วิญญาณแห่งการต่อสู้

...บทที่ 3...

...วิญญาณแห่งการต่อสู้...

เซี่ยหลันฝึกซ้อมท่าต่าง ๆ ที่เฟิงหลิวสอนอย่างตั้งใจ เธอรู้ว่าความสามารถในการต่อสู้เป็นสิ่งที่เธอต้องพัฒนา เพื่อให้ตัวเองมีความพร้อมเผชิญกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว การฝึกซ้อมของเซี่ยหลันดำเนินไปอย่างไม่หยุดหย่อน เธอเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ทั้งในด้านจิตใจและร่างกาย เธอเริ่มมีความคล่องแคล่วในการใช้ดาบ การเคลื่อนไหวของเธอเริ่มกลมกลืนกับพลังที่เธอถือครอง

“เจ้าทำได้ดี” เฟิงหลิวกล่าวในที่สุด เมื่อเขาหยุดการฝึกซ้อม “ตอนนี้เจ้ามีความเข้าใจพื้นฐานของการใช้ดาบ แต่การฝึกฝนยังไม่จบ เจ้ายังต้องเรียนรู้อีกมาก”

เซี่ยหลันพยักหน้า รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง เธอรู้ว่าการฝึกฝนนี้จะช่วยให้เธอเข้มแข็งขึ้น และเธอจะสามารถเผชิญหน้ากับศัตรูใด ๆ ได้อย่างมั่นใจ

“เจ้ารู้จัก ‘พลังแห่งวิญญาณ’ หรือไม่” เฟิงหลิวถามพลางมองเข้าไปในดวงตาของเซี่ยหลัน ราวกับว่าเขากำลังตรวจสอบความตั้งใจของเธอ

เซี่ยหลันส่ายหัว “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”

เฟิงหลิวถอนหายใจเบา ๆ “มันเป็นพลังที่เชื่อมโยงระหว่างจิตใจและร่างกาย เป็นพลังที่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการโจมตีและการป้องกันได้ มันเป็นสิ่งที่เจ้าต้องฝึกฝน เพื่อให้เจ้าได้เป็นนักรบที่แท้จริง”

เซี่ยหลันรู้สึกถึงความท้าทายที่รอคอยเธออยู่ การฝึกฝนพลังแห่งวิญญาณฟังดูยากเย็น แต่เธอรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เธอต้องทำ เพื่อให้เธอสามารถควบคุมพลังที่เธอถือครองได้อย่างสมบูรณ์ “ข้าพร้อมจะเรียนรู้” เซี่ยหลันตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ

เฟิงหลิวยิ้ม “ดี งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ เจ้าจะได้เรียนรู้วิธีการใช้พลังแห่งวิญญาณในการต่อสู้”

การฝึกฝนใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เฟิงหลิวสอนเซี่ยหลันถึงวิธีการเชื่อมโยงจิตใจกับร่างกายของเธอ การใช้พลังแห่งวิญญาณในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการโจมตีและการป้องกัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องอาศัยสมาธิและความทุ่มเท เซี่ยหลันรู้สึกถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ขึ้น แต่เธอไม่ยอมแพ้

เวลาผ่านไปอีกหลายวัน การฝึกฝนของเซี่ยหลันก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน เธอเริ่มรู้สึกถึงความแข็งแกร่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นในตัวเอง พลังแห่งวิญญาณเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของเธอ และเธอรู้สึกว่าตัวเองพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูใด ๆ ก็ตามที่จะมายังเส้นทางของเธอ

ในที่สุด เฟิงหลิวก็หยุดการฝึกซ้อมและมองไปที่เซี่ยหลันด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ “เจ้าได้ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคสำคัญแล้ว เซี่ยหลัน ตอนนี้เจ้ามีความสามารถในการควบคุมพลังของเจ้า และข้ารู้ว่าเจ้าจะใช้มันเพื่อปกป้องผู้อื่น”

เซี่ยหลันยิ้ม “ข้าขอบใจเจ้ามาก เฟิงหลิว ข้าจะไม่ลืมสิ่งที่เจ้าได้สอนข้า ข้าจะใช้พลังนี้เพื่อปกป้องผู้ที่ข้ารัก และเพื่อตัวข้าเอง”

เฟิงหลิวยิ้มกลับ “ข้าจะติดตามเจ้าในการเดินทางของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมากมาย แต่ข้าก็มั่นใจว่าเจ้าจะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้”

เมื่อการฝึกฝนของเซี่ยหลันสำเร็จลุล่วงไปในระดับหนึ่ง เธอก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองต้องตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นทางที่เธอจะเดินต่อไป ความมุ่งมั่นในใจของเธอที่จะก้าวสู่การแก้แค้นยังคงคุกรุ่นอยู่ แต่ทว่าคำสอนของเฟิงหลิวก็ทำให้เธอต้องคิดทบทวน เธอควรใช้พลังของเธอเพื่อทำลายล้าง หรือเพื่อปกป้องสิ่งที่สำคัญ

วันหนึ่ง ขณะที่เซี่ยหลันนั่งอยู่คนเดียวในห้องพักของเธอ เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา มันเป็นสายลมที่อ่อนโยนและอบอุ่นราวกับต้องการปลอบประโลมจิตใจที่หนักอึ้งของเธอ เธอหลับตาลง หวนคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผลักดันเธอมาถึงจุดนี้ ความเจ็บปวดและความแค้นที่สุมอยู่ในใจของเธอไม่ได้เลือนหายไปไหน แต่มันเริ่มถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกใหม่ๆ

“เจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อไป” เสียงของเฟิงหลิวดังขึ้นจากด้านหลัง เซี่ยหลันหันไปมองเห็นเขายืนอยู่ที่ประตู ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

เซี่ยหลันหันกลับมามองสายลมที่พัดเข้ามาในห้องอีกครั้ง เธอสูดลมหายใจลึก ๆ พยายามทำให้ใจของเธอสงบ “ข้ายังไม่แน่ใจ” เธอตอบเสียงเบา “ข้าอยากแก้แค้น แต่ข้าก็ไม่อยากกลายเป็นคนที่ถูกความแค้นครอบงำ”

เฟิงหลิวนั่งลงข้าง ๆ เซี่ยหลัน “การแก้แค้นไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เจ้าพบความสุข เจ้าจะต้องอยู่กับความแค้นนั้นไปตลอดชีวิต และมันจะกัดกินใจของเจ้าเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะทำลายทุกสิ่งที่เจ้ามี”

เซี่ยหลันฟังคำพูดของเฟิงหลิวด้วยความเงียบ เธอรู้ว่าเขาพูดถูก ความแค้นเป็นเหมือนกับเปลวไฟที่ร้อนแรง แม้มันจะทำให้เธอมีพลัง แต่มันก็ทำให้เธอหมดแรงไปด้วยเช่นกัน “แล้วข้าควรทำอย่างไร” เธอถามอย่างอ่อนแอ

เฟิงหลิวพยักหน้าเล็กน้อย “เจ้าไม่จำเป็นต้องตัดสินใจเดี๋ยวนี้ จงให้เวลาตัวเองในการคิดทบทวน แต่ข้าขอให้เจ้าใคร่ครวญถึงสิ่งที่เจ้าต้องการจริงๆ ในชีวิต เจ้าอยากให้ชีวิตของเจ้าเป็นไปในทางไหน เจ้าต้องการความสุขหรือความเจ็บปวด พลังที่แท้จริงไม่ใช่การทำลายล้าง แต่เป็นการสร้างสรรค์และปกป้อง”

เซี่ยหลันพยักหน้าช้า ๆ “ข้าเข้าใจ ข้าจะคิดถึงเรื่องนี้ให้ดี ข้าจะไม่รีบร้อนในการตัดสินใจ”

“นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เจ้าทำได้ในตอนนี้” เฟิงหลิวกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ข้าเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป เจ้าจะพบคำตอบของเจ้าด้วยตัวเอง”

หลังจากที่เฟิงหลิวจากไป เซี่ยหลันยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เธอหลับตาลง ปล่อยให้ลมที่พัดผ่านมากระทบใบหน้า เธอรู้สึกถึงความสงบที่ค่อย ๆ ซึมเข้ามาในใจ และในความสงบนั้น เธอเริ่มรู้สึกถึงแสงแห่งความหวังเล็ก ๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้น

เวลาผ่านไป เซี่ยหลันเริ่มออกเดินทางเพื่อตามหาคำตอบของตัวเอง เธอเดินทางไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วทั้งแคว้น เธอพบเจอผู้คนมากมายที่ต่างมีความสุขและความทุกข์ของตัวเอง และการได้เห็นสิ่งเหล่านั้นก็ทำให้เธอเริ่มเข้าใจว่าโลกนี้ไม่ได้มีเพียงความเจ็บปวดและความแค้น แต่ยังมีความสุขและความสงบที่เธอสามารถหาได้หากเธอเลือกที่จะเดินไปในเส้นทางนั้น

เซี่ยหลันพบว่าการเฝ้ามองผู้คนที่มีชีวิตอยู่ด้วยความสุขนั้นทำให้เธอรู้สึกมีความหวังมากขึ้น เธอเริ่มตระหนักว่าความแค้นในใจของเธอนั้น แม้มันจะมีความหมาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ

วันหนึ่งขณะที่เธอเดินทางผ่านป่าลึก เธอพบกับหญิงชราในกระท่อมเล็ก ๆ หญิงชรานั้นใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและสงบสุข ไม่ได้สนใจเรื่องราวของโลกภายนอกมากนัก เซี่ยหลันรู้สึกถึงความสงบที่เปล่งออกมาจากหญิงชรา เธอไม่สามารถห้ามตัวเองจากการถามคำถามที่วนเวียนอยู่ในใจได้

“ท่านอาศัยอยู่ที่นี่คนเดียวหรือ” เซี่ยหลันถามขณะที่เธอนั่งลงข้าง ๆ หญิงชรา

หญิงชรายิ้มอย่างใจดี “ใช่ ข้าอยู่คนเดียวมาหลายสิบปีแล้ว แต่ข้าก็ไม่เคยรู้สึกเหงาหรือเสียใจเลย”

“ทำไมท่านถึงเลือกที่จะอยู่ในป่าเพียงลำพัง” เซี่ยหลันถามด้วยความสงสัย

“ข้าเคยมีชีวิตที่วุ่นวายมาก่อน” หญิงชรากล่าวอย่างเรียบง่าย “แต่วันหนึ่งข้าก็ตระหนักว่าความสงบสุขที่แท้จริงนั้นไม่ได้มาจากสิ่งภายนอก แต่มาจากภายในตัวเราเอง ข้าจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่นี่ และข้าก็พบความสุขที่แท้จริง”

เซี่ยหลันรู้สึกถึงคำพูดเหล่านั้นในใจของเธอ ความสงบที่แท้จริงมาจากภายในตัวเราเอง คำพูดนี้ทำให้เธอเริ่มเข้าใจว่าไม่ว่าเธอจะเลือกทำสิ่งใด ความสุขของเธอไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแก้แค้นหรือการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น แต่ขึ้นอยู่กับการที่เธอสามารถยอมรับและปล่อยวางสิ่งที่ทำให้เธอทุกข์ใจ

เธอกล่าวลาหญิงชราพร้อมกับขอบคุณสำหรับคำสอนที่มีค่า แล้วเธอก็เดินทางต่อไปอย่างมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนขึ้น เธอไม่แน่ใจว่าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้างในเส้นทางข้างหน้า แต่เธอรู้ว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ความแค้นครอบงำตัวเองอีกต่อไป

เซี่ยหลันเดินทางกลับมาหาเฟิงหลิวที่บ้านไม้ในป่า เมื่อมาถึง เธอก็พบว่าเฟิงหลิวยืนรออยู่ที่ประตู เขายิ้มเมื่อเห็นเซี่ยหลันเดินเข้ามา

“ข้าเห็นในดวงตาของเจ้า” เฟิงหลิวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าพบคำตอบของเจ้าแล้วใช่ไหม”

เซี่ยหลันพยักหน้า “ข้าเลือกที่จะไม่ยอมให้ความแค้นครอบงำข้า ข้าจะใช้พลังของข้าเพื่อปกป้องผู้ที่ข้ารัก และเพื่อสร้างสิ่งที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อทำลายล้าง”

เฟิงหลิวยิ้มกว้างขึ้น “ดีมาก ข้ายินดีที่ได้เห็นเจ้าเติบโตขึ้นอย่างนี้ เจ้าได้พบเส้นทางของตัวเองแล้ว และข้ารู้ว่าเจ้าจะสามารถก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้าได้”

การตัดสินใจของเซี่ยหลันไม่ได้ทำให้เส้นทางของเธอง่ายขึ้น แต่กลับทำให้เธอรู้สึกถึงภาระหน้าที่ที่ต้องทำอย่างหนักแน่นยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นที่จะใช้พลังของเธอเพื่อปกป้องและสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเป็นเส้นทางใหม่ที่เธอได้เลือกเดิน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น เซี่ยหลันรู้ว่าเธอต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้น

“เจ้าพร้อมจะเผชิญกับอดีตหรือยัง” เฟิงหลิวถามในเช้าวันหนึ่งขณะที่ทั้งสองยืนอยู่หน้าบ้านไม้ เขาสังเกตเห็นความเงียบสงบที่เปลี่ยนไปในดวงตาของเซี่ยหลัน

เซี่ยหลันพยักหน้า “ข้าพร้อมแล้ว ข้าต้องเผชิญหน้ากับมัน เพื่อที่จะปล่อยวางทุกอย่างและก้าวต่อไป”

เฟิงหลิวเห็นความแน่วแน่ในแววตาของเธอ เขายิ้มบาง ๆ “การเผชิญหน้ากับอดีตอาจเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่ข้ารู้ว่าเจ้าจะสามารถทำได้ จำไว้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ได้มาจากการต่อสู้เท่านั้น แต่มาจากการเผชิญหน้ากับความจริง”

ทั้งสองออกเดินทางกลับไปยังเมืองที่เซี่ยหลันเคยเรียกว่าบ้าน เมืองที่ครั้งหนึ่งเธอเคยมีความสุขและความเจ็บปวด เมืองที่เต็มไปด้วยความทรงจำและผู้คนที่เธอเคยรู้จัก แต่เมื่อกลับมาครั้งนี้ เซี่ยหลันรู้สึกว่าทุกสิ่งได้เปลี่ยนไป เธอไม่ใช่เด็กสาวที่อ่อนแออีกต่อไป เธอคือหญิงสาวที่เต็มไปด้วยพลังและความมุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง

เมื่อมาถึงเมือง เซี่ยหลันและเฟิงหลิวพบว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม อาคารสูงและถนนที่คดเคี้ยวไปตามเนินเขายังคงอยู่ในที่เดิม แต่ผู้คนที่เธอเคยรู้จักกลับกลายเป็นคนแปลกหน้า ทว่าเธอไม่รู้สึกหวั่นไหวอีกต่อไป เพราะเธอได้เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

“เจ้าคิดจะเริ่มจากที่ไหน” เฟิงหลิวถามขณะที่พวกเขาเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน

เซี่ยหลันมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ “ข้าจะไปหาพ่อกับแม่ของข้า ข้าอยากบอกลาพวกเขาอย่างที่ควรจะเป็น”

เฟิงหลิวพยักหน้า “ข้าจะอยู่ข้าง ๆ เจ้า ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน เจ้าจะไม่ต้องเผชิญกับมันเพียงลำพัง”

ทั้งสองเดินทางไปยังบ้านหลังเก่าของเซี่ยหลัน บ้านที่เคยอบอุ่นแต่บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบเหงา เซี่ยหลันยืนอยู่หน้าประตูบ้าน สัมผัสถึงความรู้สึกหลากหลายที่ถาโถมเข้ามา แต่เธอรวบรวมความกล้าและเปิดประตูเข้าไป

ภายในบ้านเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจของเซี่ยหลันที่ดังชัดในห้องโถง เธอเดินไปยังห้องที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเธอ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เธอเห็นภาพอดีตของตัวเองนั่งเล่นอยู่บนพื้น กับพ่อและแม่ที่คอยดูแลเธออย่างอบอุ่น “พ่อ แม่” เซี่ยหลันพึมพำเรียกทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอรู้สึกถึงน้ำตาที่เริ่มไหลริน แต่เธอไม่ปล่อยให้มันพรากความเข้มแข็งของเธอไป

ฮอต

Comments

yongobongo11:11

yongobongo11:11

รู้สึกเหมือนเป็นตัวละครอยู่ในนิยายของแอดเลย! 🙌

2024-08-22

1

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 24

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!