“ขันทีชเวเหม่อมองไปทางอื่นไม่สนใจข้าเจ้าคิดถึงเรื่ององค์ชายน้อยสินะมานี้ สิข้าก็มีของกำนัลให้กับเจ้า สิ่งที่เจ้าอยากได้”
พระราชา ยื่น ห่อผ้าให้ผมเมื่อเปิดดู ก็เห็นปืนรุ่นเก่าโบราณแต่ผมรู้วิธีใช้มันดี เพราะผมเป็น นักสะสมปืนตัวยง และเคยเรียนรู้เกี่ยวกับปืน ตั้งแต่ แรกเริ่ม ของการใช้อาวุธปืน ของประเทศนี้ ปืนรุ่นนี้ในยุคปัจจุบันใช้ไม่ได้เพราะเป็นของโชว์ในพิพิธภัณฑ์ อาวุธสงครามในยุคโชซอน แต่ว่าผม จะไปแล้วคืนวันพรุ่งนี้ ผมรู้สึกใจหาย
“ เจ้าไม่อยากได้แล้วหรือ ปกติเจ้าไม่ชอบการต่อสู้แต่ทำไมช่วงหลังๆเจ้า ทั้งฝึกดับและก็ฝึกมวย แถมพลานี้เจ้ายังอยากได้ปืนอีก เจ้าคิดว่าข้าไม่ สามารถปกป้องเจ้าได้หรือ?”
“มิใช่เยี่ยงนั้นพระยะค่ะ กระหม่อมจะเก็บไว้อย่างดีพระยาค่ะ หากแม้วันใดกระหม่อมไม่มีพระองค์อยู่ข้างๆ คอยปกป้องกระหม่อมแล้ว กระหม่อมจะได้ เอาไว้ป้องกันตัว”
“ทำไม?เจ้าพูดเยี่ยงนั้น ข้าจะไม่มีวันห่างเจ้า และเจ้าก็ห้าม หายไป เจ้าาจะต้องอยู่กับข้าตลอดไป”
พระราชายังจะมาพูดให้ผมไขว้เขวอีก ผมจะไปจากที่นี่แล้ว ผมเริ่มรู้สึกอาลัยอาวรณ์ความรู้สึกนี้ช่างเจ็บปวดเสียจริง ผมรักพระราชาจริงๆหรือ หรือว่ามันเป็นจิตใต้สำนึกของเจ้าขันทีชวกันแน่นะ
“ เจ้า..เหม่อลอย ครุ่นคิดอะไรอีกแล้วเจ้ามีอะไรในใจหรือบอกข้าได้ไหมเจ้ามิเคยมีความลับกับข้านี่นา ข้าไม่สบายใจ เมื่อเห็นเจ้าดูเศร้าโศกเช่นนี้”
“ กระหม่อมรู้สึกไม่สบายพะยะค่ะ”
“งั้นเจ้าก็พักซะนะคืนพรุ่งนี้ข้าจะมาพบ กับเจ้าไม่ได้เพราะ ข้าต้องเข้าประชุมเรื่ององค์ชายน้อยทั้ง สอง เจ้า มิต้องรอข้านะ”
ผมรู้สึกใจหายแต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะผมจะได้ไปอย่างสบายใจไม่ต้องหาเหตุผลหลบหลีกพระราชา ผมสงสัยว่า วิญญาณเจ้าขันทีชเวมันหายไปอยู่ไหนกันนะหรือว่ามันจะอยู่ในตัวของมันนี่แหละ หนึ่ง ร่าง สอง วิญญาณอย่างนี้เหรอ แล้วเพราะเหตุใดผมถึงมาอยู่ในร่างของเจ้าชเวได้นะยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดหัว หนึ่ง วัน หนึ่ง คืนนั้นช่างรวดเร็วเสียเหลือเกินผมไปรอคนของพระมเหสี และแล้วก็มีชาย สอง คน ชุดดำปิดหน้าปิดตาผมสงสัยจึงถามคน สอง คนนั้นว่า
“พวกเจ้าปิดหน้าทำไมกัน?”
“ ข้าทั้ง สอง เป็น ข้าหลวงในวังจะให้ผู้ใดเห็นหน้าข้าไม่ได้มันผิดกฏ หากพวกเราหลบหนีออกจากวังหลวงในเวลากลางคืนเยี่ยงนี้”
ผมก็เชื่อเขาทั้ง สอง คน มีม้า 3 ตัวอยู่ด้วยอย่าบอกนะจะให้ผมขี่ม้าผมขี่ม้าไม่เป็นหรอกนะเคยขับแต่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์
“ข้าขี่เจ้านี่ไม่เป็นหรอกนะท่าน”
“ เจ้านี้เรื่องเยอะจริงเชียวมีใครในบ้านเมืองนี้ที่ขี่ม้าไม่เป็นบ้าง?”
ผมตะเกียกตะกายขึ้นหลังม้าอย่างทุลักทุเล แล้ว ชายชุดดำคน หนึ่ง ก็ใช้มือฟาดเข้าที่ตูดมา ตัวของผม วิ่ง ไม่คิดชีวิตผมเกือบตกหลังม้า ใช่สิผมเคยดูหนังมันต้องหมอบก็คล้ายๆกับการขับมอเตอร์ไซค์นั่นแหละแต่แรงกระแทก มันทำให้ผมจุก เมื่อมาถึงกลางป่า ชายชุดดำ บังคับม้าให้หยุด แล้วเรียกผมลงมา
“เจ้าลงมาก่อน”
“ยังไม่ถึงเลยไม่เห็นมีบ้านเลย”
“เจ้านี่ช่างไร้เดียงสาเสียจริง ไม่มีบ้านหรืออะไรทั้งนั้นแหละ เจ้าจะกลายเป็นผีเฝ้าป่าอยู่ที่นี่”
นี่คงเป็นแผนของพระมเหสีสินะผมนี่โง่จริงเคยร่ำเรียนประวัติศาสตร์มาแต่ก็ลืมไปว่าเราไม่สามารถเชื่อใจใครได้ เอาวะจะตายอีกรอบก็ช่างมันเถอะผมไม่สนใจแล้วแต่ก่อนจะตายก็ขอสู้ให้สุดใจก่อน ละกัน ก็ผมมันเลือดนักสู้อยู่ทุกยุคทุกสมัยนี้ โชคดีที่เอาปืนมาด้วย แต่การบรรจุกระสุนนี่ช่างยากเสียจริงกว่าจะได้แต่ละลูก ผมเกือบจะโดน สอง คน ฟันคอขาดเสียก่อนแล้ว
“ปังง”
เสร็จไป หนึ่ง ผม แอบหลบอยู่หลังต้นไม้อาศัยความมืดบรรจุกระสุนปืน ต้องเล็งให้ได้จังหวะแล้วค่อยจุดชนวน ถ้าให้สู้ด้วยดาบผมสู้เจ้านั้นไม่ได้หรอกครับ
“ปังง….”
พลาดโดนแขนขวาแต่ก็ยังดีถือว่าตัดกำลัง ข้างซ้ายมันคงไม่ถนัด เสร็จผมแน่แต่
“ ขวับ.. ฉั๊วะ”
ผมเสร็จมันบ้าจริงผมพลาดโดนฟันเข้าที่แขน ไม่ได้การแล้วต้องบรรจุกระสุนอีกครั้งผมวิ่งหนีหลบอยู่หลังต้นไม้มันตะโกนเรียกผมพร้อมกับพูดว่า
“ คราก่อนข้าพลาดที่ฆ่าเจ้าไม่ได้ ยาพิษที่ข้าผสมลงในชาให้เจ้าดื่มแล้วเจ้าก็เดิมๆมันเพราะคิดว่าพระมเหสีทรง จะให้อภัยเจ้าสินะยาพิษชนิดนี้ไม่มียาแก้ ข้าขอถามเจ้าว่าเจ้ารอดชีวิตมาได้เยี่ยงไรผู้ใดช่วยเจ้าผู้ได้นำยาถอนพิษให้เจ้า”
ผมฟังมันพูดจนจบก็เก็ตเลย ขันทีชเวตายไปแล้วสินะร่างนี้มีดวงจิตของผมเพียงคนเดียวนั้นที่ผมรู้สึกกับพระราชาก็คือผมหลงรัก พระราชางั้นหรอ แต่ตั้งแต่โตมาผมก็มีแฟนเป็นผู้หญิงนะหรือว่าผมเป็นเกย์มานานแล้วแต่ยังไม่รู้ตัว เพราะฝ่าบาทมาปลุกตัวต้น ของผมที่มันซุกซ่อน อยู่ให้ลุกขึ้นมา ผมสับสนไปหมด
“ออกมาซะดีๆวิชาการต่อสู้ของเจ้าที่เพิ่งฝึกมาเพียงไม่นาน เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก”
“ข้าใช้ดาบไม่เป็นแต่ค้าใช้ปืนเป็นโว้ย…ข้าไม่ยอมตายง่ายๆหรอก”
“ ปัง…!”
เพียงแค่นัดเดียวเข้าแสกหน้า จอดสนิท
“พูดมากน่ารำคาญ”
แล้วผมจะไปทางไหนล่ะเนี่ยมาก็หาย เพราะมันตกใจเสียงปืนวิ่งเตลิดเข้าป่าไปแล้วผมเดินโซซัดโซเซรัดเลาะชายป่าไปเรื่อยเรื่อยหวังว่าจะเจอบ้านใครสักหลัง ขอให้ผมได้อาศัยนอนพักรักษาแผลสักหน่อยแต่เดินมาไกลมากจนเริ่มจะไม่ไหวสายตาเริ่มพร่ามัวเพราะเลือดออกจากแผลที่ถูกฟันมันไหลออกมามาก แล้วทุกอย่างก็มืดดับลง ผมลืมตาตื่นขึ้นมาภายในกระท่อมเก่าๆซอมซ่ออยู่กลางป่า คราวนี้ผมจะมาอยู่ในร่างของใครอีกล่ะเนี่ย ผม ยังคงรู้สึกเจ็บที่แขน ผมยังไม่ตาย ผมยังคงอยู่ในร่างขันทีชเว ผมมอง รอบๆบ้านไม่เห็นใครเลยสักคน ขณะที่ผมกำลังจะลุกก็ได้ยินเสียงชายคน หนึ่ง ตะโกนพูดกับผมว่า
“ ท่านอย่าเพิ่งลุกแผลของท่านยังไม่หายดีมันอาจจะปริได้”
ผมมองไปตามเสียงนั้น ก็เห็นชายหนุ่มรูปงามคน หนึ่ง สวมชุดผ้าฝ้ายเก่าๆขัดๆบ่งบอกถึงฐานะของเขาชายคนนี้ถ้าหากจับมาแต่งองค์ทรงเครื่องเสียใหม่เป็นนายแบบหรือพระเอกซีรีส์ได้เลย
“ท่านกินนี่เสียก่อนนะ”
ชายหนุ่ม ยืนถาดข้าวต้มและมีถ้วยยา หนึ่ง ถ้วย
มาให้ผม
“ รูปร่างหน้าตาของท่าน ช่างเหมือนกับ ผู้หญิง เสียจริง ครั้งแรกที่เห็นท่านนอนสลบอยู่กลางป่า ข้านึกว่าเป็นผู้หญิง เสียอีก แล้วผู้ใดกันเล่า ที่มาลอบทำร้าย ท่าน”
“ข้าถูก คนที่รู้จักลวงมาฆ่า”
“ น่าจะเป็นศพของชาย สอง คนนั้นแน่ๆใช่ไหม ข้าเห็นมันนอนตายอยู่ กลางป่า แต่ว่า ลักษณะการตายของมันช่างแปลกหนัก ไม่มีรอยฟันอยู่ตามร่างกาย แต่มีรูอยู่กลางหน้าผากและตรงหัวใจ ท่านใช้อาวุธ อะไรฆ่าพวกมัน”
“ ข้ามีปืน อยู่ในห่อผ้านั้นเจ้าเห็นหรือไม่?”
“อ๋อ …ข้าเห็นห่อผ้าแต่ข้ามิกล้าเปิดดูหรอก ข้าเก็บไว้ให้ท่านแล้ว มิต้องเป็นห่วงมันยังอยู่ดี เห็นท่านกอดมันแน่นตอนที่ขาแบกท่านกลับมา ท่านเป็นชายที่ร่างเล็กมาก เหมือนกับผู้หญิงไม่มีผิด”
“ข้าเป็นขันทีอยู่ในวังหลวง”
“แล้วท่านไปทำสิ่งใดให้เขาไม่พอใจ ถึงได้ลวงท่านมา ทำร้าย อยู่กลางป่าเช่นนี้?”
“ ผิดที่ข้าเองที่ไว้ใจ คนอื่นง่ายๆ”
“ท่านกินข้าวแล้วรีบกินยานะ เดี๋ยวข้าจะ ไปหาสมุนไพรมาพอก บาดแผลให้กับท่านอีก มันจะได้หายเร็วๆ ท่านจะได้กลับ บ้านท่าน”
“ข้าไม่มีบ้านหรอก บ้านข้าคือวังหลวงตั้งแต่จำความได้ข้าก็อยู่วังหลวงแล้ว ข้าไม่รู้จะไป ทางไหน?”
“ งั้นท่านก็พักอยู่กับข้าเสียทีนี้ก่อนแล้วกันนะหากวันใดท่าน อยากกลัยไปวังหลวงข้าจะไปส่งท่านเอง “
ชายหนุ่มรูปงาม น้ำใจดี เขาดูแล ผมเป็นอย่างดี แต่แปลกจริง ผมไม่มีความรู้สึก อะไรกับชายคนนี้เลย ทั้งๆที่เขาก็ รูปงาม ไม่แพ้กับพระราชาเลย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments