แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านบางของบ้านไม้เก่า เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วเหมือนจะบอกว่าเช้านี้เป็นวันธรรมดา...แต่สำหรับ คาร์เซียน ไม่มีวันใดที่ธรรมดาอีกต่อไป ตั้งแต่วันที่เขาสูญเสียทุกสิ่ง—ครอบครัว, ศักดิ์ศรี, และชื่อเสียงที่เขาไม่เคยรู้ว่าเคยมี
คาร์เซียนตื่นขึ้นจากฝันร้าย ร่างสูงโปร่งเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นที่ชุ่มแผ่นหลัง ดวงตาสีเทาหม่นยังคงสั่นระริก เหมือนกำลังไล่ตามบางสิ่งในห้วงลึกของความทรงจำที่เขาไม่เคยเข้าใจ
> “ฆ่าให้หมด...แม้แต่เด็กทารกก็อย่าเว้น”
เสียงคำสั่งเย็นเยียบดังก้องในหัวเหมือนจะกัดกินสติของเขาไปทีละนิด
ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง มือหนึ่งกำดาบไม้สั้น ๆ ที่เขาแกะเองตั้งแต่ยังเด็ก มันคือของชิ้นเดียวที่เหลือจากอดีตอันพร่าเลือน เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครให้ หรือทำไมถึงเก็บมันไว้
เขาใช้ชีวิตในหมู่บ้านชายป่าทางเหนือของแคว้นอัลเซร่า ที่ซึ่งผู้คนส่วนมากเป็นชาวไร่ชาวนา ไม่รู้จักเวท ไม่เกี่ยวข้องกับสงคราม หรือ...การเมือง
แต่เขาไม่ใช่หนึ่งในนั้น
> “คาร์เซียน! มาช่วยลากฟืนหน่อย!”
เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังมาจากลานหน้าบ้าน ลิเลียน เด็กสาวผมทองผู้มากับพายุวันนั้น
คาร์เซียนไม่ตอบอะไร เพียงแต่หยิบเสื้อคลุมเก่า ๆ มาสวมแล้วเดินออกไป
ลิเลียนยืนอยู่ข้างกองฟืนสูงเท่าคน เธอหันมามองเขาด้วยดวงตาสีอำพันที่เจิดจ้าเกินกว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดา
> “วันนี้พระจันทร์จะเต็มดวง...ชาวบ้านว่าคืนนี้แสงแห่งการเปิดเผยจะมา”
“งมงาย” คาร์เซียนตอบสั้น ๆ
“แต่ความจริงบางอย่าง...ก็ต้องเปิดเผยใช่ไหม?” เธอยิ้มมุมปาก “เช่น...ชื่อจริงของนาย”
คาร์เซียนหยุดนิ่งทันที สายตาเยือกเย็นของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกในเสี้ยววินาที ลิเลียนถอนหายใจแล้วเบือนหน้าหนี
> “ช่างเถอะ เราจะต้องไปเมืองหลวงอยู่ดี อีกไม่นานเจ้าหน้าที่ราชสำนักจะมาตรวจชายแดน ถ้าเราอยากหนีจากชีวิตซ้ำซาก นั่นคือโอกาสเดียว”
ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาไม่ได้สนใจเมืองหลวง ไม่ได้สนใจชื่อเสียง เงินทอง หรืออนาคต สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือ ความจริง
ความจริงเกี่ยวกับเสียงในหัว
ความจริงเกี่ยวกับฝันซ้ำ ๆ ที่เขาอยู่กลางสนามรบ
และความจริงที่ว่า...เขาเคย ฆ่าคน หรือไม่
คืนนั้น พระจันทร์เต็มดวงเหนือยอดไม้สูง
คาร์เซียนเดินออกจากบ้านตามเสียงลมหอบแผ่วที่พัดเข้ามาทางหน้าต่าง มันเหมือนเสียงกระซิบ—เสียงที่เรียกเขาให้ไปยังหุบเขาด้านหลังหมู่บ้านที่ไม่มีใครกล้าย่างกราย
เขาเดินจนพบแท่นหินโบราณที่เต็มไปด้วยอักขระเรืองแสง เสียงในหัวเริ่มชัดเจนขึ้น...กระซิบเป็นภาษาโบราณที่เขา “เข้าใจ” โดยไม่รู้ว่าทำไม
และเมื่อเขาวางมือลงบนแท่นหินนั้น
โลกทั้งใบ...ก็เปลี่ยนไป
ลมแรงจนเหมือนจะฉีกฟ้าออกจากพื้นดิน
อักขระเรืองแสงลุกไหม้เป็นไฟสีดำ
และเงาร่างหนึ่งปรากฏเบื้องหน้าเขา
> “ต้อนรับกลับ...จักรพรรดิผู้ถูกลืม”
เสียงนั้นมาจาก ตัวเขาเอง—เงาของเขา
มันยืนยิ้ม พร้อมมงกุฎสีครามที่เปื้อนเลือด
---
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments