Chapter 1 ( 2 )
แต่ปรากฏว่ามันก็ยังคุยโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
ทำเหมือนผมกับไอเดียเป็นแค่อากาศที่ไร้ตัวตน
ผมรีบแนะนำไอ้ติณอีกคนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
เพราะว่าเห็นเธอกำลังมองไปที่มันเหมือนที่ผมกำลังมอง
คิดดูเถอะว่ามีสายตาสองคู่จ้องมันอยู่
อย่างน้อยมันก็น่าจะรู้ตัวบ้างนะว่ายังมีผมกับไอเดียยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้
มันควรจะรักษามารยาทด้วยการวางโทรศัพท์หรือไม่ก็เดินไปคุยไกลๆ แต่มันก็ยังเลือกจะยืนอยู่ตรงนี้เหมือนตั้งใจ
คิม
ลองเปิดดูกระเป๋าสิว่ามีอะไรข้างในหายไปรึเปล่า
ผมแนะนำออกไปเมื่อไอเดียยังเอาแต่ยืนยิ้ม
ซึ่งพอพูดจบเธอก็รีบทำตามคำแนะนำของผมทันที
แต่คงไม่มีอะไรหายหรอกมั้งไอ้โจรบ้านั่นยังไม่ทันจะเปิดกระเป๋าเธอด้วยซ้ำ
ไอเดีย
ไม่งั้นฉันต้องไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอมแน่ๆ
ผมว่าผมเริ่มเกลียดไอ้ติณแล้วหละ
อยากจะยกเท้าถีบมันไปไกลๆ ซะด้วยซ้ำ
อยู่ๆ มันจะพูดเสียงดังขึ้นมาทำไม
ไอเดีย
แต่ว่าถ้าฉันคงต้องกลับก่อน
ไอเดีย
ถ้าฉันอยากจะขอเบอร์นายไว้จะได้รึเปล่า
มันจะดีเหรอวะ? ( ผมแอบถามตัวเองเบาๆ ) เหล่มองไอ้ติณนิดหน่อยเพื่อขอความคิดเห็น
สลับกับการมองโทรศัพท์มือถือที่ไอเดียส่งมาให้ผมเพื่อให้ผมกดเบิร์ของตัวเอง
จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากจะถามความเห็นของไอ้ติณหรอกนะ
แต่อย่างน้อยสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียว
แต่ว่าไอ้ติณมันไม่มองผมเลยสักนิดนี่สิ
ไอเดีย
ถ้านายไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ
ไอเดีย
เผื่อว่ามีโอกาสที่ฉันอาจจะได้ตอบแทนนายน่ะ
ผมตอบตะกุกตะกักอีกรอบแล้วรับโทรศัพท์มือถือของไอเดียมากดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงไป
พอรู้สึกว่าโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น
ผมก็กดวางสายแล้วส่งมันคืนให้เธอไปตามมารยาท
ผมตอบงงๆ ทั้งที่ยังงงๆ เพราะว่ายังงงๆ นั่นแหละ
ไอเดียโบกมือลาผมก่อนจะหันไปส่งยิ้มลาไอ้ติณอีกคนโดยไม่พูดอะไรเพราะไอ้ติณยังคงเอาจริงเอาจังกับดารคุยโทรศัพท์
ผมยืนยิ้มให้เธอกระทั่งเธอเดินลับสายตาไปตรงมุมตึก
พอหันกลับมาอีกทึก็เห็นว่าไอ้ติณวางสายโทรศัพท์ข้ามชาติของมันได้สักที
พูดกันไม่ถึงห้าประโยคไม่มีประโยคไหนที่บ่งบอกว่าคนอย่างมันจะเป็นมิตรที่ดีเลยสักประโยคเดียว
ไอ้ติณพูดพลางเหล่สายตามองไปทางที่ไอเดียเพิ่งจะเดินกลับออกไป
ถามแบบนี้ผมว่ามันนั่นแหละที่หน้าม่อเพราะผมยังไม่ทันจะคิดอะไรกับเธอเลยด้วยซ้ำไป
คิม
เราถึงได้บอกว่านายเพ้อเจ้อไง
ผมบอกฉุนๆๆ ก่อนจะหันหลังใหัไอ้ติณเพราะไม่อยากคุยกับมันเรื่องไร้สาระ
จริงๆ ผมยอมรับนะว่าไอเดียเป็นผู้หญิงสวย
ขนาดมองเห็นไกลๆ ความสวยของเธอยังทำให้ผมวิ่งตามไอ้โจรกระจอกนั่นมาโดยไม่คิดหน้าคิดหลังเลย
เมื่อกี้นี้ที่ยอมให้เบอร์เธอไปก็แค่ไม่อยากเสียมารยาท
อีกอย่างกลัวเธอจะเสียหน้าด้วย
ดีไม่ดีเธออาจจะคิดว่าผมหยิ่งก็ได้
แต่ดูไอ้ห่าติณมันคิดวันๆ ในสมองมันเคยคิดเรื่องดีๆ บ้างมั้ยเนี่ย
ชาติที่แล้วมันคงตายคาคู่มือการใช้ภาษาพ่อขุนรามคำแหงสินะ
มันถึงได้พูดคำด่าคำตลอดเวลา
ติณ
ตกลงมึงจะไม่จีบไอเดียจริงๆ เหรอ
ติณ
กูว่าผู้หญิงเขาอ่อยมึงแล้วนะ
คิม
เราว่านายคิดมากไปแล้วหละ
ผมตอบเบื่อๆ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผมต้องมาเสียเวลาตอบคำถามมากมายของไอ้ติณทั้งๆ ที่ผมง่วงมาก
อยากจะกลับห้องไปนอน ( รับเงินเดือน ) ใจจะขาด
คิม
นายจะรู้ได้ยังไงในเมื่อๆ กี้นายคุยแต่โทรศัพท์
คิม
นายยังไม่ทันจะได้มองหน้าไอเดียเลยด้วยซ้ำ
ติณ
กูบอกว่ากูรู้ก็รู้สิวะ
ไอ้ติณยังคงพยายามเถียงด้วยใบหน้าจริงจัง
ติณ
ผู้หญิงอ่อยขนาดนี้แล้วไม่เอานี่โง่มากเลยนะมึง
คิม
ถ้านายฉลาดนายก็เอาไปสิ
คิม
ไม่ต้องมายัดเยียดให้เรา
ติณ
นี่มึงแดกหนังสือสมบัติผู้ดีแทนข้าวเย็นรึไง
แถมมันยังเดินมาดักหน้าผผมและปลักไหล่ผมให้ถอยหลังกลับมายืนที่เดิมเหมือนอยากจะหาเรื่องผมเพราะว่าผมพยายามจะเดินหนีมัน
คิม
เกิดในสมัยพ่อขุนรามฯเหรอ
ติณ
ก็มึงกับกูเพื่อนกันไม่ใช่รึไง
คิม
เป็นเพื่อนกันยิ่งต้องเกรงใจสิ
คิม
ไม่ใช่คำก็เหี้ยสองคำก็สัตว์
ติณ
หรือถ้ากูจะเป็นเพื่อนมึงกูต้องนุ่งโจรกระเบนแล้วคลานเข่าเลยมั้ยไอ้เหี้ย!
ผมล่ะเบื่อจะอธิบายกับมันจริงๆ แต่จะเดินหนีมันก็ยืนขวางซะเต็มปากซอยเลย
คิม
เราก็แค่ไม่ชอบให้พูดคำด่าคำ
ไอ้ห่านี่จะกวนประสาทผมทำไมวะ...ครับ
ติณ
ตกลงคิมจะเอาไอเดียมั้ย
ผมว่าผมเริ่มรำคาญมันแล้วหละ
อีกอย่างยิ่งฟังมันพูดเพราะผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนมันกำลังจะทำใหห้ภาษาไทยวิบัติชอบกล
คิม
นายพูดปกติตามสันดานก็แล้วกัน
แล้วผมก็พยายามจะพูดคำด่าคำแบบมันบ้าง
กระดากปากนิดหน่อยแต่มันคงเข้าใจแหละ
ติณ
นานๆ เราๆ ลิ้นกูจะพันกันตาย
ไม่เคยคิดเลยว่าการพูดจาสุภาพมันจะเป็นเรื่องยากขนาดนั้นแต่ผมว่าผมเข้าใจนะ
เพราะถ้าให้ผมพูดคำด่าคำแบบมันผมก็ทำได้ไม่ดีเหมือนมันหรอก
ติณ
มึงไม่เสียดายของบ้างเหรอวะ
ติณ
ดูจากสายตาแล้วกูว่าไอเดียคงประทับใจมึงนะ
ไอ้ติณพูดพลางเอื้อมมือมาตบบ่าผมราวกับว่าเราสนิทสนมกันมานานสามชาติกว่า
คิม
เราว่าน่าจะเป็นเพราะไอเดียเข้าใจผิดเรื่องกระเป๋ามากกว่า
คิม
ถามมากขนาดนี้นายชอบไอเดียเหรอ
คิม
ถ้าชอบไอเดียแล้วเมื่อกี้นายแกล้งไม่สนใจเธอทำไมๆ ไม่บอกเธอไปว่าจริงๆ แล้วนายเป็นคนแย่วกระเป๋าเธอจากไอ้โจรนั่นคืนมาได้
แต่ไอ้ติณกลับรีบส่ายหัวปฏิเสธ
คิม
ไม่เคยรู้เลยว่านายมีคุณสมบัตินั้น
คิม
อีกอย่างไม่เสียดายของเหรอ
ติณ
กูเลือกมีมารยาทกับบางคน
ติณ
อีกอย่างเรื่องเสียดายของใช้ไม่ได้กับคนอย่างกู
ติณ
รับรองว่ามึงไม่ได้แดกหรอกกูบอกเลย
ไอ้ติณพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจแล้วมองผมด้วยสายตาเย้ยๆ จนปมเริ่มจะหมั่นไส้
อะไรมันจะมั่นหน้าเบอร์นั้น
ติณ
ดึกดื่นแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านไปกินนมนอน
เป็นอันว่าเปลี่ยนประเด็นสนทนาได้สักที
ผมย้อนถามเซ็งๆ จริงๆ คือตั้งใจจะไม่ตอบคำถามมัน
ดูก็รู้ว่ามันตั้งใจด่าว่าผมเป็นเด็กหน่อมแน้ม
ไอ้ติณตอบกลับมาตรงๆ แต่สายตาบ่งบอกว่านมมันกับนมผมน่าจะคนละความหมาย
เป็นอันว่าผมจะไม่เถียงกับมันเรื่องต่ำๆ ( กว่าใต้สะดือ ) อีกก็แล้วกันเพราะว่าผมคงสู้ความหยาบคายและหยาบดระด้างของมันไม่ได้หรอก
ผมถอนหายใจเซ็งๆ เพราะไม่อยากจะใส่ใจอะไรกับไอ้ติณมากนักตั้งแต่คุยกับมันมา
ผมไม่เห็นทีท่าว่ามันจะจริงจังกับเรื่องอะไรที่พูดออกมาสักเรื่องเลย
แล้วนี่ผมเดิรออกมาจากซอยพร้อมไอ้ติณมาได้ยังไง
มารู้ตัวอีกทีผมกับมันก็เดินย้อนกลับมาเกือบจะถึงจุดที่โดนไอ้โจรกระจอกนั่นวิ่งชนเมื่อกี้นี้แล่ว
ติณ
เออดีไม่เปลืองน้ำมันกู
ไอ้ติณพูดพลางไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปที่รถของมัน
ซึ่งก็คือรถคันที่ผมโดนไอ้โจรนั่นชนจนล้มไปชนนั่นแหละแต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่คนอย่างมันจะขับรถหรูๆ ดูจากรูปร่างหน้าตาและการใช้ชีวิตของมันแล้ว
มันก็คงจะเป็นลูกคุณหนูที่ถูกสปอยด้วยเงินมาตั้งแต่เด็ก
ผมแยกกับไอ้ติณแล้วหมุนตัวเดินย้อนกลับอีกทาง
เมื่อกี้นี้ผมมัวแต่คุยกับไอ้ติณเพลินไปหน่อยก็เลยเดินเลยซอยน่ะ
เพราะทางเข้าอพาร์ตเม้นต์ของผมมันอยู่เลยจากร้านไปแค่สองซอย
แต่เมื่อกี้นี้วิ่งไล่ไอ้โจรนั่นเลยไปหลายซอยก็เลยต้องเดินย้อนกลับมา
สรุปก็คือผมเดินย้อนไปย้อนมาอยู่แค่นี้เอง
ผมได้ยินเสียงอะไรสักอย่างถูกลากไปกับพื้น
เสียงของมันดังมากและดังยาวไปเรื่อยๆ จนผมต้องละสายตาจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังเมมเบอร์ไอเดียไว้ขึ้นไปมอง
แต่สิ่งที่ผมเห็นมันไม่ชัดนัก
เพราะจากจุดที่ผมมองเห็นมันค่อนข้างมืดเหมือนว่าผมจะเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินสวนผมไป
แต่จากระยะห่างของเราทำให้ผมเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดสักเท่าไหร่
รู้แต่ว่าในมือของผู้ชายคนนั้นมีอะไรสักอย่างที่เขาลากมันไปกับพื้นจนเกิดเสียงดังน่ารำคาญ
ผมมองตามแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้นไปเรื่อยๆ ด้วยความแปลกใจกระทั่งผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปใกล้แสงสว่างขอวไฟส่องสว่างบริเวธเสาไฟมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใกล้
ผมก็ยิ่งเห็นใบหน้าของเขาชัดขึ้น
ยิ่งเห็นชัดขึ้นผมก็ยิ่งรู้สึกคุ้นกระทั่งสังเกตเห็นว่าผู้ชายคนนั้นกำลังเดินตรงไปที่ไอ้ติณ
ที่ยังยืนคุยโทรศัพท๋อยู่ข้างตัวรถ
ทั้งๆ ที่มันเปิดประตูรถแล้วแต่ยังไม่ยอมเข้าไปนั่งในรถ
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมมองย้อนกลับมาที่ผู้ขายคนนั้นอีกครั้ง
และภาพใบหน้าของผู้ชายคนนั้นก็ชัดเจนขึ้นเมื่อเขาเดินผ่านเสาไฟตรงนั้นพอดีและมันก็คือไอ้โจรกระจอกคนเมื่อกี้นี้
แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าการได้เจอมันอีกครั้งก็คือมันกลับมาพร้อมกับไม้หน้าสามท่อนยาวหนึ่งช่วงแขนในมือ
แล้วผมก็ตัดสินใจตะโกนเรียกไอ้ติณแล้วร้องบอกออกไป
ไอ้ติณตวัดสายตาขุ่นๆ มองกลับมามองผม
แต่ว่าดวงตาคู่นั้นของมันก็ถึงกับเบิกโพลงขึ้นทันทีเมื่อหันมาเห็นไม้หน้าสามท่อนนั้นก่อนจะได้เห็นหน้าผม
เสียงกระจกรถของไอ้ติณแตกเพราะถูกไม้หน้าสามท่อนนั้นฟาดเข้าให้อย่างจัง
โชคดีที่ไอ้ติณหมอบหลบได้ทันเวลาก่อนที่มันจะรีบวิ่งออกมาตั้งหลักห่างจากนายคนนั้นออกมาแค่ไม่กี่ก้าวผมเห็นกับตาว้าไม้ท่อนนั้นหักเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย
ไอ้โจรนั่นก็ยังไม่ถเดใจเพราะว่าผมเห็นมันเตรียมเงื้อไม้หน้าสาม ( ที่หักครึ่งไปแล้ว ) ในมือขึ้นกลางอากาศอีกรอบ
ดูจากสายตาโกรธแค้นของมันแล้วเหมือนว่ามันจะไม่ยอิมเลิกราง่ายๆ แต่ว่าครั้งนี้มันไม่ทันจะได้ฟาดลงมาก็โดนไอ้ติณยกเท้าถีบสวนเข้าไปเต็มๆ กลางลำตัวของมันซะก่อน
ติณ
กูเตือนแล้วนะว่าอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก
ผมได้ยินไอ้ติณตวาดเสียงดังลั่น
ก่อนที่มันจะเดินตรงเข้าไปเอาเรื่องไอ้โจรนั่นที่กำลังยืนจุกอยู่อย่าบไม่เว้นช่วงให้ไอ้โจรนั่นได้ตั้งหลักเสียงหนักแน้รของฝีเท้าไอ้ติณดังขึ้นเมื่อมันเตะซ้ำเข้าไปที่กลางลำตัวของไอ้โจรนั่นทั้งที่ยังนอนคู้ตัวอยู่กับพื้นจนผมเริ่มรู้สึกสงสาร
ผมแค่กลัวไอ้ติณกลายเป็นฆาตกรต่างหาก
ติณ
อย่าอยู่มห้รกโลกเลยมึง
ผมรีบเข้าไปห้ามพร้อมกับพยายามจะดึงไอ้ติณออกมา
แต่ไอ้ติณกลับผลักผมออกมาแล้วมองผมด้วยดวงตาของวาวโรจน์ฉายแววความโกรธออกมาเต็มๆ
คิม
แต่นายจะฆ่าคนค่นไม่ได้
คิม
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไปสอ
แต่วินาทีที่ผมกำลังยืนเถียงกับมันอยู่
ผมกลับเห็นหน้าของใครบางึนแทรกเข้ามา
วินาทีนั้นสิ่งเดียวที่ผมคิดออกตอนที่ได้สบตากับไอ้โจรกระจอกนั่นที่ลุกขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้คือการกระชากไอ้ติณออกมาแล้วกระโดดถีบไอ้โจรนั่นออกไป
ผมไม่ได้ตั้งใจจะกระโดดถีบมันทั้งสองขาคู่หรอกนะ
แล้วผมก็ส่งหมัดหลุนๆ ตามออกไปสุดแรง
เสียงดังแน่นๆ ยืนยันว่าผมชกไม่พลาดเป้าแน่นอนแต่ว่าผมยังไม่ทันจะได้ชื่นชมผลงานของตัวเองก็โดนไอ้ติณกระชากถอยกลับมาซะก่อน
ผมแค่เคยเรียนวิชาป้องกันตัวมาบ้างก็เลยพอจะรู้เทคนิคการต่อสู้แต่นั่นไม่ได้แปลว่าผมเก่งหรอก
เพราะถ้าไอ้เวรนั่นตั้งหลักได้แล้วกลับมาเอาคืนอีกรอบ
ผมเองก็คงสู้ไม่ไหวเหมือนกัน
ติณ
แต่มันถือไม้หน้าสามมาจะฟาดหัวกูนะ
ไอ้ติณหันมาพูดแล้วทำหน้าเซ็ง
ผมได้แต่พยักหน้าเออออกับมันไปแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ก่อนจะรีบโทรแจ้งตำรวจซึ่งทุกอย่างก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน
สมกับที่มีหน้าที่การบริการประชาชร
แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ผมก้มหน้าลงเพื่อจะเก็บโทรศัพท์
ผมก็เห็นบางอย่างสะท้อนออกมาจากกระจกรถของไอ้ติณที่จอดอยู่ตรงหน้า
ตามมาด้วยเสียงกระจกรถของไอ้ติณแตกไปอีกหนึ่งบาน
เสียงทุ้มต่ำด้วยแรงอาฆาตดังมาจากทางด้านหลัง
แต่ว่าผมยังไม่ทันจะได้หันไปมองเพราะว่าถูกไอ้ติณกระชากออกมาจากจุดที่ยืนอยู่เมื่อกี้นี้ซะก่อน
ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าก่อนหน้านี้ไอ้ติณมันทำอะไรอยู่กรอว่ามันยืนอยู่ตรงไหน
Comments