ภายในห้องบรรทมของจวิ้นอ๋อง
จวิ้นอ๋องหรือเสวียนลู่เหวินหลังจากรู้สึกตัวจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดก็รีบผละตัวออกจากเฟิ่งเหม่ยหลินทันที เขาลุกขึ้นออกมาจากแท่นบรรทมด้วยความมึนงง ก่อนจะตั้งสติย้อนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพียงชั่วครู่เขาก็สาวเท้าเดินสำรวจทั่วห้อง จนพบเศษผงธูปราคะตกอยู่ในกระถางกำมะยานข้างๆ มุมห้องบรรทม สีหน้าของเขาเริ่มเขียวคล้ำก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไปตรวจชุดถ้วยชาจีนที่วางอยู่บนโต๊ะรับน้ำชา แล้วพบว่าในกาน้ำชาก็มียาปลุกกำหนัดปะปนอยู่ ทำให้เขารับรู้ได้ทันทีว่านี่คงเป็นแผนของนางเป็นแน่
เพล้ง!!
เสียงของชุดถ้วยชาจีนโบราณถูกกวาดลงมากองที่พื้นจนกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้อง จนทำให้เฟิ่งเหม่ยหลินรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากนอนสลบไสลที่แท่นบรรทมด้วยความอ่อนแรง ขณะเดียวกันกับองครักษ์ทั้งสองที่นอนกองอยู่ที่พื้นหน้าประตูห้องด้านนอกเพราะฤทธิ์ยาสลบก็เริ่มมีสติขึ้นมาแล้วเช่นกัน
เชรดดด! เฉียดจมูกฉันไปนิดเดียวเอง เกือบไม่มีจมูกไว้ให้หายใจแล้วไหมล่ะ เพราะความอยากเผือกของฉันแท้ๆ เอ๊ะ! ห้องนอนนี้ทำไมตกแต่งด้วยเครื่องจีนโบราณเต็มไปหมดเลยล่ะ แล้วนั่นชายหญิงคู่นั้นคือใครกัน ทำไมสภาพเหมือนผ่านศึกหนักบนเตียงมา อย่าบอกนะที่เขวี้ยงถ้วยชาเกือบโดนฉันเมื่อครู่เพื่อสร้างอรรถรสเวลาซัมติงกันนะ ฉันยังไม่เคยมีหลัวเลยนะ จะให้ฉันมายืนดูหนังสดเลยหรอ
“เฟิ่งเหม่ยหลิน เจ้าวางยาเปิ่นหวาง!” เขายกมือขึ้นชี้นิ้วไปที่นางด้วยความกรุ่นโกรธ หลังจากระบายโทสะด้ายการกวาดชุดน้ำชาเจ้าปัญหาลงไปกองที่พื้นจนกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
“หม่อมฉัน…ไม่ได้ทำ....ฮึก” เฟิ่งเหม่ยหลินกล่าวออกไปได้เพียงแค่นั้นเมื่อพบกับสายตาวาวโรจน์ของชายผู้ที่นางรักปักดวงใจ มันช่างเป็นสายตาที่บาดลึกเข้าไปในหัวใจของนางเหลือเกิน นางรับรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาทั้งโกรธและรังเกียจนางอย่างถึงที่สุด แม้แต่ก่อนเขาจะเคยกล่าวว่านางแต่สายตาของเขาไม่ได้แสดงทีท่าออกมาเช่นนี้ นางทั้งร่ำไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจในสิ่งที่พบเจอ นางไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ ทำไมทั้งนางและเขาถึงได้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้ นางอยากกล่าวอธิบายกับเขาเหลือเกิน แต่เกรงว่าเขาคงไม่อยากรับฟังนางเป็นแน่ เพราะที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยเชื่อคำพูดนางเลยสักครั้ง
ขณะนั้นเองเซี่ยชินฮวาก็เปิดประตูห้องบรรทมเข้ามาทันที จนทำให้องครักษ์ที่อยู่หน้าประตูห้องกลิ้งเข้ามาในห้องบรรทมอย่างทุลักทุเล ด้วยเพราะฤทธิ์ยาสลบนี้รุนแรงยิ่งนักจนทำให้ผู้ที่ได้รับฟื้นตัวได้ยากแม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธก็ตาม
ปัง!!
“ฮึก...พระองค์ทำเช่นนี้ได้อย่างไร...ฮึก…ไหนพระองค์เคยบอกกับหม่อมฉันว่าไม่ได้รักนางแล้วนี่คืออะไรเพคะ...ฮื้อๆๆ” เซี่ยชินฮวามองไปทั้งสองคนซ้ำไปมาแล้วเริ่มร่ำไห้พรรณนา เมื่อเห็นภาพคนรักกับคู่หมั้นของเขาที่น่าจะผ่านการร่วมรักกันอย่างแน่แท้
“ฮวาเอ๋อร์! มันไม่ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด เรื่องทั้งหมดเปิ่นหวางอธิบายกับเจ้าได้” จวิ้นอ๋องรีบดึงนางที่รักเข้ามากอดทั้งที่แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยก่อนจะกล่าวกับนางด้วยร้อนใจ ด้วยความกลัวว่านางจะเข้าใจผิด แล้วรีบคิดหาวิธีแก้ไขเพื่อไม่ให้คนรักขัดเคืองใจไปมากกว่านี้ โดยไม่สนใจสายตาอีกคู่ที่มองมาที่พวกเขาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
ฉันยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น แล้วเริ่มประมวลคำพูดกับชื่อคนที่กล่าวเรียกขานกัน ถึงแม้จะแปลกใจที่ตัวเองกลับฟังภาษาจีนออกสะงั้นทั้งที่ไม่เคยเรียนภาษาจีนมาเลยด้วยซ้ำ คงไม่ต้องคิดอะไรให้มากความอีกแล้วว่าฉันคงหลุดมาอยู่ในโลกนิยายแน่ๆ นี่มันโคตรน่าเหลือเชื่อชะมัด ฉันไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว ตอนนี้ฉันคงทะลุมิติเข้ามาชมการละครในนิยายเรื่องนี้แน่ๆ แล้วนิยายเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ฉันเพิ่งอ่านจบก่อนถูกยิงตายเสียด้วย เพราะสถานการณ์ตอนนี้ฉันจำได้แม่นว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องที่ทำให้เฟิ่งเหม่ยหลินกลายเป็นนางร้ายนั่นเอง
ฉันยืนมองพวกเขาจนเผลอใช้สายตาแถะโลมพระเอกจนได้ แบบว่าเขาหล่อออร่าสมกับเป็นพระเอกของเรื่องจริงๆ รูปร่างไม่ต้องพูดถึงสูงยาวเข่าดีเลยแหละ แต่ไม่รู้ว่าตรงหวางขาที่ตุงๆ อยู่เป็นมังกรหรือมังกือหรอกนะ ก็เขาใส่กางเกงสีดำปกปิดอยู่เหลือไว้เพียงท่อนบนให้เห็นซิกแพคแน่นๆ กับหัวนมชมพูเท่านั้น แค่นี้ฉันก็แถบจะกำเดาไหลแล้วจร้า ส่วนนางร้ายบนเตียงรูปร่างคือหน้าตายิ่งกว่าสวยอีกคือหน้าสวยใสมาก ตาโตจมูกโด่ง ปากน้อยๆ ริมฝีปากแดงๆ ทรวดทรงอกสะบึ้ม! เอวนี่คอดกิ่วจนฉันต้องย้อนมาก้มมามองผุงตัวเองที่ยื่นออกมาจนมองไม่เห็นปลายเท้า ส่วนผิวก็ขาวใสโอโม่จนเห็นร่องรอยรักจนฉันสังเกตุเห็นได้ แหม…พ่อพระเอก!! ถามจริงโดนยาปลุกกำหนัดจริงรึอยากกันแน่จ๊ะ ทิ้งรอยรักไว้เสียทั่วทั้งตัวนางขนาดนี้ ย้ายมาที่นางเอกของเรื่องรูปร่างก็งดงามหยดย้อยสมกับเป็นนางเอกผู้บอบบาง ผิวขาวออกไปทางซีดดูเหมือนคนเป็นโรค ดีที่แต่งหน้าไม่งั้นคิดว่าคนป่วย ฉันแซวนางเอกนิดๆ เองอย่าว่าข่อยเด้อ นางเอกสวมใส่ชุดจีนโบราณพริ้วไหวชมพูอ่อนชวนให้ดูอ่อนหวานน่าทะนุถนอม แต่เอ๊ะ! ทำไมแม่นางเอกที่ร่ำไห้เสียใจกับคนรักถึงช้อนสายตาเย้ยหยันใส่นางแบบนั้นล่ะ แล้วพอพระเอกก้มไปมองก็แปลเปลี่ยนฉับพลันเป็นแววตากวางน้อยน้ำตาระเรื่อซบอกแน่นๆ ของพระเอก เรื่องมันชักจะยังไงยังไงแล้วนะแม่นางเอกคนนี้
“ซ่งอี้เจ้าไปสั่งให้หลี่กงกงเตรียมยาห้ามครรภ์แล้วพามาพบเปิ่นหวางที่เรือนรับรอง ส่วนเจ้าซ่งเอ้อพาสตรีร้ายกาจผู้นี้ออกไปรอเปิ่นหวางชำระความที่เรือนรับรองเดี๋ยวนี้ เปิ่นหวางไม่อยากร่วมหายใจกับนางนัก” จวิ้นอ๋องเมื่อคิดหาทางแก้ไขได้แล้ว จึงสั่งให้องครักษ์ทั้งสองที่ดูเหมือนจะฟื้นคืนสติขึ้นมาบ้างไปจัดการตามที่เขาวางแผนเอาไว้
“ขอรับ” องครักษ์ทั้งสองรีบรับคำสั่งแล้วแยกย้ายไปทำตามผู้เป็นนายสั่งทันที
หลังจากที่ทุกคนออกไปจนหมดภายในห้องจึงเหลือเพียงชายหญิงสองคนที่ยืนกอดกันกลมกับหนึ่งดวงวิญญาณที่มองดูพวกเขาพรอดรักกันด้วยความหมั่นไส้
“พระองค์กำลังจะทำอะไรเพคะ ถึงให้นางไปที่เรือนรับรองเช่นนั้น”
“เปิ่นหวางก็จะจัดการนางขั้นเด็ดขาดอย่างไรละฮวาเอ๋อร์ ถึงแม้จะเกิดเรื่องเช่นนี้แต่ก็ช่วยให้เปิ่นหวางถอนหมั้นนางได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นเปิ่นหวางจะรีบสร้างผลงานเพื่อทูลขอเสด็จพ่อให้ประทานงานสมรสระหว่างเรา เจ้าจะได้มั่นใจในความรักของเปิ่นหวางที่มอบให้เสียที”
“จะเป็นไปได้หรือเจ้าค่ะ หม่อมฉันไม่อยากให้พระองค์ต้องมาเดือดร้อนเพราะต้องการทำเพื่อหม่อมฉันเช่นนี้หรอกเพคะ หากพระองค์จะรับนางเข้าตำหนักหม่อมฉันก็มิกล้าขัดข้องอันใดหรอกเพคะ ขอเพียงพระองค์ยังเมตตาหม่อมฉันอยู่บ้างก็เพียงพอแล้ว”
“ไม่! เปิ่นหวางจะไม่มีทางรับนางเข้าตำหนักแน่!! นางวางยาเปิ่นหวางเพื่อให้เปิ่นหวางจำต้องรับนางเข้าตำหนัก แต่นางคงไม่รู้ว่าเปิ่นหวางจะทำลายแผนการของนางให้สิ้น ฮวาเอ๋อร์เจ้าต้องเชื่อมั่นในตัวเปิ่นหวาง เข้าใจหรือไม่ หื้อออ…” จวิ้นอ๋องเข้าคลอเคลียที่ซอกคอของด้วยเพราะฤทธิ์ยาที่หลงเหลืออยู่
“แต่ว่า…”
“ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดอีกแล้วฮวาเอ๋อร์ หากเจ้าไม่รีบไปที่เรือนรับรอง เปิ่นหวางคงอดใจไม่ไหวพาเจ้าไปที่แท่นบรรทมแทนเป็นแน่” จวิ้นอ๋องกล่าวหยอกเย้านางก่อนจะโอบกอดพานางออกจากห้องบรรทม
อรึ้ยยย! ขนลุก! พลอดรักกันไม่เกรงใจฉันที่ยืนมองดูอยู่บ้างเลย ฉันไปดูนางร้ายบ้างดีกว่า ขืนยังตามติดพวกเขาอยู่แบบนี้ มีหวังฉันคงขนแขนร่วงหมดเพราะขนลุกบ่อยเป็นแน่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments