สายตาสองคู่ที่กำลังต้องมองเพื่อนรักสองคนที่ตอนนี้หน้าแดงพอๆ กับแอปเปิ้ลในมือ หลังจากที่บุ๊คขอหลังเลนส์เป็นแฟน ความสัมพันธ์ของทั้งสองมันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนในห้องเริ่มยุงใจโดยเฉพาะเพื่อนในกลุ่มของเขาสองคนอย่างกบและศีล
" ไอ้กบถ้าจะจ้องกูสองคนขนาดนั้นมึงพูดมาเลยว่าต้องการอะไรจากกู อย่าจ้องอย่างกับกูทำอะไรผิดต่อสังคมแบบนั้น" เสียงบุ๊คเอ่ยขึ้น
" ไม่รู้จะพูดและถามอะไร ให้กูสนใจแอปเปิลที่ตอนนี้มันเป็นคาอยู่ในปากไอ้หลังเลนส์อ่ะ นี่มึงก้าวไกลขนาดป้อนแอปเปิ้ลให้กันแล้วหรอวะ บัดดี้มันต้องทำขนาดนี้เลยหรอวะ"
กบเอ่ยอย่างสงสัย ก่อนที่ศีลจะเอ่ยขึ้น
" มึงอยากแดกแบบไอ้หลังเลนส์ ว่างั้น"
กบหันไปมองศีลอย่างเคืองก่อนจะเอ่ยขึ้น
" ถ้าเป็นสาวๆ ป้อนกูบอกได้เลยว่ากูอยากแดกมาก แต่นี่มึงดูมันสองคนดิ ยิ่งกว่าผัวเมียแล้วตอนนี้หรือมึงสองคนนนน"
" ไอ้สัตว์ ไม่ต้องคิดต่อเลยมึงไอ้ห่า ไอ้หลังเลนส์เสียหายหมด"
บุ๊คเอ่ยขึ้น หลังเลนส์ที่รู้ดีว่าอะไรคืออะไรก็ยิ่งหน้าแดงกว่าเดิม
" เดี๋ยวๆ กูอ่ะที่หนึ่งของห้อง บอกเลยว่าไม่โง่นะที่ไอ้เชี่ยบุ๊คพูด กูคิดภาพออกเลยว่าไอ้หลังเลนส์มึงรับไอ้บุ๊ครุกใช่ไหม"
กบที่เป็นคนฉลาดพูดจาอะไรตรงๆ เอ่ยขึ้นทำเอาหลังเลนส์รีบลุกขึ้นขอตัวไปห้องน้ำทันที
" กูไปห้องน้ำก่อนนะ ขืนอยู่กับไอ้กบมากๆ กูคอยจะเสียตัวตลอดเลย"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปห้องน้ำทันที
" รอกูด้วย"
เสียงของกบเอยขึ้นก่อนจะวิ่งตามไป บุ๊คและสีที่นั่งอยู่ก็ส่ายหัวไปมากับความวุ่นวายของกบและความน่ารักของหลังเลนส์
" ไอ้บุ๊ค มึงกับไอ้หลังเลนส์มันยังไงกันวะ"
ศีลที่จะดูเป็นคนเงียบๆ เอ่ยถามบุ๊คที่นั่งยิ้มอยู่
" อย่างที่มึงเข้าใจ กูแม่งขอไอ้หลังเลนส์เป็นแฟนเมื่อวันเสาร์ที่แล้วอ่ะ"
บุ๊คเอ่ยขึ้น ทำเอาศีลนิ่งไปเล็กน้อย
" ไม่มีวี่แววนะว่ามึงสองคนจะรักกัน เห็นสนิทๆ กันไม่คิดว่ามึงจะเอาเพื่อนสนิทเป็นแฟน และอีกอย่างมึงก็มีแต่สาวๆ มาชอบไม่คิดว่ามึงจะชอบแบบนี้"
ศีลเอ่ยขึ้น
" ไอ้ศีลกูจะบอกอะไรมึงบางอย่างนะ บางครั้งเราอาจจะไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนที่อยู่กับเราจะเป็นคนที่เราต้องการดูแลและอยากอยู่กับเขาก็ได้อะไรก็เกิดขึ้นได้ กูรักไอ้หลังเลนส์เพราะมันคือไอ้หลังเลนส์ ที่วอแวกู ห่วงกู อยู่กับกูทุกครั้งไม่ว่ากูจะสุขหรือทุกข์หรือไม่สนใจว่ามันคือผู้ชาย"
บุ๊คเอ่ยขึ้น
" กูเองก็ไม่ได้เกี่ยงนะว่าจะชอบเพศไหนน่ะ ขอให้รักกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่ว่าเพศไหนมันก็รักกันได้ยืนยาวป่ะวะ" ศีลเอ่ยบอก
" มึงแม่งพูดดีจังวะ แล้วมึงกับไอ้กบล่ะ รูมเมทกันตั้งนานแล้ว มึงคิดไงวะ"
บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะกอดคอศีลไว้แน่น
" กูกำลังจะบอกมึงอยู่นี่ไงว่า ให้กูรักเพื่อนสนิทมันทำไม่ลงว่ะ ฮ่าๆ ๆ"
ศีลหัวเราะออกมา แต่ภายใต้เสียงหัวเราะมันมีอะไรแฝงไว้ซึ่งบางอย่างที่ศีลเก็บมันไว้
" ไอ้สัตว์ แต่กูทำมาแล้วเว้ย ฮ่าๆ ๆ"
บุ๊คเอ่ยขึ้นทำเอาหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังเลนส์และกบก็เดินมาด้วยหน้างงๆ พร้อมมือมีทั้งน้ำและขนม
" ไปห้องนํ้าแต่ขนมมาเพียบเลยนะมึง"
บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะรับขนมจากมือหลังเลนส์
" เออ กูแวะเก็บของในห้องนํ้ามาให้มึงแดก"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นจะยกยิ้มออกมา
" วันเสาร์นี้วันเกิดไอ้กบนี่ มึงตะเลี้ยงที่ไหนวะ"
บุ๊คเอ่ยขึ้น ก่อนจะจับขนมในมือของหลังเลนส์เข้าปากตัวเอง
" ร้านเดิมเหมือนทุกปีไหม" หลังเลนส์เอ่ยขึ้น
" ก็ดีนะ หรือว่าจะไปกินที่คอนโดล่ะ"
ศีลเอ่ยขึ้นอย่างคุ้นเคย
" ปีนี้หรอแดกล่วงได้ปะ พอดีแตงโมชวนกูไปเลี้ยงฉลองด้วยกันสองคนอะ"
กบเอ่ยขึ้น ทำเอาบุ๊คและหลังเลนส์พยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะกบมีแฟนอยู่แล้วชื่อแตงโมซึ่งพึ่งคบกันได้ไม่นานนัก
" เออจริงดิ ไอ้กบมันพึ่งมีแฟนนี่หว่า จะหัวล้านนะแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้นี่เนอะ"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้น
" งั้นวันศุกร์ก็ได้ โอเคไหม"
บุ๊คเสนอก่อนที่ทุกคนจะเห็นด้วย ทั้งที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นจึงสนิทกันมาก แต่หลังเลนส์และบุ๊คเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประถมและตัวติดกันมาก ใครๆ จึงเรียกทั้งสองว่าบัดดี้กัน หรือแฝด
สนามบาสเกตบอลของโรงเรียนเบญที่คนตาเมื่อมีหลังเลนส์ต้องมีบุ๊คเสมอ จนเพื่อนๆ ในทีมแม่สนใจอะไรมากแล้วเพราะต่างคนก็คิดว่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมากกว่าจะเป็นแฟนกันเสียอีก
" คืนนี้ไปนอนด้วยนะ ขอแม่แล้ว"
บุ๊คกระซิบที่ข้างหูของหลังเลนส์เมื่อหยุดพักควอเตอร์สุดท้าย ใบหน้าที่แดงเหอะออกมายิ่งเสริมให้หลังเลนส์ดูน่ารักมากขึ้นจนบุ๊คเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
" มึงแม่งน่ารักวะ กูอยากจะฟัดมึงตอนนี้เลยรู้ไหม"
ปึก!
" ไอ้สัตว์ หื่นได้ทุกเวลานะมึง กูไปซ้อมบาสล่ะ"
หลังเลนส์ที่ฟาดผ้าขนหนูที่ซับเหงื่อใส่บุ๊คด้วยความเขิน ก่อนที่จะวิ่งเข้าสนามไปด้วยใบหน้าที่แดงเห่อ บุ๊คเองที่ยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข
" กูน่าจะบอกมึงตั้งแต่วันที่กูไปนอนกับมึงครั้งแรกแล้วนะ ไม่น่าปล่อยมึงนานขนาดนี้เลยไอ้หลังเลนส์"
บุ๊คเอ่ยออกมา ที่จริงเขารู้สึกกับหลังเลนส์มานานแล้วแต่เพราะความเป็นเพื่อนที่มันค้ำคอของเขาอยู่นั้นเอง
ช่วงเวลาความสุขของคนรักกันมันเลยผ่านจากนาทีเป็นชั่วโมงและจากชั่วโมงเป็นวัน และจะตลอดไปบุ๊คและหลังเลนส์ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นและนานขึ้นจนที่บ้านของทั้งสองคิดว่าทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาก
" หลังเลนส์ นอนนี่ไหมลูก"
เสียงหวานแม่ของบุ๊คเอ๋ยถามหนังจากที่นั่งทานข้าวเย็นอยู่
" ขอบคุณครับคุณแม่ แต่พ่ออยู่บ้านคนเดียวหลังเลนส์เป็นห่วงฮะ"
บุ๊คหันไปยิ้มหลังเลนส์ที่นับวันจะน่ารักขึ้นทุกวัน
" งั้นบุ๊คเอารถป๊าไปส่งบ้านหลังเลนส์ที่บ้านนะลูก จะได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่"
ผู้เป็นแม่เอ่ยบอก บุ๊คเป็นคนตัวโตและสูงมาก ด้วยความที่เขาเป็นลูกคนเดียวของบ้านและพ่อมีธุรกิจอู่ซ่อมรถ ไม่แปลกที่เขาจะขับรถได้คล่องแคล่ว อายุเข้าถึงเกณฑ์ทำใบขับขี่ได้เขาก็ไม่รีรอเพราะบางครั้งต้องไปส่งของให้พ่อบ้างบางที
" ครับ คุณนายไม่บอกกระผมก็ทำแบบนั้นละขอรับ อิอิ"
" ทะเล้นจริงๆ เด็กคนนี้ กินๆ "
ทั่งหมดนั่งทานอาหารกันสักพักก่อนที่หลังเลนส์เดี๋ยวขอตัวกลับเพราะดึกแล้วโดยมีบุ๊คเองขับรถมาส่งที่บ้าน
" พรุ่งนี้เจอกันนะ"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นหลังจากปลดเข็มขัดที่คาดออก
หมับ!
จุ๊บ
" อือออ"
ยังไม่ทันทีที่หลังเลนส์จะเปิดประตูรถลงไป บุ๊คก็คว้าหลังขอของหลังเลนส์ก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากไว้แน่นลิ้นร้อนสองลิ้นที่ไล่ล่ากันอย่างไม่ลดละก่อนที่จะผละออกจากกัน
แฮ่กๆ
" คืนนี้ไม่ได้นอนด้วยกันอ่ะ ก่อนเข้าบ้านกูเอามึงได้ป่ะ" บุ๊คเอ่ยขึ้น
" ไอ้เชี้ย ในรถตอนตอนนี้นี่นะ"
หลังเลนส์เอ่ยทั้งที่ใบหน้าแดงเห่อออกมา
" เออดิ จะไม่ไหวแล้ว นะๆ ๆ หลังเลนส์ที่รัก"
น้ำเสียงอ้อนวอนอย่างน่ารักทำเอาหลังเลนส์ที่ลังเลอยู่ถึงกับหน้าแดง
" เอาเบาๆ นะมึง กูกลัวคนจะสงสัย"
สิ้นประโยคอย่างว่าบุ๊คเองไม่ดีหรอกก่อนจะจัดการคนน่ารักตรงหน้าบนรถอย่างไม่ต้องสงสัย
" กูรักมึงว่ะ"
บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะจับหลังเลนส์ขึ้นขย่มด้านบนสองเสียงที่กั้นเสียงคางอยู่ถึงกับปลดปล่อยออกมา
" อ๊ะส์"
" กูรักมึง...อ๊าส"
เพียงประโยคเดียวที่หลุดออกมาจากปากหลังเลนส์และมันก็คือหลายคำที่เอ่ยออกมาจากปากของทั้งคู่ ความรักคือสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของเพื่อน บัดดี้หรือพี่น้องมันก็ความสวยงามที่มอบให้กัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments