจ้าจะเลือก”

บรรยากาศตึงเครียดทันที

กลิ่นบุปผาพิษแผ่กระจายในอากาศ ปนกับเงาดำที่ไหลจากเงาเท้าของเยว่เหิน

ซูเม่ยฮวา กระดิกนิ้ว พัดในมือปล่อยละอองสีชมพูบางเบา

“อย่าห่วง ข้าไม่ฆ่าใครหรอก…แค่หลอกให้หลับไปเท่านั้น”

เฟยหลง หรี่ตา ยิ้มกว้าง

“ดีเลย…ข้าก็แค่ ‘อยากเล่น’ เช่นกัน”

การปะทะเริ่มขึ้น!

ซูเม่ยฮวาโจมตีด้วย “กลิ่นหอมลวงจิต”

แต่หนิงเทียนปล่อยปราณเย็นพิเศษจากร่างต้านกลิ่นนั้นจนกลายเป็นน้ำแข็ง

เยว่เหิน ใช้เงาจันทราแยกร่างมาสามสาย เข้าโจมตีด้านหลังพร้อมคำสาป

หลิวสิงใช้ยันต์สะท้อนขัดไว้ชั่วคราว

“พวกเจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้พังทีมเวิร์คเรอะ!?”

เฟยหลงโผล่ขึ้นด้านบน

กระบี่ในมือหมุนตวัดฟาดเบา ๆ อย่างรวดเร็ว

ฉัวะ!

เส้นผมของเยว่เหินขาดไปสามเส้น

เสื้อของซูเม่ยฮวาขาดเป็นรอยเล็ก ๆ ตรงแขนเสื้อ โดยไม่มีใครโดนจริง

เฟยหลง ยิ้มกว้าง

“ข้าบอกแล้วไง…แค่หยอก”

ซูเม่ยฮวา หัวเราะเสียงต่ำแต่เยือกเย็น

“ถ้าหยอกแล้วทิ้งรอยแบบนี้…ข้าจะตอบเจ้ากลับให้หวานพอ ๆ กันนะ”

เยว่เหิน (เงาเงียบ)

“คราวหน้า เจ้าจะไม่หยอกได้อีก…”

ทั้งสองจากไปโดยไม่ยื้อ

บรรยากาศเงียบลงอีกครั้ง

หลิวสิง หอบเหนื่อย

“เจ้าหยอกเขา…แต่หัวใจข้าจะหยุดเต้นอยู่แล้ว!”

เฟยหลง

“งั้นคราวหน้าข้าจะหยอกข้าเอง แล้วเจ้าจะไม่ต้องลำบากใจ”

หนิงเทียน พูดเบา ๆ

“อย่าหยอกบ่อยเกิน…เดี๋ยวจะเจอคนไม่เล่นด้วย”

ม่านแสงสีเงินทอดยาวเป็นเส้นขอบระหว่างโลก

เมื่อพวกเขาก้าวเข้าไป…โลกทั้งใบกลับกลายเป็น “กระจก”

พื้นสะท้อนเงา

ท้องฟ้าก็สะท้อนเงา

แม้แต่เสียง…ยังสะท้อนกลับมาเป็นเสียงตนเอง

"นี่มันแดนกระจกพันเงาจริง ๆ..." — หลิวสิงกลืนน้ำลายเอื๊อก

ทันใดนั้น

ร่างของแต่ละคนถูกดูดแยกจากกัน

พวกเขาไม่ทันตั้งตัว รู้สึกเพียงแรงกระชาก ก่อนทุกอย่างกลายเป็นความว่างเปล่า

ฝั่งเฟยหลง

เขาลืมตาขึ้น…พบว่าตัวเองยืนอยู่ในหุบเขาไร้แสง

กระจกนับพันบานลอยวนรอบร่าง

และในแต่ละบาน สะท้อน “เฟยหลง” คนละอารมณ์

บางบานเย็นชา

บางบานโหดเหี้ยม

บางบาน...อ่อนแอและร้องไห้

แต่แล้ว "เงาเฟยหลง" บานหนึ่งก้าวออกมาจากกระจก

มันหัวเราะและพูดอย่างดูแคลน

“เจ้าหัวเราะได้ตลอด…เพราะกลัวเงียบไงล่ะ”

เฟยหลงชะงัก

ดวงตาเงานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลจากอดีต

ความรู้สึกที่เขาซุกซ่อนไว้

“เจ้าคิดว่าการปากหมา การยิ้ม…จะช่วยให้เจ้าไม่รู้สึกผิดหรือ?”

เฟยหลงกัดฟัน

“ข้าไม่เคยหนี…แค่เลือกจะเดินหน้าในแบบของข้าเท่านั้น!”

เขาชักกระบี่ลู่เสียนในจังหวะที่เงาพุ่งเข้าใส่

ฉัวะ!

เสียงกระบี่ปะทะกันสะท้อนในอากาศ

และศึกกับ “ตัวตนอีกด้าน” ได้เริ่มขึ้น…

ฝั่งหนิงเทียน

เขายืนอยู่ท่ามกลางลานหิมะนิ่งงัน

เบื้องหน้า…มี "ชายในชุดสีขาว" คนหนึ่งยืนหันหลังให้เขา

“เจ้าไม่เคยเชื่อใจใครเลยสินะ…แม้แต่ตนเอง”

หนิงเทียนเงียบ แต่มือกุมกระบี่เยว่ซินแน่น

ชายคนนั้นหันกลับมา

หน้าตาเหมือนเขาทุกประการ…แต่ดวงตาเต็มไปด้วย “ความว่างเปล่า”

“เจ้าฆ่าศิษย์น้องเพียงเพราะกลัวความตายเบื้องหน้าที่ศิษย์น้องนำมาให้”

“เจ้าเยือกเย็น…แต่ไม่กล้าเปิดใจ”

หนิงเทียนพึมพำเบา ๆ

“ข้า...ไม่ลืมทุกชีวิตที่เคยจบลงเพราะข้า”

เขาก้าวเดินช้า ๆ

เงาหนิงเทียนยิ้มและชักกระบี่

“มาดูกันว่า ‘เจ้า’ จะตัด ‘ตัวเจ้า’ ได้หรือไม่…”

ฝั่งหลิวสิง

เขาตื่นมาในห้องสอบโบราณ

ตรงหน้าคือ “ตนเอง” ในเวอร์ชันผอมแห้ง ใส่ชุดขาด ๆ

“ข้าไม่กล้าเป็นคนเก่ง เลยเลือก ‘เป็นตัวตลก’ ใช่ไหม?”

หลิวสิงนิ่ง

“เพราะถ้าคนหัวเราะข้า…ข้าจะไม่ต้องกลัวเขาดูถูก”

เงาเดินเข้าใกล้ พร้อมกับโยนกระจกบานหนึ่งให้เขา

ในนั้นคือภาพแม่ของเขา…ร้องไห้ข้างศพพ่อที่ตายเพราะศิษย์สำนักใหญ่บีบฆ่า

เขา…ยังเด็กและหนีไปซ่อน

หลิวสิงกำหมัดแน่น

“ข้าไม่ลืม…แต่ข้าก็ไม่ยอมให้ตัวเองกลายเป็นคนขมขื่น”

เงาเลิกคิ้ว

“แล้วเจ้าพร้อมจะสู้แบบไร้หน้ากากหรือยัง?”

“พร้อมสิ…”

ยันต์ผนึกฟ้าระเบิดเงา ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ

เมื่อแต่ละคนสามารถ “สู้และยอมรับ” ตัวเองได้

เงาสลาย กลายเป็นแสงที่หลอมรวมเข้าสู่ร่าง

และสุดท้าย พวกเขาทั้งสามกลับมาพบกันที่ใจกลางลานกระจก

เฟยหลง เลียริมฝีปาก

“ข้าเพิ่งรู้ว่าตัวเองหน้าตาดีขนาดนั้นตอนโมโห…”

หลิวสิง ทำหน้าซึ้งแล้วตบอก

“โอ้โห...ข้าคุยกับตัวเองแล้วขำจนน้ำตาไหล!”

หนิงเทียน พยักหน้าเบา ๆ

“พวกเรา...เปลี่ยนไปแล้ว”

ทางข้างหน้าคือประตูสลักลายป่าไร้แสง

และตัวอักษรลอยเรืองแสงบนบานประตูเขียนไว้ว่า...

“แดนรัตติกาลไร้สิ้นสุด – ผู้ที่ไม่ยินดีในความเงียบ...จะถูกกลืนไป”

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!