วันนี้เป็นเช้าวันแรกในแมนฮัตตันที่แสนจะสดใส
ปลายฟ้าตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อมารับอากาศบริสุทธิ์
อพาร์ตเม้นที่เจ้านายใหม่เช่าให้นั้นแสนจะน่าอยู่ แม้ห้องจะไม่ใหญ่มากแต่ภายในห้องก็แบ่งเป็นสัดส่วนเรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นห้องครัว
ห้องซักผ้า
ที่ปลายฟ้าชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นห้องนั่งเล่นที่เล็กแต่อยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่
ส่วนวิวภายนอกเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ที่มีผู้คนเดินสัญจรไปมา
ยิ่งยามเช้าแบบนี้เริ่มมีผู้คนมาวิ่งออกกำลัง
ปลายฟ้าจึงชงกาแฟดำแล้วมานั่งลงริมหน้าต่างเพื่อซึมซับบรรยากาศยามเช้า
ก่อนที่จะถึงเวลานัดหมายกับเจ้านายใหม่ที่สำนักงาน
เธอตัดสินใจเดินมาเรื่อยๆ เพราะออฟฟิศอยู่ไม่ห่างจากที่เธออยู่มากนัก
ตามข้างทางเต็มไปด้วยตึกที่สวยงามแบบที่เธอไม่เคยเห็น ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็ดูจะตัวสูงใหญ่กว่าเธอแทบจะทั้งนั้น
หลังจากที่เธอเดินมาได้สักพักก็มาหยุดที่หน้าอาคารที่ติดป้ายตัวใหญ่ เธออ่านป้ายแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
‘นี่เราได้ทำงานที่นี่จริงๆ เหรอ’ เธอไม่คิดว่านักเขียนตัวเล็กๆ
อย่างเธอจะได้รับการทาบทามให้มาทำงานที่นิตยสารดังที่ต่างประเทศอย่างนี้
ปลายฟ้าที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรวิดีโอคอลหาเพื่อนรักทันที
“อืม” เสียงโซดารับอย่างขี้เซา
“นี่แกนอนแล้วเหรอ ที่นั่นเพิ่งจะทุ่มครึ่งเองนะ” ปลายฟ้าอย่างสงสัย ร้อยวันพันปีไม่เคยจะเห็นเพื่อนรักนอนเร็วอย่างนี้อีกอย่างเวลานี้น่าจะยังไม่กลับจากทำงานด้วยซ้ำ
“ก็นอนนะสิแกจะให้ฉันทำอะไรล่ะ”
“ปกติตอนนี้แกน่าจะอยู่บนรถไฟฟ้านะ
ทำไมวันนี้แกถึงกลับเร็วได้ล่ะ”
“ก็ฉันเพิ่งลาออกจากงานมา แกจะให้ฉันไปทำงานที่ไหนอีก” โซดาตอบอย่างงัวเงีย
“ห๊ะ อะไรนะ แกลาออกจากงาน” เสียงปลายฟ้าตะโกนดังลั่นจนคนที่ผ่านไปผ่านมาถึงกับต้องหันมาดู
“โอ๊ย ตะโกนทำไมเสียงดังเนี่ย” โซดาที่งัวเงียอยู่กับต้องตื่นลุกขึ้นมานั่งทันทีเมื่อเพื่อนเสียงดัง
“นี่ยายโซดาอย่ามาทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนะ
เมื่อวานแกยังไปทำงานอยู่เลยแล้ววันนี้แกลาออกหมายความว่าไง”
“ฉันก็หมายความตามนั้น เอาเถอะ แกอย่าคิดอะไรมากเลย
ฉันยังพอมีเงินเก็บเหลือใช้ได้อยู่ ว่าจะหยุดอีกสักหนึ่งอาทิตย์เพื่อไปจัดการธุระอะไรบางอย่าง
แล้วจะไปหางานใหม่”
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ แกลาออกกะทันหัน”
“ไม่มีอะไรหรอก แกทำงานแปดโมงไม่ใช่เหรอ ใกล้เวลาแล้วรีบไปเถอะ”
“อืม ฉันไปก่อนนะ เอาไว้ฉันเสร็จงานแล้วจะโทรหาแกนะ”
“อืม ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ”
“อืม” ปลายฟ้าวางสายแล้วรีบดูนาฬิกา
นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่สามสิบนาทีจะถึงเวลานัด ยังไงเธอก็ต้องไปถึงก่อนเวลา เพราะนี่คืองานแรกที่เธอรู้สึกมีความสุขที่สุดและเธอก็จะทำมันให้ออกมาให้ดีที่สุดตามที่เจ้านายใหม่ไว้วางใจให้เธอดูแลงานนี้
ขณะที่เธอเดินเข้ามาภายในสำนักงานซึ่งเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ
แน่นอนว่าต้องถูกจับจ้องจากหลายๆ สายตา เพราะเธอเป็นนักเขียนคนแรกที่เป็นชาวเอเชีย
ซึ่งปลายฟ้าก็ได้แต่ยิ้มทักทายทุกคนในสำนักงานไปจนสุดทาง จนถึงห้องที่มีป้ายด้านหน้าว่า ‘ห้องบรรณาธิการ’
ก๊อก ก๊อก
“เชิญ” เสียงเจ้านายผู้มีข่าวลือว่าสาวประเภทสองดังออกมาจากภายในห้อง
“สวัสดีค่ะคุณแดน ปลายฟ้ามารายงานตัวค่ะ” เสียงหญิงสาวดังออกไปเพื่อเรียกเจ้านายใหม่ที่ยังคงก้มหน้าทำงาน
“เฮ้ ปลายฟ้า นี่เธอจริงๆ เหรอ
ไม่คิดว่าตัวจริงจะดูเด็กขนาดนี้” เสียงแดนนี้ที่เงยหน้าไปพบกับปลายฟ้าพอดีเอ่ยขึ้น
แถมเจ้านายใหม่เธอยังเดินมากอดซะแนบแน่น
ทักทายกันแบบฝรั่งจ๋าจนปลายฟ้าไม่ทันได้ตั้งตัวยืนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้
“ผมขอเรียกฟ้าเฉยๆ แล้วกันนะ
ปลายฟ้ามันยาวแล้วก็เรียกยากมากเลย”
“ได้ค่ะ” ปลายฟ้าตอบรับพร้อมยิ้มให้เจ้านายใหม่ที่ดูเป็นกันเอง
“ฟ้านั่งก่อนสิ เดี๋ยวผมจะเอาแฟ้มงานที่เตรียมไว้
ทั้งหมดให้ดูก่อน” ทันทีที่แดนพูดจบเขาก็หันไปหยิบแฟ้มเอกสารมาให้ปลายฟ้าทันที
พร้อมอธิบายการทำงานคร่าวๆ ให้ปลายฟ้าฟัง
ซึ่งแดนได้กำชับว่าทุกคนที่มีรายชื่ออยู่ในแฟ้มทั้งหมดปลายฟ้าจะต้องไปสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ถึงแม้งานนี้แดนจะมีผู้ช่วยอีกคนที่เป็นชาวต่างชาติส่งมาช่วยปลายฟ้าทำโปรเจคนี้ก็ตาม
แต่ด้วยเนื้องานที่อยากได้แดนอยากให้ปลายฟ้าเป็นแกนหลักเพราะเขาชื่นชอบผลงานการเขียนของเธอมาก
อีกทั้งโปรเจคนี้กว่าจะได้ปลายฟ้ามาร่วมงานด้วยก็ยากแสนยากเพราะแดนต้องชี้แจงกับบอร์ดผู้บริหารหลายชั้นหลายรอบว่าทำไมถึงอยากได้ปลายฟ้ามาร่วมงานนักหนา
นั่นทำให้โปรเจคนี้อยู่ในความคาดหวังของผู้บริหารระดับสูงไม่ใช่น้อย
“ได้ค่ะบอส ฉันจะไม่ทำให้บอสผิดหวังเลยค่ะ” ปลายฟ้าที่รับแฟ้มมาไว้ในมือพร้อมทั้งฟังคำอธิบายของแดนเสร็จเรียบร้อยจึงตกปากรับคำเจ้านายอย่างตั้งใจ
“อ่อ อีกเรื่องนะฟ้า ต่อไปคุณเรียกผมว่าแดนก็พอ
เข้าใจตรงกันนะ” แดนกำชับและส่งยิ้มให้
ก่อนจะบอกให้ปลายฟ้าลองอ่านข้อมูลโปรเจคนี้คร่าวๆ
อีกมุมหนึ่งของห้องเพราะถ้ามีอะไรไม่เข้าใจสามารถถามเขาได้ทันที
ส่วนแดนเมื่อเห็นปลายฟ้าเริ่มเปิดแฟ้มงานอ่าน
แดนก็ลงนั่งเก้าอี้ตัวเดิมเพื่อเริ่มทำงานของเขาต่อเช่นกัน
วันนี้เธอรู้สึกได้ว่าโชคดีเหลือเกิน
นอกจากจะได้ทำงานที่รักแล้ว ยังได้รับความไว้วางใจมาทำงานไกลถึงนี่
แถมเจ้านายก็ดูน่ารักเป็นกันเอง จากที่ตอนแรกเธอนึกว่าแดนจะเป็นชายหนุ่มเนี๊ยบๆ
ดูไปดูมา เขาออกจะเป็นคนเข้ากับคนง่ายที่สำคัญคือ หน้าตาดีอีกต่างหาก ช่วงนี้ปลายฟ้ารู้สึกว่าเธอจะโชคดีมากเกินไปแล้ว
เจอแต่ผู้ชายหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น
ปลายฟ้านั่งคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ต้องสะดุ้ง เมื่ออยู่ๆ
เสียงโทรศัพท์ของแดนดังขึ้น จนเธอถึงกับต้องรีบเปิดเอกสารในมืออ่าน
ช่วงแรกของเล่มที่ปลายฟ้าเริ่มอ่านยิ่งอ่านยิ่งพาเธอหลับ
ก็เนื้อหาเกี่ยวกับโปรเจคงานล้วนๆ แถมทั้งหมดยังเป็นภาษาอังกฤษ
การที่เธอพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วเมื่อเทียบการเขียนมันก็ยังยากอยู่ดี
แต่ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้วเธอก็ต้องทำให้เต็มที่
“เป็นไงบ้างฟ้า คุณอ่านแล้วมีตรงไหนไม่เข้าใจบ้างมั้ย” เสียงแดนถามออกไปเมื่อเห็นปลายฟ้านั่งทำหน้ายุ่งมาสักพักหนึ่งแล้ว
“จริงๆ ก็เข้าใจอยู่นะค่ะ
เพียงแต่ฟ้าอยากทำความเข้าใจภาษาเขียนให้มากกว่านี้นะค่ะ หน้าก็เลยจะยุ่งๆ หน่อย”
“งั้นเราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า
ก่อนที่คุณจะทำหน้ายุ่งอีก” เสียงแดนหัวเราะดังหลังพูดจบ พร้อมเปิดประตูออกไปเพื่อจะเดินนำปลายฟ้าไปยังแคนทีน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พนักงานเราอีกคนที่จะมาช่วยคุณทำโปรเจคจะมานะ
เพราะตอนนี้เธอลางานยาวและวันนี้เป็นวันสุดท้าย ผมอยากให้คุณรู้จักกับทุกๆ
คนภายในสำนักงานไว้ด้วยนะ”
“ค่ะ ฟ้ายินดีมากที่จะได้รู้จักทุกๆ คนค่ะ”
พอถึงแคนทีนแดนแนะนำทุกๆ คนให้รู้จักกับปลายฟ้า
ซึ่งดูทุกคนที่นี่จะเป็นมิตรมาก
ปลายฟ้ารู้สึกดีใจไม่น้อยที่สามารถเข้ากับเพื่อนใหม่ๆ ที่นี่ได้
ปลายฟ้าที่กลับมาอ่านโปรเจคในห้องแดนต่อดูเธอมีพลังขึ้นเยอะเลยหลังจากที่ได้เจอเพื่อนใหม่ที่น่ารักหลายคน
เธอเปิดอ่านรายชื่อที่ต้องสัมภาษณ์นักธุรกิจและหนุ่มเซเล็บคนดังในแมนฮัตตันถึงสิบคน
แต่ละคนที่ประวัติอย่างดีเริดหรูอลังการ
แล้วเธอจะคุยกับคนระดับนี้รู้เรื่องมั้ยเนี่ย
“บ้า บ้าไปแล้ว” ปลายฟ้าอุทานเสียงดังลั่นเป็นภาษาไทย
จนแดนที่นั่งอยู่ถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ฟ้าเป็นอะไรหรือป่าว มีอะไรที่น่าตกใจอยู่ในนั้นเหรอ” แดนรีบเอ่ยถามทันที
“ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวฟ้าขออ่านต่อนะค่ะ” ปลายฟ้ารีบปฏิเสธและทำท่าอ่านต่อที แดนเห็นก็ไม่ได้คิดจะเซ้าซี้ถามอะไรอีก
แต่เขาก็ยังงงอยู่ดีว่าเธอตกใจอะไรกัน
‘บ้าไปแล้วปลายฟ้า
ความกลมของโลกใบนี้มันช่างงี่เง่าสิ้นดี’ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่แปดถึงได้เป็นนายงี่เง่าไร้มารยาทคนเมื่อวานที่ไปรับเธอที่สนามบิน
‘ช่างมันเถอะเรื่องคงไม่แย่ขนาดนั้นหรอกนะ’ เธอได้แต่ปลอบตัวเอง จนเมื่อเปิดไปหน้าสุดท้าย
เธอจึงได้รู้ว่ายังมีเรื่องที่แย่กว่ารอเธออยู่
“ไม่จริง
มันต้องไม่จริงแน่นอน” ปลายฟ้าที่พึมพำเป็นภาษาไทย ลุกขึ้นและจ้องมองไปที่แฟ้มงานราวกับเห็นผี
จนผู้เป็นเจ้านายอดที่จะสงสัยอีกครั้งไม่ได้
“คุณไม่เป็นอะไรแน่นะ” เสียงแดนรีบถามปลายฟ้าออกไปเมื่อเห็นเธอพึมพำพร้อมใบหน้าซีดเผือด
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นอะไรเลยค่ะคุณแดน” ปลายฟ้าตอบพร้อมยิ้มให้เจ้านายที่ดูเป็นห่วงเธอไม่ใช่น้อยออกไป
‘นี่มันบ้าเกินไปแล้ว
ทำไมฉันต้องไปเจอกับเขาอีกจนได้นะ โอ้ย !! ปลายฟ้า
ชีวิตแกนี่มันจะหนีไอหมอนี่ไปไหนไม่ได้เลยหรือไงเนี่ย’
เมื่อพรหมลิขิตเล่นตลกกับชีวิตเธอ
เธอคงทำอะไรไม่ได้มากนักหรอกนะสาวน้อย นอกจากยอมรับมัน
แล้วชีวิตของเธอจากวันนี้จะไม่น่าเบื่อตลอดกาล
.........................................................
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments