หัวกลมเล็ก กลุ่มผมนิ่มตอนนี้มันค่อยๆ ไหลมาซบที่ไหล่ของบุ๊คด้วยความเพลียหลังจากซ้อมบาส มาเจอแอร์เย็นๆ ในรถแท็กซี่ทำให้หลังเลนส์เผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
บุ๊คเห็นว่าหลังเลนส์หลับจึงขยับตัวเองเพื่อให้หัวของหลังเลนส์พิงได้สบายขึ้น พร้อมประคองหัวนั้นไม่ให้กระแทกกับเบาะเวลารถขยับ หลายครั้งที่บุ๊ค กดจมูกเข้าที่กลุ่มผมนิ่มของหลังเลนส์ดูคนที่หลับอยู่ไม่รู้ตัว เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรสักนิดกับกลิ่นเหงื่อ เขากลับรู้สึกดีด้วยซ้ำไป
" ไอ่หลังเลนส์ ตื่นได้แล้วมึง ถึงบ้านแล้ว"
บุ๊คยกไหล่ตัวเองเพื่อให้คนที่นอนพิงอยู่รู้สึกตัว จนหลังเลนส์สะดุ้งตื่น
" อื้อๆ "
เสียงงัวเงียที่ตื่นขึ้นมามองว่าถึงบ้านแล้ว หลังเลนส์เปิดประตูลงจากรถแท็กซี่ก็จะหันไปบอกบุ๊ค
" มึงจ่ายไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปเอาเงินในบ้าน"
เสียงเอ่ยยังคงงัวเงียของหลังเลนส์ที่เดินไปเปิดประตูบ้าน
" ปิดไฟเงียบเลย พ่อไม่อยู่หรอวะ"
บุ๊คเอยเมื่อเข้ามาในบ้านเห็นว่าบ้านเงียบๆ และไฟก็ปิดสนิท
" คงขึ้นข้างบนแล้วอ่ะ ว่าแต่หิวไหมวะ"
หลังเลนส์เอ่ยถามกับเพราะทั้งคู่ยังไม่ได้ทานอะไรหลังจากซ้อมเสร็จ
" นิดหน่อย แต่มึงไม่ต้องทำอะไรหรอกเดี๋ยวกูต้มมาม่าก็ได้"
บุ๊คเอยทันทีเมื่อเห็นว่าหลังเลนส์ต้องทำอะไรให้กินแน่นอน
หลังเลนส์อยู่กับพ่อเพียง 2 คน เรื่องเข้าครัวเป็นเรื่องปกติของหลังเลนส์ ถ้าพ่อไม่อยู่เขาก็ทำกินเองสบาย
" กูบอกให้มึงแวะกินอะไรก่อนไหม มึงก็ไม่ยอมแวะ"
หลังเลนส์เอ่ยบ่น เพราะเขาบอกบุ๊คตอนก่อนขึ้นรถแล้วว่าให้แวะหาอะไรกินก่อนเข้าบ้านไหม แต่บุ๊คบอกไม่ดีกว่าอยากกลับไวๆ
" ก็กูเห็นมึงเหนื่อยนี่หว่า ก็อยากให้กลับไวๆ"
บุ๊คเอ่ยทันควัน จนคนฟังนิ่ง หลังเลนส์เม้มปากเล็กน้อยก่อนจะคิดว่าบางครั้งบุ๊คก็ห่วงเขามากเกินซะจนรู้สึกแปลกๆน่ะ
" ไม่ต้องมาห่วงกูเลย ห่วงตัวเองเหอะ เดี๋ยวกูดูข้าวแป๊บถ้าเหลือจะทำข้าวผัดให้กิน"
หลังเลนส์เอ่ยเพื่อปัดความคิดตัวเองก่อนจะเดินเข้าครัว
" ไม่ต้องหรอกมึง กูแค่มาม่าก็เอาอยู่แล้ว"
บุ๊คเดินตามหลังมาอย่างรวดเร็ว จนหลังเลนส์ที่กำลังจะหันกลับไปด่าก็ต้องปะทะหน้าอย่างจังกับบุ๊คซึ่งมันชนกันพอดี พอเหมาะและพอควร
กึก!
อึก!
บุ๊คและหลังเลนส์ต่างยืนนิ่งต่อหน้ากันและกัน เสียงเงียบที่ปกคลุมตอนนี้ปล่อยให้เสียงลมหายใจเป็นตัวเอก และเสียงหัวใจกำลังเป็นตัวรองได้ส่งเสียงออกมาเบาๆ หลังเลนส์ส่ายสายตาไปมาอย่างรู้สึกเขิน บุ๊คเพลงก็ต้องไปยังดวงตาของหลังเลนส์ด้วยเช่นกัน และบุ๊คก็ถูกสมองสั่งให้เดินเข้าหาหลังเลนส์จนแผ่นหลังแนบเข้ากับตู้เย็น ทำให้หลังเลนส์รู้สึกตัว
" เออ ไอ้เชี่ยหลีกดิ กูจะเอาหมูในตู้มาทำข้าวผัดให้"
หลังเลนส์เอ่ยอย่างเขินๆ ก่อนจะพลักบุ๊คออกแล้วหันไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบของ แก้มสองแก้มมันร้อนไปหมด ใจก็สั่นระรัวอย่างกับกลองซะแล้วสิ
บุ๊คเองที่เขินไม่แพ้กันก็รีบเอ่ยถามหลังเลนส์ไปเช่นกัน
" แล้วมึงมีอะไรให้กูช่วยไหม"
เขาเอ่ยก่อนจะโน้มตัวมองของในตู้เย็นโดยมีหลังเลนส์ที่นั่งอยู่ก่อนกำลังหยิบของมือพัลวันไปหมด ตายแล้วสิ หลังเลนส์กำลังใจเต้นแรงเพราะเพื่อนที่สนิทมากๆ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กคิดได้แบบนั้น เขาจึงรีบเอาของมาวางที่โต๊ะทันที
" งั้น มึงหั่นผักไปเดี๋ยวกูไปเตรียมข้าวก่อน"
หลังเลนส์รีบเดินไปที่หม้อข้าวเพื่อจัดเตรียมมาทำข้าวผัด วันนี้ใจเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยสักนิด ไม่รู้ว่าบุ๊คเป็นอะไรทำไมวันนี้ทำหัวใจเขาเต้นแรงตลอด
ส่วนบุ๊คที่ยังคงหั่นผักไป สายตาก็มองไปยังหลังเลนส์ เขาหยกยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรเลยที่เขาทำให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้ เขาตั้งใจไม่แวะทานข้าว ตั้งใจปล่อยให้หลังเลนส์หลับสนิท ตั้งใจเดินมาประชิดตัวและตั้งใจอยากจะให้หลังเลนส์เป็นคนทำอาหารให้ทาน
" อ่า...ลงมือเลยนะ"
เสียงบุ๊คเอย เมื่อข้าวผัดแสนหอมยั่วยวนมาวางตรงหน้า หลังเลนส์พยักหน้าเป็นเชิงให้ทานได้ เข้าทั้งสองจึงจัดการกับข้าวผัดตรงหน้าจนเกลี้ยง
" ไอ้เชี่ยบุ๊ค ไหนบอกว่าหิวนิดหน่อย ที่มึงแดกเข้าไปสองจานน่ะเขาไม่ได้เรียกนิดหน่อยป่ะ"
หลังเลนส์ประชดคนตรงหน้าที่หยกยิ้มอ่อนๆ ออกมา หลังจากทานอาหาร เก็บกวาดล้างจานเรียบร้อยก็พากันขึ้นห้องบุ๊คมานอนที่บ้านหลังเลนส์อยู่บ่อยๆ มีบ้างที่หลังเลนส์ก็ไปค้างที่บ้านบุ๊คเพราะความสนิทของทั้งคู่นั่นเอง
ปึก!
" ไปอาบน้ำดึกแล้ว กูง่วงชิบ"
หลังเลนส์เอ่ยพร้อมโยนผ้าขนหนูให้บุ๊คที่นั่งเล่นมือถืออยู่บนเตียงระหว่างที่เขารอหลังเลนส์อาบน้ำ
บุ๊ครับผ้าขนหนูก่อนจะวางมือถือไว้ที่หัวเตียงและเดินไปยังห้องน้ำแต่ก็ไม่ลืมจะหันมาบอกหลังเลนส์ด้วยความเป็นห่วง
" ง่วงก็นอนไปเลยนะ ไม่ต้องรอ ท่าทางมึงเหนื่อยมาก"
เอ่ยจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุข
" ใครเขาจะรอมึงกันล่ะ"
หลังเลนส์เอ่ยพร้อมทำหน้าเบ้ใส่คนในห้องน้ำก่อนจะคว้ามือถือขึ้นมาเล่นบ้าง แต่ก็ได้ยินเสียงข้อความจากมือถือของบุ๊ค ข้อความเข้าดังถี่ขึ้นจนหลังเลนส์รำคาญจึงคว้ามือถือขึ้นมาเพื่อจะปิดเสียง แต่เขาก็อดที่จะมองข้อความนั้นไม่ได้จริงๆ
พิ้งค์ : บุ๊คพรุ่งนี้ไปดูหนังกันนะ เจอกันที่สยามนะคะ
หลังเลนส์ไล่สายตาอ่านข้อความนั้น เขารู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าแม่งความรู้สึกแปลกๆ นี่คืออะไร เขาสะบัดหัวเบาๆ ก่อนจะปิดเสียงและวางมือถือลงไว้ที่เดิม
บุ๊คเป็นคนที่ใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควร เขาเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าหลังเลนส์หลับไปแล้ว กางเกงขาสั้นที่ใส่นอนกับเสื้อยืดทำไมเขามองว่ามันเซ็กซี่มากเมื่ออยู่บนตัวของหลังเลนส์ เขาตากผ้าขนหนูเรียบร้อยก็เดินเข้ามาที่เตียง นั่งลงข้างๆ คนที่นอนอยู่ ตอนนี้คงฝันหวานเพราะดูหลับสบายเหลือเกิน
" เวลามึงหลับอ่ะ กูโคตรชอบเลย เพราะมันเป็นเวลาเดียวที่ทำให้กูได้แสดงความรักกับมึงแบบไม่ใช่เพื่อน"
บุ๊คเอ่ยเสร็จก็ก้มลงจูบที่หน้าผากของหลังเลนส์เบาๆ พร้อมเอ่ยขึ้น
" ฝันดีนะครับ ที่รักของกู"
บุ๊คเอ่ยก่อนจะเดินไปยังฝั่งตัวเองปิดไฟเพื่อเข้านอน
หลังเลนส์คือคนที่เวลาหลับแล้วจะหลับลึก แถมเป็นคนที่นอนดิ้นมาก เขาดินผิดตัวไปมาโดยไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสมกอดบุ๊คอยู่
" อื้อ"
บุ๊คสะดุ้งตื่นเพราะแขนและขาของหลังเลนกำลังผ้าเข้ามากอดเขาจนรู้สึกอึดอัด
" กูจะไม่ยอมให้มึงไปนอนกับใครแน่นอน"
บุ๊คเอ่ยขึ้นก่อนจับแขนและขาของหลังเลนส์ออกจากตัวและดึงตัวของหลังเลนส์เข้ามาสวมกอดไว้
" ไม่มีวันจริงๆ มึงได้นอนแค่กับกูเท่านั้น"
บุ๊คเอ๋ยพร้อมกดจมูกเข้าที่กลุ่มผมของหลังเลนส์และหลับตาลงด้วยรอยยิ้ม
รุ่งเช้าของวันเสาร์ หลังเลนส์ปรือตาขึ้นพร้อมกระพริบตาเพื่อปรับให้รับกับแสงด้านนอก ผสมผสานกับความงัวเงีย เขายันตัวเองลุกขึ้นและมองไปยังคนที่นอนข้างๆ ที่นอนหลับพริ้มอยู่
" ไอ้บุ๊ค ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วมึง"
หลังเลนหันไปปลุกบุ๊คที่นอนอยู่แต่บุ๊คก็ทำมากสุดก็แค่พลิกตัวจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งเท่านั้น
" อื้อออ นอนอีกนิดดิวะ กูยังง่วงอยู่เลย"
บุ๊คเอยเสียงงัวเงียพร้อมดึงผ้าห่มไปคลุมโปงไว้อย่างขี้เซา ที่จริงมันก็น่ารักนะสำหรับหลังเลนส์
" เออๆ นอนไปเดี๋ยวกูลงไปดูพ่อก่อน ว่าตื่นหรือยัง"
หลังเลนส์เอ่ยเขาลุกไปล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยก็เดินลงไปดูพ่อและเตรียมอาหารเช้าให้อย่างที่ทำเป็นประจำ
" พ่อ พ่อ พ่อครับ "
เมื่อลงมาเขาก็ตะโกนเรียกพ่อ แต่ตะโกนอยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ เขาจึงเดินไปที่ครัวเพราะคิดว่าพ่ออาจจะอยู่บนห้อง แต่เขาก็มาเจอโน๊ตเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร พร้อมซองสีขาวที่บรรจุเงินอยู่จำนวนหนึ่ง
//" พ่อไปแคนาดาอาทิตย์นึง เงินไม่พอไปขอแม่นะ อิอิ"//
หลังเลนส์ยกยิ้มกว่า ก่อนจะหลุดขำออกมาเบาๆ เพราะนี่คือพ่อที่เขารักมากที่สุด พ่อที่เลี้ยงเขามาอย่างเพื่อนคนนึง
" เพราะพ่อเป็นแบบนี้ไงล่ะ หลังเลนส์ถึงรักพ่อที่สุดครับ อาทิตย์นึง 20,000 บาทไม่พอก็บ้าแล้วคร้าบบ"
หลังเลนส์ยกซองเงินเปิดดูแล้วพบว่ามีจำนวนเงินมากโข เขาเอ่ยเสร็จก็เดินไปที่ครัวเพื่อทำอาหารเช้าสำหรับตัวเองและเพื่อนที่ไร้บ้านอย่างบุ๊ค
ระหว่างที่หลังเลนส์ทำอาหารอยู่ บุ๊คก็เดินลงมาหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย ก็ตื่นมาไม่เจอหลังเลนส์เขาก็รีบตาสว่างทันที
" มึงตื่นแล้วไม่ปลุกกูวะ"
บุ๊คเอ่ยเป็นเชิงตำหนิหลังเลนส์ที่ปล่อยให้เขานอนอยู่โดยไม่มีหลังเลนกอด
" อย่ามาว่ากู นี่ปากกูจะฉีกถึงหูแล้ว กูปลุกมึงหลายรอบแล้วมึงเสือกไม่ตื่นเอง"
หลังเลนส์หันมาแว๊ดใส่บ้าง ก็เขาปลุกแล้วจริงๆ แต่บุ๊คไม่อยากจะตื่นเองนี่
บุ๊คเดินมาที่ครัวพร้อมชะโงกหน้ามองว่าหลังเลนส์ทำอะไรทานเช้านี้ แต่เพราะใบหน้าที่ใกล้ซอกคอของหลังเลนส์เกินไป ทำให้ใบหน้าหลังเลนส์ร้อนวูบวาบไปหมดพอๆ กับข้าวต้มบนเตาตอนนี้
" อะ...ไอ้บุ๊ค ถอยดิกูจะเอาข้าวต้มไปวางที่โต๊ะ"
หลังเลนส์เอ่ย บุ๊คก็หลีกทางให้แต่โดยดี แต่ก็เดินตามไปที่โต๊ะอาหารแบบประชิดตัวเหลือเกิน
หลังเลนส์วางหม้อข้าวต้มเขาหันไปหามุกเพื่อที่จะบอกให้เอาถ้วยตามมา แต่บุ๊คที่เดินเข้ามาประชิดตัวก่อนและกำลังใช้สองแขนคล่อมตัวหลังเลนส์ไว้
" อือออ ไอ้บุ๊คมึงจะทำอะไรวะ"
หลังเลนส์เอ่ยพร้อมเบี่ยงหน้าหนีก็ไม่รู้ว่าบุ๊คทำไมต้องทำท่าทางโน้นหน้าลงมาด้วยสินะ
" ไอ้บุ๊ค มึงใกล้เกินไปแล้วนะ"
หลังเลนส์เอ่ยอีกครั้งเมื่อเห็นว่าบุ๊คยังคงน้อมตัวลงมาเรื่อยๆ ด้วยสายตาที่ฉ่ำวาว
" ก็กำลังจะดูปากมึงไง บอกว่าจะฉีกถึงหู มันฉีกจริงหรือเปล่านะ ไหนๆ กูดูดิ"
บุ๊คโน้มหน้าลงมองไปยังหูและปากของหลังเลนส์ เขาแค่อยากแกล้งหลังเลนส์เท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าไอ้ที่เบี่ยงซ้าย เบียงขวาอยู่นั่นปายจมูกก็เฉียดเข้าไปที่แก้มของหลังเลนส์เต็มๆ ทำเอาทั้งสองคนหยุดนิ่งและสายตาสองคู่ต่างมอกันไปมาอย่างตกใจ ไม่ใช่ครั้งแรกของบุ๊คที่หอมแก้มหลังเลนส์ ทุกครั้งที่เขาหอมแก้มคือหลังเลนส์ไม่รู้สึกตัวก็เท่านั้น
ตึก ตึก ตึก
เสียงหัวใจมันระรัวไปหมด สองมือของหลังเลนส์ที่จับขอบโต๊ะไว้แน่นมันกำลังชุ่มเหงื่อทั้งๆ ที่ตอนนี้เพิ่งจะเช้าเอง
" อะ...ไอ้บุ๊ค ไอ้เวรแกล้งกูตลอดเลยนะมึง"
หลังเลนส์ที่ได้สติก่อนก็รีบพลักบุ๊คออกทันทีบุ๊คมองตามหลังพร้อมยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลังเลนเดินบ่นมุกงีบหน้าแดงเข้าห้องครัวไป
" รู้ว่ากูแกล้ง ทำไมมึงต้องหน้าแดงด้วยวะ"
บุ๊คเอ๋ยก่อนจะนั่งลงรอให้หลังเลนส์ตักข้าวต้มให้
" ใครหน้าแดง กูเนี่ยนะ กูร้อนข้าวต้มต่างหากล่ะ พูดมากจริง รีบๆ กินไป"
หลังเลนส์เอ่ยทั้งที่ใจดีรู้ว่าตัวเองคิดอะไรกำลังรู้สึกแบบไหน
แต่บุ๊คคือเพื่อนสนิท
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments