หลังจากที่ได้ปะทะคารมกันไปเมื่อวานนี้ ภูริ ไม่ยอมนั่งรถของพ่อไปโรงเรียนเพราะไม่อยากเจอ พิพัฒน์ เขาเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ เมื่อกฤษณะถามเขาก็ตอบด้วยวาจาและสำนวนที่กระแทกแดกดันผู้เป็นพ่อของเขา
“พ่อจะมาสนใจภูทำไม เชิญพ่อไปเอาอกเอาใจลูกกับเมียของพ่อเถอะผมมันแค่ส่วนเกิน”
แล้วเขาก็รีบเดินหนีไปไม่ยอมให้กฤษณะได้โอกาสที่จะอธิบายอะไรเลย
ที่โรงเรียน
ภายในห้องน้ำในช่วงเวลาเรียนนั้นจะไม่ค่อยมีเด็กนักเรียนพลุกพล่าน วันนี้ ภูริ ต้องการเอาคืน พิพัฒน์อย่างหนักจนถึงขั้นอับอายขายหน้า ภูริ และณัฐนนท์ มาดักซุ่มรอที่ห้องน้ำชายได้สักพักใหญ่ ภูริ ไม่ยอมเข้าเรียนเพื่อกระทำการนี้โดยเฉพาะ
“ไอ้ภู เมื่อไหร่น้องชายมึงจะมาวะ?... รอนานแล้วนะเนี่ย”
“เดี๋ยวมันก็ต้องมา มันต้องปวดขี้ปวดเยี่ยวบ้างแหละ ถ้ามันมาถึงแล้วกูจะเป็นคนลากมันไปที่ห้องเก็บของแล้วมึงจัดการเลยนะในห้องน้ำไม่ได้คนเข้าออกเยอะห้องเก็บของน่าจะเหมาะ”
“นั่นๆ ไอ้พิพัฒน์มาแล้วทำไงดีวะ?”
“มันมาคนเดียวเสียด้วยได้โอกาสของเราพอดี”
พิพัฒน์รีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างเร็วเพื่อทำธุระโดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครซุ่มอยู่ เขายืนทำธุระส่วนตัวจนเสร็จแต่ยังไม่ทันได้ติดตะขอกางเกงและใส่เข็มขัดให้ดีก็มีใครบางคนเข้ามาทางด้านหลังใช้มือปิดปากและจับแขนของเขาไขว้ไว้ด้านหลัง เขาจำเสียงได้ในทันทีว่าเป็น ภูริ และภูริ ก็กำลังจะลากพิพัฒน์ เข้าไปในห้องเก็บของและปิดประตูล็อคอย่างแน่นหนา
“ไง ไอ้กาฝากมึงโชคร้ายจริงๆที่มาเข้าห้องน้ำคนเดียว แล้วเสือกบังเอิญมาเจอกู ฮึ ๆ ๆ นรกของจริงกำลังจะมาเยือนแล้วทำใจไว้ให้ดีล่ะ”
“นายจะทำอะไรชั้น ? อย่านะไม่งั้นชั้นจะฟ้องคุณลุง”
“มึงกล้าก็ลองดูสิ ยิ่งมึงห้าวมากเท่าไหร่ มึงก็จะได้ลิ้มรสความเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น ไอ้นัทมึงเป็นคนถ่ายคลิปที่เหลือกูจัดการเอง”
“อย่านะ อย่าทำอะไรชั้นเลยชั้นขอร้อง “
พิพัฒน์พยายามขอร้องและพูดดีๆกับภูริ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภูริใจอ่อนลงเลยกลับยิ่งทำรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เสื้อผ้าถูกดึงถอดออกจนไม่เหลือร่างกายเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ถึงเขาจะตัวเล็กกว่าภูริ แต่มวลกล้ามเนื้อก็แน่นสวยงาม ผิวขาวเนียนของพิพัฒน์นั้น ทำให้ภูริรู้สึกแปลกๆขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ภูริมองต่ำ ลงไปเรื่อย ๆ จนเห็นช่วงกลางกายที่พิพัฒน์เอา มือปิดไว้ ภูริจับมือของพิพัฒน์ออก และตรึงรั้งไว้เพื่อให้ นัทธนนท์ถ่ายคลิปไว้ได้เต็มๆตัว และเห็นทุกสัดส่วน เพื่อที่จะประจานพิพัฒน์ลงในสื่อโซเชียล ให้พิพัฒน์ได้อับอาย ตามความต้องการของเขา เมื่ออุตส่าห์พูดดีๆขอร้องดีๆแล้วแต่ภูริก็ไม่ฟังคำขอร้องของพิพัฒน์เลย พิพัฒน์โกรธมากสบถทำด่าที่รุนแรงออกมา
“ ไอ้เลว ไอ้ชั่ว กูจะฟ้องคุณลุง”
“เชิญ มึงคิดว่ากูกลัวพ่อกูเหรอ? ยิ่งมึงไปฟ้องจะยิ่งดี สะใจดีพ่อกูจะได้รู้ว่ายิ่งเขาทำดีกับมึงเท่าไหร่กูก็จะใช้วิธีที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น”
พิพัฒน์เริ่มร้องไห้ เมื่อไม่มีทางสู้ทั้งแค้นและอับอาย พิพัฒน์คิดในใจว่าถ้าภูริโพสต์คลิปที่น่าอายของเขาลงสื่อโซเชียล เขาจะไม่ยอมอภัยให้ภูริอย่างแน่นอน เมื่อได้แก้แค้นสมใจแล้วภูริและณัฐนนท์ก็ทิ้งให้พิพัฒน์อยู่คนเดียวตามลำพังภายในห้องเก็บของ สภาพร่างกายผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่และ เลอะเทอะ ด้วยคราบฝุ่นเพื่อนๆในห้องเรียนของพิพัฒน์ ต่างมองมาที่เขาเป็น จุดเดียว พิพัฒน์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เสียงซุบซิบนินทาที่เขาไม่ได้ยิน แต่พิพัฒน์แน่ใจว่าเพื่อนๆคงเห็นคลิปที่น่าอายของเขาไปแล้วแน่ ๆ ภูริได้โพสต์คลิปประจานพิพัฒน์ไปแล้วจริงๆอย่างที่เขาบอก เพราะภูรินั่นแหละที่ส่งคลิปมาให้เขาดูพร้อมกับข้อความต่อท้ายคลิปว่า
“มึงดังแล้วนะไอ้พัฒต้องขอบใจกูที่ทำให้มีคนสนใจมึงตั้งเยอะแยะ ฮา ๆ ๆ ๆ”
เสียงซุบซิบนินทา วิพากษ์วิจารณ์สัดส่วนของเขาให้เขาได้ยินในบางครั้ง ทำให้พิพัฒน์ไม่อยากมาโรงเรียน
“ไม่น่าเชื่อว่าข้างในของมันจะสวยขนาดนี้ มันต้องโดนคนถ่ายคลิปคนนั้นทำอะไรต่อมิอะไรไปแล้วก็ได้”
พิพัฒน์กลับบ้านไปด้วยอาการเศร้าหมอง จนพิพิมพ์เกิดความสงสัย
“มีเรื่องอะไรที่โรงเรียนอีกแล้วเหรอเล่าให้แม่ฟังซิ”
“แม่พัฒน์ไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ย้ายโรงเรียนได้ไหม?”
“เราไม่ได้เป็นคนทำผิดทำไมเราต้องอาย แล้วทำไมเราต้องมีด้วย ใครจะมองเราอย่างไรก็ช่างไปสิ รู้อยู่ว่าความรู้สึกเช่นนี้มันยาก แต่อายแล้วได้อะไร อีกไม่นานพวกเขาก็ลืม แค่ภาพโป๊เลยจากการถูกกลั่นแกล้งคนที่มองอาจจะไม่ได้มองเพราะความรู้สึกอยากตำหนิหรือนินทา แต่ที่เขามองและซุบซิบเพื่อไม่ให้เราได้ยินเพราะเขาอาจจะสงสารก็ได้ คนที่ทำกับพัฒน์ ครั้งนี้มันแรงเกินไปแม่ไม่ยอม แม่จะให้คุณกฤษณ์จัดการกับลูกชายของเขาให้เด็ดขาด”
พิพิมพ์ รายงาน เรื่องนี้ให้กับกฤษณะรู้ในวันรุ่งขึ้นหลังจากเสร็จงานที่บริษัทและนั่งรถกลับบ้านมาพร้อมกัน
“ทำไมคุณพึ่งมาบอกผม น่าจะบอกตั้งแต่เมื่อเช้าจะได้จัดการกับเจ้านั่นตอนนั้นเลย”
“พิมพ์เกรงว่าคุณจะเครียด นี่ก็พยายามหาจังหวะตั้งนานกลัวคุณจะอาการกำเริบอีก พิมพ์ไม่ได้คิดแค้นคุณภูนะคะ แต่ครั้งนี้มันรุนแรงเกินไปพิมพ์ตัวว่าจะเกิดเรื่องที่มันใหญ่กว่านี้”
“นี่ยังไม่ใหญ่อีกเหรอ การถ่ายคลิปผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมาย แล้วนี่มันยังถ่ายภาพโป๊อนาจารของผู้อื่นอีกด้วย ผมจะจัดการกับมันให้เด็ดขาด สอบเสร็จอาทิตย์นี้ผมจะให้มันไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทันที ให้มันได้ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว จะได้รู้ถึงความยากลำบาก สบายเกินไปแล้วยิ่งปล่อยไว้แบบนี้ยิ่งจะเลวร้ายลงสักวันต้องเป็นนักเลงเป็นอันธพาลแน่ ๆ”
กฤษณะนั่งรอภูริอยู่ที่บ้านภายในห้องรับแขกหลังจากที่เขาได้กลับมาถึงบ้านอาบน้ำก่อนเพื่อระงับอารมณ์ที่โกรธจนเดือดพล่าน ภูริคิดและทำใจอยู่แล้วว่าเขาจะต้องโดนพ่อของเขาเล่นงานหนัก แน่ ๆ เขาจึงเดินเที่ยวเพื่อฆ่าเวลา จนกระทั่งภูริยอมเข้าบ้านในตอนดึก ไฟในบ้านปิดจนหมด มีเพียงแสงสลัวๆจากไฟนอกบ้าน ภายในห้องรับแขกที่มืดสนิท แม่บ้านตื่นมาเปิดประตูให้เขาด้วยอาการงัวเงีย เพราะรีบตาลีตาเหลือกลุกมาเปิดประตูให้เขา ภูริคิดว่าจะนอนกับ ณัฐนนท์ในครั้งแรกแต่ทว่าการกระทำที่มันเลวร้ายของเขา พ่อของณัฐนนท์จึงไม่ยอมให้ภูริมาข้องเกี่ยวกับณัฐนนท์อีก ภูริเปิดประตูเข้าไปภายในบ้านด้วยความเงียบที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เขาพยายามเดินอย่างช้าๆและเงียบกริบ ภูริคิดว่าในตอนวันพรุ่งนี้เขาจะตื่นให้เร็ว และรีบออกไปโรงเรียนแต่เช้าเพื่อที่จะไม่ต้องเจอหน้าพ่อ ภูริเดินทางผ่านห้องรับแขกภายในห้องรับแขกปิดไฟจนมืดสนิท ภูริคิดว่าพ่อของเขาคงหลับไปแล้วเพราะตอนนี้มันดึกมากในขณะที่เขากำลังจะก้าวขาขึ้นบันได ไฟในห้องรับแขกก็สว่างขึ้นมา พร้อมกับเสียงทักที่แฝงไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยว
“จำทางกลับบ้านได้แล้วเหรอ ไอ้ลูกชั่ว”
กฤษณะเดินตรงเข้ามาหาภูริอย่างเอาเรื่อง
“เพี๊ยะ…!...”
“พ่อตบภู ทำร้ายลูกตัวเองเพื่อปกป้องลูกคนอื่น ผมมั่นใจแล้วว่าไอ้กาฝากนั่นอาจจะเป็นลูกแท้ๆของพ่อก็ได้ ส่วนภู อาจจะเป็นลูกชู้ก็ได้ใช่ไหม? พ่อคงคิดเช่นนั้นสินะถึงได้จงเกลียดจงชังภูได้ถึงขนาดนี้?”
กฤษณะกำลังจะเงื้อมือไปที่ใบหน้าของภูริอีกครั้ง คาไว้อยู่อย่างนั้น ฝ่ามือที่ฟาดปะทะไปในครั้งแรกยังคงรู้สึกเจ็บและชาไม่หายแรงสะท้อนกลับมาจากใบหน้าของภูริจนมือของเขาสั่นสะเทือน กฤษณะ ข่มสะกดกลั้นน้ำตาที่มันเออจนแทบจะล้นออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รู้สึกเจ็บ เมื่อจำเป็นต้องตีลูก ลูกเจ็บเท่าไรพ่อแม่เจ็บมากกว่าลูกเป็นร้อยเท่า กฤษณะมองดูฝ่ามือของเขาที่แดงเป็นปื้นจากแรงกระทบ เขาถอนหายใจ เฮือกใหญ่ แล้วเงยหน้าจ้องเขม็งไปที่ภูริยังเอาเรื่อง
“ถามหน่อยเถอะ แกเป็นโรคจิตหรือไง หรือว่ามีพฤติกรรมชอบแอบถ่ายผู้ชายด้วยกัน มีรสนิยม รักร่วมเพศหรืออย่างไร?”
“ก็ไม่ได้ชอบดูหรอก แต่ภู จะทำทุกอย่างให้มันอยู่ที่นี่ไม่ได้ ให้มันออกไปพ้นสายตาของภู ไอ้พัฒน์ มันต้องขอบคุณภูเสียด้วยซ้ำ ที่ภูทำให้มันดังเป็นพลุแตกเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง”
“อืม…พ่อจะตามใจภู อีกไม่นานภู จะไม่ได้เห็นหน้าพิพัฒน์และพิพิมพ์ อีก อาทิตย์หน้า”
“จริงเหรอพ่อ?”
ภูริแสดงท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อคิดว่าสุดท้ายแล้วพ่อก็เลือกเขา กฤษณะพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆแล้วเดินกลับขึ้นห้องไปภูริยิ้มกลิ่นด้วยความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูก เขาลืมความเจ็บปวดจากแรงตบของพ่อไปเสียสนิทด้วยความดีใจ
“ สุดท้ายพ่อก็ต้องเลือกเรา พ่อรักเราและเห็นเราสำคัญกว่าไอ้กาฝากลูกของนัง18 มงกุฎนั่น เลือดย่อมข้นกว่าน้ำเสมอ ไหน ๆมันก็จะกระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้แล้ว เราจะไม่วุ่นวายกับไอ้กาฝากนั่นอีก”
ภูริไม่ราวีไม่วุ่นวายกับพิพัฒน์อีก ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ชั่วโมงเรียนว่ายน้ำภูริต้องลงมาซ้อมว่ายน้ำทุกวัน แต่เขาก็ต้องชะงักและหยุดนิ่งยืนดู พิพัฒน์กำลังซ้อมว่ายน้ำอยู่ตามลำพังคนเดียวที่สระว่ายน้ำของโรงเรียน ความรู้สึกแปลกๆได้เกิดขึ้นกับหัวใจของเขา ในขณะที่แอบดูพิพัฒน์ว่ายน้ำ สรีระร่างกายของพิพัฒน์ที่สวมเพียงกางเกงว่ายน้ำรัดตึงจนเห็นสัดส่วนบางอย่างที่อยู่ภายใต้ร่มผ้าของเขา กล้ามเนื้อเป็นร่องเป็นลอน ภูริเผลอมองสำรวจเรือนร่างของพิพัฒน์อย่างลืม ตัวลำอ้อยขนาดใหญ่ ที่อยู่ภายใต้กางเกงว่ายน้ำรัดรูป ทำให้หัวใจของภูริตื่นตระหนก ทุกท่วงท่าการลงเล่นว่ายน้ำของพิพัฒน์ ทำให้ภูริแทบจะหยุดหายใจ หัวใจเต้นแรง ภาพเปลือยของพิพัฒน์ในวันนั้นที่เขาถ่ายเก็บไว้ยังคงติดตาจนไม่สามารถจะลบเลือนมันออกไปได้จากความคิดของเขา ทั้ง ๆที่คิดทั้งหมดเขาได้ลบมันออกไปจนไม่เหลือเก็บไว้เลย
“ไอ้ภู ไอ้โรคจิต มึงแอบดูน้องชายมึงว่ายน้ำอยู่หรือไง?”
“ไอ้นัท สัส กูไม่ได้โรคจิตแต่กูแค่ลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือว่าจะกลับดี วันนี้ไม่ซ้อมดีกว่าปล่อยมันไปเถอะ”
“เอ๊ะ นี่กูหูเพี้ยนไปหรือเปล่า ปกติมึงเห็นน้องมึงอยู่ที่ไหนมึงก็จะปรี่เข้าไปหาเรื่องมันทุกครั้งเลยนี่หว่า หรือว่าครั้งนั้นพ่อมึงทำโทษหนักเลยหรือวะ?”
“เปล่า แต่พ่อบอกว่าอาทิตย์หน้าหลังจากที่สอบเสร็จเรียนจบ ม. 6 แล้วกูจะไม่ได้เห็นหน้า สอง แม่ลูกนั่นอีก พ่อคงซื้อบ้านให้ สอง คนนั่นอยู่ต่างหาก ก็ดีเหม็นขี้หน้ามัน จนแทบจะอ้วก”
“ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อไม่ได้ซ้อมว่ายน้ำแล้ว เราไปเดินเล่นหาอะไรกระแทกปากกันดีกว่า”
“อะไรที่สามารถกระแทกปากมึงได้ไม่ต้องไปไกลๆก็มี”
“อะไรวะ?”
“TEEN กูไง เห็นหน้ากูเป็นตู้กดเงินเคลื่อนที่หรือไงวะ?”
“แหม ๆ ๆ เลี้ยงกูหน่อยเถอะพ่อกูไม่ได้รวยเหมือนพ่อมึงนี่”
เพื่อนซี้เพื่อนรักภูริและณัฐนนท์โดดเรียนไปในที่ที่เคยไปทุกวันถึงภูริจะดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจกับการเรียนแต่เขาก็เรียนดีไม่แพ้พิพัฒน์เลย และนี่ก็เป็นสิ่งที่กฤษณะพอใจมากและหวังว่าเมื่อภูริเรียนจบ ม 6 เขาจะส่งภูริไปเรียนเมืองนอก ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนำความรู้ความสามารถกลับมาบริหารบริษัทของเขาเพื่อสืบช่วงต่อ
1 อาทิตย์ผ่านไป
การสอบในวันสุดท้ายหลังจากงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ม. 6 ในวันอำลาเพื่อนๆในวัยรุ่นชั้นมัธยม ที่ทุกคนกำลังจะเข้าข้ามความเป็นเด็กเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และวัยทำงานหลังจากจบมหาวิทยาลัย ภูริ กลับบ้านเร็วกว่าปกติ เขารีบไปดูว่า พิพัฒน์และพิพิมพ์ เตรียมตัวออกจากบ้านแล้วหรือยัง กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ภูริก็รู้สึกกระหยิ่ม แอบยิ้มที่มุมปากเพราะเขาจะได้ไม่ต้องเจอสองแม่ลูกนั่นอีกแล้ว กฤษณะเดินเข้ามา พร้อมกับสั่งให้ทุกคนเตรียมตัว ประชุมครอบครัวที่โต๊ะอาหารในมื้อค่ำนี้
ที่โต๊ะอาหาร
“เอาล่ะเมื่อทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันหมดแล้ว ภูริ พ่อมีเรื่องจะบอก แกเรียนจบมัธยมแล้วต่อไปกิจการทั้งหมดที่เป็นของพ่อ พ่อจะยกให้ลูกเพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้น”
คำพูดของพ่อที่ภูริได้ยินทำให้เขารู้สึกดีใจ ภูริมองหน้าพิพัฒน์และพิพิมพ์ พร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางที่เป็นการเยาะเย้ย
“แล้วเมียของพ่อล่ะ เธอจะไม่ได้อะไรเลยเหรอ?”
“ไม่ เธอจะไม่ได้อะไรเลย จะไม่มีหุ้นส่วนในบริษัทเลยแม้แต่เปอร์เซ็นเดียว แต่ลูกจะต้องดูแลเธอแทนพ่อรับปากได้ไหม?”
“ได้สิครับ”
ภูริบตอบโดยไม่คิดอะไรเพราะเขาคิดว่า อย่างไรเสียพ่อก็ต้องรับผิดชอบส่งเสียให้เงินเดือนพิพิมพ์และพิพัฒน์ทุกเดือนอยู่แล้วเรื่องแค่นั้นเขาทำได้
“ถ้าอย่างนั้น อีก สอง วันแกต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอกพ่อติดต่อและหาที่เรียนไว้ให้แกแล้ว ที่อยู่ก็มีพร้อม”
“พ่อหลอกภู ไหนเพราะว่าจะไล่มัน สอง คนออกไปแล้วทำไมกลับเป็นภูที่ต้องเป็นคนออกไปจากบ้านหลังนี้ด้วย?”
“ชั้นบอกแกตอนไหนว่าจะไล่พิพัฒน์กับแม่ของเขาออกไป ในเมื่อแกก็เรียนจบแล้ว และมันถึงเวลาที่แกจะต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ได้แล้วเพื่อนำเอาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนกลับมาบริหารบริษัทของแกอย่างไร”
“พ่ออย่าทำเป็นพูดให้ดูดีเหมือนกับว่าหวังดีกับภู เสียเต็มประดา สุดท้ายแล้วพ่อก็หลงมัน 18 มงกุฎกับไอ้กาฝากนี่ ก็ดี ได้ เมื่อไหร่ที่ผมเรียนจบและกลับมา บริหารงานในบริษัทของพ่อเมื่อไหร่ ผมจะเฉดหัว สอง คนนี้ออกไปให้พ้นตา กว่าจะถึงวันนั้นก็คงทำอะไรผมไม่ได้อีกแล้ว และผมก็จะเอามันให้หนักกว่าครั้งก่อนคอยดู”
แววตาสิ้นหวังของภูริพี่จ้องมองกฤษณะผู้เป็นพ่อสลับกับแววตาแข็งกร้าว ที่จ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของพิพัฒน์อย่างหาเรื่อง พิพัฒน์รู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอเขาที่โรงเรียนแล้ว แต่ว่าภูริ ยังอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขา พิพัฒน์จะหลบเลี่ยงอย่างไร เขาถอนหายใจยาวพรางคิดว่า
“อดทนอีกแค่ สอง วัน เขาก็ไปแล้ว อดทนเพื่อแม่และลุงกฤษ”
ภูริโกรธมากพี่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เขาต้องการ ความเจ็บปวดและผิดหวังประดังประเดย์เข้ามาอีกครั้ง ก่อนจะไปเขาจะต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้พิพัฒน์จดจำไม่มีวันลืม แต่ภูริยังคงคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร พิพัฒน์กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย คริสต์ชนะเสนอให้พิพัฒน์ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะเป็นคนส่งเสียให้พิพัฒน์เอง แต่พิพัฒน์ปฏิเสธ เพราะเป็นห่วงพิพิมพ์แม่ของเขา พิพัฒน์อ่านหนังสืออย่างหนักจนแทบจะไม่ได้ออกจากห้องเลย เขาออกมาเฉพาะตอนกินข้าว แล้วก็กลับเข้าไปใหม่ พิพัฒน์พยายามหลบหน้าไม่อยากเจอภูริ เพื่อป้องกันการปะทะ
“พรุ่งนี้นายนั่นก็ไปแล้ว ชั้นคงอยู่อย่างสบายใจสักที วันนี้คุณลุงกับแม่ไม่อยู่ด้วยสิ ทำไมต้องมีงานเลี้ยงวันนี้ด้วยนะ นายนั่นคงไม่คิดจะทำอะไรเราหรอกนะ”
พิพัฒน์สำรวจรอบๆห้องว่าปิดประตูหน้าต่างล็อคกลอนดีแล้วหรือยังเพื่อป้องกันไม่ให้ภูริแอบเข้ามาทำร้ายเขาได้ พิพัฒน์รู้สึกง่วงเขาจึงปิดไฟนอน และหลับไป จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตู เขาเปิดไฟที่หัวเตียงและเห็นนาฬิกาบอกเวลาว่า ขณะนี้ตีสอง แล้ว พิพัฒน์เข้าใจว่าแม่คงกลับมาแล้วอาจจะมาเคาะประตู ใช้ให้เขาทำอะไรบางอย่างให้ก็ได้ เหมือนทุกครั้งที่กลับมาจากงานเลี้ยงคุณลุงมีอาการเมาแม่จะต้องมาเรียกให้เขาไปเตรียมผ้าชุบน้ำมาให้แม่เพื่อเช็ดหน้าคุณลุงเหมือนทุกครั้ง
“ก๊อก ๆ ๆ”
พิพัฒน์เปิดประตูออกไปโดยไม่ทันระแวงอะไรเลย
“นาย…! …ภูริ…..”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments