บทลงโทษ

...ตอนที่3...

ก๊อกๆ

เรายืนอยู่หน้าประตูบ้านของเต้ สูดลมหายใจลึกอยู่หลายครั้งก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูเบาๆไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ตามมาด้วยเสียงลูกบิดหมุนออก ประตูเปิดกว้างเผยให้เห็นใบหน้าของเต้เพื่อนรักของเรา

แต่สิงแรกที่มันทำคือการมองมาที่เราแล้วทำหน้าด้วยความงุนงง

" เอ่อใครอ่ะ?

ฉันชะงักไป ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย ไม่ทันได้เตรียมใจเจอปฏิกิริยาแบบนี้ 

"ไอเต้ นี่กูเอง! ฉันรีบพูด แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความร้อนรน

ยิ่งพูดไปแบบนี้เต้มันยิ่งทำหน้างงกว่าเดิมอีก

"กูไหน คุณเป็นใครครับแล้วรู้ชื่อผมได้ไง

หัวใจเรากระตุกวูบ ตอนนี้ถึงตระหนักได้ ว่า…ร่างที่เราอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ของเรา

เราได้แต่ยืนนิ่ง ตัวเย็นเฉียบไปหมด ไม่ใช่เพราะอากาศ แต่เป็นเพราะความจริงที่เพิ่งตระหนักได้เราไม่ได้อยู่ในร่างของตัวเองเราเริ่มกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะสูดหายใจเข้าแล้วพยายามควบคุมสติว่า ต้องทำอะไรสักอย่าง ต้องอธิบายให้เต้เข้าใจให้ได้

" ไอเต้ มึงฟังกูนะ เราพยายามที่จะพูดช้าๆให้อีกฝ่าย แต่เสียงของเราในตอนนี้มันชั่งแตกต่างจากเมื่อก่อนจริงๆ

"เดี๋ยวๆ หยุดก่อน" เต้ยกมือขึ้นราวกับจะบอกให้ฉันเงียบ ก่อนก้าวถอยหลังไป แล้วมองเราด้วยสายตาระแวง

"นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอเป็นใครกันแน่มาหาผมทำไม เราไม่ได้รู้จักกันนะ

เรากลืนน้ำลายลงคอ พยายามหาคำตอบที่ฟังดูเป็นเหตุเป็นผล แต่มันมีที่ไหนกัน…เหตุผลสำหรับเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้ใครมันจะไปเชื่อได้ง่ายๆ

"ไอเต้นี่กูเอง มาวินไงเพื่อนของมึง

"ว่าไงนะ   เต้ได้แต่กระพิบตากับคำพูดของเรา

"กูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอกูตื่นมาแล้วก็อยู่ในร่างคนอื่น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่ใคร แต่กูคือมาวินจริงๆ"

เต้จ้องหน้าเราแล้วนิ่งไปหลายวินาที สายตาเต็มไปด้วยความสับสน ขณะที่เราเองก็แทบจะหยุดหายใจ รอให้มันตอบอะไรสักอย่าง

"มุกใหม่หรอวะ คนสมัยนี้หากินกันง่ายเนอะ เลิกล้อเล่นได้แล้วก่อนที่ผมจะไล่คุณไป

"ไม่ใช่เต้!" เราเผลอขึ้นเสียงออกไป ตกใจกับความสิ้นหวังในใจตัวเองมากกว่าปฏิกิริยาของมัน 

"กูพูดจริง! มึงต้องเชื่อกู!" เราสูดหายใจลึก พยายามเรียบเรียงความคิดให้ดีที่สุด ก่อนจะมองเต้ตรงๆ แล้วพูดออกมา

"โอเค ถ้ามึงไม่เชื่อ เดี๋ยวกูจะพิสูจน์ให้มึงเข้าใจเอง"

"ยังไง  เต้ได้แต่ยืนกอดอกทำหน้าไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เราเม้มปากเล็กน้อย แต่ไม่นานก็นึกอะไรขึ้นมาได้ว่า จะต้องเล่าแต่เรื่องที่มีแค่เรากับเต้ที่รู้ ดีล่ะงั้นเอาเป็นเรื่องนี้ดีกว่า

"ครั้งแรกที่เรารู้จักกัน คือตอน ม.ต้น มึงเผลอเตะบอลไปโดนหัวอาจารย์พละ แล้วกูก็เป็นคนช่วยพามึงวิ่งออกไป จำได้ไหม?"

เต้ชะงักไปเล็กน้อย ในตาฉายแววลังเล แต่ยังไม่ตอบอะไร

เรารีบพูดต่อ "แล้วตอนปีใหม่ปีที่แล้ว มึงแอบเอาเหล้าไปซ่อนแฟนมึงไว้หลังตู้เย็นห้องกูเพราะกลัวว่าแฟนมึงจะด่า แต่สุดท้ายแฟนมึงก็จับได้"  

"แล้ววันก่อนมึงยังบอกให้กูไปขอพรกับเจ้าแม่นางแมวอยู่เลย

"เดี๋ยวนะ....เรื่องนี้...มัน   เต้เริ่มขมวดคิ้ว เหมือนกำลังคิดหนัก

เรามองไปที่เต้อย่างคาดหวัง "มึงจำได้แล้วใช่มั้ย เรื่องพวกนี้มีแค่เราสองคนที่รู้

ต้เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอามือกุมขมับ "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ เป็นไปได้ยังไง"

"ไม่รู้ดิพอกูตื่นมาก็อยู่ในร่างนี้แล้ว เราตอบกลับไปเบาๆ

เต้ยืนอึ้งไปอีกพัก ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง "เรื่องแบบนี้มันมีจริงๆ เหรอวะ…" แล้วมันก็มองเราใหม่อีกครั้ง แต่สีหน้าต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อย

"คือถ้ามึงคือ มาวินจริงๆอะ มึงต้องรีบหาทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมให้เร็วที่สุด

"นี่มึงยอมเชื่อกูแล้วหรอวะ

เต้ถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้า "เออ…แบบไม่อยากเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ"

หลายนาทีต่อมา

เต้เดินวนไปมารอบห้อง มือกอดอกแน่นเหมือนกำลังพยายามคิดหาทางออก ส่วนเราก็ได้แต่นั่งนิ่ง มองมันด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

"ไอเต้ มึงช่วยหยุดเดินไปเดินมาก่อนได้มั้ยวะ เวียนหัวจะตายห่าแล้ว

สุดท้ายเขาหยุดเดินแล้วหันมาหาฉัน "โอเค ก่อนอื่นเลย เราต้องหาว่าร่างที่มึงอยู่ตอนนี้เป็นใคร แล้วจะออกไปได้ไง"

"กูรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อเจนและเหมือนจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับผู้หญิงที่อยู่ห้องข้างๆกู

"ไอคนที่ซ้อมกีต้าร์เสียงดังจนมึงต้องมานอนห้องกุอะนะ เต้ถามออกมาด้วยความสงสัย

" เออคนนั้นแหละ

เรายังคงจมอยู่กับความกังวลว่าจะกลับร่างตัวเองได้ยังไง แต่จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของเต้จ้องมาอย่างนิ่งๆ

"อะไร?   เราขมวดคิ้วเล็กน้อย

เต้กระพริบตาปริบๆ เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าจ้องอยู่นานไปหน่อย มันยกมือขึ้นเกาหัว ทำหน้าเหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็ลังเลสุดท้ายมันก็พึมพำออกมาเบาๆ

"กูแค่...จะบอกว่า..ร่างนี้ดูโอเคเลยนะ

"หา..มึงพูดเหี้ยอะไรของมึง

เต้ทำเหมือนพูดไปงั้นๆ แต่สายตากับกวาดมองเราอีกรอบ "หมายถึง…ถ้ามึงต้องมาติดอยู่ในร่างใครสักคน อย่างน้อยก็โชคดีที่เป็นร่างนี้ ดูดีเลยนะเว้ย"

เราก้มลงมองตัวเอง นี่เป็นครั้งที่สอง ที่เราสังเกตร่างใหม่ดีๆ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ใบหน้าที่สะท้อนในกระจกข้างโต๊ะไม่ใช่ของเราจริงๆ มันเป็นของใครบางคนที่เราไม่รู้จักผิวเนียน ผมยาวสลวย ดวงตากลมโตแบบที่ฉันไม่เคยมีมาก่อน

เรารีบเงยหน้าขึ้น "เดี๋ยวนะ! นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญไหม!? มองเหี้ยอะไรหยุดยิ้มเลย"

เต้หัวเราะเบาๆ ยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ "โอเคๆ กูยอมก็ได้"

"เออนี่ไอเต้ กูมีเรื่องจะขอ

"อะไรวะ   เต้มองมาด้วยสีหน้าที่สงสัย

เราหันไปมองเต้ที่ยังยืนทำหน้าเครียดอยู่ ก่อนจะพูดออกไปตรงๆ

"คืนนี้กูนอนกับมึงด้วยนะ"

เต้สะดุ้ง หันขวับมามองเราทันที "หา!? เดี๋ยวๆๆ พูดใหม่ดิ กูได้ยินผิดหรือเปล่า!?"

"ไม่ผิด กูบอกว่าคืนนี้ขอนอนด้วย

เต้ทำหน้าเหมือนจะเป็นลม "เฮ้ย! นี่มันร่างผู้หญิงนะเว้ย! กูจะให้นอนห้องเดียวกันได้ไง!?"

ฉันกรอกตา ถอนหายใจแรง "กูคือกูเว้ย ถึงร่างจะเป็นผู้หญิงแต่ข้างในกูก็ยังเป็นกู"

เต้ยังทำหน้าลังเล "แต่แบบนี้มันไม่แปลกหรอวะ!?"

ฉันยกมือขึ้นกุมขมับ "เต้ กูไม่รู้จักใครในร่างนี้เลย ห้องกุก้กลับไม่ได้ กลับไปก็ไม่รู้ต้องเจอกับอะไร มึงจะปล่อยให้กูนอนไปแบบไม่รู้ชะตากรรมเหรอ?"

เต้อ้าปากเหมือนจะเถียง แต่ก็พูดไม่ออก สุดท้ายก็แค่นั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ "โอ๊ย! ให้ตายเหอะ ทำไมกูต้องมาเจอเรื่องแบบนี้วะเนี่ย"

เรารีบยิ้มแห้งๆ แล้วเดินไปหยิบหมอนจากเตียงมาวางที่พื้น "เอางี้ กูนอนพื้นก็ได้ มึงสบายใจได้"

เต้มองแบบปลงๆ ก่อนจะโบกมือ "เออๆ ตามใจเหอะ กูไม่อยากคิดอะไรแล้ว"

เช้าวันต่อมา...

เราค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวเพราะนอนบนพื้นทั้งคืน กำลังจะบิดขี้เกียจอยู่ดีๆ ก็รู้สึกถึงอะไรหนักๆ ทับอยู่บนตัว

"เฮ้ย!"

ฉันสะดุ้งตื่นเต็มตาแล้วพบว่าไอ้เต้กลิ้งลงมาจากเตียงมาทับฉัน!

"ไอ้เต้! ลุกออกไปนะโว๊ย 

เต้สะดุ้งตื่น หรี่ตาเบาๆ ก่อนจะทำหน้ามึน "อะไรวะ…ยังเช้าอยู่เลย…"

"เช้าพ่อง! มึงกลิ้งลงมาทับกู!"

เต้กระพริบตาปริบๆ มองสภาพตัวเองที่เกยอยู่บนตัวมาวิน ก่อนจะรีบถอยออกไปนั่งกุมหัว  เหี้ยลืมไปว่ามึงอยู่ในร่างผู้หญิง" 

"ไอสัส ตัวไม่ใช่เบาๆ ช้ำไปหมดแล้วมั้งเนี่ย

"เออๆ..โทษทีหว่ะกูลืมตัว" เต้ตอบมาด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด

เรากรอกตา "ช่างเรื่องร่างกูก่อนเถอะ มึงไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป!"

เต้พยักหน้าอย่างง่วงๆ ก่อนจะเดินเซๆ เข้าไปในห้องน้ำ เราถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองไปรอบห้อง รู้สึกเหมือนสมองยังไม่ตื่นเต็มที่

เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันหยิบขึ้นมาดูแล้วพบว่าเป็นข้อความจาก เม

"ตื่นรึยังคะคนเก่งของเม? วันนี้เมจะไปรับออกจากโรงพยาบาลนะ "

เราชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะนึกขึ้นได้… เมยังคิดว่าฉันอยู่ที่โรงพยาบาล!

เราจึงรีบพิมพ์กลับไปทันที

"ไม่ต้องหรอกเม...เดี๋ยวเรากลับเองได้

ไม่นานนัก เมก็พิมพ์ตอบกลับมาเร็วมาก

"ได้ยังไงคะ จะปล่อยให้เจนกลับคนเดียวได้ไงไม่ต้องตอบแล้วเดี๋ยวเมจะรีบไป รอเมอยู่เฉยๆก็พอค่ะ

เรากลืนน้ำลายเล็กน้อย สถานการณ์มันเริ่มยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

เราเงยหน้ามองเต้ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมา เช็ดหน้าตัวเองแบบง่วงๆ พอเห็นสีหน้ากังวลของเราก็ขมวดคิ้ว "มีอะไร?"

"เมจะมารับกูออกจากโรงพยาบาล แต่ปัญหาคือ…กูไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว"

เต้อึ้งไปสองวิ ก่อนจะถอนหายใจ "เออ จริงด้วย แล้วมึงจะเอาไงต่อ?"

เรากัดฟันแน่น ก่อนจะตัดสินใจลุกพรวดขึ้นทันที

"ไม่ได้แล้ว กูต้องกลับไปโรงพยาบาลก่อนที่เมจะไปถึง!"

เต้ทำหน้าเหวอ "หา!? แล้วมึงจะกลับไปทำไมวะ!?"

"กูไม่อยากมีปัญหาแล้วอีกอย่างกูต้องสืบตัวตนของผู้หญิงคนนี้ด้วย เผื่อจะมีวิธีกลบไปร่างเดิม

เต้ขมวดคิ้วล็กน้อยเหมือนอยากเถียง แต่สุดท้ายก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ "เออๆ ก็ได้ๆ เดี๋ยวกูไปกับมึง"

"เห้ยไม่ต้องกูไปเองดีกว่า มึงไปส่งกูขึ้นแท็กซี่ก้พอ"

ระหว่างที่รถแล่นไปโรงพยาบาล เราหยิบมือถือขึ้นมาดูแชทของเมอีกครั้ง โชคดีที่เธอยังไม่ถามอะไรมาอีก แต่เรารู้ดีว่าเธอต้องมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลแล้วแน่ๆ

ขอให้ไปถึงทันก่อนที่เรื่องมันจะแย่กว่านี้ทีเถอะ…

ไม่นานนัก รถแท็กซี่ก็มาจอดที่หน้าโรงพยาบาล เราจ่ายเงินแล้วรีบลงจากรถ สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด เดินไปได้ไม่นานหัวใจก็แทบจะหยุดเต้น

" ซวยแล้วเมอยู่ตรงนั้น ทำไมถึงไวขนาดนี้นะ " เราได้ที่แต่บ่นเบาๆออกไปกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน

เธอยืนคุยกับพยาบาล สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและสงสัย เรารีบถอยหลังไปหลบหลังเสา พยายามตั้งสติให้เร็วที่สุด

"พยาบาลต้องบอกแล้วแน่ว่าเราไม่ได้อยู่ที่ห้อง"

เราถอยหลังไปอีกนิด คิดหาทางว่าจะแก้สถานการณ์ยังไงดี สุดท้ายก็สูดหายใจลึกๆ ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์หาเมก่อน

"เมมาถึงหรือยังคะ"

เราแอบมองเมจากตรงนี้ เห็นเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ก แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป 

"เจนอยู่ไหน!? เราอยู่หน้าห้องพักเจน แต่พยาบาลบอกว่าเธอหายไป!"

เราเม้มปากแน้น คิดสิมาวินจะเอาไงต่อดีวะ สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินออกจากมุมที่หลบอยู่ ทำท่าทางให้ดูเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น แล้วเดินตรงไปหาเม

"เม มาถึงแล้วหรอ " เราตอบออกไปแบบเนียนๆทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมหันมาในทันที สีหน้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย "นี่มันอะไรกันเจน เธอหายไปไหนมา"

เราพยายามทำหน้าตกใจ "หายไป? เราไม่ได้หายไปไหนนะ เราแค่…ออกไปเดินเล่นข้างล่างเฉยๆ" จะเชื่อมั้ยวะ เหตผลพอจะฟังขึ้นหรือเปล่า

เมขมวดคิ้ว "เดินเล่น? แต่พยาบาลบอกว่าห้องเจนว่างเปล่ามาตั้งแต่เช้า แล้วก็ไม่ได้บอกใครเลย! เจนไปไหนมากันแน่"

เรากลืนน้ำลายอึกใหญ่"เอ่อ...พอดีว่าอากาศมันดีมากเจนเลยเดินเพลินไปหน่อย..ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง"

เมยังจ้องฉันด้วยสายตาสงสัย แต่สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

"เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ! รู้ไหมว่าเราห่วงแค่ไหน!"

เราพยักหน้ารัวๆ "ขอโทษจริงๆ เม เราไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้"

เมส่ายหน้า ก่อนจะดึงข้อมือฉันเบาๆ "กลับเข้าห้องก่อนเลย เดี๋ยวเราต้องคุยกัน"

เมลากเรากลับเข้าห้องแล้วปิดประตูดัง ปัง!

เราตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อมองไปยังคนตรงหน้า กับเห็นสีหน้าที่จริงจังไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายหงุดหงิดแค่ไหน

"เธอนี่มันจริงๆเลยนะเจน ออกไปไหนไม่บอกใครได้ยังไง!?"

"ก็...เราขอโทษนะ...แต่เราไม่ได้เป็นอะไรจริงๆนะ

เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดด้วยเสียงเย็นชา "งั้นเธอต้องโดนลงโทษ"

เราเบิกตากว้าง "หา!? ลงโทษอะไรเนี่ยล้อเล่นใช่มั้ย!?"

"เมดูเหมือนล้อเล่นเหรอ?"

เรากลืนน้ำลาย ฝืนหัวเราะแห้งๆ "เดี๋ยวนะเม… ลงโทษที่ว่าเนี่ยมันแบบไหนหรอ"

ไม่ทันขาดคำ เมก้าวเข้ามาประชิดตัว เรารีบถอยหลังหนี แต่ลืมไปว่าห้องมันเล็กแค่ไหน แผ่นหลังก็ชนเข้ากับกำแพงหัวใจเต้นแทบจะทะลุออกมา "มะ...เมใจเย็นก่อนสิ"

เมยกมือขึ้นมาเท้าไว้ข้างตัวเรา ดวงตาของเธอฉายแววเจ้าเล่ห์ "เธอทำให้ฉันเป็นห่วงมากเลยนะเจน… แบบนี้คงต้องโดนลงโทษหนักหน่อย"

เราได้แต่กำมือแน่น พยายามหาคำพูดมาห้าม แต่ไม่ทันแล้ว… เมโน้มตัวลงมาใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ ริมฝีปากของเธอแนบลงมาบนริมฝีปากเราอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกดหนักขึ้นเล็กน้อย

เราเบิกตากว้าง สมองหยุดประมวลผลไปชั่วขณะ หัวใจเต้นโครมครามจนแทบหลุดออกมา

"นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!!"

เมผละออกไปเล็กน้อย มองเราด้วยสายตาพอใจ ก่อนจะยิ้มมุมปาก "จำไว้ ถ้าเจนทำให้เมเป็นห่วงอีก คราวหน้าจะหนักกว่านี้แน่"

เราทำได้แต่ยืนอึ้งเพราะตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกแล้วเลยเอ่ยปากพูดไปแบบเสียงสั่น "เม..."

แต่เมแค่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินถอยออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นปล่อยให้เรายืนตัวแข็งอยู่ตรงนั้น ในขณะที่หัวใจเต้นแรงเหมือนจะระเบิดออกมา…

เป็นบ้าอะไรของมึงวะมาวิน มึงกำลังหวั่นไหวงั้นหรอ สติหน่อยดินี่ไม่ใช่ร่างกายของแกนะ นี่คือสิ่งที่ตีอยุ่ในหัวเราอยู่ตอนนี้....

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!