เพื่อนสนิท 4/5

         บุ๊คเดินมาหาพิ้งค์ที่หน้าร้านขนมเค้กที่ประจำ พิ้งค์เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวขาว น่ารัก ผมยาวดูสมกับดาวโรงเรียน แต่ใบหน้าน่ารักแบบนี้ไม่ได้ทำให้บุ๊คเปิดใจว่าจะคบเป็นแฟนเลยสักนิด เพราะในใจเขามีสิ่งที่เรียกว่าน่ารักที่สุดแล้วคือหลังเลนส์

           " บุ๊ค มาช้าจังนะ" เสียงหวานเอ่ยงอนเบาๆ

           " พอดีมากับไอ้หลังเลนส์อะ"

           " แล้วหลังเลนส์ล่ะ"

           " มันไปดูของขวัญวันเกิดให้แม่มันอะ แอนนี่เราก็ต้องไปช่วยมันดูของขวัญให้แม่มันด้วยสิ"

       บุ๊คเอ่ยตัดบททันที ไม่อยากจะคิดเมื่อเห็นว่าหลังเลนส์มันต้องเดินคนเดียว

           " อ้าว แล้วดูหนังของเราล่ะ"

           " ที่จริงเราก็บอกพิ้งค์หลายครั้งแล้วว่าเรายังไม่อยากจะคบใครเป็นแฟน แต่พิ้งขอเองว่าคบเป็นเพื่อนก็ได้เราก็โอเคนะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพิ้งค์จะขอเกินที่เราคุยกันไว้อ่ะ"

         บุ๊คเอ่ยเรื่องจริงออกมา เขาได้คุยกันแล้วตั้งแต่วันแรกที่พิ้งค์มาขอไลน์บุ๊คในห้องเรียนพิเศษ บางครั้งผู้หญิงจะยอมทุกอย่างเมื่อยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ แต่พอเริ่มได้แล้วจะเพิ่มทวีมันมากขึ้นเรื่อยๆ

           " ก็ไม่ได้อะไรมาก เอางี้เดี๋ยวเราไปหาหลังเลนส์กันแล้วทิ้งจะช่วยเรื่องของขวัญให้คุณแม่หลังเลนส์เอง ผู้หญิงย่อมเข้าใจผู้หญิงเชื่อสิ"

            " ตามใจนะ"

        บุ๊คเอ่ยก่อนจะพาพิงค์จะเดินมาที่ร้านเดิมที่เขาเพิ่งเดินออกมา เขายังคงเห็นหลังเลนส์นั่งอยู่ที่เดิม

            " หลังเลนส์"

          เสียงหวานของพิ้งค์เอ่ยขึ้น หลังเลนส์หันไปมองตามเสียทันที ใจมันวูบวาบไปหมดที่เห็นบุ๊คกลับมา แต่มันก็หนักหน่วงเมื่อเห็นว่ามันพิ้งค์

            " ไอ้บุ๊ค พิ้งค์" หลังเลนส์เอ่ยเรียกชื่อ บุ๊คและ พิ้งค์เดินมานั่งที่โต๊ะ

            " ไม่ไปดูหนังกันเหรอ แล้วนี่ มึงกลับมาทำไมวะ"

            " ก็บุ๊คบอกว่าจะต้องมาเป็นเพื่อนหลังเลนส์หาของขวัญให้คุณแม่ พิ้งค์เลยอาสามาช่วยอะ"

         เมื่อพิ้งค์เอ่ยเสร็จหลังเลนส์ก็หันมาทางบุ๊คที่หลบสายตามันเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น

          " เอาหน่ามึง เดี๋ยวให้ พิ้งค์ช่วยก็ได้ ไป ๆ ๆ"

       บุ๊คเอ่ยขึ้นอยากตัดบทก่อนจะกอดคอหลังเลนส์ลุกขึ้นไปที่ร้านต่างๆ ที่มีของขวัญสำหรับหญิงกลางคน

       ทั้งคู่ต่างดูมีความสุขที่ได้เลือกของด้วยกันจนลืมหญิงสาวที่ไปด้วยไปเลย ก่อนที่พิงค์จะเอ่ยขึ้น

        " นี่ถ้าพิ้งค์ไม่รู้จักบุ๊คกับหลังเลนส์มาก่อน พิ้งค์ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันนะ"

        บุ๊คกับหลังเลนส์หันมองหน้ากันด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อยก่อนที่หลังเลนส์รีบดึงแขนที่เผลอโอบเอวบุ๊คออก

          " ก็บุ๊คกับหลังเลนส์ เราสนิทกันตั้งแต่เด็กแล้ว"

        บุ๊คเอ่ยขึ้น

          " ใช่ พิ้งค์อย่าคิดมากเลย" หลังเลนส์เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินดูของไปเรื่อย ๆ

         พิ้งค์ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเธอสนใจบุ๊คมากกว่า ทั้งสองเดินดูของกันเรื่อย ๆ เช่นกัน หลังเลนส์ก็แอบมองอยู่ห่าง ๆ

           " เชี่ย กูเป็นอะไรวะ"

         หลังเลนส์เอ่ยกับตัวเอง ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเขามองเห็นบุ๊คและพิ้งค์กำลังเลือกซื้อของด้วยกัน คุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนานซึ่งเขาเองคิดว่าเขาคือส่วนเกินหรือเปล่า

          " หลังเลนส์คุณแม่ชอบสีอะไรหรอ"

       เสียงหวานของพิ้งค์ที่เอ่ยขึ้นพร้อมยกชุดคริสตัลสีสวยถาม ด้วยความที่รีบทำไวเกินทำให้เธอเสียหลักเหมือนจะล้ม แต่บุ๊คที่อยู่ข้างๆ ก็สามารถรับร่างของพิ้งค์ได้ทัน ยิ่งทำให้หนังเลนส์รู้สึกปั่นป่วนไปหมด และใจก็เต้นแรงกว่าเดิม

          " ว้าย!" เสียงพิ้งค์ที่เอ่ยร้องก่อนจะสบตามองไปยังใบหน้าของบุ๊ค

          " เอ่อ..." หลังเลนส์ที่ทำอะไรไม่ถูกได้แต่อึกอัก

          " ถ้าไม่ได้บุ๊ค พิ้งแย่แน่ๆ เลยอ่ะ"

          " ก็ระวัง ๆ หน่อยสิ "

       รอยยิ้มหวาน ๆ ของบุ๊คที่ส่งออกมา ยิ่งทำให้หลังเลนส์นึกหวง เขาไม่อยากอยู่ตรงนั้นแล้ว เขาไม่อยากอยู่ใกล้สองคนนี้แล้วจริง ๆ

         " เอ่อ กูลืมไปว่ากูนัดเพื่อนไว้อยากไปก่อนนะพิ้งค์เราไปก่อนนะ"

       หลังเลนส์เอ่ยบอกบุ๊คก่อนจะหันไปบอกพิ้งค์

       หลังเลนส์คลิปเดินออกมาและเรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที โดยไม่เข้าใจตัวเอง

         " กูเป็นอะไรไปวะ"

       หลังเลนส์เอ่ยขึ้นพร้อมกับจับที่อกตัวเองเบา ๆ ก่อนจะล้วงเอามือถือขึ้นมาดูหน้าจอมองปลายสายเป็นเบอร์ของบุ๊ค

        " มีอะไรวะ" หลังเลนส์เอ่ยทันทีที่กดรับสาย

        (มึงนัดใครไว้)

        " นัดเพื่อน"

        (เพื่อนที่ไหน กูรู้จักไหม)

         " เพื่อนสมัยเรียนไง มึงไม่รู้จักหรอก"

        ( กูตั้งแต่ประถมจนตอนนี้มัธยมแล้วเพื่อนมึงคนไหนที่กูจะไม่รู้จักวะ)

         " มึงจะอะไรกันนักหนาวะ กูว่ามึงเอาเวลาที่คุยกับกูไปดูแลพิ้งค์ก่อนไหม และเพื่อนของกูก็เป็นเพื่อนสมัยอนุบาลไม่รู้จักหรอก ไอ้ควาย"

      หลังเลนส์โมโหกับความรู้สึกสับสนและเหมือนบุ๊คจะต้อนเขาให้จนมุมตลอดเวลา เขากดวางหูทันที

      เมื่อมาถึงบ้าน หลังเลนส์ก็มาคิดทบทวนว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่กับเรื่องราวของบุ๊ค เพราะใจจริงแล้วหลังเลนส์ไม่ชอบ ไม่พอใจที่บุ๊คเห็นคนอื่นสำคัญมากกว่าตัวเอง

      ทางด้านบุ๊คที่ชัดเจนแล้วกับการกระทำของหลังเลนส์ เขาไม่ดีรออะไร ปิดฉากการมีความหวังของพิ้งค์ทันทีด้วยการบอกไปตรง ๆ ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว และขอโทษเธอที่ไม่อาจจะเป็นไปได้มากกว่าเพื่อนจริง ๆ

     ฟิด ฟิด

     หลังเลนส์ใช้มือปัดป่ายไปบนใบหน้าและจมูก ก็เขารู้สึกว่ามีอะไรวนเวียนอยู่ที่ใบหน้าจมูกของเขา จงต้องลืมตาขึ้นและสิ่งที่เห็นคือใบหน้าอันหล่อเราของบุ๊คที่คร่อมร่างหลังเลนส์ที่นอนอยู่บนโซฟา

        " ไอ้บุ๊ค "

      หลังเลนส์เอ่ยชื่อพร้อมพาตัวเองดีดตัวขึ้น จนร่างของหลังเลนส์เองเซล้มลง และกลับดึงร่างของบุ๊คล้มทับตัวเองอีกที จมูกและจมูกที่ชนกันมันทำให้ความรู้สึกบอกไม่ถูก เพราะใจเต้นแรงเกินห้ามไปแล้วสายตาสองสายตาที่ประสานกันทำเอากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ หลังเลนส์รีบผลักบุ๊คออกทันทีเมื่อได้สติ

         " ไอ้บุ๊คลุกดิ กูหนัก"

       หลังเลนส์เอ่ย ทั้งที่ใบหน้าร้อนเห่อ พร้อมขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองหน้าบุ๊คที่จ้องหน้าหลังเลนส์อย่างเอาเรื่อง

         " มึงมาทำไม"

       หลังเลนเอ่ยถามอย่างงอน ๆ เมื่อลุกขึ้นนั่ง

          " กูเอาของมาให้มึง จะเอาไปให้คุณแม่ไม่ใช่หรือไง"

        บุ๊คเอ่ยขึ้นพร้อมกับวางถุงชุดกาแฟคริสตัลไว้ที่โต๊ะรับแขก หลังเลนส์ปรายตามองก่อนจะเอ่ยขึ้น

           " แล้วพิ้งค์ล่ะ" หลังเลนส์เอ่ยขึ้น

           " ก็กลับแล้วดิ แล้วที่มึงบอกเพื่อนที่นัดไว้อะผู้หญิงหรือผู้ชายวะ"

           " มึงจะรู้ไปทำไม เรื่องของกูป่าววะ"

        หลังเลนส์เอ่ย บุ๊คที่ได้ยินดังนั้นก็ลุกพรวดมาคล่อมตัวหลังเลนส์อีกครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้หลังเลนส์ถูกคร่อมเรียบร้อยแล้ว

        พรึ่บ!

          " ไอ้เชี้ย! บุ๊คมึงมาคร่อมกูทำไมเนี่ย"

        หลังเลนส์เอ่ยพร้อมยกมือดันที่อกรุกไว้เมื่อบุกค่อย ๆ โน้มหน้าตํ่าลง

          " ไอ้หลังเลนส์ มึงแม่งเรียนเก่งซะเปล่า เสือกโง่สัตว์"

        อยู่ ๆ บุ๊คก็เอ่ยด่านหลังเลนส์ทั้ง ๆ ที่ยังกอดอีกคนในอ้อมกอด

           " มึงกล้าดียังไงมาด่ากูโง่เนี่ย ไอ้เว...(เวร)"

        ไม่ทันที่หลังเลนส์จะด่าออกมาทั้งหมด ริมฝีปากของบุ๊คก็กดเขาที่ริมฝีปากของหลังเลนส์ไปแล้ว ไม่ใช่เพราะบุ๊คโกรธที่หลังเลนส์ด่าแต่เขากำลังทำตามใจตัวเองต่างหาก เขาไม่ทนแล้วเพราะตอนนี้ท่าทางของหลังเลนส์ชัดเจนแล้วว่ารู้สึกแบบเดียวกับเขา

         ส่วนหลังเลนส์ตอนนี้กำลังอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากลับหลับตาลงรับจูบของบุ๊คเฉยเลย และมันก็เนิ่นนานมาก ต่างได้ลิ้มลองอะไรแปลกใหม่ของกันและกัน หลังเลนส์สวมกอดบุ๊คไว้แน่น

           " อืออออ"

         เสียงครางท้วงในลำคอของหลังเลนส์ หลังจากที่ถูกปลดขยี้ริมฝีปากจนแทบไม่มีอากาศผ่านเข้าไปได้นั้นก็ทำให้บุ๊คค่อย ๆ ผ่อนและค่อย ๆ พละจูบนั้นอย่างเสียดาย

           " มึงจูบกู"

        หลังเลนส์เอ่ยขึ้น ดวงตาฉ่ำวาวจ้องมองกันและกัน หลังเลนส์ใช้มือลูบไล่ไปยังมีฝีปากตัวเองอย่างรู้สึกดี มันเป็นความรู้สึกแสนพิศวง

         " เออ กูจูบ และทีนี้พอจะเข้าใจไหมว่าที่กูทำไปทุกอย่างเพราะอะไร"

      บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะกระชับอ้อมกอดตัวเองให้แน่นกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าหลังเลนส์ทำท่าจะเดินออก

         " เพื่อนกันจูบกันได้ด้วยหรอวะ"

      บุ๊คส่ายหน้าไปมาเมื่อได้ยินประโยคของหลังเลนส์ เขาจึงล็อกหลังศีรษะของหลังเลนส์ไว้ก่อนจะกดจูบอีกครั้ง

       จุ๊บ

       แต่ครั้งนี้เขาตั้งใจจะทำให้หลังเลนส์รู้ว่ามันหมายถึงอะไรที่ไม่ใช่แค่เพื่อน ลิ้นร้อนสอดเข้าสู่โพรงปากแสนหวาน หัวใจตอนนี้มันทำงานหนักจริงๆ เต้นไม่เป็นจังหวะพอๆ กับเสียงลมหายใจที่มันหอบถี่จนหาจังหวะไม่เจอ

        " เพื่อนกันเขาไม่จูบกันแบบนี้มึงรู้ไว้ซะ มันมีแต่แฟนเท่านั้นที่จะจูบกันแบบนี้เข้าใจซะด้วยไอ้โง่"

      บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากตัวหลังเลนส์และคว้าเป้สะพายพาดไหล่ทำท่าจะเดินออกจากบ้าน เพราะเขาไม่อยากให้หลังเลนสับสนมากกว่านี้และ ตัวเขาเองก็ควรใจตัวเองที่จะทำอะไรมากกว่านี้กับหลังเลนส์

      " ไอ้บุ๊ค แล้วมึงจะไปไหน"

      หลังเลนส์เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบุ๊คกำลังจะเดินออกจากบ้านไป

      " จะกลับบ้าน กูขี้เกียจคุยกับคนโง่" บุ๊คเอ่ยประชดก่อนจะก้าวเดินออกไป แต่ยังไม่ไวเท่าหลังเลนส์ที่วิ่งไปดักด้านหน้าของบุ๊ค จนบุ๊คเองตกใจ

" มึง..." เพียงแค่นี้ที่บุ๊คเอ๋ยได้ เพราะคอของบุ๊คถูกล็อคไว้ หลังเลนส์กดริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของบุ๊ค ซึ่งครั้งนี้หลังเลนส์กับรุกบุ๊คหนักมากขึ้นเพราะเขากำลังสอดลิ้นเข้าสู่มุมปากของมบุ๊คนั้นเอง

การบดขยี้ของริมฝีปากทั้งสองกินเวลาไม่นานมากนัก หลังเลนส์รู้สึกโปร่งในหัว กับโล่งใจมากที่ได้ทำสิ่งนี้ออกมา

" เพื่อนกันเขาไม่จูบกันแบบนี้ มีแต่แฟนเท่านั้นเหมือนมึงว่าเลยอ่ะ"

หลังเลนส์เอ่ย หลังจากผละจูบนั้น และสองมือยังคงโอบกอดที่ลำคอของบุ๊ค ส่วนบุ๊คยังคงรั้งเอวของหลังเลนส์ไว้พร้อมส่งยิ้มให้กัน

" ไอ้หลังเลนส์ มึงแม่งทำให้กูรักจนได้นะมึง"

บุ๊คเอ่ยออกมา เขาไม่ต้องปิดบังอะไรแล้วนี่ ก็การกระทำมันทำให้เห็นแล้วว่าเขาและคนตรงน่ารักกันเกินกว่าคำว่าเพื่อน

" ไอ้บุ๊ค คือกูไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่กูบอกเลยนะว่ากูไม่อยากให้มึงอยู่ใกล้ใครเลยทั้งพิ้งค์หรือใครก็ตาม กูอยากให้มึงอยู่กับกูแค่คนเดียว"

หลังเลนส์ระเบิดความรู้สึกออกมา บุ๊คยกยิ้มยังพอใจก่อนจะเอ่ยขึ้น

" มึง แม่งมันโง่แต่กูก็รักมึงว่ะ เป็นแฟนกับกูนะไอ้หลังเลนส์"

บุ๊คไม่พูดอะไรมาก เขาต้องการทำแบบนี้มานานแล้ว เขาไม่ดีรอเมื่อเอ่ยเสร็จก็ดึงแขนหลังเลนส์มาที่โซฟาพร้อมกับสวมกอดไว้

" ไอ้บุ๊ค กูเขินว่ะ"

หลังเลนส์เอ่ยขึ้นทั้งที่ใบหน้าแดงเห่อออกมาอย่างบอกไม่ถูก เขาถูกบุ๊คที่ไม่กี่นาทีก่อนคือเพื่อนสนิทมาก และตอนนี้สถานะเปลี่ยนไปแล้ว

" มึงเขินอะไร เขินที่โดนกูจูบหรือเขินที่กูบอกรัก"

" เขินนี่มึงขอกูเป็นแฟนนี่ล่ะ ไอ้สัตว์ใครจะเชื่อว่าผู้ชายตัวโตเหมือนกันจะมาขอเป็นแฟน ขนลุกว่ะ"

หลังเลนส์เอ่ย

" แล้วมึงขนลุกป่ะ แต่กูอ่ะอย่างอื่นลุกมากกว่า"

" ไอ้ทะลึ่ง"

หลังเลนส์ชกมือไปยังแขนของบุ๊คไม่แรงนัก ด้วยความเขินพร้อมยิ้มหวานให้กันและกัน

" ไอ้เชี้ย เขินรุนแรงนะมึง"

บุ๊คเอ่ยออกมาเเกมหยอก ใบหน้ายิ้มพร้อมความสุขที่มากมายอยู่บนใบหน้าตอนนี้

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!