"เฮ้ยไอ้เตไม่ไปกับพวกกูแน่นะสาวๆสวยๆเพียบเลยนะเว้ย" เสียงร้องถามดังขึ้นทันทีที่รถคันหรูขับเข้ามาจอดเทียบบริเวรที่ชายหนุ่มกำลังยืนเล่นโทรศัพท์ไปพลางๆขณะที่รอรถเมล์อยู่หน้ามหาวิทยาลัย
หลังจากจบวิชาเรียนวิชาสุดท้ายของวันสองเพื่อนเกลอมีแผนนัดกันออกไปเที่ยวส่องสาวๆกันโดยปกติแล้วชายหนุ่มจะพ่วงติดไปด้วยตลอดบางครั้งก็มีสาวๆสวยๆหิ้วติดไปด้วยมันก็เป็นเรื่องปกติของหนุ่มหล่อพ่อรวยที่สาวๆมักหมายปอง
"ไม่วะวันนี้ต้องกลับไปเอารถพวกมึงไปกันเหอะ" ชายหนุ่มละสายตาจากหน้าจอมือถือเงยหน้าขึ้นมาตอบปฏิเสธออกไปพร้อมบอกเหตุผลบางส่วน หลังจากเพิ่งจะทะเลาะกันกับพ่อไปเมื่อวานจึงทำให้เขารู้สึกหมดอารมณ์
"งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้บ๊ายบาย" สองเพื่อนเกลอกล่าวพร้อมโบกมือบ๊ายบายตามด้วยส่งจูบมาให้ด้วยสีหน้าทะเล้นชายหนุ่มถึงกับปัดมือไหวๆเป็นเชิงไล่แล้วรอบยิ้มกับความทะเล้นของสองเพื่อนชี้
"ไอ้ทินไปเว้ยวันนี้ไม่เมาไม่เลิกเดี๋ยวพรุ่งนี้พวกกูจะหิ้วสาวมาฝากนะเว้ย วู้ๆ" เสียงไอ้ชินเจ้าเก่าร้องขึ้นจนคนทั้งป้ายรถเมล์หันไปมองเป็นตาเดียวกันจนพวกมันขับรถผ่านไปจนลับสายตา
เตโชถึงกับต้องกุมขมับส่ายหัวเบาๆรู้สึกเอือมระอากับความร่าเริงของมันพลางคิดในใจเอออย่าเผลอหิ้วผัวมาหากูแล้วกัน
รถคันหรูแล่นผ่านไปได้ไม่นานก็มีรถหรูอีกคันมาจอดเทียบ ปิ๊บ.. เสียงบีบแตรดังขึ้นพร้อมกระจกข้างคนขับถูกลดลงเผยให้เห็นใบหน้าของคนที่เขาเกลียดแสนเกลียดกำลังส่งยิ้มหวานมาให้
เห็นดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบเดินหนีไปในทันที แต่ดูเหมือนว่าเจ้ากรรมนายเวรจะมีจริงเขาอุตส่าห์เดินหนีมาแล้วแต่ก็ยังมีเสียงคนวิ่งตามหลังมาอีก
"พี่เต" นาคินร้องขึ้นพร้อมรีบวิ่งเข้ามาดักหน้าคนตัวเล็กกว่าเอาไว้
"วันนี้พี่จะกลับไปเอารถปล่าวไปกับผมก็ได้นั่งรถเมล์ไปคนเยอะจะตาย" เจ้าตัวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพลางส่งรอยยิ้มหวานมาให้ราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา
"ไม่" เตโซตอบคำเดียวสั้นๆอย่างไม่ถนอมนำ้ใจพร้อมจ้องเขม็งมองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์อีกคนถึงกับต้องหุบยิ้มไปในทันที
เตโชเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทั้งที่มันก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาออกจะเกลียดแสนเกลียดแต่ก็ยังจะตามมาตอแยเขาอยู่ได้
ไม่ว่าจะตอนเด็กหรือตอนโตถึงเขาจะรังแกหรือว่าแกล้งยังไงมันก็ไม่เคยว่าหรือโกธรเขาเลยแถมยังมาคอยยุ่งยากวุ้นวายในชีวิตเขาตลอดจนเขารู้สึกรำคาญ
"เฮ้ยพี่" นาคินถึงกับอุทานออกมาเสียงดังเมื่อพี่ชายจู่ๆก็วิ่งหนีไป ถึงพยายามจะคว้าตัวอีกคนแต่ก็คว้าเอาไว้ไม่ทัน
พอเหลือบไปเห็นรถเมล์สายที่วิ่งผ่านหน้าหมู่บ้านมาจอดเทียบท่ารถเมล์เตโชก็ไม่มัวเสวนาให้มากความรีบวิ่งหนีไปขึ้นรถเมล์ในทันทีโดยมีนาคินยืนทำตาละห้อยมองตามรถเมล์ไปจนลับสาย
...............,............
เมื่อสายรถเมล์ที่ชายหนุ่มอาศัยโดยสารมาด้วยจอดเทียบท่ารถเมล์หน้าหมู่บ้านเตโซจึงลงจากรถเมล์เดินเข้าซอยไปไม่กี่เมตรก็มาถึงหน้าคฤหาสหรู
ชายหนุ่มเดินตรงไปกดออดหน้าบ้านเพื่อเรียกให้คนใช้ในบ้านมาเปิดประตูให้
ทันทีที่เสียงออดดังขึ้นก็มีหญิงสาวร่างท้วมอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเตโชวิ่งหน้าตั้งออกมาเปิดประตู
"อุ้ย! คุณเต" พอเห็นว่าอาคันตุกะผู้มาเยือนนั้นเป็นใครหญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีเอ่ยทักด้วยความตกใจ
"ทำไมเห็นหน้าฉันทำหน้าอย่างกับเห็นผี" ทันทีที่เห็นท่าทางของหญิงสาวเตโชก็เอ่ยท้วงขึ้นพร้อมทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ใส่
"มะลิว่าคุณเตอย่าพึ่งเข้าไปเลยนะคะคือตอนนี้คุณผู้หญิงสั่งเอาไว้ว่าช่วงนี้ห้ามไม่ให้คุณเตมาที่นี่ชั่วคราวเพราะกลัวว่าคุณเตจะไปทะเลาะกับคุณผู้ชายจนทำให้อาการของคุณผู้ชายแย่ลงค่ะ" หญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาอธิบายเหตุผล
พอได้ยินดังนั้นเตโซถึงกับรู้สึกไม่พอใจรีบเดินเข้าบ้านด้วยท่าทางขึงขังพร้อมจะมีเรื่องโดยมีสาวมะลิวิ่งตามเข้าไปพลางร้องห้าม "คุณเตอย่าค่ะอย่าเข้าไป"
"วันวิสาเธออยู่ใหน วันวิสาออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง วันวิสา" เตโซตะโกนเรียกหาแม่เลี้ยงด้วยความโมโหพลางคิดในใจว่าเห็นว่าตัวเองเป็นคุณผู้หญิงของบ้านแล้วจะมาห้ามไม่ให้เขาเข้าบ้านงั้นเหรอเขาก็เป็นลูกของพ่อเหมือนกันยังไงก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้เหมือนกัน
"มีอะไรเอะอะเสียงดังเชียว" เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากชั้นบนของบ้านพร้อมทั้งชะโงกหน้าออกมาส่องดูตรงราวบันไดบ้าน
เตโซไม่รอช้ารีบวิ่งขึ้นบันไดไปในทันทีโดยมีสาวมะลิมองตามด้วยท่าทีตกใจ
"ไปทำงานต่อเถอะมะลิไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจัดการเอง" พอมองเห็นมะลิยืนทำท่าทางเป็นกังวลอยู่ที่ตีนบันไดวันวิสาก็หันไปสั่งสาวใช้ทันทีเพราะเธอเองก็อยากคุยกับเตโซเป็นการส่วนตัว
"ได้ค่ะตะแต่ว่า" พอได้รับคำสั่งสาวเจ้าก็ตอบรับด้วยท่าทีอึกอักไม่ยอมไป
"ไม่เป็นไรไปเถอะ" ในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณผู้หญิงใครละจะกล้าขัดเลยจำใจเดินจากไปด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดมองหน้าเตโซอย่างไม่ชอบใจ
"ทีนี้มีอะไรก็พูดมาเลยน้ายินดีรับฟังเสมอ" วันวิสาเอ่ยออกมาด้วยนำ้เสียงออ่นโยน ผิดกับเตโซที่มักจะพูดจาไม่ดีกับเธอ
"เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามไม่ให้ฉันเข้าบ้าน" ชายหนุ่มเอ่ยออกไปด้วยท่าทีเดือดดาลจ้องเขม็งมองหน้าแม่เลี้ยงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"น้าก็แค่ไม่อยากให้เตทำให้พ่อไม่สบายใจตอนนี้พ่อไม่สบายเป็นโรคหัวใจเตก็รู้" วันวิสาอธิบายเหตุผลให้ลูกเลี้ยงฟังอย่างใจเย็นผิดกับคนฟังที่คอยตั้งแง่มีอคติอยู่ตลอดเวลา
"แล้วพ่อไปไหน" เตโซพยายามปรับอารมณ์ให้เย็นลงเพราะเข้าใจดีว่าตนกับพ่อก็เหมือนนำ้มันกับไฟอยู่ใกล้กันก็มีแต่พาลจะเผาไหม้กันเสียปล่าวๆเพราะต่างฝ่ายต่างมีอคติใส่กัน
"ตอนนี้คุณอิฐอยู่ที่โรงพยาบาลวันนี้น่าจะไม่ได้กลับเพราะหมอต้องรอดูอาการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงน้าเองก็พึ่งกลับมาเดี๋ยวก็ต้องออกไปแล้ว" เธอตอบกลับมาด้วยนำ้เสียงอันอบอุ่นและใจเย็นจนทำให้เตโซใจเย็นลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"แล้วพ่ออยู่กับใครทำไมเธอไม่คอยดูแลพ่อ" ถึงแม้นำ้เสียงที่พูดออกไปจะดูเย็นลงแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่งและยังคงมีอคติอยู่
วันวิสาหันมายิ้มให้เตโซอย่างออ่นโยนถึงเตโซจะแอบหวั่นไหวใจออ่นกับรอยยิ้มนั้นแต่เนื่องด้วยอคติที่ฝังลึกอยู่ในใจเขาจึงเลือกที่จะมองข้ามมันไปและไม่สนใจ
"น้ากับมาเก็บของนะจ๊ะเดี๋ยวก็ไปแล้ว" ว่าจบวันวิสาก็เดินเลี่ยงออกจากเตโซที่ยืนขวางอยู่ตรงบันไดบ้านเพื่อลงไปตามคนมาช่วยยกของ
เตโซมองตามวันวิสาที่กำลังจะก้าวลงจากบันไดแต่ในทันใดเขาก็ต้องตกใจเมื่อวันวิสาทำท่าจะล้มเขาจึงรีบถลันตัวเข้าไปช่วยพยุงเอาไว้ได้ทันพอดี
"ขอบใจจ๊ะไม่เป็นไรน้าเดินเองได้แค่รู้สึกเพลียๆ" ว่าจบเธอก็หันมายิ้มให้เตโซด้วยใบหน้าซีดๆ
ในเมื่ออีกคนยืนยันเช่นนั้นเขาเลยต้องปล่อยไปอีกอย่างเขาก็คิดว่ามันไม่ใช่กงการอะไรของเขาที่จะไปช่วยคนที่เขาไม่ชอบหน้าเขาเลยเลือกที่จะอยู่เฉยๆ
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ดีๆวันวิสาก็เกิดหน้ามืดกลิ้งหลุนๆตกลงจากบันไดไปโดยมีเตโซที่มองตามด้วยสีหน้าและแววตาของคนที่รู้สึกตกใจสุดขีด
เขาพยายามจะคว้าตัวเธอแต่ก็คว้าเอาไว้ไม่ทันและครั้นพอจะวิ่งลงไปดูก็มีเสียงเอะอะดังมาจากอีกมุมของบ้าน
"ว้าย! คุณผู้หญิง" สาวร่างท้วมร้องขึ้นด้วยความตกใจพลางวิ่งเข้ามาประคองดูอาการของเจ้านายที่นอนแน่นิ่งหมดสติอยู่ที่ตีนบันได
"ห๊ะ! เลือดคุณผู้หญิงค่ะคุณผู้หญิงช่วยด้วยค่ะช่วยด้วยคุณผู้หญิงตกบันได" สาวเจ้าอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อประคองร่างของเจ้านายขึ้นมาแล้วพบว่าศรีษะของเธออาบเต็มไปด้วยเลือดพอทำอะไรไม่ถูกเธอจึงได้แต่กอดร่างของวันวิสาเอาไว้แนบอกแล้วร้องเรียกหาคนให้ช่วย
ไม่นานคนในบ้านก็วิ่งตาตื่นเข้ามาช่วยกันดูอาการแล้วความชุลมุลวุ่นวายก็เกิดขึ้นเพราะต่างคนก็ต่างทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่ออกอาการตื่นตระหนก
"แม่! นี่มันเกิดอะไรขึ้นเรียกรถพยาบาลเร็ว" เสียงนาคินร้องขึ้นด้วยความตกใจทันทีที่เห็นมารดานอนฟุบหมดสติมีเลือดท่วมตัวในออ้มกอดของมะลิ
เขารีบวิ่งเข้าไปดูอาการของมารดาที่กำลังสลบสไลไม่ได้สติแล้วสั่งให้เรียกรถพยาบาลทันที
"คุณเตคะคุณเตผลักคุณผู้หญิงตกบันไดฮือๆ" มะลิละล่ำละลักพูดออกมาพลางชี้มือไปยังชายหนุ่มที่กำลังยืนดูเหตุการณ์อยู่ตรงบันไดบ้าน
ส่งผลให้เตโซถึงกับหน้าซีดเผือดอึ้งและตกใจสุดขีดกับคำพูดของสาวเจ้า
ในขณะเดียวกันที่ทุกคนได้ยินดังนั้นทุกสายตาต่างหันมองมาทางเขาเป็นตาเดียวกันแม้แต่นาคินเองก็ถึงกับสตั้นไปชั่วครู่ตกใจกับสิ่งที่มะลิพูดแล้วหันไปมองเตโซอย่างขอคำตอบ
เตโซเองก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพราะเขาเองก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยได้แต่ส่ายหน้าแต่ไม่รู้ว่านาคินจะเข้าใจเป็นเช่นไร
เพราะในชั่วแวบหนึ่งสายตาที่ออ่นโยนกับเขามาโดยตลอดก็กลับกลายเป็นสายตาที่เย็นเยือกหน้ากลัวจนคนมองถึงกับหนาวไปสุดขั่วหัวใจแล้วหันไปทำการปฐมพยาบาลผู้เป็นแม่จนรถพยาบาลมารับตัวเพื่อส่งโรงพยาบาลต่อไป
พอรถพยาบาลแล่นออกไปทันทีที่ตั้งสติได้เตโซก็รีบวิ่งตรงไปที่รถของตนขับตามไปในทันทีด้วยความเป็นห่วงถึงแม้จะมีเสียงก่นด่าสาปแช่งดังไล่หลังก็ตาม
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลเตโซที่รีบตรงไปยังห้องฉุกเฉินก็พบว่านาคินและมะลิกำลังเดินวนไปเวียนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกังวลใจ
"คุณเตคุณมาทำไมยังไม่พอใจอีกเหรอที่ทำให้คุณผู้หญิงเป็นแบบนี้" ทันทีที่หญิงสาวมองมาเห็นเตโซก็ตรงดิ่งเข้ามาต่อว่าเขาในทันที
"มะลิใจเย็นๆเดี๋ยวฉันจัดการเอง" นาคินตรงเข้ามาตบใหล่หญิงสาวเบาๆเป็นเชิงห้ามปรามเตโซเองก็สังเกตได้ว่าเขาต้องพยายามเก็บกลั้นอารมณ์เอาไว้แค่ใหนทั้งสีหน้าและแววตาสื่อถึงความเสียใจอย่างสุดซึ่ง
"พี่มาทำไมจะมาสมน้ำหน้าผมเหรอสะใจแล้วใช่ใหมที่ทำร้ายแม่ผมได้" นาคินพูดไปพลางพยายามเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้
"ใช่สิพี่เกลียดผมกับแม่มาตลอดมันคงจะสาแก่ใจพี่แล้วใช่ใหม" ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดจนสุดกลั้นพยายามเรียบเรียงคำพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะรู้สึกจุกที่อกอย่างบอกไม่ถูก
"ไอ้คินฟังกูก่อนกูไม่ได้ทำ" เตโซละล่ำละลักพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะรู้ดีว่าต่อให้พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อเขาคงจะกลายเป็นคนผิดในสายตาคนอื่นอยู่ดี
และมันก็เป็นอย่างที่คาดเมื่อหมัดหนักๆของนาคินลอยหวืดเข้ามาปะทะแก้มเนียนอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเตโซถึงกับร่างทรุดฮวบลงไปกองอยู่กับพื้น
แก้มเนียนใสเป็นรอยเขียวซ้ำขึ้นมาทันทีทั้งเจ็บทั้งตกใจกับเหตุการณที่เกิดขึ้นเพราะปกตินาคินไม่เคยพูดไม่เพราะหรือแม้แต้ใช้ความรุนแรงกับเขามากเท่ากับครั้งนี้
" คุณคินอย่าค่ะ" มะลิร้องขึ้นอย่างตกใจและรีบเข้ามาห้ามในทันทีที่เห็นเหตุการณ์เธอทั้งกอดทั้งรั้งแต่ด้วยแรงที่ต่างกันมันจึงค่อนข้างยากลำบากเป็นอย่างมาก
"หลักฐานมีอยู่เต็มตามึงยังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอห๊ะไอ้ชั่ว" นาคินตะโกนด่าออกมาเสียงดังลั่นพร้อมทั้งส่งสายตาอาฆาตแค้นมาให้จนเตโซถึงกับสั่นกลัว
ผู้คนมากมายต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งคงได้แต่ยืนมุงดูกันอย่างอยากรู้อยากเห็นและวิพากวิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ
"คุณเตไปค่ะหนีไปมะลิจะไม่ไหวอยู่แล้ว" หญิงสาวรีบบอกเตโซให้รีบหนีไปในทันทีเมื่อเธอเริ่มสู้แรงของนาคินไม่ไหวถึงเธอจะมีรูปร่างอ้วนกลมแต่จะให้สู้กับผู้ชายที่สูงถึงร้อยแปดสิบห้าทั้งยังเป็นนักกีฬาเทควันโดประจำโรงเรียนคงไม่ไหว
เธอทั้งกอดทั้งรั้งยังไงก็สู้แรงนาคินที่ถาโถมเข้าหาเตโซไม่ได้อยู่ดี
เมื่อเห็นท่าไม่ดีทั้งจะอยู่อธิบายอะไรในตอนนี้คงไม่มีอะไรดีขึ้นพาลแต่จะทำให้เรื่องมันแย่ลงเตโซจึงได้แต่พยุงกายลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งหนีไปจากตรงนี้ด้วยหยดนำ้ตาที่รินรดอาบสองแก้ม
"โถ่เว้ย" พอเตโซหนีไปได้นาคินจึงได้แต่โกธรหัวฟัดหัวเหวี่ยงทุบกำแพงอยู่ตึงตังจนมะลิถึงกับหวาดผวา
"คุณคินค่ะใจเย็นๆก่อนค่ะถึงโมโหไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นรอให้คุณผู้หญิงฝื้นก่อนดีกว่าค่ะค่อยว่ากันอีกที" สาวเจ้าพยายามพูดให้ชายหนุ่มเย็นลงด้วยท่าทีหวาดหวั่นเพราะยังรู้สึกกลัวกับการกระทำของนาคินยังไม่หาย
"ใครคือญาติของคุณวันวิสาครับ" ทันทีที่พูดจบประตูหน้าห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกพร้อมกับคุณหมอเจ้าของไข้เรียกหาญาติของคนไข้อยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉิน
"ผมเองครับผมเป็นลูกคุณหมอครับแม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ" พอเห็นหมอเจ้าของไข้นาคินก็รีบเดินเข้าไปสอบถามอาการของผู้เป็นแม่ในทันทีด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"คือหมออยากให้คุณทำใจเผื่อไว้ชักหน่อยนะครับคือคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองเป็นอย่างมากแถมกระโหลกศรีษะร้าวหมอเกรงว่าคนไข้อาจจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิททราหรือไม่ถ้าฝื้นก็อาจจะเป็นความจำเสื่อมได้ที่ผมจะแจ้งก็มีแค่นี้ละครับถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวก่อนนะครับ"
พออธิบายถึงอาการของคนไข้เสร็จเรียบร้อยคุณหมอก็เดินจากไปทิ้งให้นาคินที่ตั้งใจฟังอาการของแม่อย่างละเอียดถึงกับเข่าทรุดล้มทั้งยืนร้องไห้ค้ำครวนจนแทบขาดใจโดยมีมะลิที่คอยปลอบประโลมอยู่ข้างกายด้วยความเศร้าเสียใจปนตกใจไม่ต่างกัน
................
"โถ่เว้ยวันซวยอะไรของกูวะเนี้ย" พอกลับมาถึงห้องเตโซก็ถึงกับทิ้งตัวลงนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงบ่นอุบอิบกับตัวเองพลางคิดกังวลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ถ้ามีคนเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจแล้วเขาจะทำยังไงเขาจะไม่กลายเป็นผู้ร้ายโดยที่เขาไม่ได้ผิดเลยหรือ
ครั้นจะหาพยานหลักฐานคนที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆก็มีแค่เขาคนเดียวแถมยังโดนใส่ร้ายเว้นเสียแต่วันวิสาจะฟื้นขึ้นมาแล้วเป็นพยานให้เขาว่าเขาไม่ได้ทำแต่ถ้าวันวิสาตายละเขาก็คงจะกลายเป็นฆ่าตกรในทันที
"ฉันขอให้เธอปลอดภัยเถอะนะวันวิสาฟื้นขึ้นมาเป็นพยานให้ฉันว่าฉันไม่ได้ทำ วันวิสาฉันขอร้องละอย่าเป็นอะไรไปเลยนะ" เขาได้แต่นั่งกุมมือภาวนาขอให้วันวิสาปลอดภัยจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
"🎵🎵🎵🎵 " เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นปลุกให้ชายหนุ่มในชุดนักศึกษารู้สึกตัวตื่นจากการหลับใหลเขางัวเงียลุกขึ้นไปเปิดประตูพร้อมกับบ่นอุบอิบไปด้วย " ใครวะดึกดื่นป่านนี้จะมากดออดหาพระแสงอะไร"
พอส่องตาแมวแล้วไม่เจอใครเขาก็เลยเปิดประตู ออกไปดูด้วยความสงสัยแต่ทันทีที่เปิดประตูก็มีมือหนาของใครบางคนเอื้อมเข้ามาปิดปากเขาเอาไว้พร้อมทั้งลากเขาเข้าไปในห้องโดยไม่ลืมที่จะปิดล๊อคประตู
"อะไอ้คิน" ทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเขาก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนนั้นเป็นใครเตโซถึงกับตัวซา นาคินตอนนี้ต่างจากคนที่เขาเคยรู้จักทั้งท่าทางที่ดูเย็นซาสายตาที่มองมาอย่างโกธรแค้นดุดันหน้ากลัวมันเย็นยะเยือกจนเขารู้สึกหนาวเข้าไปถึงกระดูก
แถมลมหายใจยังมีกลิ่นเหล้าที่โชยมาจนเขาเหม็นจนแทบอาเจียนออกมา
"เออกูเอง" น้ำเสียงนั้นมันทำให้เขาถึงกับสะดุ้งเพราะเขาไม่เคยเห็นนาคินในท่าทางที่น่ากลัวอย่างนี้มาก่อน
อีกทั้งชุดนักศึกษาที่มีคราบเลือดติดอยู่มันช่วยเพิ่มความน่ากลัวขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
เตโซถึงกับถอยหลังกรูดเมื่อนาคินเดินย่างสามขุมเข้าหาตน
"ไอ้คินมึงจะทำอะไร" เตโซถึงกับร้องถามออกไปด้วยความกลัวยิ่งนาคินเดินเข้าหาเขามากเท่าใหร่ทางหนีมันก็มีน้อยลงเท่านั้น
"ก็ทำให้มึงเจ็บเหมือนอย่างแม่กูโดนไง" ทันทีที่พูดจบนาคินก็กระโจนเข้าล๊อคตัวเตโซในทันทีเขาจับคนตัวเล็กแบกขึ้นบ่าได้อย่างง่ายดาย
เตโซได้แต่ดิ้นเร่าๆอยู่บนบ่าของเขาจะเตะจะถีบจะทุบยังไงคนตัวโตก็ไม่สะทกสะท้าน
พอมาถึงเตียงนาคินก็จับคนตัวเล็กทุ้มลงเตียงเสียงดังโครมจนเจ้าตัวถึงกับจุกและเจ็บแต่ด้วยสัญชาติญาณในการเอาตัวรอดเขารีบพลิกตัวเพื่อหนีลงจากเตียงในทันที
แต่ดูเหมือนอีกคนจะไวกว่ากระโดดคว้าตัวเขาเอาไว้ได้ทันเสียก่อน
และแล้วเตโซก็ถูกลากกลับมาไว้ตรงกลางของเตียงขนาดหกฟุตโดยมีนาคินนั่งคร่อมทับเอาไว้
"เอาสิมึงจะฆ่ากูยังไงก็เชิญยังไงกูก็บอกมึงได้แค่คำเดียวว่ากูไม่ได้ทำ" เตโซจ้องเขม็งมองนาคินอย่างรู้สึกเดือดดาลแต่ทันทีที่ได้ฟังคำพูดของอีกคนเขาถึงกับตัวสั่นเนื่องจากความกลัวจับขั้วหัวใจ
"ไม่เป็นไรถึงมึงไม่ยอมรับกูก็จะทำให้มึงยอมรับให้ได้ อีกอย่างแม่กูก็กับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วคนเลวๆอย่างมึงตายง่ายไปมันจะไปสนุ๊กอะไรที่กูจะทำคือทรมารมึงให้ตายทั้งเป็น"
ทันทีที่พูดจบเสื้อนักศึกษาก็ถูกดึงกระชากจนขาดติดมือของนาคินไปเพียงแค่ออกแรงดึงแค่ครั้งเดียว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments