ห้าปีต่อมา
“เฮ้ยอะไรนะ แก” เสียงโซดาตะโกนถามเพื่อนซี้ออกไปเสียงดัง
“ฉันบอกว่ามี บรรณาธิการนิตยสารที่นิวยอร์คโทรให้ฉันไปเขียนบทสัมภาษณ์พิเศษสำหรับโครงการเพื่อช่วยผู้ด้อยโอกาสและได้เซ็นสัญญาหนึ่งปี” ปลายฟ้าตอบเพื่อนซี้กลับอย่างช้าๆ อีกครั้ง
“ว้าว ยายปลายฟ้าเพื่อนฉันทำไมโชคดีอย่างนี้ โอ้ย
ฉันอิจฉาแก” โซดาบ่นมุบมิบพลางเดินไปกอดเพื่อนสาวแน่น
“แล้วนี่ถ้าแกไปอเมริกาแล้ว แล้วฉันจะเล่นกับใคร
แล้วฉันจะกอดใคร” โซดาโอดครวญอีกครั้งเพราะตั้งแต่ทั้งคู่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันก็แทบจะติดกันเป็นปาท่องโก๋ก็ว่าได้
แม้ปลายฟ้ากับโซดาจะเรียนคนละคณะ แต่ทั้งคู่ก็รู้จักกันตั้งแต่ตอนรับน้องใหม่
พออยู่ปีสองก็ย้ายออกมาอยู่หอนอกมหาวิทยาลัยด้วยกัน
จนถึงตอนนี้ที่ทั้งคู่แยกย้ายกันทำงานก็ยังคงเช่าอพาร์ตเม้นเดียวกันอยู่
แถมทั้งสองสาวสวยยังโสดด้วยกันทั้งคู่ไม่มีทีท่าว่าใครจะยอมมีแฟนก่อนเลย
ณ
สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย
“เฮ้ยแก แกดูบทสัมภาษณ์ของหมอเกรียงไกรในนิตยสารเล่มนี้ยัง
โอ้ย ฉันนิแบบว่ารักเลย ผู้ชายอะไรดีเว่อวัง
เท่านั้นยังไม่พอนะเขายังดูเป็นผู้ชายในฝันที่ธรรมดามากๆ เลยอ่ะแก
ฉันนี่เห็นครั้งแรกยังหลงรักเลย” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ก่อนจะมีเสียงเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ ออกความเห็นร่วมด้วย
“ใช่ๆ ฉันนี่อ่านของหมออันนพนี่ก็รักเลย
ตอนแรกดูหน้าโหดกล้ามใหญ่ ฉันนี่ว่าจะเปิดผ่านล่ะ แต่ไหนๆ ผ่านมาเห็นพาดหัวเปลี่ยนใจมาอ่านต่อเลยแก
แกรู้มั้ยฉันอ่านไปอ่านมาหลงรักซะงั้น ฉันนึกว่าพวกผู้ชายกล้ามใหญ่จะน่ากลัวที่ไหนได้
มีมุมน่ารักกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย”
เสียงของสาวได้ยินไปถึงชายหนุ่มตาสีเขียวมรกตคนหนึ่งที่กำลังนั่งรอขึ้นเครื่องกลับอเมริกาอยู่เช่นกัน
เขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในมหาวิทยาลัยของไทยมาถึงสามปีเต็มดังนั้นเรื่องการฟังและการอ่านภาษาไทยไม่ต้องพูดถึงเขาสามารถใช้ทักษะด้านนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
แดน เดเนียล ควินซ์ บรรณาธิการของแมนแมชแมกกาซีน
แมกกาซีนที่ลงสัมภาษณ์หนุ่มหล่อมากมายทั่วสหรัฐอเมริกา
แม้ยอดขายจะไม่พุ่งปังเหมือนแมกกาซีนทั่วไปแต่แดนก็เน้นการทำแมกกาซีนที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากกว่าทำให้ยอดขายในกลุ่มสาวๆ
ปังขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ทันทีที่แดนได้ยินสองสาวพูดถึงบทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นในแมกกาซีนหัวหนึ่งของไทย
เขารีบไปซื้อมาเพื่อมาอ่านดูเช่นกัน และทันทีที่แดนอ่านจบสิ่งที่เขาคิดได้คือ ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องนำนักเขียนบทความคนนี้มาร่วมงานโปรเจคใหม่กับเขาให้ได้
อพาร์ทเม้นปลายฟ้า
“โซดา ฉันว่าฉันจะปฎิเสธงานนี้
ฉันไม่มั่นใจว่าฉันจะทำได้ เผลอๆ ฉันจะกลายไปเป็นภาระพวกเขา
อีกอย่างทำงานกับชาวต่างชาติก็น่าจะกดดันไม่ใช่น้อย”
“นี่ยายปลายฟ้าเธอจะบ้าหรือไง
ทำยังกับที่ทำอยู่ทุกวันนี้เขาไม่โขกสับขูดรีดงานแกอย่างนั้นแหละ โอกาสดีๆ
มาถึงแกก็ต้องคว้าไว้สิ อีกอย่างภาษาอังกฤษแกก็เก่งไม่ใช่เล่นแล้วแกจะกลัวอะไร” โซดาอดที่จะบ่นเพื่อนไม่ได้
“แกลองคิดดูดีๆ
ถ้ามันเป็นโอกาสครั้งแรกมันย่อมไม่น่าเสียดาย แต่ถ้ามันเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย
แกจะยอมทิ้งมันไปจริงๆ เหรอ”
“โซดา ฉันรักแกว่ะ” ปลายฟ้าหันไปกอดเพื่อนทั้งน้ำตา
ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนคนนี้
เธอก็ยังคงเป็นนักบัญชีนั่งทำงานที่น่าเบื่อไปทั้งชีวิต
แต่เพราะโซดาทำให้เธอคิดได้ ทำให้เธอกล้าตัดสินใจเลือกทางเดินใหม่แบบที่เธอรัก นั่นคือการเป็นนักเขียน
และนี่คงเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับเธอ และอาจจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล
ใช่! มันจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล
ปลายฟ้าตอบรับคำเชิญของแมกกาซีนในอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว
ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเก็บกระเป๋าเพราะบริษัททางนั้นต้องการให้เธอบินไปแมนฮัตตันภายในสัปดาห์นี้
“ปลายฟ้ามั่นใจนะว่าของที่แกจำเป็นต้องใช้ครบแล้ว” โซดารีบถามเพื่อนสาวเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางขนาดหนึ่งปีใบเท่ากับที่เธอใช้ไปเที่ยวได้แค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น
“นี่โซดาแล้วเธอจะให้ฉันเอาอะไรไปมากมาย
ฉันไปแค่ปีเดียวเสื้อผ้าก็ซักทุกวัน แถมเสื้อหนาวตัวใหญ่ๆ ก็ไม่มี ฉันค่อยเก็บตังซื้อที่นู่น” ปลายฟ้าชักจะสงสัยขึ้นทุกทีว่ายายโซดาคือเพื่อนหรือแม่เธอกันแน่ นี่ขนาดแค่เก็บกระเป๋ายังจู้จี้ได้ซะขนาดนี้
“จ๊ะ เอาที่สบายใจเลย เราไปกินเลี้ยงมื้อสุดท้ายกัน” โซดารีบชวนปลายฟ้าออกไปทานข้าวเพื่อเลี้ยงส่งเพราะพรุ่งนี้ปลายฟ้าเพื่อนรักต้องบินไฟล์เช้าตรู่
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
“นี่ปลายฟ้า
ถ้าแกอยู่ที่นู่นแล้วมีปัญหาอะไรโทรหาฉันได้ตลอดเวลานะ” โซดาที่มาส่งเพื่อนสาวถึงกับน้ำตาซึม
“ไม่เอานะยายโซดาอย่ามาทำเป็นเด็กขี้แยสิ
ฉันไปที่นู่นนะ ฉันจะโทรหาแกทุกวันจนแกรำคาญเลยดีมั้ย” ปลายฟ้าพูดกับเพื่อนรัก
“อืม อย่าได้ผู้ชายลืมเพื่อนนะ”
“นี่ยายโซดาอยากตายหรือไงแก”
“อ่ะๆ
อย่าลืมว่าโจทย์เก่าแกเมื่อห้าปีก่อนก็อยู่ที่นู่นนะ”
“แมนฮัตตันตั้งใหญ่ อีกอย่างฉันก็ลืมเรื่องแย่ๆ
แบบนั้นไปหมดแล้วๆ ล่ะ”
“ให้มันจริงเถอะ” โซดาที่รู้ทันเพื่อนสาวอดจะแซวออกไปไม่ได้
เป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปีไม่เคยเห็นเพื่อนเธอจะหลงไหลได้ปลื้มชายคนไหนเท่าหนุ่มในโซเซียลคนนั้นเลย
แถมยังมาเอาความสาวเพื่อนเธอที่ออกจะหวงนักหวงหนาไปอีก
ถ้ายายปลายฟ้าลืมก็คงฟ้าผ่าตอนแดดออกแล้วล่ะ
โซดานึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อดสงสารเพื่อนตัวเองไม่ได้จริงๆ
ไอหมอหน้าหล่อนั่นก็กระไรนึกว่าเพื่อนเธอเป็นฝรั่งที่ชอบมีอะไรกับใครไปทั่วหรือไง
.”เฮ้อ” เสียงโซดาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นี่ยายโซดาไว้ไปถึงฉันโทรหาแกแน่ๆ
ไม่ต้องถอนหายใจดังขนาดนี้หรอก” ปลายฟ้าที่เห็นเพื่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่รีบปลอบออกไป
โดยไม่รู้ว่าไอที่เพื่อนกังวลอยู่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องจากกันไกลหรอก
“อืม ฉันจะคิดถึงแกนะ” โซดาที่ยืนหน้างอยิ้มให้อย่างหงอยๆ
“โซดา ฉันไปก่อนนะ เขาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว” ปลายฟ้ารีบกอดล่ำลาเพื่อนสาวเพราะใกล้ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว
ทั้งปลายฟ้าและโซดาต่างก็รู้สึกเศร้าไม่น้อย ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปีไม่มีครั้งไหนเลยที่พวกเธอแยกจะจากกันไปไกลขนาดนี้
ปลายฟ้าขึ้นเครื่องเรียบร้อย ตอนนี้เธอนั่งเหม่อลอยเหมือนคนกำลังคิดไม่ตก
จริงๆ เธอคิดว่าเธอเกือบลืมเรื่องเมื่อห้าปีที่แล้วไปแล้ว
ถ้ายายโซดาเพื่อนตัวดีไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอเลิกติดตามเขาทุกทางและเรื่องเกี่ยวกับเขาทุกอย่างเหมือนเธอไม่เคยมีผู้ชายคนนี้เข้ามาเกี่ยวในชีวิต
ไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อน
จนถึงวันนี้วันที่อาจจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงอีกครั้ง เธอเพิ่งรู้ว่าจริงๆ
เธอยังไม่ลืมเขาเลยตะหาก แถมเขายังอยู่ในหัวใจเธอแน่นแบบไม่ยอมหลุด
............................................................
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments