เหมือนเสียงนั้นจะหายไปแล้ว........
[ภายในแดนต้องห้าม]
ทันทีที่พวกเขาพ้นประตู
ท้องฟ้าสีหม่นก็ปรากฏเบื้องบน
ลมพัดหอบกลิ่นโลหิตเจือหมอกจางๆ ราวกับบรรยากาศหายใจได้
เฟยหลงยืดตัวบิดขี้เกียจ
“ในที่สุดก็พ้นลานประลองไร้สาระซะที…ข้าล่ะอยากจะเตะอะไรสักอย่างเต็มทีแล้ว”
หลิวสิงที่เดินตามหลังทำหน้าซีด
“นี่เจ้ารู้ไหมว่าในนี้มีอสูรโบราณจริงๆ นะ? ไม่ใช่สนามฝึกธรรมดา!”
“ถ้าเจอก็ฟาดก่อนค่อยถาม” เฟยหลงตอบหน้าตาย
หนิงเทียนมองไปรอบทิศ ขอบฟ้าที่เหมือนกำลังจะกลืนทุกอย่าง
“พลังปราณที่นี่…ไม่ใช่ของภพล่าง”
“แน่นอนสิ มันคือแดนต้องห้ามโบราณ!” หลิวสิงรีบเสริม ทำหน้าเหมือนจะหนี
เฟยหลงหัวเราะหึ
“ถ้าเจ้าจะกลัวขนาดนั้น…มากอดข้าก็ได้นะ”
หลิวสิงถอยหนึ่งก้าว
“ข้าไม่ต้องการความอบอุ่นจากสัตว์ป่า!”
ทันใดนั้น พื้นดินสะเทือน
อักขระโบราณลอยขึ้นเหนือแท่นหินเก้าแท่นกลางลาน
พลังแบ่งออกเป็นแปดทิศ ราวกับเชื้อเชิญให้แยกย้ายกันเข้าสู่ "แปดดินแดนแห่งบททดสอบ"
เสียงสวรรค์ดังขึ้นช้า ๆ
“ผู้ใดไม่เลือก...จะถูกส่งแบบสุ่ม”
เฟยหลงเหลือบมองไปที่แท่นหนึ่ง
พลังสายเลือดสัตว์อสูรโบราณลอยวนรอบเขตนั้น
“นั่นไง เป้าหมายข้า—แดนเลือดสัตว์อสูร”
“ข้ากำลังอยากออกกำลังกายอยู่พอดี”
หลิวสิงมองอย่างปลงตก “เจ้าลากข้าไปด้วยแน่สิ...ใช่ไหม?”
เฟยหลงยิ้ม
“แน่นอน เจ้าเป็นเหยื่อล่อชั้นดีเลยล่ะ”
เขาหันไปหาอีกคน
“หนิงเทียน เจ้าเล่า? จะเลือกที่ไหน?”
หนิงเทียนเงียบอยู่ครู่ ก่อนตอบเรียบๆ
“ข้าจะไปกับพวกเจ้า…แดนอสูรเหมาะกับการลับกระบี่”
เฟยหลงหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่ะๆๆ สุดท้ายเจ้าเองก็คิดถึงข้าใช่ไหม?”
หนิงเทียนยกไหสุราขึ้นดื่ม
“…ข้าแค่อยากให้เจ้าตายช้าลง จะได้ไม่รำคาญหูในนรกมากนัก”
หลิวสิงมองสองคนสลับไปมา ถอนหายใจแรง
“ข้ากำลังร่วมทางกับพวกโรคจิตชัดๆ…”
สิ้นคำ เส้นอักขระจากแท่นหินก็เปล่งแสง
ร่างของ เฟยหลง หนิงเทียน และหลิวสิง ถูกส่งเข้าสู่ “แดนอสูร” พร้อมกัน
โลกเบื้องหน้าสั่นสะเทือน...
เสียงคำรามของสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์แว่วมาแต่ไกล
พร้อมกลิ่นคาวเลือดแหลมแรงจนขนลุก
ยินดีต้อนรับ...สู่ แดนเลือดสัตว์อสูร
กลิ่นเลือดอวลลอยมาตั้งแต่ก้าวแรกที่เท้าสัมผัสพื้น
แดนเลือดสัตว์อสูร ไม่ต้อนรับผู้มาเยือน…แต่จ้องกลืนกินพวกเขาทุกลมหายใจ
รอบกายเป็นป่าแดงคล้ำ แผ่นดินแตกระแหงราวเคยผ่านการสู้รบของเทพอสูร
เสียงคำรามเบา ๆ แว่วจากทุกทิศ คล้ายมีสิ่งมีชีวิตกำลังล่า…แต่ไม่อาจมองเห็นได้
หลิวสิง เดินตามหลังสองคน ยกมือปาดเหงื่อ
“ข้าอยากตายแบบนุ่มนวล…ไม่ใช่ถูกฉีกกลางอกนะ!”
เฟยหลง หมุนพัดในมือ
“ถ้าโดนฉีกเร็วก็ยังดีกว่าตายเพราะตกใจจนหัวใจวาย เจ้าลองนึกภาพตอนถูกหนิงเทียนมองแล้วเย็นยะเยือกตลอดทางสิ”
หนิงเทียนเดินนิ่งอยู่ด้านหน้า ไม่ตอบ
หลิวสิงแอบกระซิบ
“เขาได้ยินเรามั้ย…”
เฟยหลงยิ้ม “ได้สิ แต่เขาไม่พูดเพราะกำลังคิดว่าจะสับใครก่อน”
“ข้าไปก่อนดีกว่า!”
ทันใดนั้น...เสียง “แกรก!” ดังขึ้นจากพุ่มไม้ข้างทาง
ใบไม้แดงเข้มสะบัดรุนแรง เงาดำปรากฏสามเงา เคลื่อนไหวเร็วผิดธรรมชาติ
“สัตว์อสูรมาแล้ว!” หลิวสิงร้องเสียงหลง
สิ้นคำ เงาทั้งสามพุ่งออกมาจากเงาไม้—
หมาป่าเกราะกระดูก ตาแดงก่ำ ฟันยาวเท่าดาบ ขนาดตัวเท่าม้า!
เฟยหลงหัวเราะ “อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่า ‘แดนเลือด’!”
เขาตวัดพัดในมือ
กระบี่ลู่เสียนแปรเปลี่ยนจากพัดพริ้วเป็นกระบี่แหลมยาวคม
ปลายกระบี่พุ่งออกดั่งสายฟ้า ฟันตัดเข้าลำคอหมาป่าตัวหนึ่งในพริบตา
ฉัวะ!
เลือดอาบพื้นดินแดงฉาน
หมาป่าล้มลงไปทันทีโดยไร้เสียงร้อง
“เจ้าบ้าบุกก่อนเลยเรอะ!” หลิวสิงตะโกน
เฟยหลงยักไหล่ “ก็ข้าเบื่อแล้วนี่”
อีกสองตัวพุ่งเข้าใส่หนิงเทียนพร้อมกัน
แต่ก่อนที่มันจะทันขย้ำ...
แววตาของหนิงเทียนเปลี่ยนสี กลายเป็นน้ำแข็ง
มือซ้ายของเขากำกระบี่ เยว่ซิน ที่แผ่ความเยือกเย็นออกมาทันที
เพียงหนึ่งฟัน—
กระแสพลังน้ำแข็งทะลวงกลางลำตัวหมาป่าทั้งสอง ร่างของพวกมันถูกแช่แข็งกลายเป็นรูปปั้นกระดูกทันที
เปรี้ยง!!
เศษน้ำแข็งแตกกระจายราวอสูรถูกลืมไปจากโลกนี้ในหนึ่งลมหายใจ
หลิวสิงมองสองคนตรงหน้า
มือไม้สั่น
“…สวรรค์ ข้ากำลังเดินอยู่กับนักฆ่าเทพใช่มั้ยเนี่ย…”
เฟยหลงหันมายักคิ้ว
“ก็เจ้าดูโชคดีดีนี่ ยังไม่ตาย”
ทันใดนั้น...พื้นดินสะเทือนแรงกว่าเดิม
เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังลึกมาจากผืนป่าทางทิศตะวันตก
“บึ้ม...”
เสียงที่ไม่ใช่สัตว์ทั่วไป
เฟยหลงหันขวับ ใบหน้าจริงจังทันที
“เสียงนั้น…ไม่ใช่หมาป่าแน่”
“เจ้าสัมผัสได้มั้ย หนิงเทียน?”
หนิงเทียนพยักหน้า
“มันใหญ่กว่า...และแก่กว่ามาก”
“อสูรระดับราชัน?”
หลิวสิงหน้าเผือดทันที
“เรายังไม่ทันได้ตั้งค่ายพักเลยนะ!”
เฟยหลงยิ้ม
“ไม่ต้องพัก ข้ากำลังวอร์มพอดี…”
หนิงเทียนมองไปทางเสียงคำราม
“ไปดูเถอะ ว่าที่นี่...จะให้พลังกับเราจริง หรือเอาชีวิตเราไป”
เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังมาจากใต้พื้นโลก
ต้นไม้โดยรอบสั่นสะเทือน ใบไม้สีแดงคล้ำปลิวว่อนราวกับพายุอัสนีเคลื่อนเข้าหา
"บึ้ม...!"
พื้นดินด้านหน้าแตกออกเป็นรอยยาว
ออร่าทมิฬไหลทะลักออกมา ก่อนที่บางสิ่งขนาดมหึมาจะพุ่งทะลุขึ้นจากใต้ดิน
ราชันอสูรกระดูกโลหิต
(เสวี่ยกู่โหมอหวาง)
สัตว์อสูรโบราณรูปร่างคล้ายวัวผสมหมาป่า
ขนาดใหญ่เท่าตึกสามชั้น ลำตัวกร่อนด้วยเกราะกระดูกที่เคยเป็นกระดูกของอสูรตนอื่น
เขาทั้งสองยาวเฉียงสะท้อนแสงสีเลือด ร่างกายแผ่พลังระดับ ราชันยุทธระยะสูง อย่างชัดเจน
หลิวสิง ก้าวถอยไปหลายก้าวทันที
“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว! พวกเราอาจยังไม่พร้อมเจอ 'ระดับราชัน' ก็ได้นะ!”
เฟยหลง ยิ้มออกมาอย่างกระหาย
“เจ้าบอกแบบนี้ทุกครั้งก่อนเริ่มสู้ แล้วก็หัวเราะตอนจบทุกที…พอจะเดาได้ว่าเดี๋ยวเจ้าก็จะกลิ้งหัวเราะอีก”
หลิวสิงตอบทันควัน
“ข้ากลิ้งเพราะหลบตายไม่ใช่เพราะขำ!”
ราชันอสูรกระโจนเข้ามาเร็วกว่าที่คิด
พื้นดินสั่นสะเทือนทุกครั้งที่มันเหยียบ กระแสพลังหมุนวนรอบเขาของมันรุนแรงจนแม้แต่ก้อนหินยังระเบิดออก!
เฟยหลง ใช้กระบี่ลู่เสียนสะบัดแรง ลำแสงปราณพุ่งตัดผ่านกลางทาง
ฉัวะ!
กระดูกหน้าอกของอสูรแหว่งไปหนึ่งส่วน แต่มันกลับแผดเสียงโกรธเกรี้ยว
หนิงเทียน ยกกระบี่เยว่ซินขึ้น ปล่อยคลื่นพลังน้ำแข็งทะลวงกลางลำตัวมันจากอีกด้าน
แต่เกราะกระดูกของมันสะท้อนพลังบางส่วนออกได้!
“หนาเกินไป” หนิงเทียนพูดสั้น ๆ
ราชันอสูรพุ่งใส่เฟยหลงด้วยเขาเลือด
เฟยหลงหมุนตัวหลบอย่างฉิวเฉียด ก่อนจะสบัด
“นี่เจ้าโกรธเพราะข้าหน้าตาดีใช่ไหม?”
หลิวสิง รีบหยิบยันต์ขึ้นมาส่งต่อให้หนิงเทียน
“ข้าพกยันต์ระเบิดร่าง! ใช้ตอนมันหยุดหมุนตัว!”
หนิงเทียนรับไปโดยไม่พูด
เพียงสบตาเล็กน้อย…ก็เข้าใจทันที
เมื่ออสูรจ้วงพลาดจากเฟยหลง มันหมุนตัวจะพุ่งอีกครั้ง
หนิงเทียนพุ่งเข้าประชิดเร็วเหนือตา
แปะยันต์ลงกลางหลังอสูรพร้อมใช้กระบี่แทงผ่านรอยร้าวเดิมทันที
ปังงงง!!
พลังของยันต์ระเบิดจากภายใน—
คลื่นพลังระเบิดกระดูกแหลกทั่วหลังของมัน
เฟยหลง ไม่รอช้า ใช้โอกาสนี้กระโดดขึ้นกลางอากาศ
“ฝากไว้ที่นรกละกัน!”
กระบี่ลู่เสียน เปล่งแสงทองคำโลหิต
เขาฟาดกระบี่ลงตรงกลางหน้าผากราชันอสูร!
เปรี้ยงงงงงง!!
อสูรร้องคำรามครั้งสุดท้าย
ก่อนจะล้มร่างใหญ่ยักษ์ลงไปกระแทกพื้น
แผ่นดินสั่นสะเทือนอีกระลอก ก่อนทุกอย่างจะเงียบงัน…
ชัยชนะ
หลิวสิงทรุดตัวนั่งทันที
“เจ้าแม่...พวกเจ้านี่ไม่ใช่คนแล้วจริง ๆ…”
เฟยหลงปัดผงจากไหล่
“แน่นอน ข้าหล่อเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดา”
หนิงเทียนเดินไปคว้าน้ำสุราจากไห ยกขึ้นดื่มเงียบ ๆ
“…มีอะไรอยู่ในท้องมัน”
หลิวสิงสะดุ้ง
“ขอร้องล่ะ อย่าบอกว่าไข่อสูรนะ…”
หนิงเทียนฟันหน้าท้องราชันอสูร
สิ่งที่อยู่ภายใน…คือ “แก่นเลือดราชัน” ก้อนหนึ่ง
ล้อมรอบด้วยคริสตัลสีชาดเรืองแสงราวกับมีชีวิต
“โอสถเลือดระดับสูง...ของจริง”
เฟยหลง ยิ้มมุมปาก
“ของดีแบบนี้ ต้องหาร 3 ใช่มั้ย?”
หลิวสิง ยิ้มแห้ง ๆ
“ข้าขอส่วนเล็กสุดก็พอ...แล้วขอกินข้าวก่อนเจออีกตัวเถอะนะ!”
.
.
ภายใต้เงาไม้สูงชันและลมเย็นยะเยือก
สามร่างหยุดพักใต้ผาหินใหญ่
ท่ามกลางกลิ่นเลือดจาง ๆ ที่ยังไม่จางหาย
เฟยหลง นอนกลางโขดหิน หยิบใบชาขึ้นดมก่อนจะบ่น
“ชาในแดนต้องห้ามนี่รสห่วยชะมัด…”
หลิวสิง ซึ่งกำลังเคี้ยวเนื้ออสูรย่างหันขวับ
“เจ้าคิดว่าที่นี่คือโรงน้ำชาเรอะ!? เมื่อกี้เกือบตายทั้งคนทั้งหมา!”
หนิงเทียน ยกสุราขึ้นดื่มก่อนตอบเสียงเรียบ
“ถ้าเจ้ากินเสียงดังอีกคำเดียว ข้าจะฝังเจ้าทั้งเป็น”
หลิวสิงหยุดเคี้ยวทันที กำหมัดทั้งน้ำตาแทบไหล
“พวกเจ้ามัน...โหดกับข้าเกินไป!”
แสงจากแก่นเลือดราชัน ยังคงเรืองรองอยู่เบื้องหน้า
พลังของมันสามารถเร่งฟื้นฟู ปรับปราณ และแม้แต่ยกระดับรากฐานให้แก่ผู้ฝึก
หนิงเทียนเพ่งมองมันเนิ่นนาน ก่อนพูดช้า ๆ
“กลิ่นเลือดแบบนี้...ไม่ใช่แค่อสูรระดับราชันธรรมดา”
เฟยหลงลืมตาขึ้น
“หืม?”
“เลือดนี้…มีเศษพลังยุคก่อนสวรรค์เจืออยู่เล็กน้อย”
“เหมือนบางสิ่งเคยฝังตัวในแดนนี้มานานมากกว่าที่เราคิด”
ขณะทั้งสามกำลังพินิจ
...ลมเย็นพัดผ่านพื้นหญ้าแห้ง
เงามืดเบื้องหลังก้อนหินขยับเล็กน้อย…โดยไม่มีใครสังเกต
บางสิ่งกำลังจับตาดูพวกเขา
ทันใดนั้น เสียง “ฉึบ…ฉึบ…” ดังจากทิศเหนือ
เฟยหลงกระโดดขึ้นแทบจะในทันที มือแตะกระบี่
หลิวสิงขยับไปอยู่หลังหนิงเทียนแบบอัตโนมัติ
“คราวนี้ข้ารู้สึกไม่ดีจริง ๆ…”
หนิงเทียนขมวดคิ้วเบา ๆ
“มันมาเอง หรือมีใคร...ส่งมันมา?”
เงารูปร่างคล้ายมนุษย์แต่สูงกว่าสองวา
เดินออกมาช้า ๆ มันไม่ใช่อสูร…แต่เป็น “ร่างหุ่นเชิดเซียนโบราณ”
ที่ลักษณะการเคลื่อนไหวเหมือนถูกชักนำด้วยพลังเร้นลับบางอย่าง
ใบหน้ามันว่างเปล่า ไม่มีตา ไม่มีปาก มีเพียงอักขระเก่าแก่จารึกไว้
เฟยหลง พึมพำ
“นี่มัน…ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของลัทธิหรอกนะ…”
หลิวสิง ถอยหลังอีกสามก้าว
“นี่มันอะไรกัน!?”
หุ่นร่างนั้นพุ่งเข้าใส่พวกเขาในพริบตา
เฟยหลงปัดกระบี่ขึ้นรับ
เสียงโลหะกระทบดังกังวาน
แรงปะทะหนักจนน้ำชาในถุงสั่นไหว!
หนิงเทียนก้าวเท้าขึ้นหน้า ชัก เยว่ซิน ขึ้นอีกครั้ง
“พลังของมัน…ไม่ต่ำกว่าจักรพรรดิยุทธ…”
การปะทะเริ่มขึ้น
หุ่นนั้นไม่พูด ไม่หวั่น ไม่หยุด
มันฟาดพลังใส่ทั้งสามคนราวกับรู้จังหวะการโจมตีล่วงหน้า
หลิวสิง ใช้ยันต์เร่งปฏิกิริยา
“ข้าเจอแล้ว! มันมี ‘ดวงตาเร้น’ อยู่บนหลัง! ถ้าทำลายตรงนั้นได้ พลังจะหยุดชั่วคราว!”
หนิงเทียนสบตาเฟยหลงสั้น ๆ
เฟยหลงพยักหน้า
“งั้นข้าเบี่ยงมันให้เอง เจ้าไปตัดหัวมันซะ!”
ฉากบู๊เริ่มขึ้นอีกครั้ง
เฟยหลงใช้ท่าระเบิดแสงล่อหุ่นให้หมุนตัว
หนิงเทียนพุ่งจากด้านข้าง ตวัดกระบี่สายฟ้าน้ำแข็งที่แฝงปราณเฉียบขาด
ฉัวะ!!!
ดวงตาเร้นแตกกระจาย หุ่นชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อย ๆ ทรุดลง…สลายเป็นฝุ่น
หลิวสิงถอนหายใจ
“ข้าจะตายเพราะหัวใจวายก่อนตายด้วยอสูรแน่…”
หนิงเทียนหยิบเศษอักขระจากร่างหุ่นขึ้นมา
“มันไม่ใช่หุ่นปกติ…ถูกปลุกขึ้นโดยพลังตั้งแต่ยุคบรรพกาล”
เฟยหลงมองเศษอักขระ
“ใครกันที่ยังทิ้งพลังไว้ในแดนนี้...?”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments