ระหว่างที่บุ๊คยืนล้างจานอยู่นั้น หลังเลนส์ที่นั่งมองอยู่ลังเลว่าจะถามเรื่องที่บุ๊คจะออกไปดูหนังกับพิงค์แฟนสาวกี่โมง
" มึงจะไปกี่โมง"
อยู่ๆ เขาก็ตัดสินใจถาม หมูที่ล้างจานอยู่ก็เอ่ยขึ้นถามกลับ
" ไปไหน" แต่ก็คงยืนล้างจานอยู่
" อ้าว ก็มึงนัดผู้หญิงไปดูหนังไม่ใช่หรือไง"
หลังเลนส์เงยหน้าจากหน้าจอมือถือมองบุ๊คที่เช็ดไม้เช็ดมืออยู่
" มึงรู้ได้ไงว่ากูนัดพิ้งค์ดูหนัง"
บุ๊ควางผ้าเช็ดมือตรงหน้าก่อนจะนั่งลง จ้องไปยังใบหน้าหลังเลนส์ที่กำลังหลบสายตาเขาอยู่ตอนนี้
" เมื่อคืนกูเห็นพิงค์ส่งข้อความมา"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นเมื่อโดนจ้องจากบุ๊คอยู่นาน
" มึงอ่านข้อความกู"
บุ๊คเอ่ยขึ้นโดยทำหน้านิ่งๆ เขารู้สึกดีใจที่หลังเลนส์อ่านข้อความนั้น แอบเสียใจที่หลังเรียนไม่ได้มีท่าทีอะไรมากกว่า ถามว่าไปกี่โมง
" เออดิ กูอ่าน ก็มึงกับกูไม่มีอะไรที่เป็นความลับต่อกันไม่ใช่หรอวะ"
หลังเลนส์รีบทำหน้าไม่พอใจทันที ก็เขาสองคนไม่มีความลับต่อกันอยู่แล้วนี่บุ๊คแอบยกยิ้มกับท่าทีที่หลังเลนส์หรือเผลอหลุดออกมาจึงเอ่ยขึ้นถาม
" มึงอ่านแล้วมึงรู้สึกยังไง"
บุ๊คเอ่ยถามพร้อมยกยิ้ม มองไปยังคนข้างหน้สอย่างลุ้นๆ ว่าจะเอ่ยคำตอบแบบไหน
" รู้สึกเหรอ รู้สึกอะไร?"
หลังเลนส์เอ่ยย้อนถามกลับ
" ก็รู้สึกไง" บุ๊คเน้นเสียง
" แบบในใจรู้สึกอะ คือโกรธหรือโมโหที่แฟนคุยกับสาวคนอื่นอะไรแบบนี้อะ
บุ๊คขยายความและเอ่ยย้ำถาม หนังเลนส์เองไม่กล้าจะพูดออกไปว่า ที่จริงเขาไม่พอใจที่ปุ๊บจะออกไปดูหนังกับแฟน แต่คำว่าเพื่อนสนิทมันทำให้พูดไม่ได้จริงๆ จึงเอ่ยออกไปส่งๆ
" เชี่ย แล้วมึงจะให้กูรู้สึกยังไงวะ มึงไม่ใช่แฟนกูนี่ที่จะต้องรู้สึกอะไรอ่ะ"
คำพูดของหลังเลนส์ทำเอาบุ๊คถอนหายใจออกมาอย่างหมดแรง
" เออ จริงว่ะ งั้นเดี๋ยวกูกินเสร็จกูขออาบน้ำหน่อยนะ จะได้รีบออกไป"
บุ๊คเอ่ยแกมประชด ก็จะทำให้อย่างไรได้ละ เห็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้วนี่
ไอ้หลังเลนส์มึงมันบื้อ มึงมันควาย มึงมันซื่อบื้อ บุ๊คคิดในใจก่อนจะเดินไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำแต่งตัว
" อยากไปมากล่ะสิท่า"
หลังเลนส์เอ่ยพร้อมอยู่ปากอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินตามขึ้นไป
บุ๊คที่เดินออกจากห้องน้ำก็เห็นว่าหลังเลนส์กำลังแต่งตัวอยู่เหมือนกัน
" กูไปอาบน้ำห้องพ่อมา เห็นมึงอาบอยู่"
" แล้วมึงจะไปไหนอ่ะ"
บุ๊คเอ่ย เพราะการแต่งตัวของหลังเลนส์เหมือนคนจะออกไปข้างนอก
" เดี๋ยวออกไปพร้อมกันก็ได้ กูนัดน้องเมาส์ไว้จะไปซื้อของขวัญวันเกิดให้แม่อ่ะ"
หลังเลนส์เอ่ยบอก บุ๊คทำหน้าไม่พอใจที่เขาไม่รู้ว่าหลังเลนส์นัดน้องชายเพื่อจะไปดูของขวัญให้แม่
" อ้าว ทำไมมึงไม่เห็นบอกกูเลยวะ ว่าจะไปซื้อของขวัญให้แม่มึงอ่ะ"
หลังเลนส์ทำหน้าเลิ่กลั่กไปไม่เป็น ก็เขาคิดอะไรไม่ออกนี่นา อีกอย่างทุกครั้งไปไหนมาไหนเขาเองก็จะบอกบุ๊คเสมอ
" คะ...คือ เมื่อกี้เมาส์เพิ่งไลน์มาบอก กูก็เลยไม่ได้บอกมึง"
บุ๊คมองหน้าหลังเลนส์นิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ
ทั้งสองพากันมาที่สยามช่วงเที่ยง เขามานั่งที่ร้านนมประจำที่เคยมา เพื่อนรอน้องเมาส์ น้องชายของเราเรียนที่บอกว่านัดกันไว้
" น้องเมาส์มาถึงยังวะ"
บุ๊คเอ่ยถาม ถ้าสิ่งที่เขาคิดไว้ไม่ผิด เขาคงมีคำตอบกับตัวเองไว้แล้ว
" ทำไมเหรอ มึงรอเป็นเพื่อนกูไม่ได้หรือไง"
หลังเลนส์หันมาทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะเเว๊ดใส่บุ๊คเหมือนคนหงุดหงิด
" ได้น่ะมันได้ คือกูแค่ถามปะวะ แล้วมึงจะหงุดหงิดใส่กูทำไม" บุ๊คเอ่ยขึ้น
" ไม่ได้หงุดหงิด แต่ถ้ามึงรีบ มึงไปก่อนก็ได้ กูลืมไปว่ามึงนัดพิงค์ไว้"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นแม้จะบอกจากใจจริงแต่น้ำเสียงก็แฝงด้วยความน้อยใจ
บุ๊คที่เห็นว่าเพื่อแปลกจึงสวมกอดที่คอก่อนจะเอ่ยขึ้นตามอย่างข้องใจกับท่าทางนี้ หรือจะเป็นอย่างที่เขาคิด
หมับ !
" มึงเป็นอะไร วันนี้ดูหงุดหงิดชิบหายเลย"
หลังเลนส์หันมองบุ๊คที่ใบหน้าอันหล่อๆนั้นกำลังจ้องมองมายังตัวเอง ก่อนจะจับมือบุ๊คออกจากคอแหละเอ่ยขึ้น
" ปล่อยกู เดี๋ยวแฟนมึงมาเห็นจะเข้าใจผิด"
น้ำเสียงเอ่ยยังไม่ชอบใจและเหมือนจะงอนของหลังเลนส์ บุ๊คยกยิ้มมุมปากอย่างรู้ความจริง จึงจับหลังเลนส์เข้าหาตัวเองและเอ่ยขึ้น
" กูไม่ไปจนกว่าน้องเม้าส์จะมา"
บุ๊คเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง และก็จะสังเกตหลังเลนส์ได้ว่ากำลังหลบสายตาเขา
" เอ่อ..."
น้ำเสียงและท่าทางของหลังเลนส์ที่อ้ำอึ้ง ยิ่งทวีความชัดเจนออกมา
" โอเค...หลังเลนส์ครับ ที่จริงแล้วมึงไม่ได้นัดกับน้องเม้าส์ใช่ไหม"
บุ๊คเอ่ย พร้อมจับไหล่สองข้างของหลังเลนส์ไว้ สายตาก็จับจองไปที่ใบหน้าของคนที่พยายามหลบสายตา
" เอ่อ คือ..."
ยังไม่ทันที่มันจะเอ่ยขึ้นเสียงมือถือของบุ๊คก็ดังขึ้น และปลายสายก็คือพิงค์นั่นเอง หนังเลนส์รีบจ้องไปยังมือถือก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าปลายสายคือใคร
" ครับพิงค์"
เพียงแค่ประโยคแรก หลังเลนส์ก็เบือนใบหน้าหันไปทางอื่น บุ๊คจึงล็อคคอไว้แน่น
(บุ๊คอยู่ไหนแล้วคะ พิงค์มาถึงที่เดิมของเราแล้วนะ)
" พิงค์รอแป๊บนะ บุ๊คกำลังจะไป"
บุ๊คเอ่ยเสร็จก็วางสายทันทีโดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรต่อ อันที่จริงพิงค์ก็ไม่ใช่แฟนเขาด้วยแค่คนที่คุยด้วยก็เท่านั้น หัวใจของเขามันให้เพื่อนสนิทที่ได้ชื่อว่าเป็นบัดดี้กันจนหมดแล้ว
" มึงอยากให้กูไปกับพิงค์ไหม"
บุ๊คเอ่ยถามด้วยความอยากแกล้งหลังเลนส์ ชอบนักที่ดูอีกคนหงุดหงิดเพราะตัวเขา
" เอ้า! ไอ้นี่มันถามกูทำไม มึงอยากไปอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงจะมาถามกูทำซากอะไรวะ"
หลังเลนส์เอ่ยขึ้นอย่างอึกอัก ก่อนที่จะหลบสายตาและหน้าที่บึ้งงอ
" กูถามมึงอยู่ ไม่ใช่ให้มึงมาย้อนถามกูไอ้เวร กูจะถามมึงอีกครั้งว่า มึงอยากให้กูไปไหม"
บุ๊คเอ่ยถามย้ำอีกครั้งก่อนจะออกที่เอวหลังเลนส์และดึงเข้ามาหาตัว ตอนนี้คนที่ร้านเริ่มมีคนมองเราสองคนแล้วและก็เริ่มมีคนยกมือถือขึ้นมาถ่าย จนหลังเลนส์เอ่ยขึ้นอย่างตัดบทเพราะถ้าตอบแล้วบุ๊คคงปล่อย
" อยากได้คำตอบมากใช่ป่ะ ถ้ากูบอกว่ามึงจะไปไหนก็ไป ก็พิงค์แฟนมึงนี่"
น้ำเสียงแกนประชดขอหลังเลนส์ทำให้บุ๊คยกยิ้มออกมาและโน้มตัวเข้าหาอีกครั้ง แต่หลังเลนส์มองไม่เห็นรอยยิ้มนั้น
" กูก็จะไปถ้ามึงอยากให้กูไป "
หลังเลนส์ค่อยๆ หุบยิ้ม เพราะบุ๊คทำท่าจะเดินออกไปจึงรีบเอ่ยขึ้น
" มึงจะซีเรียสไปป่ะวะ ไอ้บุ๊ค มึงเป็นอะไรของมึง" หลังเลนส์ถามกลับบ้าง
" เปล่า ถ้ามึงอยากให้กูไปกูก็จะไป แล้วมึงล่ะจะไปไหนต่อหรือจะกลับบ้าน"
บุ๊คเอ่ยถามขึ้น เพราะยังไงก็รู้ว่าเรื่องนัดกับน้องเมาส์คือเรื่องหลอก
" เอ่อ เดี๋ยวกูแวะดูของแป๊บกลับแล้วล่ะ มึงตามสบายเลยนะ"
หลังเลนส์เอ่ย บุ๊คพยักหน้าก่อนจะสะพายกระเป๋าและเดินออกไปโดยไม่หันมองหลังเลนส์ที่นั่งมองแผ่นหลังนั้น
บางครั้งบุ๊คคิดว่า เขากลับหลังเลนส์เหมาะที่สุดคือเป็นเพื่อนสนิทและบัดดี้กัน มากกว่าจะเป็นคนรักกันก็ได้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments