“พวกเจ้าออกไปก่อนข้ามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาขันทีชเวสักหน่อย…. เจ้าโกรธข้าหรือไม่ที่ขาไล่เจ้าออกไปหากมีใครล่วงรู้ความสัมพันธ์ของ เราทั้ง สอง เจ้าจะไม่ปลอดภัยอาจจะโดนแห่ประจานรอบเมืองทำให้เจ้าได้อับอาย แต่เจ้าเจ้าไม่ต้องกลัวข้าจะปกป้องเจ้าเองขอแค่ให้เจ้ามาอยู่กับข้า ในห้องทำงานนี้ทุกวัน เพราะที่นี่คือห้องหอของเรา”
“ ผม.. กระผม.. เอ่อ”
พูดอะไรดีวะ คำราชาศัพท์ก็ไม่ค่อยจะรู้ ผมคิดอยู่ในใจ
“ เจ้ามิต้องพูดกะไร้ดอกเสียเวลา เรามาต่อจากตอนนั้นกันเถอะ”
“ โอ้วมายก๊อด…” สงสัยจะไม่รอดแล้ว ตรู แขนใหญ่กำยำของฝ่าบาทรวบร่างเล็กของผมเข้าไป จุมพิตที่หนักหน่วงและเร่าร้อน อ่า.. อีกแล้วทำไมร่างกายนี้ตอบสนองอีกแล้ว.. เสื้อผ้าชุดหนา หลุดออกจากร่างตอนไหน ไม่รู้ มารู้ตัวอีกที.. ม่ายยย.. ขา.. ขา.. หุบดิวะบังคับมันไม่ได้เลยสิ่งที่มันชูชันอยู่ตรงหน้า….อ่า.. อยากกินอยากดูดเหลือเกิน… ไม่..ไม่..ไม่. เหมือนในร่างนี้ ไม่ได้มีวิญญาณผมอยู่ เสียงผู้เดียว แต่มันยังมี วิญญาณของชเวอินแจอยู่ด้วย เพราะผมไม่สามารถบังคับร่างกายได้ เหมือนแค่มาอาศัยร่างของเขาอยู่เท่านั้น..
“สวบ… อ่า… ดีจัง.. เจ้าช่างรู้ใจข้าเสียจริง เจ้ากวางน้อยของข้า.. อืม… อ่า.. มาข้าจะให้รางวัลเจ้า เหมือน ร่างกาย มันสั่งงานเองตามความคุ้นชิน …ผมนอนคว่ำหน้าลงรอฝ่าบาทกระทำบางอย่างที่ผมชอบ.. เอ๊ย ..!..เจ้าชเวมันชอบ.. อ่า… ดีจัง… ฟิน.. ไม่นะ ทำไมรู้สึกดีจังหรือว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของผม… แต่ผมก็มีความสัมพันธ์กับผู้หญิง และก็มีความสุข มีความรู้สึกดีทุกครั้ง แต่ทำไมผมชอบความสัมพันธ์เช่นนี้ด้วยไม่เข้าใจ เลย ฝ่าบาทนอนกอดผมทั้งคืนด้วยความรักอย่างสุดหัวใจแล้วพระมเหสีกับพระสนมล่ะ ฝ่าบาท คงได้ทั้งหญิงและชายนั้นแหละ ถ้าเป็นยุค ปัจจุบันก็เรียกว่าไบเซ็กซ์ชวน ทำไมมีความสุขจริงๆช่างมันเถอะไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็ใช้ชีวิตแบบนี้และอยู่แบบคนอ่อนแอดูบ้างดีกว่าอยู่แบบเสี่ยงตายต้องคอยปกป้องลูกน้องนับร้อยชีวิตการได้มีคนมาปกป้องเราบ้างผมคิดว่าก็มีความสุขดี
“เจ้าหายโกรธข้าแล้วใช่หรือไม่? พระสนมทรงตั้งครรภ์ พระมเหสีก็กำลังตั้งครรภ์ ใครได้โอรสก่อนโอรส องค์แรกจะเป็นรัชทายาท ผมฟังฝ่าบาทพูดแล้วรู้สึกไม่พอใจนิดๆ นอกจากร่างกายแล้วยังส่งผลถึงจิตใจด้วย ผมหึงฝ่าบาทหรือนี่ นี่แหละสิ่งที่ผมกลัวสุดท้ายมันก็ละลายความเป็นคิมมันจาของผมหายไปสิ้นแล้วเวลานี้ผมกลายเป็นขันทีชเวอินแจ เต็มตัวแล้วสินะ ตอนนี้สิ่งที่หนักหนาสำหรับผมก็คือการปลดทุกข์ กับภาษาพูดนึกไม่ออกก็พยักหน้าเอาก็แล้วกัน คำราชาศัพท์ยากชะมัด..ฝ่าบาท พระองค์..กระหม่อม..เพคะ..เจ้าค่ะ และ อะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย โอ้ยหัวจะปวด
“ พักนี้เจ้าดูไม่ค่อยพูดจาเลย มีกระไรอยู่ในใจเจ้าหรือ?”
“เอ่อ กระหม่อมรู้สึกไม่ค่อย ทรงไม่สบาย มีค่ะ โอ๊ยครับ โอ๊ยขอรับ”
“5 5 5 5 ช่วงนี้เจ้าดูเพี้ยนเพี้ยนนะปกติเจ้ามารยาทงามคำพูดคำจ้า กิริยาท่าทาง ก็อย่างกับหงส์เดินตอนเดินนี่นึกว่าลอยอยู่เหนือพื้นแต่เดี๋ยวนี้ดูเดินเหมือนเจ้าจะไปมีเรื่องกับผู้ใด”
“กระหม่อม ก็อยากเดินแมนดูนะเจ้าคะ”
กระไรของเจ้าแม้นแม้นพูดจาประหลาดอีกแล้ว คืนนี้เจ้า นอนที่หอพักของเจ้านะข้าจำเป็นต้องไปดูแลพระมเหสีสักหน่อยนางกำลังตั้งครรภ์
“เจ้าค่ะ “
“เราต้องพูดว่าพระยะค่ะสิ เจ้าอยากเป็นหญิงสินะข้าเข้าใจ อยู่กับข้าเจ้าพูดได้แต่อยู่ต่อหน้าผู้อื่นเจ้าจักโดนตำหนิเอาได้”
“ พระยะค่ะ”
ทำไมไม่รู้ว่า หัวใจของผมมันรู้สึกเจ็บแปลกๆ ใจหายไม่อยากให้ฝ่าบาทกำลังไปที่ตำหนักของพระมเหสีเลย มันดูเหงาเหงา แล้วมือของผม ก็ยื่นไปจับมือใหญ่อบอุ่นของฝ่าบาทโดยไม่รู้ตัวสายตาที่อ้อนวอนของผมสามารถทำให้ฝ่าบาท นั่งลงแล้วจ้องตาของผมเหมือนไม่อยากจะไปเลยริมฝีปากอุ่นของฝ่าบาท ทาบทับกับริมฝีปากของผม อืม หัวใจมันเต้นโครมครามแทบจะหลุดออกมา
“.. อืม ..อืม..”
เสียงครางในลำคอของผม
“เจ้านี่ช่างร้ายนัก เจ้าหึงข้าสินะ เจ้าก็รู้ว่าข้ามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงไม่ได้ ความลับนี้มีเพียงเจ้ากับข้าและองครักษ์ ชินโกโจ เท่านั้นที่รู้ ข้าไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ใด นอกจากเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น”
“ แล้ว เด็กในครรภ์ ของพระมเหสีและพระสนมและพระยะค่ะ”
“ก็องครักษ์ชิ้น เป็นลูกขององครักษ์ชิ้น นี่เจ้าศีรษะของเจ้าไปกระทบกับอะไร มา”
ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เองฝ่าบาทเป็นเกย์ไม่มีอารมณ์กับเพศตรงข้าม แต่มีอารมณ์กับเพศเดียวกันผมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวทำไมมีความสุขจังเลย
“ยิ้มได้แล้วสินะ เจ้า ข้าไปก่อนแล้ว นี่ก็คือหน้าที่ของข้าเด็กที่อยู่ในครรภ์มีความหมายมากบัลลังก์ของข้าจะมั่นคงได้ก็เพราะเด็กในครรภ์ของพระมเหสีและ พระสนม”
“แล้วพระมเหสีทรงทราบไม้พะยะค่ะ”
“ไม่… เมื่อครั้งที่ข้าต้องร่วมหลับนอนกับพระมเหสีข้ามักมีกฎอยู่ว่าให้ดับแสงสว่างให้หมดเพราะมเหสีก็เข้าใจว่าชายที่นางร่วมหลับนอนด้วยก็คือข้า ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่พยายามนะข้าพยายามแล้วแต่มันทำไม่ได้จริงๆ ข้ารักเพียงเเค่เจ้าเท่านั้น ชเว อินแจ”
สิ่งที่ผมได้ยินจากพระราชาทำให้ผมรู้สึกตัวว่า ตัวเองสำคัญยิ่ง หรือว่าผมจะถูกหล่อหลอมให้เป็นเหมือนกับชเวอินแจ ไปแล้วผมไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิดว่ามันคืออะไรทำไมกันนะแต่สิ่ง หนึ่ง ที่ผมรู้คืออยู่ที่นี่ผมรู้สึกปลอดภัยร่างกายอ่อนแอนี้ ถ้าได้ฝึกมวยจะแข็งแรงขึ้นหรือเปล่านะ เมื่อครั้งที่ผมไปฝึกฝนการต่อสู้ ผมชอบมวยไทยมากๆใช่แล้วในเมื่อผมจำวิธีการต่อสู้ ก็แค่ฝึก กำลังและกล้ามเนื้อให้เยอะแล้วพละกำลังก็จะมาเอง วิชามวยไทยผมบินไปฝึกอยู่ที่เมืองไทยเลยตั้งหลายเดือนกว่าจะฝึกจนชำนาญได้ไม่ง่ายเลยผมเริ่มฝึกฝนทุกวันจนเริ่มมีกล้ามเนื้อบ้างแล้ว
“ ท่านชเวอินแจท่านทำกะไร ถ้าอะไรช่างประหลาดนัก”
“ ข้าฝึกมวยไทย”
“มันคือสิ่งใด?..ไอมวยไทยที่ว่านี้นะ”
“ วิชาการต่อสู้ชนิด หนึ่ง นั่นแหละ”
“ ไม่เหมือนท่านชเวคนเดิมเลย ท่านชเวไม่ชอบความรุนแรง”
“ถ้าข้าไม่ฝึกฝนไว้ป้องกันตัวบ้างหากวันใดข้าโดนคนรอบทำร้ายข้าจะป้องกันตัวเองได้เนี่ยงไร”
“ เอาเถอะ เราไม่รู้หรอกว่าภัยจะมาถึงเราตอนไหนแต่ที่ข้าเคยเรียนประวัติศาสตร์มาภายในวังหลวงนี่แหละน่ากลัว”
“ท่านชเวพูดสิ่งใดข้าไม่เข้าใจ”
เจ้าอย่ารู้เลยค่าก็ไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไร เห้อ
สิ่งที่ยากกว่าการใช้ชีวิตในยุคนั้นก็คือภาษาการใช้ภาษายากยิ่งอากาศที่หนาวเหน็บในฤดูหนาวหิมะโปรยปรายเป็นฝอยละออง ดึกสงัดในคืน หนึ่ง ชายชุดดำปิดหน้าปิดตาด้วยผ้าสีดำคล้ายๆนินจาที่ผมเคยดูในหนัง มันกระโดดลงมาจากหลังคาอย่างกับในหนังเป๊ะเลย คมดาบยาวเมื่อโดนแสงมันสะท้อนเงาวับ มันจ่ออยู่ที่คอของผม
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีสัมพันธ์ลับกับฝ่าบาท หากว่าเจ้า ช่วยเปิดโปงเรื่อง ที่ฝ่าบาทชอบมีสัมพันธ์สวาทกับชาย ข้าจะไหว้ชีวิตเจ้า”
อย่างกับในหนังไม่มีผิด แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แต่ละยุคแต่ละสมัย ก็มักจะมีคนแย่งชิงความยิ่งใหญ่ ผมคงหนีไม่พ้นชะตากรรมนี้ไปได้ตายไปแล้วในยุคปัจจุบันมาเกิดในยุคโชซอน ยังจะต้องมาตาย ในยุคนี้อีกรอบหรือ ผมนึกถึงท่าแม่ไม้มวยไทยที่ผมได้ร่ำเรียนมา หากเราปราศจากซึ่งอาวุธร่างกายของเราคืออาวุธ ที่ใช้ได้ทุกส่วนทั้งศอก เข่า..หัว…ตีนเอ้ย..เท้า ด้วยความรวดเร็วผมใช้ฝ่ามือฟันเข้าที่ข้อพับเพื่อให้ดาบหล่นเมื่อดาบหล่นผมก็ใช้ข้อศอกงัดเข้าที่ปลายคางชายชุดดำ คางแตกเลือดไหลอาบ เมื่อเขาเห็นเลือดก็รีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว มีคนที่หวังจะโค่นอำนาจของพระราชาด้วยยิ่งมีอำนาจมากก็ยิ่งมีศัตรูมากด้วยเช่นกัน
“ ท่านใต้เท้า มันใช้วิชาการต่อสู้จากสำนักไหนข้าก็มิรู้ได้ไม่มีอาวุธแต่เอาชนะข้าได้”
“เจ้ามันไม่ได้เรื่องเองอย่ามาชักแม่น้ำทั้ง 5 ออกไปให้พ้นหน้าข้าประเดี๋ยวนี้”
เช้าตรู่ ที่มีหิมะตกโปรยปราย อากาศที่หนาวเหน็บ ร่างกาย ที่เย็นยะเยือก ผมไม่ สมารถลุกขึ้นจากที่นอนได้ เหมือนว่าผมจะมีไข้ ของผมทรุดหนัก ในยุคนี้เราจะกินยาอะไรแก้ไข้ได้ แค่มียาพาราเซตามอลแคสอง เม็ด ผมก็หายแล้ว
“ ท่านชเวอินแจ หมอหลวงมาแล้วเจ้าค่ะ”
หมอหลวงได้ตรวจอาการของผม
“ ไม่เป็น กะไรมากดอก ไข้หวัดธรรมดานั้นแหละ ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น เอายานี้ไปต้ม ให้เขา ประเดี๋ยวก็จะอาการดีขึ้นเอง”
นางในรับใช้ ต้มอย่าให้ผม ยาอะไรไม่รู้ ที่รู้คือ มันกินยากชิบหาย ขมจนติดลิ้นติดคอ กลืนแทบไม่ลง
“ ฝ่าบาทเสด็จแล้ว..”
“ พวกเจ้าออกไปข้างนอกกันให้หมด ข้าจะเข้าไปดู ขันทีชเวอินแจ”
ผมได้ยินเสียงฝ่าบาท คุยกับ นางไหน และ ขันทีอยู่ข้างนอก หัวใจของผม รู้สึก พองโต ดีใจอย่างบอกไม่ถูก ฝ่าบาทเข้ามาในห้องของผม มือใหญ่และอบอุ่น จับตัวและหน้าผากของผม อาการไข้ ที่ดูเหมือนจะทรดเมื่อไม่นานมานี้ เหมือนหายเป็นปลิดทิ้ง
“ เดี๋ยวข้าจะเช็ดตัวให้เจ้าเองนะ เราจะได้หาย”
“ไม่เป็นไร มิได้พะยะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจักไม่งาม”
“ช่างมันเถอะ ข้าไม่สนหรอก”
ฝ่าบาท หยิบ ผ้าเช็ด ตัว ที่นางในเช็ดตัวให้ผมเมื่อสักครู่ นำมาบิดน้ำ แล้วก็ ปลดเปลื้องผ้า ของผมออก ผมรู้สึกวาบหวิวทุกครั้ง เมื่อฝ่าบาทได้แตะ เนื้อต้องตัวของผม เลือดในกายร้อนวูบวาบ ใบหน้าร้อนผ่าว หน้าแดง ไม่รู้ว่า เพราะอาการไข้หรือเพราะอะไรกันแน่
“ เจ้าปราถนาในตัวข้าซินะ เจ้ากวางน้อยของข้า แต่เรายังทำ กระไรมิได้นะเจ้า เจ้ายังป่วยอยู่”
“กระหม่อมมิบังอาจพระยาค่ะ”
เหมือนผมจะ ค่อยๆเรียนรู้ การพูดคุยภาษา คำราชาศัพท์ และภาษาในยุคสมัยนี้ได้คล่องขึ้นแล้ว
“ ข้าจักเช็ดตรงส่วนนั้นให้กับเจ้า”
“ ส่วนไหน?.. ครับ.. เอ๊ย.. พระยะค่ะ”
“ ก็ส่วนนี้ยังไงเล่า”
ฝ่าบาทใช้ผ้า ที่ชุบน้ำแล้ว ซุกเข้าไป ตรงหน้าอกของผม
“เหมือนเจ้าจะมีกล้ามเนื้อขึ้นมากโขอยู่นะ เห็นว่าช่วงนี้เจ้าทำท่าประหลาดๆ มันช่วยให้ร่างกายของเจ้าแข็งแรงขึ้นใช่หรือไม่?”
“พระยะค่ะ กระหม่อม ฝึก มวย เพื่อเอาไว้ป้องกันตัวพระยะค่ะ ซึ่งมันทำให้กระหม่อมรอดชีวิตมาได้ เมื่อคืนนี้”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments