ตอนที่ 5 ลั่วหลินเว่ยย้ายเข้าทะเบียนบ้าน

เช้าวันต่อมาทั้งสามมาบ้านผู้ใหญ่ แจ้งชื่อลั่วหลินเว่ยเข้าบ้าน และเชิญเจ้าหน้าที่กรมที่ดินมาเพื่อโอนโฉนดเป็นชื่อของลั่วหลินเว่ย เมื่อเสร็จแล้วเว่ยเว่ยจึงมอบถุงเงินเพื่อเป็นสินน้ำใจแก่เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ยิ้มกลิ่มถุงเงินหนัก ๆ เช่นนี้ให้มาทุกวันก็ย่อมได้

เมื่อทุกคนเสร็จธุระแล้ว ลู่เหวินเหยียนก็เข้าเมืองไปขายถั่งเช่าและโสม ผู้จัดการร้านยาเห็นลู่เหวินเหยียนมาก็ดีใจมาก ถั่งเช่าและโสมที่พ่อหนุ่มคนนี้มาส่งรอบที่แล้วนั้นคนของวังหลวงมารับไปหมด หากมีอีกก็ให้ส่งไปวังหลวงทั้งหมดห้ามขายให้ใคร เมื่อของมาส่งแล้วให้ส่งข่าวไปวังหลวงทันที ทางวังหลวงจะส่งคนมารับ ทางร้านยาไม่ต้องเสียค่าขนส่งแต่อย่างใด เขารอแล้วรอเล่าพ่อหนุ่มคนนี้ก็ไม่มา เขาเสียดายยิ่งนักที่ไม่ได้ถามชื่อแซ่ไว้ จะได้ไปหาเขาที่บ้าน

“พ่อหนุ่มเจ้ามาแล้ว เชิญ ๆ นั่งก่อนข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”

“ท่านหลงจู้มีสิ่งใดจะคุยกับข้าน้อยหรือขอรับ หรือว่าถั่งเช่าของข้าน้อยมีปัญหา”

ลู่เหวินเหยียนเอ่ยถาม หลงจู้รีบปฏิเสธทันทีเพราะเกรงว่าชายหนุ่มจะเข้าใจผิด

“ไม่มี ๆ ถั่งเช่าของเจ้าไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือทางวังหลวงต้องการถั่งเช่าทั้งหมดที่มี วันนี้เจ้ามีมาหรือไม่”

“มีขอรับ แต่ข้ามีมาไม่มากมันหายากยิ่งนัก แล้วก็มีโสมมาอีกสามต้นเท่านั้น”

“เอามาเลยข้ารับซื้อทั้งหมดที่เจ้ามี หากมีอีกเจ้าก็เอามาให้ข้า ข้าจะเพิ่มราคาให้เจ้าเป็นจินละ 2,500 ตำลึงทอง โสมข้าให้เจ้า 2,500 ตำลึงทองเช่นกัน”

ลู่เหวินเหยียนยิ้มรับอย่างดีใจ

“ทั้งหมดอยู่ในตะกร้านี้ท่านหลงจู้โปรดตรวจสอบดู”

หลงจู้ตรวจดูแล้วก็จัดการชั่งเองกับมือ

“วันนี้มี 10 จินกับ 3 เหลียง”

“ท่านหลงจู้ท่านคิดเงินข้าแค่ 10 จินก็พอขอรับ”

“ขอบใจ ๆ เจ้า 10 จิน จินละ 2,500 รวม 25,000 ตำลึงทอง โสม 3 ต้น ต้นละ 2,500 รวม 7,500 ทั้งหมดก็ 32,500 ตำลึงทอง”

ลู่เหวินเหยียนยิ้มรับ เขากระซิบหลงจู้เบา ๆ

“ท่านหลงจู้ขอรับข้าอยากจะขอร้องท่านสักอย่างได้หรือไม่ เรื่องนี้ขอให้ปิดเป็นความลับ ท่านอย่างแพร่งพรายออกไปโดยเด็ดขาด”

“ได้ ๆ แต่เจ้าต้องส่งมาให้ร้านข้าเพียงแห่งเดียวนะ”

หลงจู้มีหรือจะไม่รับปากเพราะนั่นหมายถึงเขาจะได้ประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว

“ขอรับ ข้าก็ไม่อยากให้คนรู้มากเช่นกัน”

คนยิ่งรู้มากเท่าไรเขาและครอบครัวอาจจะไม่ปลอดภัย เพราะดู ๆ แล้วเจ้าถั่งเช่านี้จะมีความสำคัญมาก ร้านยาทั่วไปไม่มีขาย

“เจ้าจะมาส่งของอีกวันไหนล่ะพ่อหนุ่ม”

“ข้าก็ยังไม่รู้ขอรับ คงจะอีกหลายวัน กว่าจะหาได้ ของสิ่งนี้ถ้าถึงหน้าหนาวก็ไม่มีแล้วขอรับ”

หลงจู้พยักหน้าเข้าใจ เขาเตรียมเงินไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้ว เพียงครู่เดียวก็จัดการเสร็จ ลู่เหวินเหยียนไปหาซื้อรถม้าหนึ่งคันและม้าเพิ่มหนึ่งตัวไว้สำหรับขนของเข้าเมืองครั้งต่อไป และแวะไปซื้อเมล็ดทานตะวันมาหนึ่งกระสอบ เขาก็ไม่รู้ว่าเว่ยเว่ยจะเอาไปทำอะไรเช่นกัน แล้วไปซื้ออุปกรณ์การเกษตร วันนี้เขาซื้อกระดูกซี่โครงหมู และเนื้อหมูไปด้วย ซื้อเครื่องปรุงในครัวเพิ่ม ไม่ลืมข้าวสารเก็บตุนไว้อีกหลายกระสอบ ยามหน้าหนาวข้าวสารแพงมาก ๆ หาซื้อก็ยาก จากนั้นก็แวะร้านผ้าซื้อผ้าเนื้อดีมาอีกหลายพับ เขาไปติดต่อหาคนรับเหมาสร้างบ้าน พรุ่งนี้เช้าคนสร้างบ้านจะเข้าไปดูสถานที่ เสร็จธุระแล้วเขาก็กลับบ้านทันที กลับถึงบ้านเขารีบขนของลงไปเก็บแล้วตามแม่และเว่ยเว่ยไปขุดถั่งเช่าดังเช่นทุกวัน

“ท่านแม่ เว่ยเว่ย วันพรุ่งนี้ช่างจะมาดูสถานที่ก่อสร้างบ้าน พวกเราคงต้องงดเข้ามาขุดสักวันนะ”

“อืม…ก็ดีนะเจ้าคะ ข้าว่าต่อไปให้ท่านน้าอยู่เฝ้าบ้านดีกว่านะเจ้าคะ มีคนมาสร้างบ้านต้องมีใครสักคนอยู่ดูแล”

นางลู่นิ่งคิดเป็นห่วงบ้านก็ห่วง ถั่งเช่าก็อยากขุด

“เช่นนั้นก็ได้ ต่อไปแม่จะปักผ้าอยู่บ้านก็แล้วกัน”

“จริงสิท่านแม่ข้าซื้อผ้ามาหลายพับ ท่านตัดชุดให้เว่ยเว่ยสักสองสามชุดเถอะขอรับ”

“ตายจริงแม่ก็ลืมไป เว่ยเว่ยใส่แต่ชุดของแม่ทุกวัน แม่นี่ใช้ไม่ได้จริง ๆ”

ทุกคนขุดถั่งเช่าถึงบ่ายคล้อยก็หยุดมือแล้วชวนกันกลับบ้าน ทั้งสามเดินกลับบ้านด้วยความเบิกบานใจ ลู่เหวินเหยียนนึกสนุก เขาเก็บดอกหญ้าแห้งมาอย่างเบามือแล้วแกล้งเป่าดอกหญ้าใส่หน้าเว่ยเว่ย เว่ยเว่ยจามเล็กน้อยจากนั้นก็วิ่งไล่ตีเขา นางลู่หัวเราะเบา ๆ แล้วเดินตามพวกเขาไป เมื่อทุกคนกลับบ้านแล้วลู่เหวินเหยียนก็เอาเงินทั้งหมดออกมากองไว้ และเล่าให้เว่ยเว่ยและมารดาฟังเรื่องที่คุยกับหลงจู้ร้านยา เขาเพิ่มราคาให้เป็นจินละ 2,500 ตำลึงทอง โสมหัวละ 2,500 ตำลึงทอง

“แบ่งเป็นสามส่วนนะเจ้าคะ ทุกครั้งที่เราไปขายถั่งเช่ามาให้แบ่งเป็นสามส่วน”

“ได้เช่นไรเล่าน้าไม่อยากเอาเปรียบเจ้า”

“พวกท่านอย่าคิดเช่นนั้นเลย หากพี่เหยียนไม่ช่วยข้า หากท่านน้าไม่ดูแลข้าช่วงที่ข้านอนป่วยอยู่ ข้ารู้ว่าพวกท่านไม่มีเงิน ยังตามหมอมารักษาข้าอีก หากไม่มีพวกท่านข้าคงเป็นผีเฝ้าบ่อน้ำนั้นไปแล้ว ต่อไปห้ามพูดเช่นนี้อีก เราหาเงินได้ก็เอามาแบ่งกันเช่นนี้แหละดีแล้ว ข้าจะได้สบายใจ”

“ก็ได้ แต่หากไม่มีเว่ยเว่ย พวกเราสองแม่ลูกก็คงจะอยู่อย่างอดอยากเช่นเดิม”

“ช่างเถอะ ๆ ท่านน้าอย่าไปคิดถึงเรื่องที่มันบั่นทอนจิตใจให้หดหู่ ทำชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุข ทำชีวิตที่เป็นอยู่ให้มีคุณค่าดีกว่า เอาล่ะ ข้าเอาหนึ่งหมื่น เศษนั้นเอาไว้สร้างบ้านนะพี่เหยียน”

นางลู่รับส่วนแบ่งหนึ่งหมื่นมาเก็บไว้อย่างดีใจ นางไม่เคยจับเงินมากมายขนาดนี้เลยสักครั้ง ส่วนเหยียนเหยียนก็เก็บส่วนที่เหลือไว้เช่นเดิม

“ได้ข้าจะเก็บไว้ จริงสิวันนี้ข้าซื้อซี่โครงหมูและเนื้อหมูมาทำอะไรกินกันดีล่ะ”

“งั้นตุ๋นซี่โครงหมูใส่เห็ดดีหรือไม่”

เว่ยเว่ยเสนอ แน่นอนทุกคนก็เห็นด้วย

“แม่จะไปหุงข้าวก็แล้วกันนะ”

“ข้าจะไปดูกับดักปลาสักหน่อยนะขอรับ”

ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง ลู่เหวินเหยียนได้ปลาตัวใหญ่มาหลายตัววันนี้ เขาเดินกลับบ้านยิ้มให้ตัวเอง เขาช่างโชคดี ที่เก็บสมบัติล้ำค่าที่บึงแห่งนี้ได้ เขาสัญญากับตัวเองว่าจะรักษาสมบัติชิ้นนี้ไว้เท่าชีวิต ลู่เหวินเหยียนเอาปลามาขังไว้ในถัง เพื่อเก็บปรุงอาหารในวันอื่น ลู่เหวินเหยียนกลับมาถึงบ้านอาหารก็เสร็จพร้อมกิน ทุกคนกินข้าวกันอย่างมีความสุข แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!