หลังจากได้รับอิสระแบบมีเงื่อนไขจากเวินอวี้เหยียน ไป่เสวียนอี้ก็ไม่รอช้า
เธอแต่งกายด้วยชุดผ้าแพรบางสีชมพูพีชระบายฟูฟ่อง พร้อมผ้าคาดเอวลายดอกบัวสดใส
นางเดินออกจากตำหนักของตนด้วยท่วงท่าที่...ไม่น่าจะเรียกว่าสง่างามนัก
“โอ๊ย~ อากาศแบบนี้แหละ! สดชื่นจนอยากเต้นรำ!”
เธอหมุนตัวสองรอบครึ่ง ท่ามกลางแสงแดดยามสายที่ส่องกระทบหลังคากระเบื้องเคลือบสีเขียวหยก
องครักษ์สามคนที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า มองหน้ากันด้วยสีหน้าไม่แน่ใจว่า
นางผู้นี้...คือคุณหนูผู้ต้องสงสัยเรื่องสติปัญญา หรือสายลับอำพรางตัว
“ไปตำหนักฮองเฮาใช่ไหมเจ้าคะ?”
สาวใช้ผู้ถูกส่งมานำทางถามเสียงแผ่ว
“ใช่เลย! ฉันจะไปขอบคุณที่เสด็จแม่ให้อภัยที่ฉันยังมีชีวิตอยู่!”
เธอพูดอย่างร่าเริง และเดินนำหน้าทุกคนไปเสียก่อน
...
ตำหนักฮองเฮา – ยามสาย
บรรยากาศในตำหนักของมิ่งอวี้เฟยนั้นเงียบงัน
ต้นเหมยเรียงรายสองข้างทางกำลังแตกดอกจาง ๆ ท่ามกลางสายลมเย็นจากภูเขาเหนือ
เสียงใบไม้ไหวเบา ๆ ผสมกับกลิ่นกำยานหอมเย็นจากถ่านจันทน์ ทำให้ภายในดูสงบแต่แฝงความกดดัน
ในห้องบรรทม ฮองเฮานั่งหน้ากระจกทองเหลือง มือเรียวหวีเส้นผมสีดำขลับอย่างประณีต
แววตาในเงาสะท้อนนั้นสงบนิ่ง ริมฝีปากทาลิปสีชมพูจางแต้มยิ้มบางเฉียบ
“เจ้าแมวนั่นได้ขึ้นครองราชย์…
แต่เรายังต้องคอยเป็นร่มเงาให้ราชบัลลังก์ไม่สั่นคลอน…”
นางพึมพำอย่างแผ่วเบา
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากภายนอก พร้อมเสียงขันทีขานชื่อ
“คุณหนูไป่เสวียนอี้ ขอเข้าเฝ้าฮองเฮาเพคะ!”
มิ่งอวี้เฟยเลิกคิ้วขึ้นช้า ๆ
“ไป่เสวียนอี้?”
เสวียนอี้ก้าวเข้าสู่ห้องท้องพระโรงขนาดย่อมด้วยรอยยิ้มสดใส
เธอหมอบกราบเร็วเกินไปจนหัวแทบชนพื้น
“ข้าน้อยขอถวายพระพรเพคะ ฮองเฮาผู้งดงาม! ขอให้พระวรกายแข็งแรงไม่ปวดหัวกับลูกวังนะคะ!”
เสียงขันทีสำลักข้างหลัง ส่วนสาวใช้อีกคนแอบหลุดหัวเราะเงียบ ๆ
แม้ในใจจะรู้ว่านี่อาจจะเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อมก็ตาม
“เจ้า…มาทำอะไรที่นี่?” ฮองเฮาถามเสียงเย็น นัยน์ตาเรียบนิ่ง
“ข้ามาขอบคุณเพคะ ที่พระองค์เมตตาไม่ส่งข้าไปอยู่คุก”
เสวียนอี้ยังยิ้มอยู่ “และอีกอย่าง…ข้าอยากขอเรียนมารยาทในวังกับพระองค์เพคะ!”
มิ่งอวี้เฟยนิ่ง
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นครู?”
“ไม่ใช่ครูธรรมดาแน่นอนเพคะ! ฮองเฮาคือรุ่นใหญ่แห่งสมาคมผู้หญิงสตรองแห่งวังหลวง!
ถ้าให้ข้าเรียนกับคนอื่น ข้าอาจได้แค่นั่งพับเพียบกับท่องสุภาษิต แต่ถ้าเรียนกับฮองเฮา...ข้าจะได้เรียนวิธีเอาตัวรอด”
เธอส่งยิ้มวิบวับ พร้อมทั้งประสานมืออย่างนอบน้อมเกินจริง
...
มิ่งอวี้เฟยเงียบไปนาน ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ดี เจ้าจะได้รู้เสียทีว่าในวังนี้ คำว่า ‘เล่น’ ไม่มีในพจนานุกรม”
เสวียนอี้ยิ้มอย่างสดใส
แต่ใจในตอนนั้นรู้สึกเหมือนลงเรียนวิชานรกขั้นพื้นฐาน
...
วันนั้นคือวันที่ตำหนักฮองเฮาซึ่งเงียบงันมานาน
เต็มไปด้วยเสียงสนทนา... และเสียงหัวเราะแปลก ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
แม้เหล่าสาวใช้จะกระซิบกระซาบด้วยความกลัว
แต่ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มมุมปากที่ผุดขึ้นเมื่อได้เห็นหญิงสาวจากอีกยุคหนึ่ง
ทำให้มิ่งอวี้เฟยผู้สูงศักดิ์ต้องนิ่งฟังด้วยความสงสัย
“เด็กคนนี้...บางทีอาจมีคุณมากกว่าที่ข้าคิด”
ตอนต่อไป : ตอนที่ 6 – สมาคมคุณหนูแห่งวังหลวง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments