หลายปีต่อมา
"ไม่มีทาง ยังไงผมก็ไม่ยอมให้มันมาอยู่คอนโดเดียวกับผมเด็ดขาด" เสียงตะคอกดังลั่นห้องอาหาร เพื่อบันดาลโทสะที่มาครุอยู่ท่วมอก
เตโชชายหนุ่มในชุดนักศึกษา ผุดลุกขึ้นถลึงตามองหน้าผู้เป็นบิดาอย่างเอาเรื่อง
"พ่อก็รู้ว่าผมเกลียดมัน พ่อยังจะให้มันมาอยู่กับผมอีกเหรอ ยังไงก็ไม่มีทาง" เตโชเอ่ยขึ้นพลางหันไปส่งสายตาอาฆาตแค้นราวกับจะเลือดกินเนื้อ ให้กับคนที่กำลังนั่งกินข้าวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วเดินออกไปจากโต๊ะอาหารอย่างเก็บอารมณ์
วันนี้เขาอุตส่าห์ดีใจ ที่พ่อใจดีโทรชวนเขามากินข้าวที่บ้านด้วย แต่ยังไม่ทันจะได้มีอะไรตกถึงท้อง ก็ต้องมีเรื่องมาทำให้เขาต้องหมดอารมณ์ ความรู้สึกหิวหายไปในทันที เหลือเพียงแค่ความขุ่นมัวที่อัดอั้นอยู่ในใจ
"มันจะอะไรกันนักกันหนา กะอีแค่ฉันจะให้น้องไปพักอยู่กับแกแค่เทอมเดียวมันจะตายนักหรือไง" ผู้เป็นพ่อพอได้ยินดังนั้นจึงผุดลุกขึ้นหันมาตวาดไล่หลังลูกชายคนโตที่กำลังเดินหนีออกไปจากห้องอาหารในทันทีด้วยความรู้สึกโมโหไม่ต่างกัน
"คุณค่ะไม่เอาน่าใจเย็นๆก่อนค่อยๆพูดค่อยๆจากันนะคะ" วันวิสาที่นั่งอยู่ข้างๆรีบลุกขึ้นไปกอดลูบต้นแขนเพื่อปลอบประโลมผู้เป็นสามี หวังให้อารมณ์เย็นลงในทันที เพราะเกรงว่าอาการป่วยของสามีจะกำเริบขึ้นมาอีก
"คุณก็ดูสิดูมันทำ ไปเลยจะไปไหนก็ไป แต่จำใส่หัวกระโหลกของแกเอาไว้เลย ว่าถ้าไม่มีฉันไม่มีเงินที่ฉันคอยส่งเสียให้แกเรียนและผลานเล่นไปวันๆ ป่านนี้แกก็คงจะได้ไปนอนอยู่ข้างถนนไปแล้ว"
"คนเลวๆอย่างแก ฉันไม่น่าปล่อยให้เกิดมาเลย แกมันก็เลวเหมือนแม่แกไม่มีผิด" คำด่าที่สาธยายไล่หลังมามันกรีดลึกเข้าไปในทุกอณูของหัวใจ ถึงจะทำเป็นไม่ใส่ใจแต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดี
เตโชถึงกับยืนนิ่งชะงักไปชั่วครู่ น้ำตาที่เก็บกลั้นมานานไหลรินอาบสองแก้ม แต่ไร้ซึ่งเสียงร้องไห้ใดๆให้ได้ยิน
นี่เป็นครั้งที่เท่าใหร่แล้ว ที่เขาต้องถูกพ่อด่าต่อหน้าคนที่เขาเกลียดที่สุด ตั้งแต่มีน้องชายเขาก็ไม่เคยดีในสายตาของผู้เป็นพ่อเลย ไม่ใช่สิตั้งแต่เกิดมาเลยต่างหาก
ตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อบังเกิดก้าวเลยแม้แต่น้อย มันเลยกลายเป็นปมในใจเขามาโดยตลอด จนทำให้เขากลายเป็นเด็กมีปัญหามาจนถึงทุกวันนี้
เขายกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตา แล้วหันกับไปมองหน้าบิดาตัวเองด้วยแววตาตัดพ้อ ด้วยความน้อยใจที่อัดอั้นอยู่เต็มอก
"ก็ใช่สิผมมันไม่มีอะไรดีเลย ไม่เหมือนลูกชายคนโปรดของพ่อที่มันดีไปเสียทุกอย่าง" เขาหยุดพูดไปชั่วครู่เพราะพยายามเก็บกลั้นฝืนไม่ให้หยดน้ำตา ได้หลั่งรินลงมาอีก
แล้วฝืนสูดหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ สีหน้าแววตาเจือไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
"ถ้าผมมันเป็นตัวปัญหา ที่ทำให้พ่อลำบากใจมากละก็ พ่อก็เอาของๆพ่อกับคืนไปเลย ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของผม พ่อไม่ต้องมายุ่ง"
พูดจบเขาก็หยิบเอากุญแจรถคันหรู กับกระเป๋าเงินและคีย์การ์ดคอนโด โยนทิ้งลงพื้นไปด้วยความเดือดดาล แล้วรีบวิ่งออกไปจากตรงนี้โดยมีเสียงด่าของพ่อดังไล่หลังมาติดๆ "ไปเลยแกจะไปไหนก็ไป แล้วไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกไอ้ลูกเลว"
"ว้ายคุณคะ/พ่อ" เสียงร้องของสองแม่ลูกดังขึ้นพร้อมกันทันที ทั้งรีบเข้ามาประคองร่างของชายชราที่ทรุดร่วงลงไปกองกับพื้น ด้วยอาการของโรคหัวใจที่เกิดกำเริบขึ้นมากระทันหัน
นาคินรีบเข้าไปดูอาการของผู้เป็นบิดาแล้วทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนรถพยาบาลมารับตัวส่งโรงพยาบาล
ทางด้านเตโชหลังจากวิ่งออกมาจากบ้าน แล้วก็ไม่รู้จะไปที่ไหน เลยได้แต่เดินไปเรื่อยๆตามท้องถนน พลางคิดไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ว่าตนเดินมาไกลแค่ไหนแล้วจะไปที่ไหนต่อดี
ปี๊บ... ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ ก็ต้องสะดุ้งกับเสียงบีบแตรที่ดังไล่หลังมาติดๆ
รถคันหรูเข้ามาจอดเทียบอยู่ข้างๆ พร้อมกระจกฝั่งที่นั่งข้างคนขับที่ถูกลดลง ปรากฏร่างของชายหนุ่มใบหน้าหล่อคมที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย
" ขึ้นรถ" เสียงทุ่มเอ่ยสั่งมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง นัยตาสีสนิมเหล็กจ้องมองมาอย่างมีอำนาจ
ชายหนุ่มปรายตามองเจ้าของเสียงอยู่ชั่วครู่ ด้วยสายตาที่แสดงถึงความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็รีบเดินหนีไป ไม่เสียเวลามาเสวนาให้เสียอารมณ์
เมื่อคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเห็นดังนั้น จึงรีบเปิดประตูรถเดินก้าวอาดๆตามไปคว้าตัวคนอวดดีไว้ได้ทันพอดี พลันหมัดหนักๆก็เหวี่ยงกลับมา หมายจะเข้าปะทะใบหน้าหล่อคมแบบเต็มๆ
แต่มีหรือที่คนที่มีฝีมืออยู่พอตัว จะเสียท่าถูกจู่โจมได้โดยง่าย เขาเหวี่ยงตัวหลบแล้วยกมือขึ้นมารับหมัดด้วยท่าทีสบายๆ จนคนที่ออกหมัดถึงกับรู้สึกอึ้งปนความงงงวยอยู่ชั่วครู่
ไม่ทันที่จะตั้งตัวแขนก็ถูกฉุดกระชาก ด้วยแรงอันมหาศาล ส่งผลให้ร่างทั้งร่างถึงกับลอยระลิ่วเข้าไปปะทะกับอ้อมอกแกร่งโดยพลัน
และไม่ปล่อยให้เสียเวลา สองแขนแกร่งก็กอดรัดเข้ามาในทันที
"ปล่อยกู" ไม่ว่าจะดิ้นรนขัดขืนยังไงก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์ และไม่สามารถหลุดออกไปจากอ้อมกอดนี้ได้เลย
เลยได้แต่ดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์ราวกับสาวน้อยในอ้อมกอดของอสูรร้าย ที่ทำได้คงมีเพียงการแหงนเงยใบหน้าขึ้นไปสบตาเจ้าของอ้อมกอดแล้วส่งสายตาขู่อาฆาตไปให้
"ถ้าอยากให้ผมปล่อยพี่ก็ต้องทำตามที่ผมสั่ง" เสียงทุ่มดังกระชิบอยู่ข้างหู พร้อมเป่าลมหายใจหนักหนักลงมา ทำให้คนฟังเกิดอาการหวั่นเกรงขึ้นมาในทันที
เขายอมรับว่าเขาเองก็แอบกลัวน้องชายตัวเองอยู่เหมือนกัน ถึงแม้อีกคนจะไม่เคยทำอะไรรุนแรงกับเขา มากไปกว่าการใช้แรงบีบบังคับพันธนาการ ให้เขาไม่สามารถทำร้ายตนได้เหมือนอย่างเช่นในครั้งนี้
แต่นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาเสียเปรียบอีกคนในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือพละกำลัง
เตโชถึงแม้จะสูงถึงร้อยเจ็บสิบแต่ก็ยังดูเตี้ยกว่าอยู่ดีเพราะนาคินมีส่วนสูงถึงร้อยแปดสิบห้า ทั้งรูปร่างดูกำยำกว่าเขามากด้านพละกำลังยิ่งไม่ต้องพูดถึง
"กูไม่ทำมึงจะทำไม อย่าคิดนะว่าพ่อรักมึงมากกว่า แล้วกูจะไม่กล้าทำอะไรมึง" ชายหนุ่มกัดฟันพูดออกมา ด้วยความเดือดดาลถึงแม้ตนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ก็ตาม
"ดูสภาพตัวเองก่อนเถอะ แรงอย่างกับมดจะมาทำอะไรผมได้" นาคินพูดพลางส่งยิ้มเยาะมาให้อย่างยั่วอารมณ์ ส่งผลให้คนในออ้มกอดถึงกับฟิวส์ขาด
"อึก" เร็วเท่าความคิดเข่าหนักก็ตอกเข้ายังจุดยุทธศาสตร์ ส่งผลให้ร่างหนาถึงกับทรุดร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น หน้าดำหน้าแดงจุกจนพูดไม่ออก นอนกุมเป้าอยู่ตรงนั้น
"ไงละเจ็บไหมไอ้น้องชาย" พอเป็นอิสระได้ ชายหนุ่มก็ส่งสายตาพร้อมกับรอยยิ้มยียวนกวนประสาท ไปให้เจ้าของอ้อมกอดเป็นเชิงท้าทายก่อนจะเดินหนีไปในทันที
"พี่เตเดี๋ยวก่อน" นาคินพยุงกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ด้วยอาการที่ยังจุกเสียดอยู่ รีบวิ่งตามไปดักหน้าด้วยท่าทางแปลกๆ
"จะเอาอีกหรือไง" เตโชยิงคำถามใส่พร้อมขมวดคิ้วหน้ายุ่งอย่างไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มส่ายหน้าเร่าๆในทันที ยิ้มเจื่อนออกมาอย่างรู้สึกเข็ดขยาด
"ไม่เอาอะ ผมแค่จะขอให้พี่ขึ้นรถไปกับผมเหอะผมจะไปส่ง" เขารีบเปลี่ยนจากคำสั่งเป็นคำขอร้องในทันที พร้อมกับยิ้มน้อยๆส่งไปให้คนหน้าบึ่ง
"แล้วทำไมกูจะต้องให้มึงไปส่ง" เตโชพูดพร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงขอคำตอบ
"อะ..ไอ้คินปล่อยกู" แต่แทนที่จะได้รับคำตอบ กลับกลายเป็นว่าตัวเขากลับถูกชายหนุ่มเข้าจู่โจมด้วยความเร็ว นาคินเข้าประชิดตัวแล้วจับเขาแบกขึ้นบ่าไปด้วยท่าทีสบายๆ โดยไม่รอให้เขาได้มีเวลาตั้งตัว จนคนที่ถูกแบกถึงกับตกใจ ถึงจะออกแรงถีบหรือจะทุบอย่างไร คนแบกก็ไม่สะทกสะท้าน
"ยุ่งยากเสียเวลา" นาคินพูดออกมาด้วยความรู้สึกรำคาญ แล้วก็แบกคนตัวเล็กกว่าเดินตรงไปที่รถ พอเปิดประตูรถได้ก็ทุ่มคนตัวเล็กลงกับเบาะที่นั่งข้างคนขับ จนเจ้าตัวถึงกับออกอาการจุก แล้วรีบวิ่งอ้อมไปขึ้นรถขับออกไปในทันที
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments