...ตอนที่4...
หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เมก็ลากเราออกจากโรงพยาบาลแล้วพาขึ้นรถทันที รถของเธอเป็นรถยุโรปรุ่นหรูภายในสะอาดเป็นระเบียบมาก กลิ่นดอกไม้หอมๆออกมาจากช่องปรับอากาศทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
"เธอจะไปส่งเราที่ไหน?" เราถาม ขณะที่ยังตั้งสติจากเรื่องเมื่อกี้ไม่ค่อยได้
"ก็ต้องบ้านเธอสิ ถามแปลกๆ" เมตอบเรียบๆ แต่แววตาเหลือบมองเราเป็นระยะเหมือนคอยจะจับผิด
เราพยายามทำหน้าปกติ แม้ในใจจะแอบกดดันเล็กน้อย "อ่อ...ใช่สิก็ต้องบ้านเราหนิเนอะ" ว่าแต่บ้านเรามันอยู่ที่ไหนกัน นี่คือคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ตั้งแต่ขึ้นรถมา เราเงียบไปตลอดทาง ปล่อยให้เมขับรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอพาข้ามาในเขตหมู่บ้านหรู
" เดี๋ยวๆเม.จะไปไหน"
แต่พอรถเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง เราก็แทบช็อก!
บ้านหลังนี้ โคตรใหญ่!!!
มันเป็นคฤหาสน์หลังโต มีรั้วสูง ประตูทางเข้าดูหรูหราเหมือนบ้านเศรษฐี เราหันไปมองเมตาโต
"เม นี่บ้านใคร!"
"ถามอไรแปลกๆ ก็บ้านเจนไง"
เราหันไปมองคฤหาสน์ตรงหน้าอีกครั้ง หัวใจเต้นแรงด้วยความตกใจ
"เชี่ย… นี่เราอยู่ในร่างลูกคุณหนูบ้านรวยเหรอวะ"
เรามองคฤหาสน์หลังโตตรงหน้าด้วยความอึ้ง บ้านนี่มันหรูเกินไป! มีน้ำพุอยู่หน้าประตู มีสนามหญ้าตัดแต่งเป็นระเบียบ มีรั้วสูงล้อมรอบอย่างดี ไหนจะรถหรูอีกเป็น10คัน นี่มันบ้านเศรษฐีชัดๆ!
เราหันขวับไปหาเม "เม… เธอแน่ใจนะว่านี่บ้านเรา?"
เมทำหน้ามึนใส่ "ก็ใช่น่ะสิ เจนเป็นอะไร?"
"เ่อ่อ..ไม่มีอะไรแค่สับสนนิดหน่อยสงสัยเพราะนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน"เราฝืนยิ้ม แต่ในใจนี่ช็อกจนพูดอะไรไม่ออก
เราก้าวลงจากรถ มองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อสายตา ประตูบ้านเปิดออกโดยอัตโนมัติ ทันใดนั้นก็มีแม่บ้านในชุดยูนิฟอร์มเดินออกมาต้อนรับ
"คุณหนูกลับมาแล้วเหรอคะ?"
"คุณหนู!?" เราอ้าปากค้าง ก่อนจะหันมองไปที่เม
เมแค่ยิ้มขำๆ "ลืมไปแล้วเหรอว่าบ้านเธอมีคนดูแลเยอะขนาดไหน?"
"บ้า...ไม่ได้ลืมใครจะไปลืมได้ล่ะ แค่ตกใจนิดหน่อยไม่ได้เจอกันนาน" เหี้ยละนี่เราเป็นคุณหนูจริงๆหรอวะ
แม่บ้านเปิดประตูให้ เราเดินเข้าไปข้างใน และแทบหยุดหายใจเมื่อได้เห็นภายในตัวบ้าน พื้นหินอ่อนมันวาว แชนเดอเลียร์ระยิบระยับ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูแพงระยับเหมือนของในพิพิธภัณฑ์
"ร่างเรา รวยขนาดนี้เลยหรอวะ"
เมเดินตามเข้ามา มองฉันด้วยสายตาแปลกๆ "ทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้นเนี่ย? บ้านเธอก็เป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่หรือไง?"
"เอ่อก็แค่รู้สึกแปลกตาไปนิดหน่อย"เราไม่เคยอยู่บ้านหรูแบบนี้มาก่อน แล้วจะเล่นบทลูกคุณหนูไฮโซยังไงไม่ให้มีพิรุธวะเนี่ย"
เราพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แม้ว่าจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักแสดงที่ต้องเล่นบทบาทที่ไม่เคยซ้อมมาก่อน
"คุณหนูจะรับของว่างเลยไหมคะ?" แม่บ้านถามด้วยรอยยิ้ม
"เอ่อ...ไม่ดีกว่าค่ะ"
เมหรี่ตาใส่ฉันทันที "ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอปฏิเสธของว่าง"
เราได้แต่หัวเราะออกไปเบาๆ "ก็แค่...มันยังไม่หิวไง"
เมยังคงมองมาด้วยสายตาสงสัย แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เธอเดินไปนั่งที่โซฟาหรูตรงกลางห้อง เรามองตามก่อนที่จะเดินไปนั่งด้วยแบบเก้ๆ กังๆ
"นี่เจนเป็นอะไรกันแน่?"
เราสะดุ้งอีกครั้ง "อะไร เปล่านี่!?"
"เจน ตั้งแต่เจอเธอที่โรงพยาบาล เธอก็ดูแปลกไปหมด" เมเท้าคางมองเรา "เดินก็เก้ๆ กังๆ ทำตัวเหมือนคนเพิ่งเคยเข้าบ้านตัวเองครั้งแรกงั้นแหละ"
เราหัวเราะออกไปเพื่อปกปิดความผิดปกติของตัวเอง" ไม่มีอะไรจริงๆ..บอกแล้วไงพึ่งออกจากโรงพยาบาลเลยมึนๆนิดหน่อย"
เมจ้องฉันเขม็งเหมือนพยายามอ่านใจ แต่สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจยอมแพ้ในที่สุด "ก็ได้ แต่ถ้ามีอะไรให้บอกฉันก่อน เข้าใจไหม?"
เรารีบพยักหน้ารัวๆ "เข้าใจๆ!"
เมยกยิ้มมุมปาก "ดี แล้วก็อย่าคิดหนีไปไหนอีกล่ะ ไม่งั้น…" เธอเว้นวรรค ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ จนเราเผลอถอยหลังโดยอัตโนมัติ
"…บทลงโทษคราวหน้าอาจจะหนักกว่าครั้งก่อน" เมกระซิบเบาๆ
เราตัวแข็งค้าง หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกรอบ ตอนนี้รู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองกำลังร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอนหลังพิงโซฟา ทำเหมือนเรื่องเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"บ้าเอ้ยนี่เราต้องมารับมือกับอะไรแบบนี้ด้วยหรอวะเนี่ย
เมมองเราอยู่อีกสักพักก่อนจะลุกขึ้นยืน หยิบกุญแจรถจากโต๊ะหน้าโซฟา
"ฉันต้องกลับแล้ว พอดีมีธุระต่อ"
เรารีบหันไปมองอีกฝ่ายทันที "อ่าว..จะกลับแล้วหรอ"
เมยิ้มเล็กน้อย"ทำไม? เสียดายหรอ?"
"เปล่า!" เรารีบตอบเร็วเกินไปหน่อย ทำให้เมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้อีกครั้ง
"ดีแล้วที่ตอบแบบนี้ ไม่งั้นฉันอาจจะเปลี่ยนใจอยู่ต่อ แล้วเธอคงได้เจอบทลงโทษเพิ่มอีก" เมกระซิบข้างหู น้ำเสียงขี้แกล้งจนขนลุกซู่
เรารีบขยับตัวถอยห่าง "พูดอะไร...ไม่ต้องเลย"
เมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปทางประตู เราเดินไปส่งเธอที่หน้าบ้าน และก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นรถ เธอก็หันกลับมามองเราอีกครั้ง
"อย่าหนีไปไหนอีก ไม่งั้นเมไม่ยอมแน่นะรู้มั้ย?"
เรากลืนน้ำลายลงคอ"อือ...รู้แล้ว"
"แล้วเจอกันนะคะ" เมยิ้มมุมปาก ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป
เรามองรถของเธอแล่นออกจากประตูบ้านไปจนลับสายตา ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในที่สุด… ก็ได้อยู่คนเดียวสักทีหรือเปล่าวะ เราเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง อย่างแรกต้องเข้าห้องตัวเองก่อนดีกว่า
"เอ่อ… ห้องเราอยู่ไหนนะ?" เราถามแบบระวังคำพูดที่สุด
แม่บ้านดูแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรให้มากความ เธอยิ้มบางๆ แล้วตอบเสียงนุ่ม "ชั้นสองค่ะ ห้องเดิมของคุณหนูเลย"
ไม่ชินจริงๆด้วยแหะมาเรียกเราคุณหนูเนี่ย แต่ชั่งเถอะยังไงก็ไม่ใช้ตัวเราจริงๆนี่เนอะ
เราสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป "ห้องแม่งกว้างเป็นบ้า" ภายในเป็นโทนสีครีมขาว ดูหรูหรามีระดับ เตียงขนาดคิงไซส์ตั้งอยู่กลางห้อง มีพรมหนานุ่ม มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และที่สำคัญ… มีโต๊ะเครื่องแป้งที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพงวางเรียงรายแล้วเราจะใช้เป็นมั้ยเนี่ย
เราเดินเข้าไปช้าๆ มองไปรอบๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง
"นี่เราเป็นคุณหนูจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย…" เราพึมพำ ก่อนพลิกตัวมองเพดาน "ชั่งมันก่อนวันนี้ไม่อยากคิดอะไรแล้ว" จริงสิเราทักไปรายงานไอเต้มันหน่อยดีกว่า
เราพลิกตัวคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอแล้วเลื่อนหาแชทของเต้ทันที
— [แชท: เต้] —
เรา : ไเต้กูมีเรื่องจะบอกว่ะ
เต้ : ก่อเรื่องอะไรอีกละมึง อย่าบอกนะว่ามีเรื่องที่โรงพยาบาล
เรา : ไม่ใช่เรื่องนั้นคืองี้นะ...บ้านกูเป็นคฤหาสน์ว่ะ!
เต้ : คฤหาสน์เลยหรอวะ มึงล้อเล่นปะเนี่ย
เรา: กูมาถึงบ้านแล้ว มันเป็นบ้านโคตรใหญ่ มีแม่บ้านเรียกกูว่า "คุณหนู" กูทำตัวไม่ถูกแล้ว! คราวนี้เต้เงียบไปนานกว่าปกติ จนเริ่มกระวนกระวาย ก่อนที่โทรศัพท์จะสั่นเพราะสายเรียกเข้า
[สายเข้า: เต้]
เรารีบกดรับทันที
"มึงว่าไงนะ!?" เต้ขึ้นเสียงมาแต่ไกล "บ้านมึงเป็นคฤหาสน์!? คุณหนู!?เรื่องจริงหรอวะ
"กูพูดจริง คิดว่ากูจะแต่งเรื่องมาหลอกมึงหรือไง" เราเถียงออกไปเสียงดังไม่แพ้กัน
เต้เงียบสายไปอยู่พักนึง ก่อนจะถอนหายใจ "โอเคๆ ใจเย็น มึงแน่ใจนะว่านี่บ้านมึงจริงๆ? ไม่ใช่ว่ามึงหลงเข้าไปบ้านใคร"
" ไม่ผิดแน่ก็เมเป็นคนพากูมาเอง แล้วแม่บ้านก็รู้จักกูด้วย"
"เชี่ยเกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นคุณหนูไปสะแล้ว นี่มันยิ่งกว่าอนิเมะที่กูดูอีกนะ" เต้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นมาก
"เออกูก็ไม่เชื่อเหมือนกัน...เหมือนฝันเลยว่ะ"
"งั้นมึงก็ตบหน้าตัวเองดูดิ" เต้พูดพร้อมกับขำออกมาเบาๆ"
"สัสไม่เอาเจ็บ หน้าสวยขนาดนี้กูจะตบลงได้ไง"
"แต่มึงต้องหาคำตอบให้ได้นะเว้ย ว่ามึงเป็นใครกันแน่"
"เออไว้วันอื่นละกัน ตอนนี้เหนื่อยมากขอนอนก่อนละกันแค่นี้นะ" พูดเสร็จก็กดวางสายเต้มันทันที ยังไม่ทันได้ฟังคำตอบจากอีกฝ่าย
เราทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ดวงตาเหม่อมองเพดานสีขาวสะอาดตา ภายในหัวเต็มไปด้วยคำถาม เราเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงมาอยู่ในร่างนี้? แล้ว "เจน" ตัวจริงล่ะ?
ไม่นานนัก เปลือกตาก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ความอ่อนล้าที่สะสมมาทั้งวันเริ่มถาโถมเข้าใส่ เราพยายามข่มใจไม่ให้หลับ แต่ร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่งและก่อนที่จะรู้ตัว โลกทั้งใบก็ดับวูบลง
ในความมืดมิดของห้วงนิทรา เรารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในที่แห่งหนึ่ง ที่ที่เงียบสงบอย่างน่าประหลาดทันใดนั้น เสียงบางอย่างก้ดังขึ้นมา
"ในที่สุดข้าก็ได้เจอเจ้าเสียที"
เสียงหนึ่งดังขึ้น เรารีบหันไปมอง แล้วต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดกิโมโนลายดอกไม้สีม่วงอ่อน นั่งไขว่ห้างอยู่บนโขดหิน ใบหน้านิ่งสงบแต่แฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือ… เธอมีหูแมวสีขาวคู่หนึ่ง และหางฟูๆ ที่แกว่งไปมาเบาๆ
" แกเป็นใคร" เราถามเสียงสั่น
หญิงสาวผู้นั้นยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเบาๆ "ข้า?หรอ พวกมนุษย์เรียกข้าว่า ‘เจ้าแม่นางแมว’ น่ะสิ"
ฉันขมวดคิ้ว "เจ้าแม่นางแมว…? อย่าบอกนะว่าเธอคือ..."
"เจ้าคงอยากรู้สินะ ว่าทำไมถึงมาอยู่ในร่างของ ‘เจน’ "
เราเบิกตากว้าง "งั้นแปลว่าทั้งหมดนี่… มันเป็นเพราะเธอ!?"
เจ้าแม่นางแมวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "เจ้าคิดว่าข้าจะให้คำตอบทั้งหมดแก่เจ้าเลยหรือ? จงไปหาคำตอบเอาเอง ทุกอย่างบนโลกย่อมมีเหตุผลของมัน
"ค้นหาความจริง… และทำตามหัวใจของเจ้าให้ดี"
"เดี๋ยว! หมายความว่ายังไง!?" แต่ก่อนที่เราจะคว้าเธอไว้ได้ เจ้าแม่นางแมวก็เพียงแค่ยิ้ม แล้วร่างของเธอก็ค่อยๆ จางหายไป ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะเบาๆที่ลอยอยู่ในอากาศ
ทุกอย่างเริ่มพร่ามัว… และเราก็ตื่นขึ้นมาในห้องของ "เจน" อีกครั้ง พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
"นี่มัน… เรื่องบ้าอะไรกันแน่…"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments