บุ๊คเดินมาหาพิ้งค์ที่หน้าร้านขนมเค้กที่ประจำ พิ้งค์เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวขาว น่ารัก ผมยาวดูสมกับดาวโรงเรียน แต่ใบหน้าน่ารักแบบนี้ไม่ได้ทำให้บุ๊คเปิดใจว่าจะคบเป็นแฟนเลยสักนิด เพราะในใจเขามีสิ่งที่เรียกว่าน่ารักที่สุดแล้วคือหลังเลนส์
" บุ๊ค มาช้าจังนะ" เสียงหวานเอ่ยงอนเบาๆ
" พอดีมากับไอ้หลังเลนส์อะ"
" แล้วหลังเลนส์ล่ะ"
" มันไปดูของขวัญวันเกิดให้แม่มันอะ แอนนี่เราก็ต้องไปช่วยมันดูของขวัญให้แม่มันด้วยสิ"
บุ๊คเอ่ยตัดบททันที ไม่อยากจะคิดเมื่อเห็นว่าหลังเลนส์มันต้องเดินคนเดียว
" อ้าว แล้วดูหนังของเราล่ะ"
" ที่จริงเราก็บอกพิ้งค์หลายครั้งแล้วว่าเรายังไม่อยากจะคบใครเป็นแฟน แต่พิ้งขอเองว่าคบเป็นเพื่อนก็ได้เราก็โอเคนะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพิ้งค์จะขอเกินที่เราคุยกันไว้อ่ะ"
บุ๊คเอ่ยเรื่องจริงออกมา เขาได้คุยกันแล้วตั้งแต่วันแรกที่พิ้งค์มาขอไลน์บุ๊คในห้องเรียนพิเศษ บางครั้งผู้หญิงจะยอมทุกอย่างเมื่อยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ แต่พอเริ่มได้แล้วจะเพิ่มทวีมันมากขึ้นเรื่อยๆ
" ก็ไม่ได้อะไรมาก เอางี้เดี๋ยวเราไปหาหลังเลนส์กันแล้วทิ้งจะช่วยเรื่องของขวัญให้คุณแม่หลังเลนส์เอง ผู้หญิงย่อมเข้าใจผู้หญิงเชื่อสิ"
" ตามใจนะ"
บุ๊คเอ่ยก่อนจะพาพิงค์จะเดินมาที่ร้านเดิมที่เขาเพิ่งเดินออกมา เขายังคงเห็นหลังเลนส์นั่งอยู่ที่เดิม
" หลังเลนส์"
เสียงหวานของพิ้งค์เอ่ยขึ้น หลังเลนส์หันไปมองตามเสียทันที ใจมันวูบวาบไปหมดที่เห็นบุ๊คกลับมา แต่มันก็หนักหน่วงเมื่อเห็นว่ามันพิ้งค์
" ไอ้บุ๊ค พิ้งค์" หลังเลนส์เอ่ยเรียกชื่อ บุ๊คและ พิ้งค์เดินมานั่งที่โต๊ะ
" ไม่ไปดูหนังกันเหรอ แล้วนี่ มึงกลับมาทำไมวะ"
" ก็บุ๊คบอกว่าจะต้องมาเป็นเพื่อนหลังเลนส์หาของขวัญให้คุณแม่ พิ้งค์เลยอาสามาช่วยอะ"
เมื่อพิ้งค์เอ่ยเสร็จหลังเลนส์ก็หันมาทางบุ๊คที่หลบสายตามันเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น
" เอาหน่ามึง เดี๋ยวให้ พิ้งค์ช่วยก็ได้ ไป ๆ ๆ"
บุ๊คเอ่ยขึ้นอยากตัดบทก่อนจะกอดคอหลังเลนส์ลุกขึ้นไปที่ร้านต่างๆ ที่มีของขวัญสำหรับหญิงกลางคน
ทั้งคู่ต่างดูมีความสุขที่ได้เลือกของด้วยกันจนลืมหญิงสาวที่ไปด้วยไปเลย ก่อนที่พิงค์จะเอ่ยขึ้น
" นี่ถ้าพิ้งค์ไม่รู้จักบุ๊คกับหลังเลนส์มาก่อน พิ้งค์ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันนะ"
บุ๊คกับหลังเลนส์หันมองหน้ากันด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อยก่อนที่หลังเลนส์รีบดึงแขนที่เผลอโอบเอวบุ๊คออก
" ก็บุ๊คกับหลังเลนส์ เราสนิทกันตั้งแต่เด็กแล้ว"
บุ๊คเอ่ยขึ้น
" ใช่ พิ้งค์อย่าคิดมากเลย" หลังเลนส์เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินดูของไปเรื่อย ๆ
พิ้งค์ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเธอสนใจบุ๊คมากกว่า ทั้งสองเดินดูของกันเรื่อย ๆ เช่นกัน หลังเลนส์ก็แอบมองอยู่ห่าง ๆ
" เชี่ย กูเป็นอะไรวะ"
หลังเลนส์เอ่ยกับตัวเอง ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเขามองเห็นบุ๊คและพิ้งค์กำลังเลือกซื้อของด้วยกัน คุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนานซึ่งเขาเองคิดว่าเขาคือส่วนเกินหรือเปล่า
" หลังเลนส์คุณแม่ชอบสีอะไรหรอ"
เสียงหวานของพิ้งค์ที่เอ่ยขึ้นพร้อมยกชุดคริสตัลสีสวยถาม ด้วยความที่รีบทำไวเกินทำให้เธอเสียหลักเหมือนจะล้ม แต่บุ๊คที่อยู่ข้างๆ ก็สามารถรับร่างของพิ้งค์ได้ทัน ยิ่งทำให้หนังเลนส์รู้สึกปั่นป่วนไปหมด และใจก็เต้นแรงกว่าเดิม
" ว้าย!" เสียงพิ้งค์ที่เอ่ยร้องก่อนจะสบตามองไปยังใบหน้าของบุ๊ค
" เอ่อ..." หลังเลนส์ที่ทำอะไรไม่ถูกได้แต่อึกอัก
" ถ้าไม่ได้บุ๊ค พิ้งแย่แน่ๆ เลยอ่ะ"
" ก็ระวัง ๆ หน่อยสิ "
รอยยิ้มหวาน ๆ ของบุ๊คที่ส่งออกมา ยิ่งทำให้หลังเลนส์นึกหวง เขาไม่อยากอยู่ตรงนั้นแล้ว เขาไม่อยากอยู่ใกล้สองคนนี้แล้วจริง ๆ
" เอ่อ กูลืมไปว่ากูนัดเพื่อนไว้อยากไปก่อนนะพิ้งค์เราไปก่อนนะ"
หลังเลนส์เอ่ยบอกบุ๊คก่อนจะหันไปบอกพิ้งค์
หลังเลนส์คลิปเดินออกมาและเรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที โดยไม่เข้าใจตัวเอง
" กูเป็นอะไรไปวะ"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นพร้อมกับจับที่อกตัวเองเบา ๆ ก่อนจะล้วงเอามือถือขึ้นมาดูหน้าจอมองปลายสายเป็นเบอร์ของบุ๊ค
" มีอะไรวะ" หลังเลนส์เอ่ยทันทีที่กดรับสาย
(มึงนัดใครไว้)
" นัดเพื่อน"
(เพื่อนที่ไหน กูรู้จักไหม)
" เพื่อนสมัยเรียนไง มึงไม่รู้จักหรอก"
( กูตั้งแต่ประถมจนตอนนี้มัธยมแล้วเพื่อนมึงคนไหนที่กูจะไม่รู้จักวะ)
" มึงจะอะไรกันนักหนาวะ กูว่ามึงเอาเวลาที่คุยกับกูไปดูแลพิ้งค์ก่อนไหม และเพื่อนของกูก็เป็นเพื่อนสมัยอนุบาลไม่รู้จักหรอก ไอ้ควาย"
หลังเลนส์โมโหกับความรู้สึกสับสนและเหมือนบุ๊คจะต้อนเขาให้จนมุมตลอดเวลา เขากดวางหูทันที
เมื่อมาถึงบ้าน หลังเลนส์ก็มาคิดทบทวนว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่กับเรื่องราวของบุ๊ค เพราะใจจริงแล้วหลังเลนส์ไม่ชอบ ไม่พอใจที่บุ๊คเห็นคนอื่นสำคัญมากกว่าตัวเอง
ทางด้านบุ๊คที่ชัดเจนแล้วกับการกระทำของหลังเลนส์ เขาไม่ดีรออะไร ปิดฉากการมีความหวังของพิ้งค์ทันทีด้วยการบอกไปตรง ๆ ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว และขอโทษเธอที่ไม่อาจจะเป็นไปได้มากกว่าเพื่อนจริง ๆ
ฟิด ฟิด
หลังเลนส์ใช้มือปัดป่ายไปบนใบหน้าและจมูก ก็เขารู้สึกว่ามีอะไรวนเวียนอยู่ที่ใบหน้าจมูกของเขา จงต้องลืมตาขึ้นและสิ่งที่เห็นคือใบหน้าอันหล่อเราของบุ๊คที่คร่อมร่างหลังเลนส์ที่นอนอยู่บนโซฟา
" ไอ้บุ๊ค "
หลังเลนส์เอ่ยชื่อพร้อมพาตัวเองดีดตัวขึ้น จนร่างของหลังเลนส์เองเซล้มลง และกลับดึงร่างของบุ๊คล้มทับตัวเองอีกที จมูกและจมูกที่ชนกันมันทำให้ความรู้สึกบอกไม่ถูก เพราะใจเต้นแรงเกินห้ามไปแล้วสายตาสองสายตาที่ประสานกันทำเอากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ หลังเลนส์รีบผลักบุ๊คออกทันทีเมื่อได้สติ
" ไอ้บุ๊คลุกดิ กูหนัก"
หลังเลนส์เอ่ย ทั้งที่ใบหน้าร้อนเห่อ พร้อมขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองหน้าบุ๊คที่จ้องหน้าหลังเลนส์อย่างเอาเรื่อง
" มึงมาทำไม"
หลังเลนเอ่ยถามอย่างงอน ๆ เมื่อลุกขึ้นนั่ง
" กูเอาของมาให้มึง จะเอาไปให้คุณแม่ไม่ใช่หรือไง"
บุ๊คเอ่ยขึ้นพร้อมกับวางถุงชุดกาแฟคริสตัลไว้ที่โต๊ะรับแขก หลังเลนส์ปรายตามองก่อนจะเอ่ยขึ้น
" แล้วพิ้งค์ล่ะ" หลังเลนส์เอ่ยขึ้น
" ก็กลับแล้วดิ แล้วที่มึงบอกเพื่อนที่นัดไว้อะผู้หญิงหรือผู้ชายวะ"
" มึงจะรู้ไปทำไม เรื่องของกูป่าววะ"
หลังเลนส์เอ่ย บุ๊คที่ได้ยินดังนั้นก็ลุกพรวดมาคล่อมตัวหลังเลนส์อีกครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้หลังเลนส์ถูกคร่อมเรียบร้อยแล้ว
พรึ่บ!
" ไอ้เชี้ย! บุ๊คมึงมาคร่อมกูทำไมเนี่ย"
หลังเลนส์เอ่ยพร้อมยกมือดันที่อกรุกไว้เมื่อบุกค่อย ๆ โน้มหน้าตํ่าลง
" ไอ้หลังเลนส์ มึงแม่งเรียนเก่งซะเปล่า เสือกโง่สัตว์"
อยู่ ๆ บุ๊คก็เอ่ยด่านหลังเลนส์ทั้ง ๆ ที่ยังกอดอีกคนในอ้อมกอด
" มึงกล้าดียังไงมาด่ากูโง่เนี่ย ไอ้เว...(เวร)"
ไม่ทันที่หลังเลนส์จะด่าออกมาทั้งหมด ริมฝีปากของบุ๊คก็กดเขาที่ริมฝีปากของหลังเลนส์ไปแล้ว ไม่ใช่เพราะบุ๊คโกรธที่หลังเลนส์ด่าแต่เขากำลังทำตามใจตัวเองต่างหาก เขาไม่ทนแล้วเพราะตอนนี้ท่าทางของหลังเลนส์ชัดเจนแล้วว่ารู้สึกแบบเดียวกับเขา
ส่วนหลังเลนส์ตอนนี้กำลังอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากลับหลับตาลงรับจูบของบุ๊คเฉยเลย และมันก็เนิ่นนานมาก ต่างได้ลิ้มลองอะไรแปลกใหม่ของกันและกัน หลังเลนส์สวมกอดบุ๊คไว้แน่น
" อืออออ"
เสียงครางท้วงในลำคอของหลังเลนส์ หลังจากที่ถูกปลดขยี้ริมฝีปากจนแทบไม่มีอากาศผ่านเข้าไปได้นั้นก็ทำให้บุ๊คค่อย ๆ ผ่อนและค่อย ๆ พละจูบนั้นอย่างเสียดาย
" มึงจูบกู"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้น ดวงตาฉ่ำวาวจ้องมองกันและกัน หลังเลนส์ใช้มือลูบไล่ไปยังมีฝีปากตัวเองอย่างรู้สึกดี มันเป็นความรู้สึกแสนพิศวง
" เออ กูจูบ และทีนี้พอจะเข้าใจไหมว่าที่กูทำไปทุกอย่างเพราะอะไร"
บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะกระชับอ้อมกอดตัวเองให้แน่นกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าหลังเลนส์ทำท่าจะเดินออก
" เพื่อนกันจูบกันได้ด้วยหรอวะ"
บุ๊คส่ายหน้าไปมาเมื่อได้ยินประโยคของหลังเลนส์ เขาจึงล็อกหลังศีรษะของหลังเลนส์ไว้ก่อนจะกดจูบอีกครั้ง
จุ๊บ
แต่ครั้งนี้เขาตั้งใจจะทำให้หลังเลนส์รู้ว่ามันหมายถึงอะไรที่ไม่ใช่แค่เพื่อน ลิ้นร้อนสอดเข้าสู่โพรงปากแสนหวาน หัวใจตอนนี้มันทำงานหนักจริงๆ เต้นไม่เป็นจังหวะพอๆ กับเสียงลมหายใจที่มันหอบถี่จนหาจังหวะไม่เจอ
" เพื่อนกันเขาไม่จูบกันแบบนี้มึงรู้ไว้ซะ มันมีแต่แฟนเท่านั้นที่จะจูบกันแบบนี้เข้าใจซะด้วยไอ้โง่"
บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากตัวหลังเลนส์และคว้าเป้สะพายพาดไหล่ทำท่าจะเดินออกจากบ้าน เพราะเขาไม่อยากให้หลังเลนสับสนมากกว่านี้และ ตัวเขาเองก็ควรใจตัวเองที่จะทำอะไรมากกว่านี้กับหลังเลนส์
" ไอ้บุ๊ค แล้วมึงจะไปไหน"
หลังเลนส์เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบุ๊คกำลังจะเดินออกจากบ้านไป
" จะกลับบ้าน กูขี้เกียจคุยกับคนโง่" บุ๊คเอ่ยประชดก่อนจะก้าวเดินออกไป แต่ยังไม่ไวเท่าหลังเลนส์ที่วิ่งไปดักด้านหน้าของบุ๊ค จนบุ๊คเองตกใจ
" มึง..." เพียงแค่นี้ที่บุ๊คเอ๋ยได้ เพราะคอของบุ๊คถูกล็อคไว้ หลังเลนส์กดริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของบุ๊ค ซึ่งครั้งนี้หลังเลนส์กับรุกบุ๊คหนักมากขึ้นเพราะเขากำลังสอดลิ้นเข้าสู่มุมปากของมบุ๊คนั้นเอง
การบดขยี้ของริมฝีปากทั้งสองกินเวลาไม่นานมากนัก หลังเลนส์รู้สึกโปร่งในหัว กับโล่งใจมากที่ได้ทำสิ่งนี้ออกมา
" เพื่อนกันเขาไม่จูบกันแบบนี้ มีแต่แฟนเท่านั้นเหมือนมึงว่าเลยอ่ะ"
หลังเลนส์เอ่ย หลังจากผละจูบนั้น และสองมือยังคงโอบกอดที่ลำคอของบุ๊ค ส่วนบุ๊คยังคงรั้งเอวของหลังเลนส์ไว้พร้อมส่งยิ้มให้กัน
" ไอ้หลังเลนส์ มึงแม่งทำให้กูรักจนได้นะมึง"
บุ๊คเอ่ยออกมา เขาไม่ต้องปิดบังอะไรแล้วนี่ ก็การกระทำมันทำให้เห็นแล้วว่าเขาและคนตรงน่ารักกันเกินกว่าคำว่าเพื่อน
" ไอ้บุ๊ค คือกูไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่กูบอกเลยนะว่ากูไม่อยากให้มึงอยู่ใกล้ใครเลยทั้งพิ้งค์หรือใครก็ตาม กูอยากให้มึงอยู่กับกูแค่คนเดียว"
หลังเลนส์ระเบิดความรู้สึกออกมา บุ๊คยกยิ้มยังพอใจก่อนจะเอ่ยขึ้น
" มึง แม่งมันโง่แต่กูก็รักมึงว่ะ เป็นแฟนกับกูนะไอ้หลังเลนส์"
บุ๊คไม่พูดอะไรมาก เขาต้องการทำแบบนี้มานานแล้ว เขาไม่ดีรอเมื่อเอ่ยเสร็จก็ดึงแขนหลังเลนส์มาที่โซฟาพร้อมกับสวมกอดไว้
" ไอ้บุ๊ค กูเขินว่ะ"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นทั้งที่ใบหน้าแดงเห่อออกมาอย่างบอกไม่ถูก เขาถูกบุ๊คที่ไม่กี่นาทีก่อนคือเพื่อนสนิทมาก และตอนนี้สถานะเปลี่ยนไปแล้ว
" มึงเขินอะไร เขินที่โดนกูจูบหรือเขินที่กูบอกรัก"
" เขินนี่มึงขอกูเป็นแฟนนี่ล่ะ ไอ้สัตว์ใครจะเชื่อว่าผู้ชายตัวโตเหมือนกันจะมาขอเป็นแฟน ขนลุกว่ะ"
หลังเลนส์เอ่ย
" แล้วมึงขนลุกป่ะ แต่กูอ่ะอย่างอื่นลุกมากกว่า"
" ไอ้ทะลึ่ง"
หลังเลนส์ชกมือไปยังแขนของบุ๊คไม่แรงนัก ด้วยความเขินพร้อมยิ้มหวานให้กันและกัน
" ไอ้เชี้ย เขินรุนแรงนะมึง"
บุ๊คเอ่ยออกมาเเกมหยอก ใบหน้ายิ้มพร้อมความสุขที่มากมายอยู่บนใบหน้าตอนนี้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments