บทนำ
เสียงฝีเท้าหนักแน่นของผมกระทบลงกับพื้นหินอ่อนอย่างต่อเนื่องเพราะความเร่งรีบ
เมื่อเช้าวันใหม่ที่ควรจะสดใสของผมกำลังจะกลายเป็นเช้าอันน่าเศร้าสลด
เพราะว่าเปิดเทอมวันแรกก็เหมือนกับว่าผมจะมาสาย
ผมว่าผมต้องสายแน่ๆ แล้วหละ
เพราะว่าป่านนี้แล้วผมยังไม่ถึงห้องเรียนเลย
และเสียงที่ตามมาก็คือเสียงจากฝ่ามือของผมเอง
ผมก็แค่ผลักประตูเข้าไปในห้องเรียน
ผมรีบยกมือขึ้นแล้วขานรับเสียงดังเมื่ออาจารย์ขานชื่อผมเพื่อเช็คชื่อพอดี
อาจารย์หันมามองผมด้วยหางตานิดหน่อนก่อนจะส่ายหัวไปมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าผมส่งยิ้มอย่างเจี๋ยมเจี้ยมไปให้จากนั้นผมก็รีบชิงเดินเข้ามาในห้องโดยก้มหลังอย่างนอบน้อมตอนที่เดินผ่านเธอเข้ามา
แอบดีใจเบาๆ ที่อย่างน้อยผมก็แค่เกือบสาย
เช็คชื่อทันพอดีก็ยังถือว่าไม่สายนั่นแหละน่า
อาจารย์
ถ้าคุณคิมหันต์เลขที่หนึ่ง
อาจารย์ป้าหน้าเหี่ยวพูดขึ้นพลางขยับแว่นสายตาเลนส์หนากรอบสีทองบางเฉียบขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง
ซึ่งพอผมพูดจบผมก็ได้ยินเสียงเพื่อนทุกคนในห้องแอบฮือฮากันเบาๆ มีบ้างที่แอบหัวเราะกันคิกคักๆ แต่สุดท้ายทั้งห้องก็ต้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
เมื่อมีฝุ่นละอองปลิวเข้ารูจมูกของอาจารย์แล้วลื่นไหลไปที่หลอดลม
จนอาจารย์รู้สึกระคายเคืองคอเป็นเหตุให้ไอค่อกแค่ก
ผมรีบยกมือไหวอาจารย์ทันทีพร้อมกับลอบถอนหายใจ
ก่อนจะพุ่งตัวตรงไปที่บันไดสโลปแล้วรีบกวาดสายตาเพื่อมองหาที่นั่ง
ผมก็แค่ต้องเลือกและมองหาทำเลทองเหมะๆ ในการหลบสายตาของอาจารย์ป้า
ที่ใครๆ ต่างก็เล่าขานและขนานนามกันว่าเวลาตัดเกรด
เธอจะโหลสัสรัสเซียมากกว่าเวลาสอน
ซึ่งเมื่อมองเห็นทำเลที่โดนใจแล้ว
ผมก็รีบสืบเท้าตรงไปที่ชั้นสามมุมห้องฝั่งซ้ายมือของอาจารย์ทันที
แอบถอนหายใจยาวๆ อีกรอบเมื่อทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
ก้มหน้าลงเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสมุดเลคเซอร์กับปากกาขึ้นมาเตรียมความพร้อมรออาจารย์เพราะว่าตอนนี้อาจารย์กำลังเช็คชื่อเพื่อนๆ คนอื่นไปเรื่อยๆ ตามลำดับเลขที่
เสียงเข้มขานรับพร้อมกับเจ้าตัวที่เพิ่งจะโผล่พ้นมาจากด้านหลังประตูที่ถูกผลักเข้ามา
ทุกคนในห้องรีบหันไปมองหน้าตาเพื่อนผู้มาใหม่
และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะว่าเสียงผลักประตูเข้ามาอย่างรีบร้อน
นั่นทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งห้องไปโดยปริยาย
ร่างสูงยืดลำตัวขึ้นตรงเต็มความสูง
ที่สูงจนสะกดทุกสายตาได้อยู่หมัด
ผมแอบประเมิณด้วยสายตาแล้วนานคนนั้นน่าจะสูงราวๆ ร้อยแปดสิบห้าใบหน้าขาวสะอาดจนทำให้เครื่องหน้าทุกอย่างโดยรวมดูลงตัวไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากสีแดงสดราวกับผลเชอร์รี่
จมูกโด่งเป็นสันเหมือนจะเป็นลูกครึ่งแต่ติดตรงที่เขามีเส้นผมสีดำขลับที่บ่งบอกถึงความเป็นชายไทยแท้ๆ ที่ยิ่งขับสีผิวของเขาให้ขาวเด่นมีออร่ายิ่งกว่าเดิม
หล่อวัวตายสาววายตะลึง ( กันทั้งห้องไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ ) จะมีติหน่อยก็ตรงท่าทางที่ดูกวนๆ และแววตาที่คมเข้มแข็งกร้าว
เขาไม่ใช่คนที่หงอยอมใครง่ายๆ
ติณ
แต่ผมดูเวลาแล้วว่าผมไม่สายครับ
ติณ
ผมได้ยินอาจารย์เรียกชื่อผมพอดีตอนก้าวเท้าเข้ามา
ร่างสูงพยายามอธิบาย ( เถียง ) ข้างๆ คูๆ
ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ผมหรอกทีากำลังตกตะลึงในความใจกล้าของนายคนนั้น
ที่กล้าต่อปากต่อคำกับอาจารย์ที่คนทั้งคณะไม่กล้าแม้แต่จะสบตาตอนเดินผ่าน
ผมได้แต่นั่งมองตามร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาในห้องด้วยความมั่นหน้า
แอบสงสัยว่าไอ้หมอนี่ไปเอาความกล้ามาจากไหนที่ถึงได้เถียงอาจารย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด ( ตอนตัดเกรด ) คอยดูเถอะ
ถ้าอาจารย์ประทับใจจนจำชื่อมันได้ขึ้นมา
ผมว่าเกรดคงออกมาไม่น่าประทับใจสักเท่าใหร่
อาจารย์
ครั้งนี้ฉันจะอะลุ่มอล่วยให้ก็แล้วกัน
อาจารย์
แต่ถ้าครั้งหน้าคุณโผล่หน้ามาหลังจากที่ฉันขานชื่อคุณแม้แต่วินาทีเดียว
อาจารย์ป้าสรุปสั้นๆ ก่อนจะชักสีหน้าใส่นายคนนั้นแรงๆ จนผมยังเสียวสันหลังแทน
นายคนนั้นขอบคุณอาจารย์ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเหมือนเดิม
ใบหน้าเรียบเฉยราวกับว่าไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับคำเตือนปนประชดของอาจารย์เลยสักนิด
ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในห้อวแล้วสอดส่ายสายตามองหาที่นั่งเหมือนกับผมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
หลังจากที่นายคนนั้นเดินเข้ามา
อาจารย์ก็ยังคงเรียกชื่อเพื่อนคนอื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ ตามลำดับของเลขที่ในการลงทะเบียนรายวิชานี้
แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้ความสนใจของนักศึกษาครึ่งค่อนห้องกำลังพุ่งไปที่ร่างสูงที่ยังคงยืนอยู่ด้านล่าง
ห่างจากจุดที่อาจารย์ยืนอยู่ประมาณสองก้าว
เพราะว่ามันยังคงกวาดสายตามองหาที่นั่งอยู่
แต่แล้วอยู่ๆ สายตาคมเข้มคู่นั้นก็มองมาทางผม
อย่าบอกนะว่าหมอนั่นจะมานั่งข้างผมน่ะ
เดี๋ยวก็พาผมซวยไปด้วยหรอก
ด้วยออร่าเจิดจรัสนั่นคงทำผมหมองไปมากโข
แล้วก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้
เพราะว่านายคนนั้นเดินดุ่มๆ ตรงมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ผมจริงๆ แบบไม่สำรวจความยินดีต้อนรัยหรือเปล่าของผมซักนิด
แถมยังนั่งลงซะแรงจนเก้าอี้ของผมสั่นไปด้วย
ผมได้ยินไอ้คนข้างๆ บ่นพึมพำก่อรที่จะยกเท้าขึ้นมาไขว่ห้างอย่างไร้มารยาท
แต่ว่าผมก็ทำได้แค่มองหมอนั่นอย่างติหนินั่นแหละ
เรื่องของมารยาททางสังคมมันสอนกันไม่ได้หรอก
แล้วผมก็ได้ยินเสียงนกเสียงกาดังมาจากข้างๆ
แล้วเสียงนกเสียงก็ดังขึ้นสองระดับ
แต่ทำเอาผมต้องลอบกลืนน้ำลายเพราะว่าเสียงของไอ้หมอนั่น
ทำให้อาจารย์ทีายืนอยู่กลางห้องถึงกับช้อนตามองมาที่เรา
และที่สำคัญเลยคือไอ้หมอนั่นพูดห้วนกับผม
ทั้งที่เราเพิ่งจะเคยเจอหน้ากันครั้งแรก
แถมยังใช้เท้าข้างที่ยกไขว่ห้างสะกิดผมแรงๆ
แอบขีดเส้นไต้ว่ารองเท้าผ้าใบดำมาก
ต่างจากหน้าตาของมันที่ดูดีและน่าจะเป็นผู้ชายรักสะอาด
เพราะถ้าผมยังคงทำเป็นไม่สนใจดีไม่ดีมันอาจจะกระทืบเท้าผมก็ได้
และเมื่อแนะนำตัวจบผมก็ผมแอบชำเลืองหางตามองไอ้หมอนั่นอย่สงตำหนิอีกครั้ง
แต่ว่าสายตาคู่นั้นกลับไม่ได้มองมาที่ผมสักนิดเพราะว่ากำลังมองไปด้านหน้า
ทำเป็นนั่งหน้านิ่งไปเนียนๆ เหมือนจะรู้ตัวว่าเราสองคนกำลังถูกอาจารย์เพ่งเล็งอยู่
ติณ
อยากลองกินมั้ยล่ะตีนน่ะ
ไอ้หมอนั่นหันมากัดฟันพูดกับผม
แถมยังมองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าใหร่
ซึ่งผมเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นมิตรกับคนพันธุ์นี้สักหน่อย
ผมไหวไหล่เล็กน้อยเพราะตั้งใจจะกวนประสาทหมอนั่นตั้งแต่แรก
มีอย่างที่ไหนมาชวนผมคุยทั้งที่ตัวเองโดนหมายหัวอยู่ล่ะ
ดูจากสายตาของอาจารย์ผมก็รู้ว่ามันต้องลำบากแน่ๆ อีกอย่างคือเราไม่ได้สนิทกันถึงขนาดจะมาพูดมึงกูใส่กันได้ด้วยและที่สำคัญที่สุดเลยก็คือผมตั้งใจจะนั่งตรงนี้เพราะอยากจะนั่งเรียนคนเดียว
แต่ไอ้บ้านี่มันดันดึงความสนใจของทุกคนมาที่เราหมดเลย
ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ที่ยังคงมองมาเป็นระยะๆ ตั้งแต่มันเดินมานั่งลงเนี่ย
ติณ
เพิ่งโดนไล่ออกจากมหา'ลัยเก่าเมื่ออาทิตย์ก่อน
ติณ
มึงไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมกูถึงโดนไล่ออก
รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่อยากจะพูดด้วยมันก็ยังพล่ามอยู่ได้
นี่ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าผมอยากรู้เรื่องของมัน
มันยังคงใช้เท้าสะกิดผมเป็นระยะๆ เพราะตั้งแต่แนะนำตัวเสร็จผมก็ยังไม่ได้หันไปพูดกับมันอีกเลย
แล้วอยู่ๆ เสียงอาจารย์ก็ดังขึ้นจนผมสะดุ้งตกใจ
หลังจากที่เมื่อกี้นี้ผมกำลังจะหันไปบอกให้ไอ้ติณหุบปากและเก็บตีนเสียที
อาจารย์พูดแล้วมองหน้าผมแบบนั้นหมายความว่ายังไง
อาจารย์
เชิญออกนอกห้องเรียนค่ะ
อาจารย์
แล้วเจอกันครั้งหน้า
ติณ
เพราะนายคนเดียวทำให้ฉัรโดนไล่ออกจากคลาส
ติณ
อุตส่าห์ตั้งใจมาเรียนแท้ๆ
ผมยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามหรืออธิบายอะไร
อยู่ๆ ข้อมือของผมก็ถูกไอ้ติณกระชากแล้วลากจูงให้ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ทั้งที่ผมยังงงๆ และนอกจากตัวของผมแล้ว
ไอ้ติณก็ยังมีน้ำใจคว้ากระเป๋าแล้วก็อุปกรณ์การเรียนของผมติดมือมันออกมาด้วย
อาจารย์ย้ำชัดๆ อีกครั้งพร้อมกับผายมือไปที่หน้าประตูห้องที่ผมเพิ่งจะเดินผ่านเข้ามายังไม่ทันจะได้ครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
เสียงประตูดังเหมือนตอนที่ผมเปิดมันเข้าไป
แต่มันตรงกันข้ามนั่นก็คือเมื่อกี้นี้มันถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างของผมที่ถูกไอ้ติณลากออกมาจากห้องเรียน
คิม
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
ผมโวยวายใส่ไอ้ติณด้วยความหงุดหงิด
แต่มันกลับไม่ได้มีทีท่าสนใจเลยสักนิดทั้งๆ ที่มันเพิ่งจะทำให้ผมโดนอาจารย์ไล่ออกจากห้องเรียน
ติณ
ถามโง่ๆ ก็โดนไล่ออกจากห้องเรียนไง
ก่อนที่มันจะส่งกระเป๋าและข้าวของๆ ผมคืนมาให้พร้อมกับตบบ่าผมเบาๆ สองสามทีแล้วทำเหมือนจะเดินหนีผมไป
คือผมเข้าใจนะว่าทั้งผมและมันโดนอาจารย์ไล่ออกจากห้องเรียนแต่คำถามคือผมทำอะไรผิดต่างหาก!
ไอ้ติณย้อนผมแล้วทำสีหน้าหงุดหงิด
มันจะมาหงุดหงิดอะไรในเมื่อมันนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องโดนไล่ออกจากห้องเรียนทั้งๆ รีบมาจนเกือบเช็คชื่อไม่ทัน
แต่ไหงพอทันเวลาและทุกอย่างน่าจะไปได้ดีผมกลับต้องมาถูกอาจารย์ไล่ตะเพิดออกจากห้องล่ะ
คิม
นายตั้งใจจะทำให้เราโดนไล่ออกมาจากห้องงั้นเหรอ
ติณ
แรมมึงน้อยรึไงถึงได้ฉลาดช้านัก
คิม
แต่เราตั้งใจมาเรียนหนังสือนะ
ผมว่าแล้วเชียวว่าทำไมมันถึงได้สะกิดผมนักทั้งๆ ที่มันน่าจะเงียบปากไปได้ที่รู้ว่าอาจารย์มองแล้วที่แท้มันก็ตั้งใจจะให้อาจารย์ไล่ออกมานี่เอง
คิม
สมองนายถึงได้มีแต่เรื่องตีนๆ
ไอ้ติณตะคอกเรียกผมเสียงดังปถมเดินเข้ามากระชากคอเสื้อผมเข้าหาตัวแล้วง้างหมัดขึ้นกลางอากาศทำท่าเหมือนอยากจะชกปากผมชะเต็มประดา
ซึ่งเมื่อเห็นแบบนั้นผมก็รีบหลับตาปี๋
เห็นหมัดเต็มตาแบบนี้ใครบ้างล่ะจะไม่กลัว
มันไม่อยากเรียนแต่ดันทำให้ผมเดือดร้อนไปด้วย
ติณ
ปากดีมากคราวหน้าได้แดกตีนสมใจแน่
ไอ้ติณขู่ผมเสียงเข้มก่อนที่มันตะผลักหน้าอกผมออกมาแรงๆ แล้วหุนหันเดินออกไปโดยไม่สนใจผมที่ต้องซวยเพราะมันเลยสักนิด
ผมมาเพื่อเช็คชื่อแล้วก็โดนไล่ออกจากห้องสินะ
ช่างเป็นการเริ่มต้นปีการศึกษาที่แสนพิเศษจริง
Comments